Chapter 90
ตอนที่ 90 "หาววว...." เจอร์รี่อ้าปากหาวเมื่อถูกปลุกด้วยเสียงรถยนต์เร่งเครื่องอยู่หน้าบ้าน เขาลุกขึ้นมาอย่างงัวเงียก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสาม "ใครกันวะ!" บ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดแล้วเดินออกไปดู "นั่นงัยมาแล้ว!" เสียงอ้อแอ้ของแวนเนสดังขึ้นพร้อมกับชี้มายังพี่ชาย เจอร์รี่ขมวดคิ้วความง่วงสร่างหายไปทันทีเขารีบตรงเข้าไปหาน้อง "พวกชั้นพาเด็กในปกครองมาส่ง" เมื่อเดินมาถึงเจอร์รี่ก็รู้ทันทีว่าแวนเนสออกไปกับใครซึ่งก็ไม่ได้เกินไปกว่าสิ่งที่เขาคาดเดาไว้เลย "ขอบคุณ" เจอร์รี่ว่าแล้วก็เปิดประตูออก "นายกลับมาเร็วจัง ชั้นนึกว่านายจะกลับมาพร้อมเสี้ยวเทียนซะอีก" แวนเนสพูดเสียงยานๆเหมือนคนเมา "อย่าพูดมากน่า!" ดุน้องเบาๆก่อนจะเอาแขนน้องพาดไหล่ตัวเองเพื่อพยุงร่างน้องไว้ "ถ้านายไม่บังคับให้มันกลับบ้านคงไม่ลำบากกันแบบนี้" หนึ่งในคนที่พามาส่งพูดกับเจอร์รี่เป็นเชิงต่อว่า "แวนเนสเขามีบ้านไม่ใช่คนร่อนเร่ข้างถนน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนก็แล้วแต่เขาต้องกลับบ้าน นี่คือกฎของบ้านเรา" เจอร์รี่พูดเสียงแข็ง "ยังงัยก็ขอบคุณมากที่พามาส่ง" พูดจบเจอร์รี่ก็ปิดประตูอย่างไม่สนใจ "ขอบใจโว้ย! วันหลังมารับไปเที่ยวกันอีกนะ!" แวนเนสตะโกนบอกเพื่อนในขณะที่ถูกพี่ชายลากเข้าบ้าน "วันนี้ชั้นสนุกมาก! ไว้วันหลังชั้นจะเลี้ยงพวกนายอีก!" แวนเนสยังตะโกนต่อ "หุบปากได้แล้ว! เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเขาบ้าง!" เจอร์รี่ทำเสียงเข้มใส่เจ้าน้องชายตัวดี "ชูววววว์" ได้ยินดังนั้นแวนเนสเลยเอานิ้วชี้ทาบที่ปากพร้อมกับทำเสียงเบาๆ "เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจเฮือกเพราะรู้ว่าแวนเนสเมาเละเทะจนแทบไม่มีสติ "เมาเหมือนหมา!" บ่นน้องชายแล้วเหวี่ยงร่างน้องลงบนโซฟาที่เขาใช้หลับนอนเมื่อซักครู่ "วันนี้สนุกจริงๆ!!" แวนเนสร้องเสียงดังขึ้นมาอีก "แวนเนส!!!" พี่ใหญ่เรียกน้องเสียงเข้มขึ้นตามลำดับ "ทำไมต้องดุด้วย? ชั้นกำลังสนุก" แวนเนสต่อว่าพี่ชายพร้อมกับทำปากเบ้เหมือนเด็ก พี่ใหญ่จึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินหายไปหยิบผ้าขนหนูพร้อมกับกะละมังใบเล็กที่ใส่น้ำมา "ทำไมเมาเละเทะแบบนี้ มีปัญหาอะไรก็น่าจะคุยกันได้ ไม่เห็นต้องไปกินเหล้าหัวราน้ำแบบนี้เลย" แม้จะรู้ว่าบ่นไปน้องก็คงไม่รับรู้เพราะตอนนี้แวนเนสไมีมีสติสตังอยู่เลยแต่เจอร์รี่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูด "คุยไม่ได้.....เขาไม่คุย.....คุยไม่ได้หรอก....." แวนเนสเถียงเสียงอ้อแอ้ "เงียบไปเลย!" เจอร์รี่ดีดหน้าผากน้องด้วยความหมั่นไส้ แล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้น้องชาย "ชั้นทำเองได้ ชั้นไม่เมานะ" แวนเนสว่าแล้วก็แย่งผ้าขนหนูจากพี่ชายมาเช็ดหน้าตัวเองแรงๆ "เฮ้ย! จะเช็ดให้ลูกกะตามันหลุดออกมาเลยหรืองัย? เอามานี่!" เจอร์รี่ว่าแล้วก็แย่งผ้าขนหนูกลับคืนมา "ชั้นทำเอง! ชั้นทำเอง!" แวนเนสโวยวายแล้วจะแย่งผ้าขนหนูมาอีกแต่เจอร์รี่ยกผ้าขึ้นสูงแวนเนสจึงพลาดท่าหน้าทิ่มลงมาแล้วยังไปคว้ากะละมังใบที่ใส่น้ำอยู่หกเลอะเทอะอีก "โอ้ย!!! ชั้นอยากจะบ้าตาย!" เจอร์รี่มองดูผลงานของเจ้าน้องชายตัวแสบก่อนจะบ่นอย่างหัวเสีย ในขณะที่แวนเนสหัวเราะชอบใจ "ชั้นชนะ! นายทำน้ำหก!" แวนเนสว่าแล้วโทษว่าเป็นความผิดของพี่ชาย "นายน่ะสิทำ! มันน่านัก...." พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับยกมือขึ้นจะตีให้เจ็บๆเสียทีเผื่อจะหายเมาบ้าง แต่แล้วก็ลดมือลงเพราะรู้ว่าน้องเมาจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่หากตีลงไปก็มีแต่จะทำให้น้องเจ็บเปล่า "นายนี่มันจริงๆเลย! เสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว ถอดออกมาเลย!" พี่ใหญ่ทำได้เพียงแต่ดุน้อง "ได้ๆๆๆ ชั้นจะถอดเสื้อออก ไม่เห็นต้องดุเลยนี่" แวนเนสพูดเสียงอ้อแอ้แล้วใช้มือดึงที่เสื้อบริเวณหน้าอกคล้ายจะแกะกระดุมออกทั้งที่เสื้อที่ใส่อยู่เป็นเสื้อยืดธรรมดา "เฮ้ย! ไม่ได้เรื่องแล้วหละ" เจอร์รี่เห็นก็ต้องส่ายหน้าอีกเป็นครั้งที่ร้อย "ไป....ชั้นพาไปนอน" เมื่อเห็นดังนั้นเจอร์รี่จึงละมือจากภารกิจที่ต้องเช็ดล้างสิ่งที่น้องทำเลอะเทอะไว้มาพาเจ้าน้องชายร่างใหญ่ขึ้นไปนอน "ไปนอนๆๆๆๆ" แวนเนสรับคำแล้วกางแขนออกเหมือนเด็กจะให้อุ้ม "อุ้มไม่ไหว! จะบ้าหรืองัย! ตัวอย่างกับยักษ์!" เอ็ดใส่น้องอีก "ไม่อุ้มก็ไม่นอน" แวนเนสส่ายหน้าดิกแล้วขืนตัวไว้ "เดี๋ยวโดนตีนะ" เจอร์รี่เลยต้องขู่ แวนเนสทำหน้าเหมือนเด็กกลัวความผิดแต่ก็ยังส่ายหน้า "ไม่เอาสิ อย่างอแงนะ ขึ้นไปนอนดีๆแล้วพี่ใหญ่จะรัก" เมื่อขู่ไม่ได้เลยต้องปลอบแทน "แล้วคนอื่นรักมั๊ย?" แวนเนสเงยหน้าถามพี่ชาย "รักสิ" เจอร์รี่ตอบ "กลอเรียด้วยหรอ?" พอได้ยินคำถามนี้เจอร์รี่ก็ถึงกับนิ่งไป "กลอเรียยิ่งรักมากเลย" พอได้ยินเช่นนี้แวนเนสก็ยิ้มออกแล้วลุกพรวดขึ้นทันที "งั้นไปนอน กลอเรียจะได้รัก" ด้วยความเมาจึงทำให้แวนเนสทรงตัวได้ไม่ดีนักดีที่เจอร์รี่คว้าตัวน้องได้ทันก่อนจะล้มลงไป "ระวังหน่อยสิ" เอ่ยเตือนน้องชายแล้วช่วยพยุงน้องไปที่ห้องนอนของตัวเองอย่างทุลักทุเล "ถึงแล้วๆๆๆ" เจอร์รี่พูดอย่างดีใจที่ลากตัวน้องมาถึงที่หมายเสียที "นั่งนี่ก่อน ต้องถอดเสื้อผ้าเปียกๆออกด้วยไม่งั้นเดี๋ยวปอดบวม" เจอร์รี่จับให้น้องนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะจัดแจงถอดเสื้อผ้าน้องออกจนเหลือแต่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว "ไปนอน" แวนเนสว่าแล้วก็เดินโซซัดโซเซไปล้มตัวนอนที่เตียง "อ้าวเฮ้ย! ยังไม่ทันใส่เสื้อผ้าเลย!" เจอร์รี่ร้องบอกแต่สายไปซะแล้วเพราะแวนเนสนอนแผ่หราบนเตียงเป็นที่เรียบร้อย "เฮ่อ! วันหลังเมาแบบนี้อีกจะตีให้หัวแตกเลย!" บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเดินมาจัดแจงให้น้องนอนดีๆ ก่อนจะห่มผ้าให้อย่างมิดชิดและปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้อุ่นขึ้นเพราะกลัวน้องจะหนาว "พี่คนนี้ต้องเป็นขี้ข้าเราไปจนตายเลยมั้งเนี่ย!" พี่ใหญ่ว่าในขณะที่มองเจ้าน้องชายตัวดีด้วยความห่วงใย "อย่าคิดมากเลยนะไอ้ลูกลิง....ถึงปัญหาจะหนักหนาแต่พี่ก็อยู่ตรงนี้เสมอนะ" พูดพลางลูบหัวน้องชายซึ่งตอนนี้หลับสนิทไปแล้ว "ขอให้นายตื่นมาแล้วเจอกับวันที่สดใสในวันพรุ่งนี้" พูดจบก็จูบเบาๆที่หน้าผากน้องชายก่อนจะปิดไฟแล้วเดินออกไปเงียบๆ
- ตอนเช้า - "พี่ใหญ่! ทำไมยังไม่ตื่นอีกเนี่ย! ไม่ไปทำงานแล้วใช่มั๊ย!?" ไจ่ไจ๋ขึ้นไปนั่งบนเตียงของพี่ชายพร้อมกับเขย่าตัวร่างใหญ่ที่นอนหันหลังให้เขา "โอ้ย! หยุดเขย่าซักที!" น้ำเสียงหงุดหงิดที่ถูกปลุกขึ้นมาทั้งที่ยังนอนได้ไม่เต็มอิ่มทำให้ไจ่ไจ๋หยุดมือ "ผมจะไปมหาลัยแล้ว แค่แวะมาดูว่าทำไมพี่ใหญ่ยังไม่ตื่น" น้องเล็กพูดเสียงอ่อยลงเพราะดูเหมือนเขาจะทำให้พี่ชายหงุดหงิด "พี่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ เพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง" เจอร์รี่พลิกตัวกลับมาเมื่อได้ยินเสียงอ่อยๆของน้องชายที่ดูเหมือนจะหวาดๆกับคำพูดของเขาอยู่ไม่น้อย "ขอบใจที่เข้ามาปลุก ไปเรียนเถอะไป....." ว่าพร้อมกับเอามือขยี้หัวน้องชายเบาๆ "งั้นผมไปก่อนนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ลุกขึ้นแต่ก่อนที่จะเดินออกไปก็หันกลับมาเหมือนนึกอะไรได้ "พี่ใหญ่ครับ แล้วเมื่อคืนพี่รองไม่ได้กลับบ้านหรอ?" หันกลับมาถามอย่างนึกขึ้นมาได้ "หืม?" เจอร์รี่ทำหน้าแปลกใจเพราะกำลังประมวลผลในสมองขณะที่กำลังมึนๆอยู่ "เมื่อคืนก็กลับมานี่ น่าจะหลับอยู่" คำตอบของเขาทำให้น้องชายส่ายหน้า "ไม่มีครับ ผมเข้าไปดูแล้วไม่เห็นเลย หาทั่วบ้านก็ไม่เจอ" คราวนี้คนที่ต้องงุนงงกลับกลายเป็นเขา เมื่อคืนแวนเนสเมาอย่างกับอะไรดีทำไมถึงได้สร่างเมาเร็วจนขนาดออกไปข้างนอกได้ด้วยตัวเอง "แน่ใจนะไจ่ไจ๋?" เจอร์รี่ลุกขึ้นมาพร้อมกับจับไหล่น้องแล้วถามย้ำ "แน่ใจครับ ไม่เชื่อพี่ใหญ่ไปดูได้เลย" ไจ่ไจ๋ตอบอย่างงงๆ ดังนั้นพี่ใหญ่จึงเดินหายออกไปครู่หนึ่งก็กลับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล "จะไปไหนได้...." พึมพำกับตัวเอง "เกิดอะไรขึ้นหรอครับ? พี่รองหายไปไหน?" น้องเล็กซักถามอย่างเริ่มรู้สึกห่วงพี่ชายด้วยเหมือนกันเพราะจากสีหน้าของพี่ใหญ่ก็พอจะบ่งบอกได้ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติเท่าไหร่ "ไม่มีอะไรหรอก นายไม่ต้องห่วงนะพี่จะหาพี่รองเอง ไปเรียนเถอะ" พี่ใหญ่พูดรับรองเพราะไม่อยากให้น้องขาดเรียนทั้งที่เพิ่งจะเปิดเทอม "ผมไปสายหน่อยก็ได้ ผมห่วงพี่รอง" คำพูดของน้องทำให้เจอร์รี่รู้ว่าน้องไม่ได้โกหก หลังจากครุ่นคิดอยู่ซักครู่เจอร์รี่จึงพยักหน้า "เอางั้นก็ได้ แต่นายโทรไปบอกเพื่อนไว้ก่อนหากว่ามีอะไรสำคัญให้เพื่อนช่วยเก็บไว้ให้ก่อนนะ" ไม่วายห่วงเรื่องการเรียนของน้องด้วย "ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะโทรบอกเพื่อนเดี๋ยวนี้เลย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเพื่อน ส่วนเจอร์รี่เดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว "นายลองโทรหาพี่รองหน่อย" พี่ใหญ่สั่งการ ซึ่งไจ่ไจ๋ก็ทำตามทันที แต่ผลที่ได้คือแวนเนสไม่รับสาย "พี่รองไม่รับสายเลย" น้องเล็กรายงานแล้วกดไปหาพี่ชายอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าแวนเนสจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยเพราะไจ่ไจ๋เดินตามเสียงโทรศัพท์ที่แว่วมาแล้วพบมันร้องดังอยู่ในห้องนอนของแวนเนส "ไอ้บ้านี่! รู้งี้เมื่อคืนน่าจะจับมัดมือมัดเท้าไว้ซะเลย!" เจอร์รี่ออกอาการหงุดหงิดขึ้นมา "แบบนั้นจะโดนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวนะ" ไจ่ไจ๋แย้ง พี่ใหญ่มองหน้าน้องเล็กก่อนจะถอนหายใจ "พี่เปลี่ยนชุดก่อนแล้วเราออกไปเดินหาแถวๆนี้กัน" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าในขณะที่ไจ่ไจ๋ทำหน้าครุ่นคิด "พี่ใหญ่ครับ เราจะโทรไปบอกพ่อแม่ดีมั๊ย? ถ้าพ่อแม่กลับมาน่าจะดีนะ" ไจ่ไจ๋ถามความเห็นพี่ชาย "เรื่องนั้นไว้ก่อน พี่ว่าเราไปหาไอ้พี่ชายตัวดีของนายก่อนเถอะ ไม่รู้เดินเมาไปไหนจนรถชนตายแล้วหรือเปล่า" เจอร์รี่พูดจบก็เปลี่ยนชุดเสร็จพอดี "ไป...." พยักหน้ากับน้องชายก่อนจะจูงมือน้องออกจากบ้าน แล้วเดินหาแวนเนส "ทำไมหมู่นี้มันมีแต่เรื่องนะ สงสัยเราต้องหาเวลาไปทำบุญกันบ้างแล้ว" ไจ่ไจ๋บ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมา "พี่ก็ว่างั้นแหละ เรื่องเจ้าพี่กลางยังไม่ทันจบดีเรื่องเจ้าพี่รองก็มาอีกแล้วแถมไม่รู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เจอร์รี่เห็นด้วยกลับน้องแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ "ไม่น่าจะไปไหนได้ไกล" พึมพำออกมาเบาๆ "หรือว่าไปหาอะไรกิน?" ไจ่ไจ๋ให้ความเห็น "คนมันทะเลาะกับแฟนจะมีกะจิตกะใจกินอะไรเข้าไปอย่างงั้นหรอ?" ย้อนถามน้องเป็นเชิงไม่เห็นด้วย "อ้าวหรอ? ไม่รู้สิ ไม่เคยทะเลาะกับแฟน" ไจ่ไจ๋ลอยหน้าลอยตาจนพี่ชายรู้สึกหมั่นไส้จึงเขกหัวเข้าให้ซักที "โอ้ย! พี่ใหญ่หนิ...." ไจ่ไจ๋หน้ามุ่ยเล็กน้อย "นี่มันใช่เวลาพูดเล่นกันหรืองัย?" เจอร์รี่ทำเสียงดุ ในขณะที่ไจ่ไจ๋ยังหน้ามุ่ยไม่หาย "ชาติหน้ามีจริงขออย่าได้เกิดมาเป็นพี่ชายคนโตอีกเลย" เจอร์รี่บ่นอุบอิบอย่างเหนื่อยใจ น้องเล็กเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะทำตาโต "นั่นงัย!!! พี่รองอยู่นั่นงัย!!!" ร้องเสียงดังพร้อมกับชี้ไปที่แวนเนสก่อนจะวิ่งแจ้นเข้าไปหาพี่ชาย "เฮ่อ!" พี่ใหญ่ถอนหายใจโล่งอกแล้วรีบเดินตามไจ่ไจ๋ไป "ทำไมพี่รองออกมาเงียบๆไม่บอกไม่กล่าวใครแบบนี้หละครับ? ผมกับพี่ใหญ่เป็นห่วงแทบแย่" ไจ่ไจ๋ยิงคำถามใส่พี่ชายที่นั่งหงอยๆอยู่บนชิงช้าในสนามเด็กเล่น "พี่เห็นว่ายังไม่มีใครตื่น" แวนเนสตอบหน้าตาท่าทางเหมือนคนไม่มีวิญญาณ "เกิดอะไรขึ้น? อยากเล่าให้เราฟังมั๊ย?" พี่ใหญ่ถามแบบกว้างๆ "ไม่มีอะไร" แวนเนสปฏิเสธทั้งที่สายตายังเหม่อลอย "ยังจะมาว่าไม่มีอะไรอีก! พี่ทะเลาะกับพี่กลอเรียด้วยเรื่องอะไร? ผมเห็นว่าทั้งพี่กับพี่กลอเรียก็ซึมไม่ต่างจากกันเท่าไหร่หรอก!" ไจ่ไจ๋อดปากไว้ไม่ได้จึงโพล่งออกมา "ไม่ได้ทะเลาะกัน เราไม่ได้ทะเลาะกัน" แวนเนสพูดเสียงแผ่ว "ที่ร้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" เจอร์รี่ถามต่อ แวนเนสส่ายหน้าเล็กน้อย "ชั้นอยากอยู่เงียบๆ" ก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรต่อแวนเนสก็ตัดบทเอาดื้อๆ "พี่รองเป็นแบบนี้แล้วใครอยากจะปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวหละ?" ไจ่ไจ๋เริ่มโวยวายเพราะหงุดหงิดที่เห็นพี่ชายซึมกระทือแบบนี้ "อย่าโวยวายน่า!" เจอร์รี่เอ็ดน้องเล็กเบาๆ ก่อนจะพูดกับแวนเนสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ได้....เราจะปล่อยให้นายอยู่เงียบๆ แต่กลับไปที่บ้านก่อนเถอะเพราะเดี๋ยวชั้นกับน้องก็จะออกไปทำงานไปเรียนกันแล้ว" เอ่ยชวนพร้อมกับยื่นมือไปหา แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปให้พี่ชาย "ทำไมตัวเย็นแบบนี้? ออกมานั่งตั้งแต่กี่โมง?" เมื่อสัมผัสตัวน้องพี่ใหญ่ก็ขมวดคิ้ว "ไม่รู้" ท่าทางเลื่อนลอยของแวนเนสทำให้ไจ่ไจ๋พลอยกังวลไปด้วย "ปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้นะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋กระซิบบอกพี่ชาย "รู้แล้วน่า!" เจอร์รี่พูดแบบไม่ออกเสียงเพราะไม่อยากให้แวนเนสรำคาญ "นายไปเรียนก่อน เดี๋ยวพี่จัดการเอง" บอกกับน้องเล็กอีกครั้งแล้วพอแวนเนสเดินกลับบ้าน โดยมีไจ่ไจ๋เดินตามด้วยท่าทีหงุดหงิดไม่เลิก "ผมจะโทรบอกพ่อแม่ให้รีบกลับบ้าน พี่รองท่าจะแย่นะเนี่ย" เมื่อกลับมาถึงบ้านเจอร์รี่ก็ปล่อยให้แวนเนสนอนแหมะอยู่ในห้องนั่งเล่นส่วนตัวเองก็เดินเข้าห้องครัวเพื่อจะหาเครื่องดื่มไปให้น้องชาย ส่วนไจ่ไจ๋นั้นเดินตามติดเข้ามาด้วย "ไม่แย่ขนาดนั้นหรอก" เจอร์รี่ว่าแล้วก็ชงน้ำขิงไปด้วย "นี่ยังไม่เรียกว่าแย่อีกหรอ? ผมว่าแบบนี้เหมือนกับวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว" น้องเล็กแย้ง "เอาน่า! เรื่องของผู้ใหญ่น่ะ!" พี่ใหญ่อดไม่ได้ที่จะต้องหันมาหยิกแก้มเจ้าน้องชายตัวดี "เรื่องของผู้ใหญ่อีกแล้ว ผมน่ะ...." ไจ่ไจ๋ตั้งท่าจะเถียงแต่โดนพี่ชายพูดแทรกขึ้นมาก่อน "ไปเรียนได้แล้ว ไอ้เด็กดื้อ!" น้องเล็กทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย "ทำไมผมต้องเชื่อด้วย? ผมเป็นเด็กดื้อหนิ" ไจ่ไจ๋เถียง "ไอ้....." เจอร์รี่ถึงกับเถียงไม่ออกแต่แล้วก็ฝืนยิ้มให้น้อง "ไปเรียนได้แล้วครับ เด็กดี...." ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ค้อนใส่พี่ชายก่อนจะหันหลังอย่างติดไม่ค่อยจะพอใจซักเท่าไหร่นัก "จริงๆเลย" เจอร์รี่บ่นแล้วเทน้ำขิงใส่แก้ว "เออพี่ใหญ่!" เสียงน้องเล็กทำให้เจอร์รี่ต้องหยุดมือ "อะไรอีก?" ถามน้องกลับไปอย่างเอือมๆ "เป็นไปได้หรือเปล่าว่าพี่รองกับพี่กลอเรียจะไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ เพียงแต่อาจจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นในตอนที่พวกพี่เขายังไม่พร้อม" ไจ่ไจ๋เลี่ยงที่จะไปพูดตรงๆ "เกิดเรื่องอะไรของนายวะ?" พี่ใหญ่ไม่เข้าใจความหมาย "โธ่! ทำไมพี่ใหญ่ถึงได้ซื่อแบบนี้น่ะ! ก็ปัญหาที่คนเป็นแฟนกันแต่.....แต่....มันมีใครบางคนโผล่มา....." น้องเล็กพยายามอธิบายแบบหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง "นายหมายความว่ามีมือที่สาม?" เจอร์รี่ก็ยังไม่เข้าใจน้องอยู่ดี ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมหมายความว่าเป็นไปได้มั๊ยที่พี่กลอเรียจะมีน้อง?" เมื่อเห็นว่ายังงัยแล้วพี่ชายคงไม่เข้าใจไจ่ไจ๋จึงพูดออกไปตามตรง "เฮ้ยยย!!!" เจอร์รี่อุทานเสียงดังลั่น "จะบ้าหรอ! ไม่มีทางหรอก!" พี่ใหญ่หรี่เสียงลงทั้งที่ตัวเองก็หวั่นๆกับสิ่งที่น้องสงสัย "ก็แค่เป็นทางเลือกให้คิด ผมไปเรียนก่อนแล้วกัน" ไจ่ไจ๋ทิ้งระเบิดให้พี่ชายก่อนจะหนีไปเรียนหน้าตาเฉย "เฮ้ย! อย่าเพิ่งไปดิวะ! มาช่วยกันคิดก่อน!" เจอร์รี่ร้องเรียกแต่ไจ่ไจ๋กลับเดินไปหยิบของแล้วโผล่หน้ากลับเข้ามาโบกมือลาพี่ชายเอาดื้อๆ "ไอ้เด็กคนนี้!" เจอร์รี่มองตามอย่างเคืองๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขายืนมองน้ำขิงที่เพิ่งชงเสร็จก่อนจะถอนหายใจยาว "เอาวะ! พูดก็พูด" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็ถือแก้วเครื่องดื่มนั้นเดินออกมาหาแวนเนส "ดื่มซักหน่อยสิ" วางแก้วลงตรงหน้าแวนเนสพร้อมกับบอกเสียงเรียบ แต่แวนเนสกลับนั่งมองอย่างเดียว "เอาหละ.....นายเองก็โตแล้ว ไอ้เรื่องที่จะมีอะไรมันก็....." เจอร์รี่เองก็รู้สึกกระดากที่จะพูดถึงเรื่องนี้แม้ว่าน้องจะเป็นผู้ชายแต่เรื่องแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว "ชั้นไม่อยากก้าวก่ายนะเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในเมื่อนายได้ทำลงไปแล้วก็ต้องยอมรับผิดชอบในผลที่เกิดขึ้นด้วย อย่าผลักภาระไปให้ใครเพียงคนเดียว" แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายด้วยความงุนงง "แต่ชั้นคิดว่าหากนายทำให้มันถูกต้องซะก็น่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เราเองก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปส่วนกลอเรียเขาก็เป็นผู้หญิง" คำพูดของพี่ชายยิ่งทำให้แวนเนสต้องงงหนักกว่าเดิม "นี่นายกำลังจะบอกอะไร?" แวนเนสถาม "ที่ชั้นจะบอกก็บอกไปหมดแล้วนี่" เจอร์รี่ตอบ "นายพูดเหมือนกับว่าชั้นกับกลอเรีย....." แวนเนสเริ่มหน้ายุ่ง "ก็....ก็บอกแล้วว่ามันเรื่องส่วนตัวของนายสองคน....." พี่ใหญ่อึกอัก "โอ้ย! ชั้นอยากจะบ้าตาย!" แวนเนสร้องออกมาก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องไป "อะไรวะ? ชั้นก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆซะหน่อย ไม่เห็นต้องโมโหเลย" เจอร์รี่พึมพำแล้วก็ได้แต่มองตามหลังน้องชายเท่านั้น
- ที่มหาวิทยาลัยของไจ่ไจ๋ - "ยังปรับตัวไม่ได้อีกหรอคะ" คำถามที่ดังขึ้นนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ที่นั่งเหม่อปล่อยความคิดไปต่างๆนานาถึงกับสะดุ้ง "อ้าว! มาแล้วหรอหลิงหลิง" เอ่ยทักแฟนสาวพร้อมกับปรับสีหน้าให้มีรอยยิ้ม "มาได้ซักพักแล้วแต่เห็นพี่นั่งเงียบๆเลยไม่อยากกวน" หลิงเอ๋อตอบแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "พี่ไจ่ไจ๋เป็นอะไรไปหรอ? ทำหน้าเหมือนกับกำลังเครียดอย่างนั้นแหละ" คำถามนั้นทำให้ไจ่ไจ๋เงียบไป "ความจริงพี่ก็กำลังมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย...." ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ "จริงสิ! พี่ไม่น่าโง่เลย! แหล่งข่าวก็อยู่ตรงนี้แล้ว!" ไจ่ไจ๋เพิ่งนึกออกว่าแฟนสาวรุ่นน้องเป็นแฟนคลับของพี่ชายตัวเองเช่นกัน "อะไรคะ?" หญิงสาวทำหน้างงๆ "พักนี้ได้ตามข่าวพี่รองของพี่บ้างมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามอย่างมีความหวัง "ค่ะ....ช่วงนี้เว็บแทบล่มเพราะข่าวนั่นแหละ" เธอตอบพร้อมกับย่นจมูกเล็กน้อย "ข่าว? ข่าวอะไรหรอหลิงหลิง?" ไจ่ไจ๋ถามซักต่อ "เอ.....พี่ไม่รู้หรอคะ? ข่าวออกจะดัง" หลิงเอ๋อมีท่าทีแปลกใจ "ไม่รู้เลย ตกลงมีข่าวอะไรหรอ?" ไจ่ไจ๋ตอบก่อนจะถามอย่างต้องการคำตอบ "ก็เรื่องที่พี่แวนเนสกอดกับผู้หญิงกลางผับน่ะค่ะ รูปชัดมากๆเลย แล้วดูยังงัยก็ไม่ใช่ภาพตัดต่อด้วย" คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋อ้าปากค้าง "มะ....ไม่จริงมั้ง....." ไจ่ไจ๋เอ่ยออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หลิงเอ๋อเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะดึงหนังสือภาพข่าวดังกล่าวออกมายื่นให้ไจ่ไจ๋ดู "เฮ้ย!! พี่รองจริงด้วย!" ร้องออกมาแล้วจ้องรูปนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ "พี่ไจ่ไจ๋บอกให้พี่แวนเนสออกมาแถลงข่าวเรื่องนี้หน่อยก็ดีนะคะ แบบนี้ความนิยมตกต่ำลงแน่" หลิงเอ๋อกล่าว ในขณะที่ไจ่ไจ๋กำลังพิจารณาภาพนั้นอย่างถ้วนถี่ "ไม่ใช่ๆๆๆๆ ไม่ใช่ตอนนี้แน่" เมื่อพบจุดสังเกตแล้วไจ่ไจ๋ก็ร้องออกมาอย่างค่อนข้างแน่ใจ "หมายความว่างัยคะ?" เธอย้อนถามแฟนหนุ่ม "รูปนี้น่าจะเป็นรูปเก่าเมื่อหลายปีก่อน เพราะเสื้อของพี่รองตัวนี้เอาไปบริจาคเมื่อเกือบห้าปีที่แล้วแล้วหละ ถึงภาพจะดูเหมือนเป็นปัจจุบันเพราะทรงผมพี่รองตัดตอนนี้มันเป็นทรงเดียวกันกับที่เคยไว้เมื่อก่อนแต่ถ้าดูที่เสื้อตัวนี้แล้วพี่ยืนยันได้แน่นอนว่ามันเป็นภาพเก่าตั้งแต่สมัยยังไม่เข้าวงการเลยด้วยซ้ำ" ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาอธิบายให้แฟนสาวฟัง "ที่แท้ก็ภาพเก่าหรอเนี่ย? แล้วทำไมจู่ๆภาพนี้ถึงได้ไปถึงมือนักข่าวจนเอามาเล่นกันแบบนี้ได้หละ?" คำถามนั้นไจ่ไจ๋เองก็ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน "พี่ก็ไม่รู้" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วพอจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดได้ทันทีว่าทำไมแวนเนสกับกลอเรียถึงได้มีปัญหากันอยู่ "แล้วตอนนี้พี่แวนเนสเป็นยังงัยบ้างคะ? เอ่อ....มีปัญหากับ....." หลิงเอ๋อเลี่ยงที่จะไม่พูดตรงๆ "ก็มีปัญหาอย่างว่าแหละ เป็นใครจะไม่ระแวงหละจริงมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย "ถ้าวันนึงพี่มีข่าวลงหนังสือพิมพ์แบบนี้บ้าง เรายังจะเชื่อใจพี่อยู่หรือเปล่า?" คำถามนั้นทำให้หญิงสาวค้อนใส่ แต่แล้วฝ่ายถูกแหย่กลับยิ้มทะเล้น "ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่ไจ่ไจ๋มีข่าวยืนกอดกับผู้หญิงชั้นคงรับได้แต่ถ้ามีข่าวว่ายืนกอดกับผู้ชายนี่ชั้นคงต้องฆ่าตัวตายแน่" คำพูดนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ยกมะเหงกขึ้นมาทันที "อย่านะ! พี่เป็นคนเริ่มเองนี่!" หญิงสาวยกมือกันไม่ให้ไจ่ไจ๋เขกหัว "พูดอะไรเป็นเล่น! ระวังเถอะซักวันพี่จะหนีไปเดินควงกับผู้ชายซะจริงๆ" ไจ่ไจ๋พูดขู่ "ก็เอาสิ ชั้นจะได้หนีไปควงกับผู้หญิงเหมือนกัน" หลิงเอ๋อเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ "ยอมแพ้แล้วครับ.....ไม่เถียงด้วยแล้ว พี่ว่าเราไปหาข้าวกินกันดีกว่าเดี๋ยวต้องเข้าเรียกช่วงบ่ายกันอีก" ไจ่ไจ๋พูดตัดบท "ดีค่ะ แต่พี่เลี้ยงชั้นนะ" หลิงเอ๋อว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาเกาะแขนแฟนหนุ่ม ไจ่ไจ๋ยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าก่อนทั้งคู่จะพากันเดินไปที่โรงอาหาร
- ที่บ้าน - "พี่ใหญ่! ผมกลับมาแล้ว!" ไจ่ไจ๋ร้องตะโกนเรียกพี่ชายพร้อมกับวิ่งตื่อเข้าบ้าน "ทำไมต้องเสียงดังโวยวายแบบนี้ด้วย?" เจอร์รี่ที่นั่งมองดูจอคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊คเงยหน้าขึ้นมาตำหนิน้องชายคนเล็ก "ผมรู้แล้วว่าทำไมพี่รองกับพี่กลอเรียถึงทะเลาะกัน" คำพูดของน้องทำให้เจอร์รี่ขมวดคิ้ว "เพราะข่าวนี่งัย!" ไจ่ไจ๋ชูหนังสือพิมพ์บันเทิงโบกไปมา เจอร์รี่เห็นก็รีบคว้ามาอ่าน "นี่มันน่าจะเป็นรูปเก่านะ" เมื่อพิจารณาแล้วพี่ใหญ่ก็ให้ความเห็นซึ่งทำเอาไจ่ไจ็ดีดนิ้วเปราะ "ใช่มั๊ยหละ! คิดเหมือนผมเปี๊ยบเลย!" ไจ่ไจ๋ว่าเมื่อเห็นพี่ชายคิดเหมือนตัวเอง "ผมรู้มาจากหลิงหลิงน่ะ เออ.....แล้วพี่รองหละเป็นงัย?" ถามถึงแวนเนสอย่างนึกห่วง "นอนร้องไห้จนตาบวม ให้กินก็ไม่ยอมกิน" เจอร์รี่ว่าแล้วก็ถอนหายใจยาว "ช่วงนี้พี่เลยปล่อยไปก่อนไม่อยากบังคับอะไรมากมาย" ไจ่ไจ๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วย "ว่าแต่เราจะทำยังงัยกันดี? ไปอธิบายให้พี่กลอเรียเข้าใจดีมั๊ย?" ไจ่ไจ๋เสนอ แต่พี่ใหญ่กลับส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย "พี่ว่าเราไม่ต้องทำอะไรหรอก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่รองกับพี่กลอเรียเขาสองคนที่ต้องเคลียร์กันเอง หากเราสองคนเข้าไปยุ่งพี่กลอเรียเขาจะนึกว่าเราเข้าข้างพี่น้องตัวเองน่ะสิ แบบนั้นเรื่องอาจจะยุ่งมากกว่านี้ก็ได้" พี่ใหญ่อธิบายให้น้องฟังยืดยาว "มันก็จริง....แต่ว่าพี่รองกับพี่กลอเรียไม่ยอมเจอหน้ากันแบบนี้มันจะปรับความเข้าใจกันได้หรอ?" น้องเล็กไม่วายเป็นห่วงอีก "พี่เชื่อว่ามันต้องมีทางอยู่แล้ว เพราะวันนั้นพี่กลอเรียบอกพี่ว่าเธอยังไว้ใจเจ้าพี่รองอยู่" คำพูดของพี่ใหญ่ทำให้น้องเล็กเงียบไป "ถ้าอย่างนั้นดูเหมือนคนที่เริ่มก่อนน่าจะเป็นพี่รองน่ะสิ" พี่ใหญ่สบตาน้องเล็กก่อนจะยักไหล่ "ไม่รู้สิ พี่ว่าเราอย่ามัวมานั่งห่วงคนอื่นเลย มีอะไรทำก็ทำไปเถอะ" ว่าแล้วก็ตัดบทเพราะไม่อยากให้น้องชายต้องมานั่งห่วงโน้นห่วงนี่อีก "งั้นผมไปหาพี่รองดีกว่า" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับทำท่าจะเดินจากไปแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน "ผมรับเอง" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เดินไปรับโทรศัพท์ "สวัสดีครับ" เอ่ยทักทายไปตามสายก่อนจะยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้าม "พี่กลางเองหรอ? โทรมาได้เวลาพอดี ผมกับพี่ใหญ่กำลังมึนเรื่องพี่รองอยู่เลย" ไจ่ไจ๋รายงานพี่ชายทันที เจอร์รี่เมื่อรู้ว่าเป็นใครโทรมาก็ลุกเปลี่ยนที่ไปนั่งใกล้ๆน้องเล็ก "ทำไมวะ? หรือว่าเรื่องข่าวนั่น?" เสียงเคนถามกลับมาทำให้ไจ่ไจ๋ทำตาโต "พี่กลางรู้เรื่องข่าวนั่นด้วยหรอ? รู้ได้ยังงัยอ่ะ? ผมกับพี่ใหญ่ยังเพิ่งจะรู้วันนี้เอง" ไจ่ไจ๋ภามกลับไปชุดใหญ่ "พวกนายนี่ไม่ได้เรื่องเลยว่ะ ขนาดพี่อยู่ห่างใกล้ขนาดนี้ยังรู้เรื่องมากกว่าพวกนายอีก นี่ตกลงนายสองคนกลับบ้านหรือย้ายไปอยู่หลังเขากันแน่วะ?" คำประชดของเคนทำให้น้องเล็กย่นจมูก "อย่าแขวะน่าพี่กลาง ตกลงพี่กลางรู้เรื่องได้ยังงัย?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายต่อ "พี่ดูทีวี แต่พี่สังเกตดูแล้วรูปนั้นมันไม่ใช่รูปปัจจุบันนี่หว่า ทำไมจู่ๆถึงเอามาลงประโคมข่าวกันขนาดนี้" คำพูดของเคนทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออก "พี่กลางก็ดูรู้ใช่หรือเปล่า ไม่เสียแรงที่พวกเราสี่คนเป็นพี่น้องกันนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋ว่า "พี่ขอคุยมั่ง" พี่ใหญ่สะกิดน้องพร้อมกับร้องขอ "อย่าเพิ่งสิพี่ใหญ่ ผมคุยอยู่ไม่เห็นหรอ" ไจ่ไจ๋ทำหน้านิ่วใส่พี่ชาย "ก็ขอคุยมั่งสิ" เจอร์รี่ทำหน้าละห้อย "พี่กลางครับ มีเด็กงอแงอยากคุย.....โอ้ย!" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนเจอร์รี่เอามือเขกหัวดังโป๊ก "ทะลึ่งใหญ่แล้ว! ลามปามจริงๆ!" เจอร์รี่แหวใส่แล้วสบโอกาสตอนที่ไจ่ไจ๋ใช้มือลูบหัวตัวเองถึงโทรศัพท์ออกมาจากมือน้องชาย "เสี้ยวเทียน พี่ใหญ่เอง" ก่อนจะพูดกรอกลงไปที่หูโทรศัพท์ "ชั้นรู้แล้ว ได้ยินเสียงนายง๊องแง๊งตั้งแต่แรกแล้วหละ" เสียงเคนแซวพี่ชายกลับมา "เดี๋ยวจะโดน! กล้าว่าชั้นหรอ? ครั้งที่แล้วยังไม่ได้คิดบัญชีด้วยเลยนะ!" พี่ใหญ่เอ็ดน้องกลับไป "นี่ถ้านายจะด่าชั้นจะวางสายจริงๆด้วย" เสียงน้องชายขู่กลับมาทำให้เจอร์รี่ได้แต่อ้าปากค้าง ในขณะที่ไจ่ไจ๋เอามือปิดปากหัวเราะขำๆ "ชั้นหยอดเหรีญโทรมาหาไม่ได้จะมาฟังนายเทศนานะโว้ย ตกลงแวนเนสมันเป็นยังงัยบ้าง?" เคนแขวะพี่ชายกลับมาอีกแต่ประโยคหลังก็พูดเข้าเรื่องอย่างแนบเนียนเพราะรู้ว่าหากพูดจบเพียงประโยคแรกคงไม่พ้นโดนพี่ชายเทศนาเข้าให้จริงๆอีก "จะเป็นยังงัยหละ? ข้าวปลาไม่ยอมกินเก็บตัวอยู่ในห้องทั้งวัน" เจอร์รี่ตอบ "แล้วทำไมนายไม่บังคับให้มันกินหละวะ? เป็นอย่างนี้แล้วเดี๋ยวก็ไม่สบาย เดือดร้อนถึงชั้นจะต้องหาเรื่องลากลับบ้านอีก" เสียงเคนบ่นมาตามสาย "ชั้นทั้งปลอบทั้งขู่แต่มันก็ไม่ยอมกินนี่หว่า ชั้นเองก็ไม่รู้จะทำยังงัย ไม่อยากตีมันกลัวมันจะเตลิดไปไหนต่อไหนอีก" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงแขวะกัดตามมาอีก "คุณพี่ชายที่แสนดี วันหลังช่วยคิดแบบนั้นกับน้องคนนี้หน่อยนะ ทีน้องคนอื่นกลัวว่าตีแล้วเตลิดแต่กับชั้นคุณพี่ชายกลับหวดไม่นับเลย เดี๋ยวซักวันชั้นจะเตลิดออกนอกประเทศให้นายหาไม่เจอเลยคอยดู" คำพูดประชดของน้องทำให้พี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหน้า "น้อยๆหน่อยเถอะไอ้ตัวดี! พี่คนนี้น่ะรู้หรอกว่าสมควรจะลงโทษน้องคนไหนในกรณีอะไรบ้าง" พี่ใหญ่ว่าแล้วบ่นน้องต่อ "ไม่พูดแขวะกันซักวันจะได้มั๊ย? ชั้นเบื่อที่จะเถียงกับนายจริงๆ" คำพูดของพี่ใหญ่ทำให้น้องเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆได้แต่อมยิ้ม เขารู้ว่าพี่ชายคงโดนเคนว่ากระทบเข้าให้ "ชั้นก็เบื่อเหมือนกันแหละน่า แล้วอันที่จริงชั้นโทรมาคุยกับไจ่ไจ๋ไม่ใช่กับนาย" ได้ยินน้องว่ามาเช่นนี้พี่ใหญ่ก็เม้มปาก "โอเค....งั้นก็คุยกับน้องต่อเถอะ" พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้ไจ่ไจ๋แล้วลุกเดินจากไปทันที "เฮ้ย....." ไจ่ไจ๋ร้องครางเบาๆแล้วมองตามพี่ชายอย่างงงๆ "ไจ่ไจ๋ พี่ใหญ่โกรธหรอวะ?" เมื่อได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้ามไจ่ไจ๋ก็ยกโทรศัพท์มาแนบหูอีกครั้ง "ไม่รู้อ่ะ พี่กลางไปแหย่อะไรพี่ใหญ่อีกเนี่ย? งอนไปไหนแล้วก็ไม่รู้" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชาย "อะไรวะ? ทำเป็นใจน้อยไปได้ พูดเล่นแค่นี้เอง" เคนบ่นอุบ "ช่างมันแล้วกัน ว่าแต่นายได้ไปดูไอ้พี่รองมันบ้างหรือเปล่า?" ถามเอากับน้องอีก "กะว่าก่อนจะขึ้นนอนจะเข้าไปหาพี่รองซักหน่อยเหมือนกัน แต่เห็นพี่ใหญ่บอกว่าพี่รองเอาแต่เงียบพูดอะไรด้วยก็ไม่ค่อยจะยอมตอบ สงสัยคงเสียใจมาก" ไจ่ไจ๋พูดอย่างเห็นใจพี่ชาย "อืม.....นายก็ดูๆเขาหน่อยแล้วกัน แล้วพ่อแม่ติดต่อมาบ้างมั๊ย?" ถามถึงบุพการีบ้าง "ก็มีโทรมาแต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้เรื่องนะ พี่ใหญ่ก็ไม่อยากให้บอกเพราะไม่อยากให้พ่อแม่กลุ้มใจ" ไจ่ไจ๋รายงาน "แต่พี่ว่าบางทีถ้าพ่อแม่รู้สถานการณ์อาจจะดีขึ้นก็ได้นะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้พี่จัดการเอง นายแค่คอยดูไม่ให้ไอ้พี่รองมันออกไปเดินเพ่นพ่านข้างนอกแล้วกัน" เคนสั่งกำชับน้องชาย "ได้ครับ พี่กลางไม่ต้องห่วงผมกับพี่ใหญ่ดูแลพี่รองได้อยู่แล้ว" ไจ่ไจ๋รับคำอย่างหนักแน่น "ดีมาก งั้นเดี๋ยวพี่วางสายก่อนนะ แล้วจะโทรไปใหม่" จบประโยคนั้นสายก็ถูกตัดไป ไจ่ไจ๋จึงวางโทรศัพท์ลงที่แป้นแล้วทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเดินไปชั้นบนของบ้าน
Create Date : 20 กันยายน 2558 |
Last Update : 20 กันยายน 2558 22:15:55 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1389 Pageviews. |
|
|
พอดีลงตอนนี้ไปแล้ว แต่เกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อย
ไปกดลบมันซะอย่างงั้น ทำให้คอมเม้นต์หายไปด้วย
ชดเชยด้วยการแก้ไขแล้วลงตอนใหม่เพิ่มให้นะคะ
ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ