'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~ รักในสายหมอก : นิยายรักสะท้อนปัญหาสังคม โดย โสภาค สุวรรณ ~





รักในสายหมอก
ผู้เขียน : โสภาค สุวรรณ
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(ครังที่ ๔/ส.ค.๕๘)
๖๘๐ หน้า ราคา ๕๖๕ บาท


โปรยปก


สาวน้อยผู้อาภัพ...กับความรักแสนเลือนรางของผู้คนรอบข้าง...
ดังอยู่ในสายหมอกหนา

"ผมต้องขอบคุณแม่... หาไม่ ผมจะไม่สามารถเติบโต เข้มแข็ง และมั่นคง
จนสามารถปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าได้เป็นอันขาด...
ลูกของผมทั้งสามคนจะเติบโตบนรากฐานเดียวกัน
ได้รับความรักจากพ่อและแม่ของแกอย่างสมบูรณ์แบบ

ไม่ใช่ความรักแบบที่แม่ของแกเคยสัมผัสมาแล้วอย่างทุกข์ทรมานใจแสนสาหัส...
ความรักที่สัมผัสไม่ได้ เยียบเย็นและถูกบดบังด้วยปัญหานานาประการ
ความรักที่เหมือนจะลอยอยู่ในสายหมอก ปราศจากความอบอุ่น อ้างว้าง หนาวเย็น...
ความรักแบบนั้นจะไม่มีวันอุบัติขึ้นในครอบครัวของผม..."

...................






เป็นนิยายชีวิตที่เข้มข้น ดราม่าน้ำตาซึม หากก็อิ่มเอม อบอุ่นในหัวใจเมื่ออ่านจบ
ขออนุญาตเล่าเรื่องแบบยาว ๆ ไปเลยนะคะ

เรื่องราวส่วนใหญ่...(แทบจะตลอดทั้งเล่มนั่นแหละค่ะ)บอกเล่าผ่านมุมมองความรู้สึกของคุณมณี
หญิงม่ายสูงวัยที่เข้ามารับหน้าที่ดูแลเด็กหญิงนฎา หรือปูเป้ หลานสาวของคุณประภากับท่านรัฐมนตรีอุดม
ด้วยสำนึกสองประการ อันแรกคือเพื่อตอบแทนบุญคุณเจ้านายเก่าของแม่ที่เคยเกื้อกูลกันมา
อีกอย่างคือเธอต้องการรายได้ที่เพียงพอเพื่อส่งเสียลูกชายคนเดียว -
ปฤณ ที่มุ่งมั่นจะสอบเข้าเรียนแพทย์ให้ได้

นฎาในวัยสิบสาม เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ
เธองดงาม บริบูรณ์ด้วยรูปสมบัติและทรัพย์ศฤงคาร
ทว่าเธอเป็นบุตรสาวที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้เป็นแม่ กลายเป็นปมด่างพร้อยในชีวิตของเธอ
ด้วยผู้เป็นยายเกิดความผิดหวังในตัวแม่ของเธอจนรับเธอมาดูแลด้วยตัวเอง
วางกฏและกรอบอันครัดเคร่ง ก่อเป็นกำแพงหนา เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
นฎาจึงต้องเติบโตมาภายใต้ความกดดัน บีบรัด กับความรักอันห่างเหินเย็นชาจากพ่อและแม่
และแบกรับความคาดหวังของผู้เป็นยาย...

เมื่อคุณมณีเข้ามาดูแลใกล้ชิด ปลอบโยนเธอยามเธอเหงาและว้าเหว่
เธอจึงยืดเอาหญิงสูงวัยเป็นเครื่องทดแทนความรักความอบอุ่นที่เธอโหยหา
แต่คุณมณีก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจการจัดการโดยคุณประภา - ยายของเด็กสาวอีกที
เธอไม่มีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องของการอบรมเลี้ยงดูนฎาทั้งนั้น
แม้จะรับรู้และแลเห็นอยู่เต็มตาเต็มใจถึงผลพวงแห่งแรงกดดันที่เด็กหญิงรองรับอยู่





เมื่อย่างเข้าสู่รุ่นสาว นฎาก็ต้องหมั้นหมายกับอาทิตย์
ลูกชายคนเดียวของเพื่อนสนิทของคุณประภา
ที่พยายามตอกย้ำกับเธอว่า...จากประวัติอันไม่งามนักของแม่ของเธอ
นฎาควรจะถือเป็นบุญอย่างยิ่งที่อาทิตย์ ชายหนุ่มผู้แสนจะเพอร์เฝ็กต์รัก
และยอมรับที่จะเป็นผู้ดูแลเธอต่อจากคุณยาย...
พ้นจากอาทิตย์แล้วคงไม่มีผู้ชายดี ๆ ที่ไหนจะมาแต่งงานกับเธอแล้ว

ปฤณมีโอกาสได้พบและรู้จักกับนฎาเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นครั้งหนึ่ง
เพราะแม่ให้เขาเข้ามาช่วยงานในบ้าน...
เพียงได้สบตา...กระแสความรู้สึกบางอย่างก็ดึงดูดให้เด็กหนุ่ม-สาวเกิดประทับใจในกันและกันโดยไม่รู้ตัว
แต่คุณมณีได้แลเห็นและต้องการตัดไฟแต่ต้นลมโดยการสั่งห้ามปฤณ ไม่ให้มาที่บ้านนี้อีก...
ทางชีวิตของทั้งคู่จึงต้องแยกห่างโดยปริยาย...ปฤณสอบเรียนแพทย์ได้สำเร็จ และคร่ำเคร่งอยู่กับการเรียน
ส่วนนฎาหลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้ว ก็เตรียมตัวแต่งงานกับอาทิตย์
จากนั้นก็จะติดตามชายหนุ่มไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก...ตามทีคุณยายได้วางแผนชีวิตให้

แต่แล้วก็เกิดเหตุให้ทั้งคู่ต้องมาเจอกัน เมื่อคุณมณีเกิดล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลและต้องผ่าตัด
นฎารับอาสามานอนเป็นเพื่อนคุณมณีเพราะเป็นช่วงที่ตาและยายของเธอไปต่างประเทศพอดี
ปฤณมาดูแลแม่ แล้วเลยพลอยต้องดูแลนฎาเรื่องอาหารการกินไปด้วย
ก่อให้เกิดความสนิทสนมขึ้นในช่วงระยะเวลาอันสั้น ทว่าลึกซึ้งมั่นคง
นฎารู้สึกเป็นตัวของตัวเองขณะที่อยู่กับปฤณ แต่เธอก็รู้ดีว่าตัวเองต้องทำตามที่ผู้ใหญ่คาดหวัง
ในขณะที่ปฤณเองก็สำนึกตนดีว่าเรื่องระหว่างเขากับนฎาเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะเป็นไปได้
แต่เขาก็มั่นใจในความจริงใจของตนเองและพร้อมจะส่งเสริมให้นฎามีชีวิตที่มีความสุข

ทว่าผู้ใหญ่ของนฎาไม่คิดเช่นนั้น ปฤณถูกกีดกันอย่างหนัก
รวมทั้งคุณมณีก็พลอยถูกมองว่าพยายามจะผูกมัดนฎาเพราะเห็นแก่ทรัพย์สมบัติของเธอ





เมื่อถึงกำหนดเวลา นฎาก็เข้าพิธีหมั้นกับอาทิตย์อย่างเอิกเกริก
แต่หลังวันหมั้นเพียงคืนเดียว เธอก็เกิดอาการป่วยอย่างกระทันหัน
โลกของเธอมืดสนิทไปชั่วขณะ เธอกลายเป็นหญิงตาบอดโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
แม้ตาและยายของเธอจะเพียรพาเธอไปรักษายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ
เมื่อปฤณมีโอกาสได้ตรวจอาการของเธอ เขาได้ให้คำแนะนำว่าเธอควรจะได้รับการรักษาทางจิตเวช
แต่คุณยายของเธอไม่ยอมรับ กลับโกรธเกรี้ยวจนออกปากไล่เขาและแม่ให้ออกจากบ้าน

อาทิตย์ถอนหมั้นนฎาและไปแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เขาหาให้อีกคน...
ในขณะที่ปฤณได้รับทุนไปเรียนต่อเฉพาะทางในต่างประเทศ
คุณตาของนฎาตัดสินใจอนุญาตให้เธอเข้ารับการรักษาแบบจิตเวชบำบัด
ตามคำแนะนำของหมอ ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดี นฎาสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
ทำให้คุณประภาเริ่มสำนึกถึงความผิดพลาดของตนเอง
และต้องยอมปล่อยมือจากนฎา
เมื่อเธอขออิสรภาพในการใช้ชีวิตของตนเอง หลังจากหายดี...

..............





โอ้...ยาวจริงยาวจังกับนิยายชีวิตสะท้อนปัญหาสังคมสมัยใหม่
ที่ให้ข้อคิดว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงดูบุตรหลานที่ต้องอาศัยทั้งความรักความเข้าใจ
(หากก็ยั้ง...ไม่เล่าต่อจนถึงตอนจบก็เพื่อให้ผู้ทีสนใจ
ติดตามอ่านตอนจบอันแสนจะอบอุ่นได้ในนิยายค่ะ)

มีหลายบทหลายตอนที่อ่านแล้วประทับใจ
ขออนุญาตยกมาเป็นตัวอย่างเพียงบางเสี้ยวบางส่วน...

ความคิดคำนึงของคุณมณีเมื่อภัสรา แม่ของนฎาพยายามจะพาลูกสาวเข้าสู่วงสังคมของเธอ

"...ความเสมอภาคไม่ได้วัดกันด้วยความสามารถในการทำชั่วที่ทัดเทียม
อยากจะบอกว่าผู้หญิงมีหน้าที่เป็นแม่ของคนทั้งโลก
มีหน้าที่สรรค์สร้างความดีงามแก่จิตใจของคนที่จะเติบโตต่อไป
เป็นอะไรหลายอย่างที่ผู้ชายไม่มีวันจะเป็นได้อย่างน่าอิจฉาที่สุด
สมควรหรือที่จะลดค่าซึ่งเหนือกว่าลงมาคลุกคลีกับความชั่ว
อันผู้มีสติทั้งหลายประจักษ์แก่ใจว่าผิดทั้งคุณธรรมและศีลธรรมเป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาของสังคม..."






เมื่อนึกถึงวิธีเลี้ยงหลานของคุณประภา...

"...คุณหญิงกำลังวางเข็มชีวิตของคุณนฎา
ตามความรู้สึกของตัวเอง สร้างคนจากอดีตของคนอีกคนหนึ่ง...
ลืมความจริงแท้ไปอย่างน่าเสียดาย มนุษย์มีกรรมเป็นของตนเอง
ไม่มีมือใดจะวิเศษจนผันแปรชีวิตคนตามใจปรารถนาได้...
คุณหญิงลืมเสียสนิททีเดียว"



ความคิดคำนึงของปฤณ ถึงคำสอนของแม่

"...จงเข้มแข็งต่อความชั่วทั้งหลาย จงอ่อนโยนต่อเด็กและสตรี
จงมีเมตตาต่อศตรู แล้วปฤณจะรู้ว่าความสุขที่แท้จริงของคนคืออะไร....."


...................

"...เด็กคนนั้นมีบุญที่เกิดมาสวย หมดจดอย่างที่จะหาได้ยากนัก
แล้วยังมีวัตถุรองรับพร้อมสรรพ ทั้งเกียรติยศเงินทอง...
แต่ก็มักมีกรรมนัก กรรมที่ไม่มีวันจะรู้จักว่าความรักของพ่อแม่นั้นเป็นอย่างไร
ว้าเหว่ อ้างว้าง หนาวเย็น ปราศจากความอบอุ่นควารักที่ทุกคนหยิบยื่นให้...
มันเลือนรางเหมือนลอยอยู่ในสายหมอก...ชนิดที่คนรับเอื้อมคว้าไม่ถึง..."



ที่สะท้อนสะเทือนอารมณ์สุด ๆ ก็คำพูดสั้น ๆ ของนฎา...
ที่พูดอย่างปลงปล่อยกับชีวิตของตนเอง

"ฉันเป็นเครื่องจักรค่ะ แล้วแต่คนจะกดปุ่ม"


อ่านงานของนักประพันธ์ชั้นครูทีไร ให้รู้สึกอิ่มเอม เต็มตื้นทุกครั้งทุกครา...
จนต้องหยิบมาบอกเล่ากันแบบยาว ๆ เช่นนี้...
ชวนอ่านค่ะ












Create Date : 26 ธันวาคม 2558
Last Update : 26 ธันวาคม 2558 13:28:42 น. 2 comments
Counter : 7107 Pageviews.

 
ตามมาอ่านจากรีวิวกองดองค่ะพี่ ... คือ ว่า อ่านแล้วนึกเรื่องไม่ออก
แต่ว่ารู้อย่างเดียวว่าอยากอ่านแต้หนา ... บวกไว้ก่อนเลยสำหรับเรื่องนี้


โดย: JewNid วันที่: 26 ธันวาคม 2558 เวลา:18:09:50 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มกราคม 2559 เวลา:7:03:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.