ถ้าพูดถึง การสวนล้างลำไส้ หลายคนคงนึกถึงขวดน้ำที่แขวนสูงจากพื้น มีสายท่อต่อน้ำในขวดซึ่งอาจเป็นกาแฟดีท็อกซ์เข้ามาในรูบั้นท้ายของคนที่นอนตะแคงอยู่บนพื้น

ศาสตร์นี้ เป็นศาสตร์ที่เค้าเรียกว่า "แพทย์ทางเลือก" เป็นการบำบัดตั้งแต่ยังไม่เกิดโรคเพื่อป้องกันโรคนั่นแหละเทอว์แต่มาดามเม้าท์จะขอนำเสนอ พาเทอว์ไปเปิดโลกทัศน์ใหม่นะจ๊ะ เพราะอิชั้นจะมาเล่าประสบการตรงของการสวนล้างลำไส้ใหญ่ส่วนบน ให้ฟังกัน

แต่...เห่ย!!อย่าเพิ่งตั้งท่าปาหินใส่อิชั้นเพราะคิดว่า ใครที่ไหน เค้าจะมาล้างลำไส้กันวะ
มันมีจริงๆ เดี๋ยวจะพาไปดู

สวนล้างลำไส้ ..ทำไปทำไม?

1. อย่างแรกเลยคือกระตุ้นตับให้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องขจัดสารพิษที่คั่งค้างในร่างกาย เช่นผู้ป่วยตับวาย ผู้ป่วยภูมิต้านทานบกพร่อง ผู้ป่วยที่มีอวัยวะของร่างกายทำงานล้มเหลวผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ดื่มสุราหนัก ผู้เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นต้น

2.อย่างที่สอง .... ทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ในผู้ที่มีอาการท้องผูก เป็นสิวที่รักษาทุกสาเหตุแล้วก็ยังไม่หาย คนเป็นภูมิแพ้ที่อยู่ๆก็แพ้ ผื่นผิวหนังอักเสบ

แต่ถ้าเทอว์ๆไม่เคยท้องผูก รับทานผัก ผลไม้ได้ครบถ้วนดื่มน้ำได้วันละ 8 แก้วทุกวัน ออกกำลังกายกันประจำแถมไม่มีปัญหาเครียดสะสมมากล้ำกลาย เทอว์ก็ “เซย์กู๊ดบาย”บทความนี้ได้เลยคร่า

แต่ถ้าเทอว์ไม่ได้เป็นอย่างที่อิชั้นว่ามาซักข้อ สองข้อ เราไปต่อกันเลยย่ะ


Before: รูปของลำไส้ส่วนบนที่มีเมือกและของเสียเกาะตามผนังลำไส้ 
After: รูปของลำไส้หลังจากรับการสวนล้างฯ 

ประเภทของการสวนล้างลำไส้

มีอยู่ 2 ประเภทนะเทอว์
ประเภทแรก การสวนล้างลำไส้ใหญ่ส่วนบน (High Colon Irrigation) ทำเพื่อขจัดตะกรันที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่และขจัดพิษหรือลดพิษที่ค้างอยู่ในร่างกาย
ส่วนประเภทที่ 2 คือการสวนล้างลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง(Low Colon Irrigation) อันนี้ทำเพื่อขจัดของเสียที่ค้างอยู่ในลำไส้ส่วนล่างที่เป็นส่วนกักเก็บอุจจาระ แต่ขจัดตะกรันไม่ได้ 

แต่วันนี้มาดามเม้าท์จะขอพามาดู "การสวนล้างลำไส้ส่วนบน" ที่เราทำเองไม่ได้นะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพท หรือพยาบาล เท่านั้นจ้า

วิธีการทำการสวนล้างลำไส้ส่วนบน ก็ยังแบ่งออกเป็น ๒ ระบบคือ
1. ระบบปิด

2.ระบบเปิด

โดยจะใช้น้ำที่ปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกะร่างกาย เติมเกลือแร่เข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้อ่อนเพลียเพราะกระบวนการนี้ เราจะเสียน้ำในร่างออกไปเยอะเหมือนกัน มันจะอ่อนเพลียนะเทอว์ บางที่จะมีการเสิร์ฟน้ำผัก ผลไม้ปั่นรวม หรือซุปผักอุ่นๆให้เราหลังการสวนล้างลำไส้ด้วยนะ

มาดูกันต่อว่า ไอ้ปิด กะเปิด มันต่างกันยังไง

1.    ระบบปิด (Close System Colon Cleansing Machine) คือระบบท่อที่สวนเข้าไปทางก้น แต่ท่อจะขนาดใหญ่หน่อย และเข้าไปค่อนข้างลึก ท่อจะขยายรูทวารให้หูรูดขยายออกมากกว่าปกติพอปล่อยน้ำเข้าไปล้างในลำไส้ เราไม่ต้องออกแรงเบ่งของเสียเลยนะวิธีนี้ มันจะออกมาเข้าท่อโดยที่ไม่มีของเสียผ่านออกมาข้างนอกท่อเลย

ก่อนทำต้องวัดความดัน วัดไข้ วัดปริมาณอ๊อกซิเจนในเลือดก่อนค่ะคุณขา

จากนั้นก็เข้าห้องเกียมตัวเกียมใจกันได้เลยสำหรับภาพที่จะได้รับชมต่อไปนี้ ฮ่าๆๆๆๆ

จากนั้นพยาบาลจะตรวจดูริซซี่ - ดวง ก่อนว่ามีมั้ย เพราะถ้ามีก็จะยังทำไม่ได้นะจ๊ะ
ขั้นตอนนี้ เขินพยาบาลมาก่อะพูดเลย อ๊างงงงง!!




ขั้นต่อไป พยาบาลจะใส่ท่อน้ำที่จะเป็นตัวปล่อยน้ำเข้าไปลำเลียงของเสียในตัวเราค่ะคุณขา
เค้าจะมีเจลทาก่อน หุ้มปลายท่อด้วยแผ่นซิลิโคนอีกที 




จากนั้นพยาบาลคนนึงจะนวดท้องไล่ของเสียเบาๆ ส่วนอีกคนนึงคอยควบคุมน้ำที่ปล่อยเข้าไปในตัวเรา แล้วก็ดึงกลับออกมาพร้อมของเสียตอนที่เรากลั้นไม่ไหวแล้วอ่ะจ๊ะ

ใช้เวลาทั้งหมกประมาณ 45 นาที จากนั้นพยาบาลจะให้เราไปล้างตัว อาบน้ำ แล้วกลับมาฉีด "โปรไบโอติค" จุลินทรีย์ตัวดีเข้าสู่ลำไส้
โปรไบโอติกในอาหารที่เรากินก็มีนะ อย่างในแป้งข้าวหมาก ผักดอง หรือนมเปรี้ยวอ่ะเทอว์
ถ้าเรากินอยู่ไม่สมดุล เราจะเสียจุลินทรีย์ไป แล้วก็ส่งผลให้เป็นภูมิแพ้ อันนี้ท่อไม่ใหญ่ สบายๆ ...ฮ่าๆๆ




อันนี้คือระบบปิดที่อิชั้นประสบมาค่ะคุณขา
ตามมาดูการสวนล้างแบบระบบเปิดกันดูบ้าง ซึ่งตัวนี้มาดามเม้าท์ขอยืมภาพมาจากอินเตอร์เนต เพราะตอนที่อิชั้นทำครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
หาไฟล์ภาพไม่เจอแล้วอ่ะซิเทอว์

2.  ระบบเปิด ( Open SystemColon Cleansing Machine )
ท่อที่ใช้สวนก้นจะเล็กมากขนาดเท่าปากกาอ่ะจ๊ะ


ท่อที่ใช้ในการสวนเข้าไปในหูรูดของก้น (ขอบคุณรูปภาพจาก Google.com)

ในท่อนี้จะลูกกลมๆอยู่ข้างในนะเทอว์เวลาเราปล่อยของออกจากตัว ลูกกลิ้งนี้ก็จะปิดท่อน้ำไว้ ไม่ให้ของเสียลงไป แล้วพอเราหยุดเบ่งเจ้าลูกกลิ้งนี้ก็จะเปิดท่อให้น้ำไหลเข้ามาในตัวเรา
ระบบเปิด เราจะสบายหน่อย เพราะจะทำในท่านั่งกึ่งนอน
เราควบคุมการปล่อยและการหยุดน้ำเองได้


ขอบคุณรูปภาพจาก Google.com

พยาบาลจะเสียบท่อนี้เข้าไปในก้น
พ้นหูรูดหน่อยนึงจ๊ะเทอว์ พอปล่อยน้ำเข้าไปซักพักเราจะปวดถ่าย ก็ปล่อยของออกมา โดยที่ท่อก็ยังคงคาอยู่ของเสียกับน้ำที่สวนเข้าไปก็จะถูกถ่ายออกมารอบๆท่อนั่นแหละ
เป็นลักษณะของการไหลเวียนเข้า-ออกอยู่ตลอด

ท่อใสๆ ด้านล่าง คือท่อที่เราจะเห็นของเสียที่ออกมาจากตัวเรานี่แหละค่ะคุณขา
บางอย่างที่ออกมา ก็ลืมไปแล้วว่ามันกินเข้าไปตั้งกะเมื่อไหร่
หรือบางไอเท่มก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเอาซะเลย 
ก็หน้าตาเป็นก้อนหินอย่างกะขรี้แพะ หรือตะกรันอ่ะค่ะคุณขา บรื๋อ!!

สำหรับ การสวนล้างลำไส้ส่วนบนนั้น ถือเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ต้องทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมมาเท่านั้น
และต้องทำในสถานพยาบาลโดยใช้เตียงสำหรับการสวนล้างโดยเฉพาะ (Colon Cleansing Machine) นะเทอว์

ถึงจะมีข้อดี แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำสวนล้างลำไส้เป็นประจำนะจ๊ะ  ควรทำเมื่อต้องการขจัดสารพิษออกจากร่างกายเท่านั้น ซึ่งปีละ 1-2 ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ 
ยกเว้น ในกรณีพิเศษเฉพาะรายเช่นคนไข้ไตวาย อาจทำได้ในแต่ละครั้ง ทุก 4 ชั่วโมง ตลอดเวลา 1 วันคร่า

อาการข้างเคียง

** อาจมีอาการอ่อนเพลีย ซึม เนื่องจากในกระบวนการขับพิษ
** อาจมีอาการท้องอืดได้เล็กน้อย เป็นผลข้างเคียงจากการขับน้ำดีออกได้เร็วกว่าปกติทำให้การย่อยไขมันไม่หมด แต่ในกระบวนการขับสารพิษนั้น จะให้อาหารไขมันต่ำอยู่แล้ว

**อาจมีอาการแสบก้นได้บ้าง



ส่วนอาการข้างเคียงของอิชั้น คือ ...ง่วงมาก!!
ดูจากสายตาที่หยาดเยิ้มของอิชั้น ทุกท่านคงพอจะเดาออก ฮ่าๆๆๆ

ความคิดเห็นจากมาดามเม้าท์

มาดามเม้าท์เคยทำการส่วนล้างลำไส้ส่วนบนมาทั้ง 2 ระบบ ทั้งเปิด ทั้งปิดนั่นแหละค่ะคุณขา
เมื่อก่อนทำแบบเปิดปีละครั้ง แล้วก็ห่างมา 4 ปี เพิ่งได้มาทำอีกทีก็ตอนนี้นี่แหละ ได้ลองระบบปิดดูบ้าง เลยคิดว่าน่าจะเอามาถ่ายทอดให้คนที่กะลังหาข้อมูลได้บ้าง

ไม่ได้ป่วยอะไรนะเทอว์ เพียงแต่ด้วยวิถีการใช้ชีวิตอ่ะ
บางทีเรื่องอาหารความเครียด การนอน การออกกำลังกาย มันก็คุมให้ปกติลำบากว่ะ
ครั้งนี้ก็คือเริ่มรู้สึกตัวว่าท้องผูกบ่อย ที่สำคัญคือ ขนาดความกว้างของอุนจิ มันเล็กลง
 เหมือนลำไส้เรามันมีอะไรไปค้างไปอุด
ก็เลยจัดซะหน่อย ซึ่งปรากฏว่าคิดไม่ผิด

พยาบาลที่อยู่ด้วยทั้ง 2 ท่านในตอนที่สวนล้างฯ บอกว่าแก๊สในกระเพาะเยอะมาก
เพราะกินข้าวผิดเวลาบ่อยๆ ของเสียตกค้าง
อัดกันจนเป็นก้อนแข็ง ค้างอยู่ที่ส่วนบนของลำไส้ใหญ่
ก็เลยทำให้ของเสียใหม่ที่ลงมา เหลือทางระบายออกจากร่างกายน้อยลง
เหมือนท่อมีตะไคร่ไปตันข้างในอ่ะเทอว์

พอทำมาแล้ว ความกว้างของอุนจิก็กลับมาปรกติ รู้สึกโล่งมากทีนี้ก็ต้องมาปรับเรื่องออกกำลังกาย กานกิน การนอนให้สมดุลละ

รายละเอียดเกี่ยวกับการสวนล้างลำไส้
ราคาการสวนล้างฯแบบปิด: 3,300 บาท
สถานที่: Verita Life Clinic ตึก I Tower ถนนวิภาวดี

ราคาการสวนล้างฯแบบเปิด: 3,300 บาท
สถานที่: S Medical Spa ถนนวิทยุ (ตอนนี้ทางคลินิกยกเลิกโปรแกรมนี้ไปแล้ว)

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะคุณขา
มาดามเม้าท์