Group Blog
 
All blogs
 
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux

หวัดดีค่ะ วันนี้จะพาไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์กันต่ออีกสามเมืองนะคะ คือ Lausanne, Vevey, แล้วก็ Montreux ค่ะ สามเมืองนี้จะอยู่ติดๆ กันนะคะ โดยสุดท้ายจะจบที่ Montreux ก่อนที่จะขึ้นรถไฟสาย Golden Pass ไปลงที่เมือง Zweisimmen เพื่อที่จะขึ้นรถบัสของทัวร์ไปที่เมือง Luzern ต่อไปค่ะ ฝนจะเก็บเมือง Luzern ไว้สำหรับตอนหน้านะคะ

ขอเริ่มต้นการเดินทางของตอนนี้ด้วยเมือง Lausanne ก่อนนะคะ เมืองโลซานน์เป็นเมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาและทะเลสาปเจนีวาซึ่งทะเลสาปเจนีวาในโซนนี้เค้าจะเรียกกันอีกชื่อว่าทะเลสาปเลอมังค่ะ ที่นี่ยังเป็นเมืองที่ปลูกองุ่นไว้ทำไวน์เยอะเหมือนกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่าและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราก็ได้มาเติบโตที่นี่ค่ะ ด้วยเวลาอันจำกัดก็เลยได้แวะเที่ยวแค่บางส่วนตามนี้ค่ะ



ขอเริ่มต้นทริปด้วย Olympic Museum แล้วกันนะคะ เมืองโลซานนี้เป็นจุดศูนย์กลางของ Olympic Committee และเป็นที่ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิคที่ใหญ่ที่สุดเลยค่ะ ช่วงที่ไปก็กำลังโปรโมตกีฬาโอลิมปิคที่จีนอยู่ค่ะ เพราะงั้นธีมที่เห็นเค้าจัดก็จะออกแนวจีนๆ ตกแต่งด้วยสีแดงเป็นหลักเลยค่ะ ฝนว่าถ้าไม่ใช่คอกีฬาไม่มาที่นี่ก็คงได้นะคะ ด้านในก็จะเป็นพวกข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาและโอลิมปิค เพราะงั้นเลยไม่ค่อยมีไรตื่นเต้นสำหรับฝนเท่าไหร่ค่ะ แต่ดันมาตื่นเต้นตอนจะกลับนี่สิคะ.. เพราะอาจารย์ที่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์เค้าเคยเรียนอยู่ที่เมืองนี้ เลยบอกว่าเดินเลยจากที่นี่ไปอีกหน่อยจะเจอร้านเครปเจ้าอร่อยค่ะ ด้วยความตะกละเลยแอบขอตามอาจารย์แว้บไปลองทานค่ะ



ใครสนใจก็เดินเลาะริมทะเลสาปเลยจาก Olympic Museum ไปเรื่อยๆ ผ่านสวนสาธารณะเล็กๆ แล้วจะเห็นตึกด้านขวามือติดป้ายไว้ว่า Creperie D'ouchy ก็แวะเข้าไปสั่งได้เลยค่ะ ด้วยเวลาที่จำกัดเลยเลือกตามที่อาจารย์บอก คือเครปแบบธรรมดาราดนมกะน้ำตาล ราคาก็ต้องปลงเล็กน้อยนะคะ ประมาณอันละสิบสองฟรังค์ค่ะ พอได้ลองทานแล้วก็นึกถึงโรตีแบบนุ่มๆ บ้านเราเลยค่ะ ราคาถูกกว่ากันเป็นไหนๆ



หลังจากนั้นก็แวะไปดูมหาวิทยาลัยโลซานค่ะ เห็นว่าบริเวณลานด้านหน้าบางช่วงเวลาก็อันตรายเหมือนกันนะคะ



แล้วก็เดินเลาะๆ ขึ้นเนินเพื่อที่จะแวะไปชมอตีตโรงเรียนอนุบาลที่ในหลวงท่านเคยเรียนค่ะ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแล้วนะคะ



ระหว่างทางจะผ่านโบสถ์สำคัญของเมืองค่ะ เป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคเช่นเคย

แล้วก็จบการท่องเที่ยวที่เมืองโลซานอย่างรวดเร็วค่ะ มาต่อกันที่เมืองทถัดไปคือ Vevey เมืองนี้เป็นเมืองที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักเช่นเดียวกันกับที่โลซานน์ค่ะ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ Nestlé บริษัทที่เพื่อนๆ คงคุ้นเคยกันดีนะคะ นอกจากนี้เมืองเวเว่ย์ก็ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญแห่งนึงของสวิสเซอร์แลนด์ด้วยค่ะ ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม รายล้อมด้วยภูเขาและมีทะเลสาปเจนีวา จึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งนึงที่ใครๆ ก็อยากมาค่ะ



ตอนไปที่เวเว่ย์ รถไปจอดให้บริเวณริมทะเลสาปเจนีวาค่ะ เลยได้เห็นวิวสวยๆ ของน้ำกับภูเขา บวกกับอากาศในวันนั้นที่เมฆจะมากหน่อย เลยได้เห็นวิวไกลๆ สวยไปอีกแบบค่ะ





ชอบภาพมุมด้านบนเป็นพิเศษค่ะ มันดูโรแมนติคดีจัง..



แอบเห็นเจ้านี่แล้วสงสัยว่ามันคืออะไร.. ก็เลยไปดูใกล้ๆ เข้าใจว่าน่าจะเป็นนาฬิกานะคะ เห็นมีแผงพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย คงใช้ขับเคลื่อนกลไกต่างๆ เพราะจะมีลูกเหล็กกลมๆ ไหลวนไปรอบๆ เลยค่ะ มองแล้วเพลินเชียว



แล้วก็เดินชมวิวมาเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายทางค่ะ ก็คืออนุสาวรีย์ของ Charlie Chaplin ตลกชื่อดังที่ใครๆ ก็คงรู้จักนะคะ ชาลี เชปลินได้มาอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ในช่วง 25 ปีสุดท้ายของชีวิตเค้าค่ะ ใกล้ๆ กันก็จะมีเจ้าส้อมยักษ์ปักอยู่ริมทะเลสาปให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนานเลยค่ะ เพราะมันเก๋ดี..ไม่เหมือนใคร ก็แอบสงสัยเหมือนกันนะคะว่าเค้าสร้างมามีความหมายอะไรรึเปล่า




หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็เดินกลับค่ะ แต่ฝนเลือกข้ามไปเดินตรงฝั่งตึกอีกด้านเพื่อจะไปดูร้านค้าต่างๆ บริเวณนั้นค่ะ เวลามองลอดผ่านช่องตึกออกมาเห็นทะเลสาปแล้วก็สวยไปอีกแบบนะคะ



ร้านค้าที่นี่จะมีทำป้ายยื่นออกมาหน้าร้านเก๋ๆ หลายร้านค่ะ ที่นี่ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ บางเมืองนี่ถือว่าเป็นจุดเด่นของเค้าเลยล่ะค่ะ ไว้ฝนจะพาไปชมกันในตอนหลังๆ นะคะ และแล้วก็หมดเวลาที่เมืองเวเว่ย์แห่งนี้แค่นี้เองล่ะค่ะ ขอปิดท้ายด้วยเมืองที่สามคือ Montreux นะคะ

เมือง Montreux เป็นเมืองพักตากอากาศและศูนย์กลางของการศึกษาวิชาการโรงแรมที่ลือชื่อและได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของยุโรป เมืองนี้ก็เหมือนสองเมืองแรกคือรายล้อมด้วยภูเขาแอลป์และทะเลสาปเลอมังหรือเจนีวาค่ะ



หลังจากนั่งรถเข้ามาที่เมืองนี้ผ่านไร่องุ่นไปหลายเนินก็จะเห็นปราสาทแห่งนึงอยู่ไกลๆ ณ ริมทะเลสาปเจนีวา



ปราสาทแห่งนี้เป็นที่ท่องเที่ยวที่ใครๆ ที่ได้แวะมามองเธอ..ไม่ใช่แระ เมืองมองเทรอต่างหาก ใครได้แวะมาเมืองนี้มักจะไม่พลาดที่จะแวะมาเยี่ยมชมปราสาทชิยงแห่งนี้ค่ะ



Château de Chillon หรือ Chillon Castle เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาปเจนีวาแห่งนี้ ภายหลังปราสาทแห่งนี้มามีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นที่ที่ทำให้ Lord Byron เกิดแรงบันดาลใจในการแต่งบทกวี "The Prisoner of Chillon" ซึ่งมาจากชีวิตจริงของ François Bonivard นักโทษการเมืองของเจนีวาที่ถูกจองจำอยู่ในปราสาทแห่งนี้และภายหลังได้ถูกปล่อยตัวในช่วงคริสตศตวรรตที่ 15



ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นหนา สังเกตดูจะเห็นว่าช่องหน้าต่างของป้อมปราสาทจะเป็นแค่รูเล็กๆ เอาไว้แค่ส่องดูภายนอก ด้านในที่เป็นส่วนที่เคยเอาไว้คุมขังนักโทษรู้สึกเย็นยะเยือกมากๆ เลยค่ะ เค้าบอกว่าตอนน้ำขึ้น ในห้องนั้นจะหนาวจับใจ ยิ่งเวลามืดแล้วเนี่ยยิ่งไม่ต้องพูดถึง



เอารูปด้านบนมาให้ทายค่ะว่าคืออะไร....






พอชะโงกไปดูที่รูก็พบว่ามันเป็นช่องที่ลึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลึกจนกระทั่งไปถึงทะเลสาปเลยค่ะ คงพอเดากันได้ว่าเป็นที่ขับถ่ายของคนในสมัยนั้นค่ะ และหน้าที่อีกอย่างก็คือ.. เอาไว้เป็นที่โยนนักโทษลงทะเลค่ะ ตกไปสูงขนาดนี้..คงมะรอดแน่ๆ



แอบเอารูปน่ารักๆ มาให้ดูค่ะ คือว่าตอนฝนมาถึงที่ปราสาทชิยงแห่งนี้ ขาเดินเข้าไปก็แหงนหน้าไปเจอนุ้งเป็ดน้ำยืนเด่นอยู่บนท่อนไม้ที่ยื่นมาจากปราสาทตัวนี้ค่ะ พอขากลับออกมา..ก็ไปเจอว่ามีนกเป็ดน้ำอีกตัวมาเกาะอยู่เป็นเพื่อนเรียบร้อยแระ เห็นแล้วเลยอดขำไม่ได้น่ะค่ะ ก็เลยเอามาใส่การ์ตูนเล่นหนุกๆ ซะเลย 555



อาหารที่ถ่ายรูปเก็บเอาไว้มือนี้เริ่มจากซุปใสค่ะ กินไปนึกถึงซุปคะนอร์ขึ้นมาเชียว เลยหันไปคุยกะคุณไกด์ เค้าบอกว่าก็ที่นี่เค้าผลิตคนอร์นี่นา เพราะงั้นจะเป็นเรื่องปกติที่เค้าจะมีกระปุกคนอร์อยู่บนโต๊ะอาหารค่ะ จานหลักขอผ่านมะค่อยประทับใจ ส่วนไอติมก็เป็นเชอร์เบทรสเปรี้ยวได้ใจจริงๆ เลยค่ะ



และแล้วก็จบทริปนี้ด้วยการนั่งรถไฟสาย Golden Pass จากมองเทรอไปลงที่เมือง Zweisimmen เพราะรถบัสไปรอรับอยู่ที่นั่นค่ะ รถไฟสาย Golden Pass นี้เป็นหนึ่งในรถไฟสายหลักที่จะแล่นผ่านภูมิประเทศที่สวยงามของสวิสเซอร์แลนด์ค่ะ รถไฟสายนี้จะเชื่อมระหว่าง Montreux กับ Luzern โดยจะมีแวะที่สถานีหลักๆ คือ Zweisimmen และ Interlaken ค่ะ ระหว่างทางจะผ่านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดสองข้างทางเลยค่ะ ได้เห็นท้องทุ่งหญ้าเขียวขจีที่จะแซมด้วยสีสรรของดอกหญ้าดอกไม้ป่านานาชนิด ได้เห็นหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักๆ และได้เห็นภูเขาที่มีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่บนยอด ผ่านทะเลสาป อุโมงค์และสะพานหลายแห่งเลยค่ะ พอถึงเมือง Zweisimmen ก็นั่งรถบัสผ่าน Interlaken และไปจบทริปที่ Luzern ค่ะ เดี๋ยวจะมาว่ากันต่อที่ตอนหน้าแล้วกันนะคะ

























Create Date : 20 กันยายน 2551
Last Update : 6 ตุลาคม 2552 0:10:55 น. 16 comments
Counter : 4912 Pageviews.

 
เจิมมมมมมมม ก่อนจะไปกินข้าวจ้าน้องฝน วิวสวยมากกกกกกก บรรยากาศดีและโรแมนติคสุดๆไปเลยนะเจ๊ว่า เจ๊ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม สวิสเซอร์แลนด์ ถึงได้เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคน รวมทั้งเจ๊ด้วยนะน้องฝน น่าไปเที่ยวมากกกกกเลยอ่ะ น่าเสียดายที่ไม่เห้นหน้านางแบบ(อีกละ)


ป.ล. ไอติมเชอร์เบทน่าหม่ำมากกกอ่ะน้องฝน


โดย: ตัวเล็กอ้วน วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:12:39:50 น.  

 
สวยจังค่ะ ชอบมากเลยทะเล ภูเขาอะไรแบบเนี้ยะ ต้องไปมั่งเดี๋ยวไปดูปฎิทินก่อน มีที่ว่างให้เติมโปรแกรมเป่า


โดย: Jujastar วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:13:15:18 น.  

 
ยังอ่านไม่จบของเมนท์ก่อน
ชอบเมือง Vevey มากๆ สวยจังเลย
รูปที่ฝนจังถ่ายมาสวยอ่ะ ชอบๆ
มีมุมแปลกๆเยอะเลย


โดย: Cottony วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:13:35:01 น.  

 
คุณฝนสถานที่ต่างๆ สวยงามมาก อีกทั้งยังสำคัญกับบุคคลที่เรารักที่สุด ในหลวงของพวกเรา น่าอิจฉาจังที่ได้ไปเมืองนั้น

ทิวทัศน์และอากาศคงสดชื่นน่าดู ดูว่าประชากรเค้าได้อยู่กับธรรมชาติตลอดเวลาเลย

ส้อมเจ๋งดีจังค่ะ
อาหารก็หน้าตาดีเนาะแม้ว่าคุณฝนจะบอกว่าไม่ประทับใจเท่าไหร่ อิอิ

อยากไปๆๆๆๆ


โดย: ชฎาแหลม วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:14:10:16 น.  

 
สถานที่แต่ละแห่งสวยงามและโรแมนติคมากๆเลยค่ะคุณฝน

สงสัยต้องหาโอกาสไปย้อนรอยคุณฝนบ้างแล้ว..


แต่คงอีกต้องรออีกนานเลย ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งดูบล็อคคุณฝนไปพลางๆก่อนนะคะ....นั่งดูตาปริบๆ อิอิอิ


ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศดีๆที่นำมาฝากค่ะ


โดย: shewant IP: 124.121.14.201 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:19:36:25 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:22:57:07 น.  

 
ถ่ายรูปมาสวยมากๆเลยค่ะพี่ฝน .. ชอบส้อมยักษ์จังเลย แปลกดีเนอะ .. ส่วนเจ้ารูปใหญ่ๆในคุกก็ดูน่ากลัวจริงค่ะ แต่อ๊อบคงไม่เป็นไร เพราะตัวใหญ่กว่ารู้อีก


โดย: s.o.s วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:0:09:32 น.  

 
ภาพสวยมากเลยค่ะ อยากไปสัมผัสเองบ้างจัง


โดย: beautystone วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:0:57:27 น.  

 
อยากไปเที่ยวมั่งจังค่ะ


โดย: ลูกแม่ดอกบัว IP: 24.14.189.193 วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:4:48:47 น.  

 
เพิ่งไปกลับมาเหมือนกันค่ะ ตอนไปโลซานน์เจอแต่ฝน อากาศก็หนาว เสียดายจัง


โดย: สาวญี่ปุ่น วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:10:25:16 น.  

 
ข้อมูลปึ๊กเหมือนเดิมเลย

เวเว่ย์สวยมากกกกกกก ส้อมแปลกดีด้วย

ชอบปราสาทมากเลยค่ะ แต่ช่องโยนนักโทษเล็กจัง..รูปนกอ่ะ ท้องฟ้าครึ้มม ครึ้ม พอเห็นว่ามาอยู่สองตัวแล้ว ค่อยอุ่นใจ(แทนนก)หน่อย 55


โดย: :: NR :: IP: 222.123.210.173 วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:11:43:00 น.  

 
ตามมาเที่ยวจ้า Château de Chillon ข้างในเก่าแก่แต่ก็สวยดีจังจ้า เจ้าส้อมยักษ์นี่ใหญ่มากมาย แปลกดีทำไมต้องไปปักในน้ำด้วยนะ


โดย: ซัน IP: 218.186.8.13 วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:11:24:21 น.  

 
บรรยายซะเพลินเลยครับ
รูปสวยดีอ่ะ Lausanne ไม่ได้ไป
สงสัยต้องไปซ่อมซะแล้ว


โดย: popkit วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:19:05:14 น.  

 
หลังจากหายหัวไปนาน สอบเสร็จแล้วก๊า เลยมารายงานตัว อิอิ รูปสวยเหมือนเดิม ขอเกาะติดทัวร์แมวเหมียวด้วยคน


โดย: สึมิเระสีฟ้า IP: 203.152.27.211 วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:17:43:36 น.  

 
รูปสวยจังเลยค่ะคุณฝน เห็นแล้วอยากไปเดินเที่ยวด้วยจัง


โดย: mook (haiti ) วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:5:43:32 น.  

 
ทั้งสามที่ สวยหมดเลยครับ
มีทั้งทะเลสาบ และภูเขาที่มีหิมะ
สวยจริง ๆ ครับ


โดย: น้องลัคกี้ (ปูเป็น ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:24:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวจอมกวน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อดีตคนไกลบ้านคนนึง ที่เริ่มจากหลวมตัวมาเรียนที่อเมริกา ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต ได้รับประสบการณ์และแง่คิดมากมายจากดินแดนแห่งนี้ ตอนนี้หาทางกลับบ้านเจอแล้วค่า.. ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิต (อีกครั้ง) ที่เมืองไทยซะที ที่มาของชื่อก็เพราะว่าเป็นคนที่รักแมว จึงเป็นที่มาของชื่อ "แมวจอมกวน" ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ


Link Blog ล่าสุด

คนโสดและไม่โสดหงายมือขวามาดูเดี๋ยวนี้ (เส้นสมรส ฟันธง!!!!)
มาทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควายกันดูมั๊ยคะ ^^
คนค้นคน: มิสป่าตอง... หญิงที่ผูกติดกับภาพในอดีต
Cherubin Chocolate Cafe ร้านเค้กสำหรับคนรักช็อกโกแลต (และน้องหมี)
สำหรับแฟนบาร์บี้.. ชวนมาสะสมแสตมป์ไทยชุดบาร์บี้กันค่ะ
ตามรอยห้องก้นครัวไปชิม King Kong Buffet ซอยหลังสวนค่ะ
Lenka สาวสวยเสียงน่ารัก..เพลงยิ่งน่ารักน่าฟัง
หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม
แอบงอน Coffee Bean เลยได้มาลอง Sugaroma ร้านเค้กน่ารักและน่ากินค่ะ
มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 4)
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 3)
Ho Kitchen กับอาหารเย็นมื้อใหญ่
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 5 Luzern & ไปลุยหิมะบนยอดเขาTitlis
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 Berne & Mont Blanc
บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี เมนูที่ทำเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 Zurich & Geneva
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นการเดินทางและการเตรียมตัว
ผลจากโปรโมชั่นของ drugstore ทำให้ได้ไรมามั่ง มาเปิดถุงพร้อมรีวิวกันเลยค่ะ
รีวิว Bath & Body Works กลิ่นใหม่ต้อนรับสปริงค่ะ
If we hold on together >> Piano by คุณ tutu_pianist เพลงพิเศษสำหรับพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนค่า
รีวิวผ้าเช็ดเครื่องสำอาง Pond's Cleansing Towelettes
Joanna Wang >> An Asian Version of Norah Jones
แม่ครัวสมัครเล่นกะเค้ก Tres Leches --> เค้กสามนม
รีวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง
บล็อคสีชมพูกะเทศกาลดอกเชอรี่บาน Cherry Blossom @ DC
Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ
เปิดตัว MMU ตัวที่สามกับ Lumiere
เปิดตัว MMU ตัวที่สองกับน้องเหมียว Meow Cosmetics ค่ะ
รีวิว Everyday Minerals

เปิดตัว Mineral makeup ชิ้นแรกของเรา กับ Everyday Minerals ค่ะ
ประสบการณ์กรีดสิวที่คลินิคหมอเสริม-เพ็ญจันทร์

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives
Aspirin Mask ของดีราคาถูกที่น่าลอง

บลัชลุงชู P Amber 87 VS elf Sun Kissed ความเหมือนที่แตกต่าง
Review Eyeshadow ของ Nars ค่ะ

รีวิวสีบลัช NARS ตามสัญญาค่ะ


   
11 March 2008
Friends' blogs
[Add แมวจอมกวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.