ถนนสายนี้มีตะพาบ 151 : แกล้ง
ถนนสายนี้มีตะพาบ 151 แกล้ง โจทย์โดย : คุณเป็ดสวรรค์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีราชสีห์ตัวหนึ่งแก่ชราจนไม่สามารถออกล่าสัตว์มากินเป็นอาหารได้ มันจึงคิดหาอุบายที่จะให้สัตว์ตัวอื่นๆ เดินทางเข้ามาให้มันกินถึงที่อย่างง่ายดาย ราชสีห์เฒ่าเจ้าเล่ห์ป่าวประกาศไปทั่วป่าว่า มันได้เรียนรู้วิชาการรักษาโรค ซึ่งสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ม้าตัวหนึ่งเดินผ่านมา มันแกล้งทำเป็นเจ็บขา และขอให้ราชสีห์เฒ่าช่วยรักษา เพราะล่วงรู้ในอุบายอันชั่วร้ายนี้เป็นอย่างดี ม้าจึงหันหลังให้กับราชสีห์เพื่อตรวจอาการ และในขณะที่ราชสีห์เฒ่าแกล้งทำเป็นตรวจโรคอยู่นั้น ม้าก็ดีดราชสีห์เฒ่าด้วยขาหลังทั้งสองข้างอย่างเต็มแรง ทำให้ราชสีห์เฒ่ากระเด็นหงายหลังล้มไปทันที เมื่อเห็นดังนี้ ม้าก็หัวเราะอย่างสาสมใจในความเจ้าเล่ห์ของราชสีห์เฒ่า แล้วเดินจากไป
หนูรู้ไหมลูก ว่านิทานเรื่องนี้สอนว่ายังไง คุณพ่อนักเล่านิทานถามลูกสาวตัวน้อยที่นอนหนุนแขนฟังเพลิน หนูน้อยส่ายหน้า แล้วชี้ที่ภาพในหนังสือนิทานอิสปเล่มโปรด หนูตลกราชสีห์เฒ่าจับกบ หงายหลังผึ่งเลย เด็กน้อยหัวเราะคิกคักเอานิ้วจิ้มที่ท่าทางตลกของราชสีห์เฒ่าในภาพ เรื่องนี้ไม่สอนอะไรหนูบ้างเลยหรือคะ สอนค่ะ สอนให้รู้ว่าอย่าแกล้งคนอื่น เวลาที่โดนแกล้งคืนมันไม่สนุก แถมยังเจ็บตัวด้วย หนูน้อยทำหน้าเบ้ เมื่อนึกถึงภาพราชสีห์ก้นจ้ำเบ้าในจินตนาการ คุณพ่อนักเล่านิทานพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเฉลย นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า การคิดร้ายต่อผู้อื่นย่อมต้องได้รับผลกรรมตอบสนองไม่วันใดก็วันหนึ่ง งั้นหนูจะไม่คิดร้ายกับใคร ไม่แกล้งใครถ้าไม่จำเป็น กรรมจะได้ไม่ตามสนอง ให้หนูก้นจ้ำเบ้าแบบราชสีห์เฒ่าดีไหมคะ คุณพ่อ เด็กน้อยทำเสียงจริงจัง พร้อมพูดต่อ คุณพ่อก็ห้ามแกล้งให้หนูดูหนังสี่จอแบบวันก่อนอีกนะคะ หนูจะโกรธคุณพ่อจริงๆ คุณพ่อนักเล่านิทานหัวเราะในลำคอ นึกขันที่เด็กน้อยยังไม่ลืม แถมตอนนี้เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ยังรู้ทันพูดดักคอเสียแล้ว แล้วอย่างนี้ต้องเล่านิทานอีกกี่เรื่องถึงจะได้นอน งั้นคุณพ่อเล่าอีกเรื่องเดียวพอนะคะ แล้วหนูต้องนอนทันที ไม่อย่างนั้นคุณพ่อเจ็บคอเสียงแหบ ไม่มีเสียงเล่านิทานให้หนูฟังวันพรุ่งนี้แน่ๆ คุณพ่อนักเล่านิทานแกล้งกระแอมไอเบาๆ เด็กน้อยตาโต นึกว่าคุณพ่อป่วยจริงอย่างที่แกล้งรีบพยักหน้ารับคำ คุณพ่อนักเล่านิทานยิ้มกว้างพอใจ เริ่มเล่าเรื่องใหม่
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาจิ้งจอกกับอีกาอยู่ร่วมป่ากันหมาจิ้งจอกเห็นอีกาคาบชิ้นเนื้อเกาะอยู่บนกิ่งไม้ มันแหงนมองก้อนเนื้อด้วยความหิวโหย จึงคิดหาอุบายแกล้งให้อีกาคายเนื้อก้อนนั้นออกมาจากปากให้ได้ จึงเอ่ยชมอีกาขึ้นมาว่า โอ้...เจ้าช่างเป็นนกที่สวยงามอะไรเช่นนี้! ขนของเจ้านั้นก็มันระยับราวกับนิลเนื้อดีที่หาได้ยาก ข้าไม่เคยพบเห็นสิ่งที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต เสียงร้องของท่านช่างหวานไพเราะมากกว่าเสียงอื่นใดทั้งหมดในโลก! เมื่ออีกาได้ยินคำพูดของหมาจิ้งจอก ก็หลงไปกับคำเยินยอนั้น มันกระโดดเกาะกิ่งไม้ที่ต่ำลงมาอีก เพื่อจะให้หมาจิ้งจอกได้ฟังเสียงของมัน พออ้าปากจะส่งเสียงร้องออกมา ก้อนเนื้อที่คาบไว้ก็หล่นตกลงไปในปากหมาจิ้งจอกพอดี
จบแล้วหรือคะคุณพ่อ นิทานอีสปสั๊นสั้น หนูยังไม่ทันง่วงเลย เด็กน้อยอิดออดทั้งที่ปากหาวหวอด คุณพ่อนักเล่านิทานยิ้มแล้วปิดหนังสือ จบแล้วสิคะ นิทานอีสปเป็นนิทานสั้นๆ แต่แฝงไปด้วยแง่คิดที่มีประโยชน์ หนูรู้ไหมลูก ว่านิทานเรื่องนี้สอนว่าอะไร คุณพ่อนักเล่านิทานย้อนถาม นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของที่อยู่ในปากเราก็ต้องรีบกิน อย่าให้ใครแกล้งออกอุบายให้เราคาย แล้วก็อดกินค่ะ ทำไมคิดอย่างนั้นละลูก คุณพ่อนักเล่านิทานทำหน้างง เด็กน้อยหัวเราะคิกคักตอบ ก็ก้อนเนื้อตกใส่ปากหมาจิ้งจอก แปลว่าหมาจิ้งจอกก็อิ่มตัวเดียว ส่วนอีกาก็อดกินเพราะมัวแต่ร้องเพลงนะสิคะ หนูไม่อยากหิว เพราะอย่างนั้นหนูก็ต้องอิ่มไว้ก่อน แล้วหนูไม่คิดว่า ควรจะแบ่งปันให้หมาจิ้งจอกคนละครึ่งหรือคะ คุณพ่อนักเล่านิทานตั้งคำถามอีก เด็กน้อยเอานิ้วชี้กดขมับสองข้างแบบอิคคิวซัง แล้วตอบคุณพ่อ หนูก็อยากแบ่งปัน ถ้าหมาจิ้งจอกไม่ออกอุบายเจ้าเล่ห์ก่อน หนูก็จะแบ่งค่ะ อืม มันก็ใช่ แต่พ่อจะบอกอีกนัยนึง นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เกิดเป็นคนอย่าหลงใหลไปกับคำเยินยอที่ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะคำเยินยอที่ไม่ได้มาอย่างจริงใจ แต่เป็นการเสแสร้งแกล้งทำ หนูเข้าใจไหมคะ หนูเข้าใจค่ะ แต่ตอนนี้หนูไม่ง่วงนอนแล้ว หนูหิวมากเพราะคุณพ่อเล่าแต่เรื่องเนื้อๆ ทำไมก็ไม่รู้ แต่คุณพ่อง่วงแล้วนี่คะเราไปดูหนังสี่จอกันดีกว่า เด็กน้อยฟังแล้วทำหน้างอ อมลมจนแก้มป่อง คุณพ่อนักเล่านิทานก็เลยแกล้งหาวหลายต่อหลายครั้งทำเป็นง่วงนอนตาจะปิด เด็กน้อยถึงกับออกอาการผิดหวังก่อนจะต่อรอง หนูนอนก็ได้ แต่คราวหน้าคุณพ่อต้องเล่านิทานของบีเดิล ให้หนูสามเรื่อง ไม่งั้นคืนนี้หนูจะไม่นอน แน่ะ! มีต่อรอง พ่อว่านิทานอีสปก็พอแล้วมั้ง แต่ละเรื่องมีคติสอนใจแล้วมันก็สั้นดีนะลูก คุณพ่อนักเล่านิทานต่อรอง แต่เด็กน้อยสะบัดหน้าพรืด ไม่เอา หนูจะฟังพ่อมดกับหม้อกระโดดได้ หัวใจขึ้นขนของผู้วิเศษ และนิทานสามพี่น้อง ถ้าคุณพ่อไม่ตกลงหนูก็จะไม่นอน คุณพ่อได้แต่ถอนหายใจทำหน้าไม่ถูก จะยิ้มหรือจะร้องไห้ดี ยามนี้นึกถึงหนังสี่จอใจจะขาด ถ้าหากวันไหนต้องเล่านิทานบีเดิล มีหวังราตรีคงอีกยาวไกล เพราะเทพนิยายอมตะจากโลกพ่อมดอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ สุดแสนจะยาวแสนยาว แม้แต่ตัวเขาเองยังจำไม่ได้ เด็กน้อยอมยิ้มแก้มตุ่ย มองหน้าคุณพ่อ แล้วทำตาปริบๆ หัวเราะคิกคักนึกชอบใจ ที่คราวนี้ได้แกล้งคุณพ่อแบบที่คุณพ่อแกล้งในวันก่อนบ้าง คืนนี้เด็กน้อยคงหลับสบายอย่างมีความสุข...
ตะพาบรอบนี้มากับนิทานอีสป และคุณพ่อนักเล่านิทานค่ะ ต่อยอดจากนิทานหลอกเด็ก ตะพาบ 144 คราวก่อนคุณพ่อแกล้งลูกพาไปดูหนังสี่จอ คราวนี้ถึงทีคุณลูกแกล้งคุณพ่อให้เล่านิทานบีเดิลบ้าง คิคิ
ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆจากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ ขอบคุณภาพประกอบและเพลงเพราะๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ ^____^
Create Date : 22 มีนาคม 2559 |
Last Update : 27 มีนาคม 2559 18:47:31 น. |
|
38 comments
|
Counter : 1589 Pageviews. |
|
|
วันนี้ปัดเกลืออออกไปแระค่ะ
เลยได้ฤกษ์มาเยี่ยมตะพาบที่บล๊อกคุณนุ่นด้วย อิอิ