ตอน 3

เกาะเต่า+เกาะนางยวน

           สวัสดีค่ะจากทริปหมู่เกาะอ่างทองในตอนที่แล้ว คราวนี้เราจะพาไปเกาะเต่าและเกาะนางยวนกันต่อค่ะทริปนี้รูปอาจจะโดดไปมาไม่ค่อยสวย ใช้กล้องคอมแพคทั้งคู่แต่กล้องอีกตัวสีมืดแก้ไม่หายค่ะ

คู่มือนำทาง+แผนที่ที่ใช้ประจำขาดไม่ได้

            เรามีโปรแกรมเดินทางไปเกาะเต่า2 คืน หนนี้ใช้บริการเรือเร็วลมพระยา (คาตามารัน) โดยจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า และโอนเงินก่อนเดินทางประมาณ1 อาทิตย์ ราคาต่อคนต่อตั๋วไปกลับ ประมาณ 1200 บาท เช็คอินที่ท่าเรือลมพระยา หาดแม่น้ำก่อนเรือออก 30 นาที หรือถ้ายังไม่มีตั๋วมาซื้อที่หน้าบริษัทเลยก็ได้เหมือนกันแต่ถ้าเต็มก็อาจจะต้องรอ

           กรณีที่เอารถมาเองสามารถจอดค้างคืนไว้ที่ลานหน้าวัดหรือด้านหลังที่จำหน่ายตั๋วเรือได้ ทางเข้าท่าเรือลมพระยาหาไม่ยากมีป้ายบอกทางเข้าวัดพระลานชัดเจนแต่ถนนในซอยค่อนข้างแคบ ถ้าไม่มีรถมาเองก็แจ้งทางบริษัทได้ไม่แน่ใจว่าบริการรับส่งจากโรงแรมมีค่าใช้จ่ายรึเปล่า แต่เคยดูในเว็บจองตั๋วออนไลน์ไม่มีค่าบริการค่ะ

ภาพเส้นทางเดินเรือจากท่าเรือดอนสัก สุราษฏร์

ที่วงไว้ในแผนที่คือจุดที่จะขึ้นเรืออยู่เหนือสุดของเกาะสมุยค่ะ

นอกจากไปจากเกาะสมุยด้วยเรือลมพระยาแล้ว ยังมีบ.ส่งเสริมอีกหนึ่งบริษัท ต่างกันตรงที่ของลมพระยา เรือคาตามารันจะเป็นแบบสองท้อง แต่ของส่งเสริมเป็นเรือท้องเดียวแบบเรือทั่วไปค่ะแล้วแต่ว่าอยากใช้บริการบริษัทไหนก็ว่ากันไป หาข้อมูลไม่ยาก

หรืออยากไปแบบวันเดย์ทริปพักสมุย ก็มีโปรแกรมให้เลือกแบบเช้าไปเย็นกลับหลายบริษัทไปกับทัวร์จะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่สะดวกสบายกว่าตัดปัญหาไม่ต้องกังวลเรื่องที่พัก อาหาร ตารางดำน้ำ

คิวซื้อตั๋วนักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นแบคแพคเกอร์

นักท่องเที่ยวเยอะตลอดดีที่มีที่นั่งพักระหว่างรอเรือออก

มีร้านอาหาร เคาน์เตอร์ทัวร์ที่ท่าเรือด้วยได้พ็อคเก็ตบุคเล่มเล็กภาษาอังกฤษแนะนำที่เที่ยวที่พักพะงัน เกาะเต่า มาสองเล่มดีมากๆ บอกรายละเอียดเบอร์โทรที่พักให้เลือก พร้อมแผนที่ประกอบในเล่มเยอะมาก

เรือจอดเทียบท่ารอตรวจความเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

ใกล้เวลาเรือออกเจ้าหน้าที่ก็จะให้นักท่องเที่ยวยืนต่อแถวรอขึ้นเรือ

ภายในเรือเป็นห้องแอร์สะดวกสบาย มีเคาน์เตอร์ขายของเหมือนในเฟอร์รี่สมุย

             การเดินทางไปเกาะเต่า นอกจากทางสมุยแล้วถ้ามาจากกรุงเทพขึ้นที่ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย ชุมพร จะใช้เวลาเดินทางน้อยกว่ามาทางสุราษฏร์ฯถ้ามีแพลนมาเที่ยวสุราษฏร์ฯ แวะสมุยก่อนไปเกาะเต่า มาทางดอนสักจะสะดวกกว่าเช่นกัน

           เพราะเกาะเต่าและนางยวนเป็นเกาะเล็กๆอยู่ระหว่างครึ่งทางสุราษฏร์ฯ กับชุมพร ถ้ามาจากชุมพรจะใกล้กว่า เคยได้ข่าวว่าบริษัทลมพระยาจะมีโปรแกรมเดินเรือคาตามารันจากพัทยามาถึงเกาะเต่าได้เลย แต่ไม่แน่ใจว่ามีรึยัง หรือเป็นแค่โครงการค่ะ

จุดที่วงคือท่าเรือนอนบ้านดอน จากแผนที่

นอกจากนี้ยังเดินทางได้อีกทางคือเรือนอนจากท่าเรือบ้านดอนตัวเมืองสุราษฏร์ฯ ตามแผนที่ข้างบน เรือจะออกช่วงดึกไปพร้อมกับเสบียงอาหารลำเลียงไปขายที่เกาะเต่า(บางคนบอกว่าเป็นเรือขนผัก 55)

รอบแรกที่ไปเกาะเต่า เราไปเรือนอนจากบ้านดอนนี่แหละค่ะเรือออกประมาณห้าทุ่มกว่า ถึงเกาะเต่าหกโมงเช้าเสียดายไม่เห็นแสงแรกของพระอาทิตย์เพราะเรือมาจากทางทิศตะวันตก ตอนนี้เรือนอนปรับปรุงดีขึ้นมีที่นอนเป็นสัดส่วนกว่าเดิมไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เป็นพื้นกระดานธรรมดายกสูงสองฝั่ง มีทางเดินคั่นกลางแล้วแต่ว่าจะเลือกนอนตรงไหนก็ได้ มีหน้าต่างตลอดแนวเรือ

เราขึ้นฝั่งเกาะเต่าที่ท่าเรือลมพระยา ตั้งอยู่ใจกลางอ่าวแม่หาดที่เป็นจุดศูนย์รวมทุกอย่างทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร เคาน์เตอร์ทัวร์ ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ โรงเรียนสอนดำน้ำ เปิดเป็นล่ำเป็นสันเรียงแถวยาวตลอดแม่หาด ถ้าเอารถมาเองจากฝั่งจะขึ้นอีกท่าหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจเรื่องราคารู้สึกว่าจะหลักพันขึ้นค่ะ

ท่าเรือลมพระยาเกาะเต่า

ท่าเรือ เกาะเต่า

บนเกาะเต่าส่วนที่ไม่ใช่ถนนหลักจะเดินทางค่อนข้างลำบากใช้บริการมอเตอร์ไซค์เช่าดีที่สุด รถเอทีวีก็มีค่ะ แล้วแต่ความชำนาญ ถ้าใครเคยไปเกาะลันตาก็นึกถึงถนนไปอช.ได้เลย ทางยากยังไง เกาะเต่าก็ยากใช้ได้เหมือนกัน จะวิบากกว่าในบางจุด โดยเฉพาะเวลาฝนตกพายุมา ไม่สามารถใช้เรือหางยาวในการเดินทางไปแต่ละอ่าวได้ต้องใช้เส้นทางถนนยิ่งไม่ต้องพูดถึงแต่ได้ความรู้สึกนักผจญภัยดีเหมือนกันค่ะ 55

มีบริการรถกระบะโดยสาร ราคาแล้วแต่ตกลงตามเส้นทางมีแบบเหมาพาเที่ยวรอบเกาะก็มี เพราะจะเดินก็ไม่ไหวหรอกแต่ละจุดไกลๆ เราไปอ่าวโฉลกบ้านเก่าอ่าวเทียนออก รถกระบะเข้าไม่ถึง จะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกไม่ใกล้ไม่ไกลแต่สวยหาดทรายนุ่มดี รีสอร์ทเยอะน่าพักเหมือนกันค่ะ

อยู่เกาะเต่าสองคืนใช้บริการรถโดยสารนำเที่ยววันแรกวันเดียวอีกวันหมดแรงเพราะไปดำน้ำ อาศัยเดินริมหาดอย่างเดียว

ตรงท่าเรือมี 7-11 ราคาไม่แพงกว่าบนฝั่งมากนัก จากแม่หาดไปที่พักระยะทางไม่ไกลมากที่พักของเราอยู่หาดทรายรี เหนือหาดแม่หาดขึ้นไปฝั่งตะวันตกเดียวกันแต่ยังไม่ถึงหัวเกาะ หาดทรายรีเป็นหาดทรายที่ยาวที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดของเกาะเต่า

>

ส่วนของที่พัก เราเลือกที่พักสะดวกกว่าตอนไปครั้งแรกชื่อวินบีชรีสอร์ท ลักษณะเป็นบังกะโล+ร้านอาหารริมหาด บังกะโลที่นี่มี 3 แบบ บังกะโลไม้หลังเล็กจะไม่มีแอร์ไม่มีทีวี ในส่วนเรือนแถวชั้นเดียวมีแอร์ แต่ไม่มีทีวี แพงกว่าบังกะโลไม้หลังเล็กเท่าตัวตอนนี้มีแบบบังกะโลสองชั้นมีแอร์ มีทีวี หลายหลังแล้ว เห็นจากในเว็บรีสอร์ทค่ะ(ตอนที่ไปกำลังสร้างได้ไม่กี่หลังเอง) สวยดีค่ะ ตอนนี้เหมือนว่ารีสอร์ทจะมีสระว่ายน้ำเพิ่มมาอีก

ทางเข้ารีสอร์ทจะเป็นจุดชุมชนมีของขายเยอะเหมือนกัน ด้านข้างรีสอร์ทมีทางลัดเล็กๆ ตัดออกไปถนนอีกเส้นหนึ่ง เราออกเดินเที่ยวตอนค่ำๆเห็นนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกเส้นทางนี้กันมากก็เลยตามไป ปรากฏว่าเดินลัดใกล้มาก ออกไปช่วงตึกนึงเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก(นึกถึงถนนบางลาที่ภูเก็ตตอนกลางคืนยังไงยังงั้นเลย) ตอนไปแทบไม่เห็นคนไทยตลอดทั้งแนวถนนเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ แหล่งเที่ยวกลางคืนเยอะมาก

แลนด์มาร์กอีกจุดหนึ่งใครมาเกาะเต่าต้องถ่ายรูปต้นมะพร้าวต้นนี้

จากหน้าหาดรีสอร์ทเราเดินเลียบชายหาดไป มองเห็นท่าเรือแม่หาดอยู่ลิบๆ

พระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5

            เดินตามหาดลงมาทางใต้ระหว่างทางก่อนถึงแม่หาดจะมีพระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และหมู่หิน จปร.ที่มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. อยู่ เราแวะกราบสักการะก่อนจะเดินต่อหาดทรายบริเวณนี้ ว่ากันว่าเป็นส่วนที่สงบเงียบและสวยงาม หาดทรายสีน้ำตาลอ่อนไม่ถึงกับขาวมากและไม่สีน้ำตาลเข้มมาก

           มื้อเย็นของเราฝากท้องไว้กับร้านอาหารแถวท่าเรือแม่หาดจำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ เป็นร้านเรียงแถวยาวติดๆ กันแล้วแต่เลือกราคาอาหารก็คงเหมือนๆ กันในแต่ละร้าน ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ

จากร้านอาหารมองเห็นท่าเรือ

อาหารอร่อยไม่แพงมาก ทั้งหมดนี้ประมาณพันนิดๆ สำหรับ5 คนขากลับเราจะเห็นว่าแต่ละรีสอร์ทเริ่มตั้งที่นั่งริมหาดกันแล้วแต่ละแห่งเริ่มวางที่นั่ง ปูเสื่อ และเริ่มตั้งแผงเครื่องดื่มปักเสาไม้สำหรับเป็นไฟส่องทาง

ที่นี่ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังใส่ไส้ตะเกียงเสียบปลายไม้ที่ปักอยู่กับทรายทำเป็นไฟส่องทางเต็มหาด สวยดีค่ะ โรแมนติกเวลาค่ำๆ จุดเป็นแถวยาวๆ สวยดี

หาดทรายรียามเย็น

ขากลับเริ่มเหนื่อย แต่ว่ายังอยากเดินกันอยู่ฟ้าเริ่มมืดบรรยากาศยามเย็นพระอาทิตย์ตกฝั่งที่เราพักพอดี เดินดูนั่นนี่เผลอนิดเดียวพระอาทิตย์ตกค่ำซะแล้ว เราถึงหน้ารีสอร์ทค่ำพอดี นักท่องเที่ยวจับจองที่นั่งกันหมดแล้ว

บรรยากาศริมหาดหน้ารีสอร์ท

หน้ารีสอร์ทเริ่มมีนักท่องเที่ยวนั่งกันเต็มมีแผงปิ้งย่างอาหารทะเล เครื่องดื่ม สั่งไปกินที่ห้องหรือนั่งริมหาดได้บรรยากาศ ที่นี่ค็อกเทลอร่อยดีค่ะ

เราจองเรือหางสำหรับไปดำน้ำวันถัดไปเอาไว้ตั้งแต่กลางคืนเลยเพราะเรือออกประมาณ8 โมงครึ่ง ส่วนอาหารก็สั่งแบบเป็นกล่องไปกินบนเรือหางสะดวกดีค่ะ ไม่รวมในราคาเรือ เรือหางยาวราคาเหมาลำออก 8 โมงครึ่ง กลับประมาณ 4โมงเย็น แวะจุดดำน้ำรอบเกาะเต่าเท่าที่เราต้องการ แต่ต้องคลื่นลมไม่แรงถ้าวันไหนคลื่นลมแรงก็ไปฝั่งตะวันออกไม่ได้ มีแวะเกาะนางยวนด้วยในโปรแกรมชอบเหมาลำเองแบบนี้มากกว่าไปทัวร์เดย์ทริปกับเรือใหญ่เพราะตามใจเราไม่ต้องเคร่งเรื่องเวลามากนัก แต่เรื่องความสะดวกสบายจะไม่เท่าไปเรือใหญ่หรือสปีดโบทแน่ค่ะ

ระหว่างทางจะเห็นรีสอร์ทลดหลั่นบนไหล่เขาตลอดแนว

           วันที่ไปเราไปดำน้ำกันประมาณ 4 จุด เพราะว่าคลื่นลมค่อนข้างแรงแต่อ่าวที่เคยไปแล้วสวยถูกใจคนดำน้ำตื้นอย่างเราน่าจะเป็นอ่าวมะม่วงอ่าวหินวงก็สวย อ่าวโฉลกบ้านเก่าปะการังไม่ค่อยเยอะ แต่ปลาเยอะ และอ่าวเทียนออกเป็นอ่าวที่ชอบทัศนียภาพโดยรวมที่สุด

จุดดำน้ำยอดฮิตปะการังน้ำตื้นไม่เยอะมาก น้ำใสดีค่ะ

บางทีไปจุดดำน้ำพร้อมกันหลายลำเรือหางจะจอดเคียงกัน และเวลาลงจุดดำน้ำก็ใช้วิธีข้ามเรือไปมา ก็แปลกดีนอกจากเรือจะโคลงไปโคลงมาแล้ว ยังต้องทรงตัวให้ดีระหว่างข้ามเรือด้วย สังเกตุดูจากในรูปค่ะน้ำทะเลเอียงได้ทุกรูป 

มีทั้งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก

           เรือลำใหญ่จะจอดลอยลำอยู่ไกลๆเข้าใกล้ฝั่งมากเหมือนเรือหางไม่ได้ ลำใหญ่สุดที่เห็นเป็นเรือสำหรับเรียนและดำน้ำลึกก็จะจอดให้นักท่องเที่ยวดำน้ำอยู่ไกลจากจุดที่เรือหางของเราลอยลำ

เจ้าภาพทริปกำลังโดนปลารุม

น้ำทะเลใสดี ฝั่งตะวันตกของเกาะเต่าปะการังไม่ค่อยสวยเหมือนด้านตะวันออกกับทิศเหนือเกาะเต่าอาจเพราะเป็นท่าเรือ จุดที่เรือเข้าออก จริงๆ แล้วจุดที่สวยสมบูรณ์มากๆของเกาะเต่าจะมีชื่อเรื่องดำน้ำลึกมากกว่า นักท่องเที่ยวถึงมาเรียนดำน้ำที่เกาะเต่ากันมากเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของไทย

เข้าไปถามราคาค่าเรียนดำน้ำลึกดูต้องมีเวลาอย่างน้อยอยู่ที่เกาะเต่าประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อเรียนเบื้องต้นแต่ถ้าดำแบบเชี่ยวชาญได้ใบประกาศนียบัตรต้องใช้เวลาอยู่เป็นเดือน เพราะค่าเรียนที่เกาะเต่าราคาถูกกว่าที่อื่นจึงเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมอยู่ยาวเพื่อเรียนดำน้ำโดยเฉพาะด้วย

จากเกาะเต่าเราไปถึงเกาะนางยวนประมาณบ่ายโมงแล้ว เกาะนางยวนอยู่ใกล้เกาะเต่ามากนั่งเรือไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงค่ะตอนไปถึงมีเรือคาตามารันกำลังลำเลียงนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะพอดี

เรือหางของเราเลยต้องเลียบข้างสะพานท่าเรือ แล้วเราก็ขึ้นบันไดไม้ด้านข้างท่าเรือแทนสูงทีเดียว นึกแล้วก็ขำยังกับปีนบันไดลิงขึ้นเกาะยังไงยังงั้น สงสัยถ้าจะรอเรือใหญ่ออกคงจะนานเกินไป

ท่าเรือเกาะนางยวนมองจากจุดชมวิว

            เกาะนางยวนเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์เป็นเกาะสามเกาะเชื่อมกันโดยทางเดินสันทรายเหมือนทะเลแหวก วันที่ไปมีกรุ๊ปเรียนดำน้ำลึกมาลงพอดีน่าสนใจมากค่ะ เราเดินขึ้นจุดชมวิวระยะทางไม่ไกลและไม่สูงมากมีแค่จุดสุดท้ายที่ต้องปีนนิดหน่อย นอกนั้นเป็นบันไดเดินสบายค่ะ

ป้ายบอกทางขึ้นจุดชมวิวด้านหลังที่เห็นนั้นคือเกาะเต่า

ทางเดินขึ้นจุดชมวิว

ด้านบนจุดชมวิวมุมยอดฮิตที่สวยที่สุดของนางยวน

          ใช้เวลาไม่นานอยู่บนจุดชมวิวเพราะคิวรอถ่ายรูปยาวเป็นหางว่าว พอลงมาก็ได้เวลาสำรวจเกาะนางยวนกันค่ะที่นี่มีร้านอาหาร และบาร์ให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ ราคาแพงกว่าเกาะเต่าพอสมควร

น้ำจืดสำหรับล้างตัวค่าบริการครั้งละ 50 บาท

บาร์บนเกาะนางยวน

จุดดำน้ำตื้นสวยๆคือจุดที่ไกลออกไปเห็นสีเข้มๆ ของน้ำทะเลค่ะ

เพราะน้ำจืดและอาหารเครื่องดื่ม ต้องขนส่งมาจากบนฝั่ง ทำให้ราคาค่อนข้างแพง เราลงจากจุดชมวิวมาก็สั่งน้ำอัดลมที่ร้านอาหารราคาขวดละ 30 บาท ที่นี่ไอศกรีมลูกละ 100 บาท ราคาแรงใช้ได้เลย เราไม่ได้สั่งเอิ่ม..รอดตัวไป

หินหน้าตาแปลกเหมือนรูปพนมมือไหว้ที่เกาะนางยวนน้ำทะเลเริ่มลดเห็นชัดเจน

ปลาที่ท่าเรือเยอะมากๆมากันเป็นฝูงใหญ่

บ่ายแก่ๆ เรือหางก็มารับเรากลับไปส่งที่รีสอร์ทถึงหน้าหาดก็เย็นพอดี เป็นอันจบวันเดย์ทริปเกาะเต่า และเกาะนางยวนอีกหนึ่งวันแบบหมดสภาพ

บรรยากาศยามค่ำหน้ารีสอร์ทที่พัก

            เราจองตั๋วขากลับสมุยเที่ยว 8.30 น.ไว้ ก็เลยมาเช็คอินก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงที่ท่าเรือลมพระยาเหมือนเดิมเรีอถึงเกาะสมุยประมาณ 11 โมง เราก็เข้าพักที่โรงแรมเดิมอีกหนึ่งคืนก่อนออกเดินทางกลับในเช้าวันถัดไป ก่อนกลับก็เลยและจุดชมวิวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและแวะซื้อกาละแมที่หินตาหินยาย ก่อนเดินทางกลับค่ะ

หินตาหินยายอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมของสมุย

ร้านค้าบริเวณหินตาหินยายและกาละแมเจ้าอร่อย

           เพราะลืมจองตั๋วล่วงหน้าขากลับเฟอร์รี่จากสมุยไปดอนสักไว้เราก็เลยมาถึงท่าเรือสายมากประมาณ 11 โมง คิวรอยาวเป็นหางว่าวก็เลยต้องต่อคิวรถรอขึ้นเรือที่จุดจอดรถก่อนถึงท่าเรือ

สรุปว่าเราจองตั๋วเที่ยงวัน แต่ได้เดินทางจริงๆประมาณ 4 โมงเย็น ใช้เวลารออยู่ที่ท่าเรือนานมากมาย เสียดายที่จุดรอท่าเรือฝั่งสมุยไม่มีห้องแอร์เป็นที่นั่งโล่งมีหลังคาบังแดด อากาศร้อนและฝุ่นตลบมากมายแต่ก็ต้องรอเพราะทำอะไรไม่ได้ลืมซื้อตั๋วเอง ถึงฝั่งเกือบ 6 โมงเย็นลาทริปนี้ด้วยแสงสุดท้ายบนเรือเฟอร์รี่ มองเห็นเกาะสมุยไกลออกไปค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณของแต่งบล็อคสวยๆจากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ

ขอบคุณเพลงเพราะๆ จากยูทูปค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2558 2:09:06 น.		27 comments
Counter : 3747 Pageviews.
Share Tweet