|
นาฏนฤมิต ผู้เขียน : มุตตา ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พ.ค.๕๗) ๔๗๙ หน้า ราคา ๓๔๕ หน้า
เรื่องย่อ ๆ จากปกหลัง :
เมื่อความรักแปรเปลี่ยนเป็นความริษยา เธอจึงเลือกเส้นทางลัดที่จะนำไปสู่ความสมหวัง
ความหวังอันแสนยาวนานของ 'มัญชริน' ผู้แสนดีและเพียบพร้อมต้องพังครืนลง เมื่อ 'วรวิช' ชายหนุ่มที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ประกาศคบหากับเพื่อนสนิทของเธอ มัญชรินก็ได้แต่สะกดความเศร้าและผิดหวังนั้นไว้ในใจเพียงลำพัง กระทั้งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หลังลาหัก มัญชรินจึงหนีไปอยู่บ้าน 'คุณทวดมณี' ญาติผู้ใหญ่ที่เธอเพิ่งรู้จัก เพื่อหลีกหนีความเจ็บช้ำน้ำใจจากมารดาและคนที่เธอแอบรัก และที่นั่นเองเธอก็ได้พบกับวิญญาณของ 'คุณเทียดวาสน์' ซึ่งปรากฏกายและเล่าเรื่องราวอันขมขื่นในชีวิตให้ฟัง พร้อมทั้งยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอให้สมหวังในความรัก ด้วยกฤติยามนตร์โบราณชนิดหนึ่ง หลังจากต้องพานพบกับความผิดหวังเจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า มัญชรินก็บอกกับตัวเองว่า หมดเวลาของการเป็นคนดี ที่งอมืองอเท้าให้คนทำร้ายจิตใจซ้ำๆ ซากๆ แล้ว...
หากเธอจะหลุดพ้นจากห้วงรักอันแสนเจ็บปวดนี้ ก็มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น หนทาง...แห่งนาฏนฤมิต!
เล่าเรื่องย่อเพิ่มเติมจากข้างบนอีกนิด ๆ (โดยจะพยายามไม่สปอยล์)ค่ะ...
มุกหรือมัญชรินเป็นหญิงสาวสมัยใหม่ที่ชื่นชอบในเรื่องราวของนาฏศิลป์ไทยเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเรียนจบเธอจึงร่วมกับเพื่อน ๆ ตั้งโรงเรียนนาฏศิลป์เล็ก ๆ ขึ้น และหนึ่งในเพื่อนสนิทนั้นก็คือเข็มหรือกรกมล ผู้ครอบครองหัวใจของ 'วรวิช' ทำให้เธอต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้เห็นความรักของคนทั้งคู่ตลอดเวลา แถมยังถูกซ้ำเติมจากมารดาตัวเองอีกว่า... เธอไม่มีเสน่ห์พอที่จะดึงรั้งวรวิชไว้ได้ ทั้ง ๆ ทีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างสนับสนุน
เมื่อหนีแรงกดดันจากมารดาไปพักที่บ้านคุณทวดมณีนั้น... นอกจากวิญญาณของ'คุณเทียดวาสน์'แล้ว มุกก็ได้รู้จักกับสีหราช จิตแพทย์หนุ่มใหญ่ ผู้รู้สึกจับตาจับใจในตัวเธอตั้งแต่แรกพบ ด้วยแรงสนับสนุนจากคุณทวดมณีและความเข้าอกเข้าใจอันอบอุ่นอ่อนโยนของเขา สีหราชก็ค่อย ๆ กลายมาเป็นกำลังใจสำคัญของมุก ในความพยายามที่จะตัดใจจากวรวิชให้สำเร็จ แม้จะถูกยั่วยุโดยข้อเสนอจากคุณเทียดของเธอก็ตาม...
แต่ถึงกระนั้น อำนาจแห่งกฤติยามนตร์โบราณที่เรียกว่า'นาฏนฤมิต' ก็ไม่วายแสดงอิทธิฤทธิ์จนเธอต้องสูญเสียเพื่อนสนิทคนหนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับคืน!
หลังอ่าน... เป็นดราม่าย้อนยุคที่เข้มข้น อ่านสนุกอีกเล่มหนึ่ง ที่หยิบมาอ่านแบบไม่ได้คาดหวังอะไรนัก ด้วยเป็นนักเขียนนามไม่คุ้น แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ กลับรู้สึกว่าเป็นการลองของใหม่ที่ให้ผลเกินคาดทีเดียว เพราะทั้งพล็อต ทั้งการสร้างสรรค์ตัวละคร ตลอดถึงการดำเนินเรื่องและการใช้สำนวนภาษา... เรียกได้ว่าไม่ได้ด้อยไปกว่านักเขียนรุ่นเก่า ๆ เก๋า ๆ ที่เขียนเรื่องในแนว ๆ นี้สักเท่าไหร่เลย
พล็อตไม่ได้แปลกแตกต่างอะไรมาก หากก็ไม่ได้ดาดดื่นจนรู้สึกซ้ำ เป็นเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวัง อันมีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านล่วงเลยมานานแค่ไหน เรื่องเศร้าของความรักก็ยังคงอยู่คู่กับมนุษย์โลกเสมอมา
ตัวละคร...อาจจะดูเยอะไปหน่อย พานให้สับสน ซ้ำมีการย้อนยุคย้อนสมัยไปหลายชั่วคนอีกต่างหาก ด้วยนางเอกเป็นลูกหลานตระกูลเก่าแก่ที่สืบสาแหรกตระกูลไปได้ถึงยุคต้น ๆ กรุงรัตนโกสินทร์นู่นทีเดียว ตรงนี้เข้าใจว่าผู้เขียนต้องการจะปูพืนหลังให้เห็นถึงปูมหลังของนางเอก รวมทั้งที่มาของพิธีกรรมอันเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ซึ่งก็ช่วยเสริมให้ดูขรึมขลังและดึงดูดความสนใจได้ดี
จะเสียดายนิด ๆ ก็แต่...ความที่เปิดตัวละครพร้อม ๆ กันทีเดียวหลายตัวนัก เลยออกจะทำให้รู้สึกงง ๆ ปนสับสนเล็กน้อย อย่างที่บอกตอนต้น แล้วก็มีตัวประกอบหลายตัวที่เหมือนจะน่าสนใจ(เช่นกลุ่มสาว ๆ พี่น้องของกรกมล) แต่ความรู้สึกมันบอกว่า...ตัวละครกลุ่มนี้ไม่ต้องมีก็ได้ เพราะแทบจะไม่มีบทบาท(สำคัญ & จำเป็น)สักเท่าไหร่เลยในเรื่อง หรือไม่ก็สามารถแยกไปแต่งเป็นนิยายได้อีกเรื่องหนึ่งเลย แอบเสียดายบุคลิกลักษณะเด่นบางประการของตัวละครกลุ่มนี้ที่คนเขียนเขาอุตส่าห์แต่งแต้มได้ค่อนข้างน่าสนใจเชียว
ที่ชื่นชอบก็คือตัวละครเด่น ๆ อย่างตัวนางเอก นางรองดูมีมิติดี มีรัก โลภ โกรธ หลงเช่นมนุษย์มนาทั่วไป มีหลงผิดทำพลาดได้ และเมื่อรู้ตัวว่าผิดก็พยายามแก้ไข...
พระเอกเรื่องนี้เป็นพระเอ๊ก-พระเอกค่ะ อบอุ่น อ่อนโยนและรักนางเอกมาก... จนตอนแรก ๆ แอบขัดใจนางเอกว่า ไปหลงงมงายอยู่กับ"รักแรก"อย่างพี่ชายนอกไส้แบบวรวิชอยู่ได้ ไอ้เราคนอ่านอ่าน ๆ ไปออกจะอิจฉานางที่มีชายหนุ่มแสนดีอย่างพี่สิงห์มาคอยเอาอกเอาใจ พะเน้าพนอ ช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง หล่อนก็ยังจะไปโศกาอาดูรอาลัยแต่คนที่เขาไม่รักอยู่นั่นแล้ว...
การดำเนินเรื่อง...แรก ๆ เปิดเรื่องได้น่าสนใจดีค่ะ บอกเล่าถึงความเป็นมาและความสัมพันธ์ของนางเอกกับผองเพื่อน มีการย้อนอดีตอยู่หลายช่วงหลายตอน ซึ่งก็ก็ทำได้ค่อนข้างเนียนและสมเหตุสมผลดี แต่จะมางง ๆ นิด ๆ กับการลำดับเครือญาตินั่นแหละค่ะ ...
คุณทวดมณีเป็นน้องสาวต่างมารดาของคุณทวดทิพย์ ซึงเป็นทวดสายตรงของมุกและเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่จากบทบรรยายของคนเขียนดูเหมือนว่าคุณทวดมณียังไม่แก่เทาที่ควรจะเป็น แถมยังมีคนเก่าคนแก่อยู่ในบ้านที่เห็นคุณทวดมณี(กับพี่ ๆ ต่างมารดา)มาตั้งแต่แรกเกิด ยังคงแข็งแรง เล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้มุกฟังได้เป็นฉาก ๆ... อ่านแล้ว มันตงิดใจนิด ๆ กับห้วงเวลาของนิยายกับอายุของตัวละครน่ะค่ะ
หลังจากเปิดเรื่องไปจนถึงช่วงกลาง ๆ เรื่องออกจะเวิ่นเว้อวกวนหน่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาคย้อนอดีต ที่คุณเทียดวาสน์มาปรากฏกายเล่าให้มุกฟังเพื่อหว่านล้อมให้เธอรับช่วงประกอบพีธี'นาฏนฤมิต' เพื่อดึงวรวิชให้หันมารักตัว...
มาเริ่มจะตื่นเต้นชวนลุ้นก็เลยกลาง ๆ เล่มไปแล้ว เมื่อมุกตัดสินใจที่จะยกเลิกพิธีนาฏนฤมิต ซึ่งทำให้คุณเทียดวาสน์โกรธอย่างรุนแรง ถึงขั้นทำร้ายมุก ซึ่งนับตามศักดิ์ก็เป็นลื่อแท้ ๆ ของตัวเองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ตรงนี้ออกแนวหลอนเลยค่ะ... เมื่อใช้มุกไม่สำเร็จ คุณเทียดวาสน์ก็จำต้องหาเป้าหมายใหม่ ใครกันที่ผิดหวังจากความรักและอยากแย่งชิงของของผู้อื่นมาเป็นของตัว... มากพอที่จะสามารถมาอยู่แทนที่เธอได้...? จุดนี้ก็จะมีการซ่อนเงื่อนซ่อนปมเพื่อหลอกคนอ่าน... แต่แหะๆ อ่านนิยายแนว ๆ นี้มาเยอะเลยหลอกได้ไม่สำเร็จอะ แต่ก็ยอมรับว่าผิดคาดเล็กน้อยเหมือนกัน
สรุปว่า...เป็นดราม่าเข้มข้นที่อ่านสนุก อ่านเพลินได้อีกเล่มหนึ่งค่ะ ด้วยสำนวนภาษาที่ลื่นไหลอ่านไม่สะดุด มีน้ำมีเนื้อไม่ว่างโหวง หากก็ไม่ถึงกับเครียดขรึม ผู้เขียนได้แทรกแซมสาระว่าด้วยนาฏศิลป์ไทย วัฒนธรรมไทยไว้ไม่น้อย ทำให้เรื่องราวดูละเมียดละไมขึ้น มีบทรักกุ๊กกิ๊กระหว่างพระ-นางพอประมาณ ไม่มากไม่มายจนหวานเวอร์
สรุปของสรุป...อ่านจบแล้วหยิบมาเล่าต่อชวนลองชวนอ่านกันค่า
|
ห่างหายไปจากหน้าบล็อกแก็งค์พักใหญ่ ๆ ด้วยภารกิจรุมเร้า
แต่ช่วงนี้คลี่คลายลงไปเยอะ ขอบคุณที่ยังติดตาม อ่านบล็อกกันค่ะ
เดี๋ยวจะค่อย ๆ แวะเวียนไปอ่านรีวิวจากเพื่อนบล็อกนะคะ