|
ปลาหลงฟ้า ผู้เขียน : อิสย่าห์ ผู้พิมพ์ : พิมพ์คำ สนพ.(มี.ค. ๒๕๕๗) ๔๔๘ หน้า ราคา ๒๗๐ บาท
จากปกหลัง :
เพราะความจงรักภักดีต่อบริษัทที่ฝังอยู่ในสายเลือดและทุกอณูเซลล์ของ 'มัศยา' เธอเลยต้องยอมรับหน้าที่ผู้ช่วยของ 'น่านฟ้า' ประธานหนุ่มของบริษัทข้าวเกรียบมีโชค ที่สุดแสนจะเหลวไหลและไม่เอาถ่าน เพื่อช่วยเขากอบกู้ยอดขายของบริษัทให้ได้ภายในสามเดือน ไม่เช่นนั้นตำแหน่งประธานของเขาอาจจะหลุดลอยไปตกอยู่ในมือของคนอื่น
แค่ภารกิจทวงคืนตำแหน่งประธานก็ยากเย็นแสนเข็ญเต็มทน แต่นี่เธอต้องคอยทำหน้าที่พี่เลี้ยงกึ่งแม่นมเพื่อควบคุมความประพฤติของเขาอีกด้วย เมื่อเขาพร้อมจะออกนอกลู่นอกทางจนเสียงานเสียการทุกที ถ้ามีสาวสวยหุ่นนางแบบมาเฉียดใกล้ เพราะเขาเป็นหนุ่มขี้เหงา ขาดกิ๊กเมื่อไรเป็นขาดใจเมื่อนั้น
เอาละ งั้นเธอจะยอมลงทุนเป็นกิ๊กกำมะลอให้เขาเสียเลย เขาจะได้อยู่ในสายตาเธอตลอดเวลา แต่พ่อเจ้าประคุณก็ขยันหยอดมุกหวานและเล่นหมาหยอกไก่เสียจริง แม้รู้ทั้งรู้ว่าขืนไปหลงเสน่ห์หนุ่มรักสนุก สุขนิยม มีหวังได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า แต่สุดท้ายหัวใจของเธอก็สั่นหวั่นไหวไม่เป็นท่า
มาร่วมลุ้นกับอนาคตของบริษัทมีโชคและหัวใจของเธอที่ดูจะลุ่มๆ ดอนๆ ไม่แพ้กัน เพราะล้วนตกอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มแสนขี้เล่นไปเสียทุกเรื่องคนนี้
หลังอ่าน... เรื่องราวก็ตามปกหลังนั่นเป๊ะ ๆ แหละค่ะ อ่านดูก็รู้ว่าเป็นนิยายแนวโรแมนติกคอเมดี้ ที่น่าจะคาดหวังรอยยิ้มอารมณ์ดีได้จากการอ่าน
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด... เป็นนิยายรักร่วมสมัย พล็อตง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน... พระเอกเป็นคุณชาย ที่ทำตัวเหลวไหล ไม่เอาถ่าน แต่จำต้องมารับตำแหน่งท่านประธานบริษัทใหญ่ที่พ่อได้บุกเบิกสร้างมา เดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดจะเข้ามารับหน้าที่นี้หรอก ถ้าผู้เป็นพ่อกับพี่ชาย(ซึ่งเป็นลูกแม่ใหญ่)จะไม่ด่วนเสียชีวิตไปพร้อมกันในอุบัติเหตุ ตัวเขา ซึ่งมีปมเล็ก ๆ อยู่ในใจ เพราะตัวเองเป็นลูกเมียรองของพ่อ จึงมีท่าทีเหมือนไม่อยากรับตำแหน่งในทีแรก... ร้อนถึงแม่ใหญ่ ผู้ยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับสามี ว่าจะรักษาบริษัทนี้ให้กับสายเลือดของเขาเท่านั้น ต้องสรรหาคนมากำกับดูแลเจ้าเด็กไม่เอาไหนคนนี้... แล้วเธอก็เลือกหยี หรือมัศยาให้ทำหน้าที่ที่แสนจะยากเย็นนี้ ด้วยเธอเล็งเห็นแล้ว่ามัศยานั้น ทั้งอึดทั้งถึก ทนได้ทุกสถานการณ์ รวมทั้งจงรักภักดีต่อบริษัทมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่มาทีเดียว...
นอกจากจะต้องรับมือกับปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งท่านประธาน รวมถึงปัญหายอดขายตกต่ำเพราะการรุกล้ำของสินค้าประเภทเดียวกันที่ทันสมัยกว่าแล้ว มัศยายังต้องรับมือกับเล่ห์กลและความกวน...อันร้ายกาจของเจ้านายหนุ่ม ผู้ทำตัวเป็นเด็กโค่งรักสนุกสุขนิยม เจ้าชู้ตัวพ่อ...ให้เธอต้องคันไม้คันมืออยู่ตลอดเวลา ซ้ำทำไปทำมา...ไหงเธอกลับเห็นว่าท่าทีกวนโอ๊ยของเขากลายเป็นเสน่ห์เร้ารึงใจ พาให้เธอต้องหวั่นไหวไปซะงั้น...
ก็...อ่านเพลิน ๆ ชิล ๆ สนุกดีค่ะ เพียงแต่ว่า ตัวเองดันเลือกอ่านเล่มนี้หลังจากที่เพิ่งอ่านผลงานอีกเล่มของนักเขียนคนเดียวกันจบไป คือเรื่อง "หนึ่งคำรัก" ซึ่งผู้เขียนเข็นออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน เพียงแต่จัดพิมพ์คนละเจ้าเท่านั้น... ความรู้สึกที่ได้มันจึงค่อนข้างซ้ำ ๆ เพราะทั้งแนวเรื่อง ทั้งพล็อต ตลอดถึงบุคลิกตัวละครเอก มันคุ้น ๆ ซ้ำ ๆ เหมือน ๆ กันทั้งสองเรื่อง ...
พระเอกกับนางเอกเป็นนายจ้างลูกจ้าง...พระเอกออกแนวแบดบอย เป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ส่วนนางเอกก็ประมาณ...ศรีทนด้ายยย...อึด ถึก ทน เหมือนกันเด๊ะ ๆ ทั้งคู่ต้องทำงานร่วมกัน ใกล้ชิดกัน เห็นไส้เห็นพุงกันชนิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าไม่ใช่สเปกของกันและกัน แต่ทว่า...ในที่สุดก็ด้วยความใกล้ชิดกันนั่นแหละที่ดึงดูดให้ทั้งคู่หันมามองกันและรักกัน...
จะต่างกันก็แต่ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งก็ต้องชื่นชมคนเขียนนะคะว่าเธอช่างสรรหามุกมาต่อยอดให้เป็นเรื่องเป็นราว...
ในเรื่องนี้มีจุดที่รู้สึกชื่นชอบอยู่สองจุด... จุดแรกคือความจงรักภักดี และกตัญญูรู้คุณต่อองค์กรของครอบครัวนางเอก กับความยึดมั่นในคำสัญญาของแม่ใหญ่ที่ให้ไว้กับสามี แม้จะไม่ได้รักใคร่เอ็นดูอีตาพระเอกที่เป็นลูกเลี้ยงนี่ซักเท่าไหร่เล้ย แต่เธอก็ทำทุกอย่างเพื่อรักษาตำแหน่งประธานบริษัทไว้ให้เขา...
ชอบอะ...ชอบนิยายที่เน้นคุณธรรมในข้อนี้ค่ะ
จุดทีสองที่ชอบก็คือ...ว่าด้วยการตั้งชื่อนิยายกับชื่อตัวละครที่ออกแนวอุปมาอุปไมยนิด ๆ นิยายชื่อ"ปลาหลงฟ้า"... เห็นชื่อก็ชวนให้ฉงนสนเท่ห์แล้วว่าปลาอะไรจะไปแหวกว่ายหลงวนอยู่บนฟ้า พอเริ่มอ่านก็...อ๋อ...ฟ้าก็คือพระเอก...น่านฟ้านั่นเอง ส่วนปลา...ก็คือนางเอกมัศยา หรือหยี(ที่แปลว่า'ปลา'ในภาษาจีน) มัศยามีคนรักที่คบหากันมานาน ถึงขั้นวางแผนแต่งงานกัน ชื่อสินธุ... ซึงก็น่าจะเหมาะสมกันดีอยู่แล้ว เพราะปลาก็น่าจะคู่กับน้ำ แต่เมื่อเธอต้องมาพัวพันอยู่กับน่านฟ้า คนรักของเธอก็ทำตัวเป็นประหนึ่งสายน้ำที่ลื่นไหลลดเลี้ยว แปรเปลี่ยนไปซะงั้น... ชอบนิยายที่เล่นกับภาษา กับสัญลักษณ์อะไรแนว ๆ นี้ค่ะ
ก็...นับว่าเป็นนิยายรักอารมณ์ดีที่อ่านไปยิ้มไปอีกเล่มหนึ่ง ที่อ่านจบแล้วหยิบมาบอกเล่าชวนอ่านกันค่ะ
*ปอลอ. หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือยืมอ่าน เลยต้องแซงคิวกองดองทั้งหลายค่ะ
|