✅ทำไมคุณถึงควรทำโยเกิร์ตทานเอง???? 🔆เวลาจะทานโยเกิร์ตที่คุณซื้อตามซุปเปอร์/ร้านสะดวกซื้อ (หรือที่เรียกว่า commercial yogurt) คุณเคยดูฉลากส่วนผสมหรือเปล่าคะว่า เค้าใส่อะไรบ้างนอกจากนมกับแบคทีเรีย(ชนิดดี)ที่โยเกิร์ตแบบทำเองมี
🔆ถ้าเป็นผลไม้ น้ำผึ้งหรือวิตามินเสริมก็โอเคค่ะ 🔆แต่ commercial yogurt ยังมีสารอะไรที่ไม่จำเป็นต้องใส่ (และสารบางอย่าง เราก็ไม่ควรบริโภค) ใส่เพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อเสริมรส กลิ่น และรูป (เช่นทำให้โยเกิร์ตมีเนื้อที่ข้นเหนียวนุ่มนวล (smooth & thick)
🔆ยกตัวอย่างเช่น น้ำเชื่อมฟรุ๊กโตส น้ำเชื่อมฟรุ๊กโตสเข้มข้นสูง เจลาติน แป้งข้าวโพด น้ำตาลเทียม และสารอีกหลายอย่างที่อ่านไม่ออก หรือถ้าอ่านออกก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคืออะไร
🔆ดิฉันจะไม่บอกว่าบริโภคแล้วอันตรายแล้วกันเพราะไม่อยากให้ผู้อ่านบางท่านขอผลการวิจัย เอกสารอ้างอิง สูตรเคมี หรือสมการทางเคมีที่พิสูจน์มาประกอบ หรือโดนหาว่ามโน โลกแคบเพราะสารเคมีพวกนั้น อย.เค้ารับรอง (ถ้าใส่ตามปริมาณที่กำหนด..ก็โอเค)
😊 เอาเป็นว่าแม่ครัวอย่างดิฉันชอบที่จะรับสารเคมี/สารสังเคาะห์น้อยที่สุดแล้วกันค่ะ...อะไรเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงค่ะ 😊 . . . เริ่มที่ดู vdo clip ก่อนเลยละกัน แล้วเดี๋ยวจะบอกส่วนผสม อุปกรณ์และวิธีทำ 🎯ดูคลิป:
. . 🎯ส่วนผสม อุปกรณ์ นมไร้ไขมัน (หรือคุณจะใช้นมปกติ หรือนมพร่องไขมันก็ได้) โยเกิร์ตหัวเชื้อ (โยเกิร์ตธรรมดานี่แหละ) นมผงไร้ไขมัน กลิ่นวนิลา (จะไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) หม้อใบใหญ่ เทอร์โมมิเตอร์สำหรับทำอาหาร ภาชนะใส่โยเกิร์ต (เช่นโหล แก้ว ชาม ที่มีฝาปิด) . (โยเกิร์ตทำเอง ทานกับผลไม้ต่างๆ) 🎯Note: สัดส่วนของนมต่อโยเกิร์ตหัวเชื้อคือ นม 1 ลิตร (4 ถ้วยตวง) ต่อโยเกิร์ตหัวเชื้อ 1-2 ชต.) สัดส่วนของนมต่อนมผงไร้ไขมัน อันนี้ไม่ตายตัว แล้วแต่ว่าคุณอยากให้โยเกิร์ตที่คุณทำเสร็จแล้ว ข้นขนาดไหน ดิฉันใช้ นม 1 ลิตร (4 ถ้วย) ต่อนมผงไร้ไขมัน ½ ถึง 1 ถ้ว) . . 🎯วิธีทำ 1. นำโยเกิร์ตหัวเชื้อออกมาจากตู้เย็น เราจะใช้เค้าที่อุณหภูมิห้อง (แต่ถ้าลืมก็ไม่เป็นไร ใช้แบบเย็นๆนั่นแหละ...ดิฉันลืมประจำเลย) . 2. นำนมไปต้ม (ไฟอ่อน) หมั่นคน (เพื่อป้องกันคราบที่ก้นหม้อ) ต้มนมจนถึงความร้อนที่ 82 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิสูงกว่าได้ แต่อย่าให้ต่ำกว่านี้) ....ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดความร้อนเอานะคะ อย่าใช้ความรู้สึกนะ😝 . 3. เมื่อความร้อนถึง 82 องศาเซลเซียสก็ปิดแก๊สได้เลย จากนั้นใส่นมผงไร้ไขมันและกลิ่นวนิลาได้เลย . 4. เราจะรอให้อุณหภูมินมลดลงถึง 43-45 องศาเซลเซียส แล้วจึงใส่โยเกิร์ตหัวเชื้อ ถ้าไม่รีบก็วางทิ้งไว้แล้วหมั่นกลับมาดู แต่ถ้าอยากเร็ว ก็นำอ่างหรือกาละมังที่ใหญ่กว่าใส่น้ำ + น้ำแข็งแล้ววางหม้อนมทับลงไป อุณหภูมิจะลดเร็ว . 5. เมื่ออุณหภูมินมลดลงถึง 43-45 องศาเซลเซียสจึงใส่ โยเกิร์ตหัวเชื้อลงไป ใช้ทัพพีคนให้โยเกิร์ตหัวเชื้อละลาย . 6. เทนมลงในหม้อตุ๋นโยเกิร์ต หรือถ้าไม่มีหม้อตุ๋น ก็เทนมใส่ภาชนะที่เตรียมไว้และปิดฝา จากนั้นก็วางทิ้งไว้ 8-10 ชม. (หาที่อุ่นๆวางค่ะ หรือถ้าต้องการจะจับใส่เตาอบ (ไม่ต้องให้ความร้อนนะคะ) หรือวางบนตู้เย็นก็ได้ จะเร็วกว่านิดนึง)...อย่าวางจนลืมนะคะ เพราะถ้าบ่มเค้านานไป โยเกิร์ตจะเปรี้ยวเกินค่ะ) . 7. พอครบเวลาก็นำโยเกิร์ตเข้าตู้เย็น เค้าจะเซ็ตตัวแข็งขึ้นค่ะ (ปกติดิฉันจะแช่ก่อนนอน พอเช้ามาก็ทานได้เลยค่ะ) . (โยเกิร์ตทำเอง ทานกับ chai seed) . 🔆อ่านๆหรือดูคลิป อาจคิดว่ายุ่ง แต่พอผ่านการทำครั้งแรกไป ครั้งที่สองก็กล้วย กล้วย ค่ะ ลองทำดูน้า...
เข้าไปดูสูตรอาหารเค้ก คุ๊กกี้ ขนม แบบ healthyและไม่อ้วน เป็นมิตรต่อรอบเอวและซิคแพค ที่มีข้อมูลส่วนผสมและวิธีทำครบถ้วนได้ที่ เฟสบุ๊คเพจแม่พลอยซานฟราน ตามลิงค์นี้เลยhttps://www.facebook.com/maekruasanfran101/ แล้วอย่าลืมกดlike เป็นแฟนเพจด้วยน้า จะได้เห็นทุกสูตร (อยากให้เข้าไปดูที่ facebook มากกว่าเพราะหากมีคำถามจะตอบได้ทันท่วงทีมากกว่าเพราะเข้าfacebook บ่อยกว่า นะคะ....ต้องขอโทษด้วยค่าาาาในความไม่สะดวก) ขอบคุณค่ะ แม่พลอยซานฟราน
Create Date : 27 เมษายน 2559 |
Last Update : 27 เมษายน 2559 12:48:28 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1691 Pageviews. |
|
|
มีประโยชน์จริงๆนะคะ
ยิ่งถ้าได้ทำเองแบบนี้แล้วด้วยเลือกตามที่เราต้องการ