พิมพ์ครั้งที่ 1 / สนพ.ณ บ้านวรรณกรรม 

จำนวน 2 เล่ม 690 หน้า / 420.-

โปรยปกหน้าเล่ม 1

อย่าปฏิเสธภารกิจ 'เมฆ ซ่อน ตะวัน'

เพราะเมื่อคุณเป็นเมฆ คุณก็มิอาจเป็นเช่นอื่นได้อีกแล้ว!

โปรยปกหน้าเล่ม 2

ถึงไม่อยากเป็น 'เงา' คุณก็ไม่มีวันหลบพ้น

เมื่อคุณเป็นคนเดียวในขณะนี้ ที่ซ่อนตะวันไว้ในเงาเมฆ!

โปรยปกหลังเล่ม1

“...เมื่อเทพมังกรตนหนึ่งตื่นขึ้นมา มังกรอีกตนก็ต้องดับสิ้นไป 

เป็นเช่นดั่งตัวแทนแห่งเทพเจ้า มีเพียงหนึ่งจะไม่มีสองอย่างเด็ดขาด”

หนุ่มใหญ่ผู้กุมอำนาจธุรกิจมืด และวงการนักเลงยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี 

คิดถึงความสุขสมที่ตัวเองกำลังจะได้รับ 

ถึงแม้ ‘นรี’ ยังมิได้รักตน แต่เชื่อว่าเมื่อตบแต่งเป็นภรรยาของเขาอีกคนแล้ว 

หญิงงามผู้นี้ย่อมต้องรักอย่างแน่นอน

อิสตรีเมื่อใดเป็นของบุรุษเสียแล้ว จะคิดเป็นอื่นได้อย่างไร 

แม้มีสิ่งหนึ่งที่เขาวิตกนั่นคือคำทักท้วงของ...ซินแสกวง

‘อย่าแตะต้องนาง...นรีเป็นดวงจันทราที่ไม่มีใครสามารถครอบครองได้ 

และอย่าต่อกรกับภาคีที่มีดวงเพชฌฆาต สามารถฆ่าศัตรูโดยไม่ต้องลงมือ!’

“จะกลัวอะไร เมื่อบัดนี้ แม้แต่ดวงจันทราข้าก็กำลังพิชิต 

ต่อให้เพชฌฆาตที่น่ากลัวขนาดไหน มันก็ไม่มีทางทำอะไรข้าได้”

เสียงทรงอำนาจของผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมาคมเจริญบูรพา

หัวเราะก้องด้วยความรู้สึกสาสะใจ

ที่ตนสามารถเป็นฝ่ายกำชัยเหนือ ‘ศัตรู’ คนสำคัญ 

และกำลังจะครอบครอง ‘สาวงาม’ ที่หมายปองมาตลอดนั่นเอง

โปรยปกหลังเล่ม 2

"คำพูดของนักเลงที่แท้จริง มันยิ่งกว่าคำสัญญาใดๆ 

อันคนเราล้วนแตกต่าง แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ต่างกันก็คือ การทำดีให้แก่กัน"

แม้มีคำกล่าวว่า 

"ดวงชะตาของเขาและเธอนั้น 

เปรียบดั่งดวงตะวันที่มิอาจอยู่ร่วมกับดวงจันทราภายใต้ฟ้าเดียวกัน"

ก็ใครเล่า เคยเห็นมนุษย์ผู้ใดสามารถครอบครองดวงจันทราได้บ้างไหม

บนคันธนูที่กำลังน้าวลูกศรให้พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าอันไม่มีที่สิ้นสุด

คือความนัยแห่งรักที่มอบให้กันและกันตลอดไป

"ถึงจะเข้าใจว่ามันเป็นเพียง... ชะตากรรม เท่านั้น

แต่เฮียอยู่แบบนี้ไม่ได้ เฮียจะต้องทำให้ทุกคนที่เคยดูแคลน 

ต้องได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ มันเป็นคนที่ใครจะมาดูถูกหมิ่นแคลนน้ำใจไม่ได้"

จริงหรือ... คนหนุ่มที่มักใช้แค่ความรู้สึกตัดสินความเป็นหรือความตาย

เพียงเพื่อเรื่องของควาามรักนั้น ช่างเป็นเรื่องโง่เขลาสิ้นดี!"

เรื่องย่อ 

           พ.ศ. 2475 ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง หาญ สุริยแสง และชาญลูกชายวัยเก้าขวบถูกตามไล่ล่า หาญถูกลอบยิงและรถประสบอุบัติเหตุ ทำให้ใครๆ เข้าใจว่าสองพ่อลูกเสียชีวิต แต่ชาญรอดมาได้และฟื้นขึ้นมาจากอุบัติเหตุ พร้อมความทรงจำในอดีตที่ขาดหายเหลือเพียงสมองที่เหมือนเด็กสองขวบ และสร้อยคอรูปธนูง้างคันศรที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิต 

           ชาญลอยน้ำมาไกลและได้รับการช่วยเหลือจาก อาซา ชายจีนตัวคนเดียวไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง อาซารับชาญเป็นลูกบุญธรรมและตั้งชื่อให้ใหม่ว่าธนู หรือ อาฮก

           อาฮกเติบโตมาแบบเด็กพัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ ทำให้ไม่ได้เรียนหนังสือ อาซาไปขอความช่วยเหลือจากสองสามีภรรยาใจดีเวลาเงินขัดสนทำให้อาฮกรู้จักกับลูกๆ ทั้งสามของทั้งคู่

           นรี เด็กหญิงน้อยอายุสามขวบและเด็กกว่าเขาหกปี นรีมีพี่สาวและพี่ชายอย่างละหนึ่ง นราพี่ชายนิสัยไม่ดีชอบแกล้งอาฮก ส่วนดวงจันทร์พี่สาวคนโตเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ เพราะความงามหาตัวจับยาก ดวงจันทร์แอบชอบอาฮกอยู่เงียบๆ 

           อาฮกกับนรีเป็นเพื่อนกันจนโต และอาฮกมอบสร้อยธนูง้างคันศรให้นรีเพื่อเป็นสิ่งคุ้มภัยและเป็นเหมือนสิ่งนำโชคเวลาที่เธอต้องการสิ่งใด อาซาโกรธมากเพราะสร้อยคือของติดตัวอาฮกมา และอาจจะทำให้รู้ว่าเขาคือใคร 

           เพราะสมองเหมือนเด็ก ทำให้อาฮกมักโดนรังแกและนรีเด็กน้อยต้องมาคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ จนกลายเป็นความผูกพัน อาซาแอบสอนวิชายูโดและวิชาดาบให้ธนูเพื่อให้เขาป้องกันตัวเองได้ในอนาคต แต่กำชับหนักหนาไม่ให้ใช้วิชาต่อสู้กับใครเพราะจะนำภัยมาถึงตัว 

            แต่วันหนึ่งเกิดเรื่อง อาฮกทนไม่ไหวจัดการอันธพาลจนอยู่หมัด แต่โดนพี่ชายนรีทำร้ายจนสลบฟื้นมาความจำกลับเป็นคนปกติไม่มีอาการสมองช้าเหมือนก่อน

            ช่วงนั้นเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา ทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งเห็นวิชาของอาฮกเข้า จึงกลับไปพร้อมนำกำลังทหารมาส่วนหนึ่ง อาฮกสู้จนทหารเหล่านั้นแพ้ไป แต่ทำให้ความลับของอาซาว่าเป็นทหารญี่ปุ่นฝีมือดีที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัยสมญานาม 'เพชฌฆาตปีศาจเทงงุ' ถูกเปิดเผย อาซาจำต้องฮาราคีรีตัวเองเพื่อล้างความผิด

            อาฮกเสียใจหนักจึงจากนรีที่เริ่มโตเป็นสาวและรักชอบพอกันไปเป็นทหารเกณฑ์ อาฮกหรือชื่อที่คนรู้จักว่าธนูได้พบกับ อดุลย์ อริพ่าย ที่เป็นนายทหารยศสูงกว่า และเป็นเจ้านายของเขา ธนูช่วยอดุลย์ไว้ในสงครามและกลายเป็นเพื่อนรักกัน และธนูได้พบกับอติตาน้องสาวของอดุลย์ อติตาหลงรักธนูตั้งแต่แรกเห็นแต่ธนูมองเธอเป็นน้องสาว 

            หลังปลดประจำการอดุลย์เปิดเผยว่าเขาเป็นหนึ่งในคนของ 'องค์กรเงา' องค์กรลับที่มีภารกิจใหญ่และถามธนูตรงๆ ว่าอยากเข้าร่วมองค์กรเงาไหมธนูลังเลแต่ก็ตกลง

            ธนูถูกส่งไปเรียนภาษาต่างประเทศกับ มาเรีย หยาง สาวลูกครึ่งสิงคโปร์ มาเรียเป็นแม่ม่ายลูกติด ที่หลงรักธนูตั้งแต่แรกเห็น ธนูได้รับมอบหมายให้ไปประจำที่สิงคโปร์และใช้เงินทุนขององค์กรเงาสยายธุรกิจให้เติบโตและตกแต่งประวัติใหม่เป็น นายภาคี อิสรชน หรือวิลเลี่ยม หวาง และใช้ชีวิตที่สิงคโปร์กับมาเรีย เยี่ยงสามีภรรยาโดยมีลูกชายตัวน้อยของมาเรียชื่อ ไมเคิล ที่ธนูรักเหมือนลูก และไมเคิลก็รักและเทิดทูนธนูมาก

            ในขณะที่ธนูหรือภาคีเริ่มสยายปีกธุรกิจ นรีกลับต้องตามพี่สาวที่แต่งงานเข้ามาอยู่กับสมาคมเจริญบูรพาของสมเจตน์จอมวายร้ายมากอิทธิพลของชลบุรี สมเจตน์ทำธุรกิจใหญ่บังหน้า แต่เบื้องหลังโหดร้ายและทำธุรกิจผิดกฏหมาย

            สมเจตน์ประทับใจในความฉลาดเฉลียวและความงามของนรีมาก เขาหมายตานรีมานานทั้งที่นรีเด็กกว่ามาก ทั้งที่ได้รับการทักท้วงจากซินแสกวง   ว่านรีดวงแข็งและไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะแตะต้องได้ แต่สมเจตน์ก็ไม่ฟังยังคงอยากได้เธอมาเป็นภรรยาอีกคน

            ธนูกลับมาเมืองไทยในคราบของนักธุรกิจไฟแรงผู้ร่ำรวยที่สุดแห่งยุค เพื่อสร้างธุรกิจ 'เดอะชาโดว์' แต่จริงๆ แล้วเขาต้องกลับมาเพื่อรับมอบภารกิจ ‘เมฆซ่อนตะวัน’ จากจอมพลเงา และเข้าเป็นคนขององค์กรเงาโดยสมบูรณ์

            ในที่สุดธนูก็ได้พบกับนรี แต่ทั้งสองกลายเป็นคู่คนละขั้ว เพราะสถานะที่ต่างฝ่ายกลับต้องอยู่ตรงข้ามกัน และเป็นศัตรูกันอย่างเปิดเผย ภาคีปิดบังตัวตนไม่ให้ใครรู้แม้แต่นรี และทุกคนก็ได้รู้จักเขาในชื่อ ภาคี อิสระชน

หลังอ่าน

            เรื่องนี้ติดตามมานานตั้งแต่อ่านร่างแรกในพันทิปเลยค่ะชอบมากกกกกก เป็นแนวชีวิต บู๊ แฝงปรัชญา ย้อนยุคเปิดเรื่องเริ่มแรกตั้งแต่พ.ศ.2475 สมัยคณะราษฏร์ เปิดตัวช่วงรุ่นพ่ออีกที ขณะที่ตอนนั้นพระเอกอายุเก้าขวบ นางเอกสามขวบ 

            เรื่องดำเนินเรื่อยมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผ่านร้อนผ่านหนาว ทุกข์สุข และค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ หลังจากธนูรับภารกิจเมฆซ่อนตะวันแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ออกปากกัดตีนถีบสู้ชีวิตเสื่อผืนหมอนใบ แต่ก็มีกลิ่นอายปะปน จะเน้นไปทางชิงไหวพริบกันตลอดเรื่อง

            เพราะแกนหลักของเรื่องเกี่ยวกับองค์กรลับ สมาคมจีน และแกงค์ข้ามชาติที่ต่างแย่งกันเป็นใหญ่ ต่อหน้าจูบปากลับหลังแทงไม่ยั้ง ตัวละครในเรื่องแทบไว้ใจไม่ได้เลยสักคน เราคนอ่านก็แบบว่าทำไมเป็นงี้ทำไมเป็นงั้น มีหักมุมตลอด บางฉากคาดไม่ถึงและกดดันแทนตัวละครทุกตัว โดยเฉพาะพระเอก เอาใจช่วยจนเหนื่อย แต่ธนูก็ได้ใจสุดๆ

            ภารกิจเมฆซ่อนตะวันที่พระเอกได้รับมอบหมายเป็นคำสั่งจากองค์กรเงา องค์กรลับที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและมากไปด้วยอันตราย นับตั้งแต่ปูทางให้พระเอกไปชุบตัวและกลับมาเพื่อภารกิจไม่ใช่แค่ภารกิจเดียว เขายังต้องรับภาระใหญ่หลวงและหนักหนามากกว่านั้นคือเป็นผู้นำองค์กรเงาในอนาคต ตัวละครในเรื่องมีเยอะแยะมากมายแต่ที่หลักๆ ยกมาเช่น

            ชาญ/อาฮก/ธนู/ภาคี เป็นพระเอก 4 เวอร์ชั่น แบบวันแมนโชว์สุดๆ นิสัยใจคอแบบพระเอกมาก แสนดี ใจนักเลง ฉลาดเป็นกรดสู้เก่งมาก ตายยากสุดๆ

            นรี สาวสวยมาก ฉลาดหลักแหลม ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงทุกชนิด ใครมาไม้ไหนนรีรับได้หมด เป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แต่นรีมีหัวใจธนูคนเดียว เป็นนางเอกที่สตรองสุดๆ อีกคน

            สมเจตน์เสือร้ายแห่งสมาคมเจริญบูรพา ทำทุกอย่างเพื่อความร่ำรวยและเป็นใหญ่ สมเจตน์หมายปองนรีน้องสาวของภรรยามาตั้งแต่ต้น กะรวบหัวรวบหางจนทำร้ายทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตัวละครนี้เป็นสีดำจัดๆ

            อติตาสาวสวยเรียบร้อยน้องสาวเพื่อนรักของธนู อติตาหลงรักธนูแต่รู้ตัวเสมอว่าไม่มีหวังเพราะธนูไม่มีใจให้ บทของเธอเรียบที่สุดในเรื่อง แต่อติตามีบทบาทมากในภาคสองจนคาดไม่ถึง

            นฤมลมือขวาของสมเจตน์และหลงรักสมเจตน์หัวปักหัวปำ เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง ยั่วยวน เซ็กซี่ ร้ายกาจ แต่มีใจรักมั่นคง นฤมลเป็นตัวละครสำคัญที่จะมามีอำนาจต่อจากสมเจตน์ เป็นตัวละครหลักอีกคนในภาคสอง

            มาเรีย หยาง คนนี้บทไม่ค่อยเด่นมาก แต่ชอบและสงสารเธอที่สุดในเรื่อง มาเรียเป็นคนเดียวที่น่าจะมีความสุขกับธนูได้นานที่สุด แต่ก็โดนพรากเพราะภารกิจ เมฆซ่อนตะวัน มาเรียรักธนูโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและต้องเสียใจเมื่อธนูจากไป จนลูกชายของเธอเจ็บแค้นแทนและกลับมาในภาคสองอีก

            เรื่องนี้จบสมบูรณ์ในตัวเองในภาคหนึ่ง (พาร์ทเด็กถึงผู้ใหญ่) แต่ผู้เขียนเขียนรุ่นลูกตามมาอีก ไม่แน่ใจว่าจะออกเล่มภาคสองตามมารึเปล่าค่ะ รู้สึกว่าอยากอ่านแล้วนะ 

            เรื่องนี้มีแววว่าจะได้เป็นละคร ลุ้นๆ ค่ะ อยากดูแต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่

ประโยคประทับใจ

"คำมั่นสัญญาที่ผมมอบให้ใครบางคน 

มีค่าเหนือสิ่งใด เหนือแม้แต่ชีวิตผม 

ภารกิจผมตอนนี้อยู่ที่โน้น 

ผมต้องไปทำงานบางอย่างที่ผมไม่สามารถบอกคุณได้ 

และให้คุณไปด้วยไม่ได้ มันเป็นเพราะต่อไปงานของผมจะอันตราย 

จนผมไม่อาจมีเรื่องที่ผมพะวงได้"

(หน้า 195)

ดวงตะวันที่ร้อนแรง จะถูกเมฆบดบังได้ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น 

ตราบใดที่โลกยังคงหมุนรอบดวงอาทิตย์ เร็วกว่าก็ไม่ได้ ช้ากว่าก็ไม่ได้  

ภาคีทอดถอนลมหายใจอย่างช้าๆ 

แต่ดวงตาที่เขาจับจ้องดวงตะวันนั้น เจิดจ้าไม่แพ้กัน!

(หน้า 216)

++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆ จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ