เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 กันยายน 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Osha Thai Restaurant & Bar - Mekhong Elite Table

ชื่อร้าน : Osha Thai Restaurant & Bar
รายการอาหาร : อาหารไทย เครื่องดื่ม
เวลาเปิดบริการ : 11.00 น. - 14.00 น. และ 18.00 น. - 24.00 น.
ที่ตั้งร้าน : 99 ถนนวิทยุ ลุมพินี, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 4.70" N 100° 32' 46.25" E





Osha Thai Restaurant & Bar - Mekhong Elite Table



คืนนี้ผมขอพาเพื่อนๆ ไปดื่มด่ำบรรยากาศที่ค่ำคืนที่สุดแสนพิเศษ กับบรรยากาศที่ผสมผสานความเป็นไทยที่ดูดีมีระดับ กับร้าน sha Thai Restaurant & Bar ร้านอาหารไทยโมเดิร์น ที่จับคู่ความอร่อยกับอาหารไทยกับเครื่องดื่มที่คุ้นชื่อคนไทยมานาน ที่มารวมกันเป็น Mekhong Elite Table ซึ่งบอกเลยว่าเป็นการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม (Pairing) ให้ได้อรรถรสอย่างแท้จริง





ก่อนที่จะพาไปดื่มด่ำความอร่อย ขอพาไปชมบรรยากาศที่ดูหรูหรามีระดับของร้านที่มีการตกแต่งร้านให้แสดงถึงความเป็นไทยได้อย่างโดดเด่น ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ชฎาของนางรำสีทองอร่ามที่ลอยเด่นอยู่เหนือบันไดโค้งที่จะพาเราไปสู่ชั้นบนของร้านอาหาร และแม้ว่าบรรยากาศตกแต่ง ด้วยโทนสีเข้มๆของโต๊ะอาหารทรงกลมที่บุด้วยหนังสีบรอนซ์สลับกับผ้าไหมลายที่โชว์ลวดลายความเป็นไทยได้ดี แม้ว่ายามค่ำคืนบรรยากาศจะสลัวแต่ก็ดูไม่อึดอัด เพราะด้วยเพดานทรงสูงที่ทำให้ร้านดูโปร่งสบายๆ อีกทั้งยังเติมความเพลิดเพลินด้วย 3D Mapping ที่ยิงบนเพดานเป็นภาพเคลื่อนไหวของวรรณคดีไทยเรื่อง รามเกียรติ์ ดูแล้วเพลินตามากๆ นอกจากพื้นที่ชั้นล่างแล้ว

















พื้นที่ชั้นบนก็ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นไทยภาพติดผนังที่เป็นเรื่องราวของรามเกียรติ์เช่นกัน ทำให้บรรยากาศที่นี่ดูหรูหราแต่ยังคงความเป็นไทยได้ดี







พาไปอิ่มเอมกับบรรยากาศแล้ว ขอมานั่งอิ่มเอมกับดินเนอร์ในค่ำคืนนี้กันต่อนะครับ สำหรับที่ Osha แม้จะเป็นอาหารไทย แต่ก็มีการผสมผสานความเป็นตะวันตกด้วยการเสิร์ฟอาหารในแบบคอร์สเหมือนอาหารฝรั่ง แต่ก็สามารถทานแบบ a-la-cart ได้เช่นกัน และด้วยความที่ร้าน Osha เป็นหนึ่งใน Mekhong Elite Table แน่นอนว่าสิ่งที่พิเศษคือการจับคู่ความอร่อยลงตัวระหว่างอาหารและเครื่องดื่ม เหมือนที่ชาวตะวันตกเค้าจับคู่การทานเนื้อสัตว์กับไวน์ แต่ที่นี่เป็นการจับคู่อาหารไทยและค็อกเทลแบบไทย ซึ่ง “Mekhong - The Art of Thai Spirits Pairing” ได้จับคู่รสชาติเครื่องดื่มที่ทั้งเสริม และตัดรสชาติเพื่อเพิ่มอรรสรสในการทานอาหารยิ่งขึ้น







สำหรับค่ำคืนนี้ผมขอเริ่มต้นด้วยเมนูสตาร์ทเตอร์ Squids & Salted Egg ปลาหมึกทอดที่คุกเคล้ากับไข่เค็ม เสิร์ฟมาบนถ้วยกะลามะพร้าวนำไปรมควันช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเมนูนี้ยิ่งขึ้น และไม่ต้องห่วงว่าเมนูนี้จะเลี่ยนเพราะทั้งปลาหมึกและการนำไปทอดจะให้มีความมันและเมื่อทานเยอะอาจจะ ทำให้ทานจานต่อไปได้น้อย ดังนั้นจึงควรทานคู่กับ Siam Sparkling ที่มีส่วนผสมของ Mekhong และสปาร์คกลิ้งไวน์ ด้วยความซ่าของสปาร์คกลิ้งและกลิ่นของ Mekhong จะช่วยตัดความ มันจากการทอดของอาหารได้ดี ทำให้ทานได้มากขึ้นและกลมกล่อมยิ่งขึ้น







ต่อด้วยเมนู Spicy Salmon Salad ตามปกติแล้วจะเสิร์ฟเป็นเนื้อวากิว แต่ช่วงนี้ผมงดทานเนื้อวัว เลยเปลี่ยนมาเป็นปลาแซลมอนแทน นำมายำด้วยสมุนไพรแบบไทย ทำให้ได้เป็นพล่าปลาแซลมอนรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทยแน่นอน ซึ่งเมนูนี้เรียกน้ำย่อยไดดีทีเดียว ดังนั้นเครื่องดื่มที่จับคู่กับอาหารที่คนไทยชอบจึงเป็นเครื่องดื่มที่เสริมรสชาติกันอย่าง Mekhong Thai Sabai เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของ Mekhong Elite Table ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทยหลักคือมะนาวและโหระพา ด้วยรสสัมผัสของคอกเทลแก้วนี้ทำให้ช่วยเพิ่มเติมความกลมกล่อมให้กับพล่าแซลมอนได้เป็นอย่างดี





อยากนั้นก็พักเบรกด้วย Chicken Soup ซุปไก่เนื้อนุ่ม ที่มีส่วนผสมของ Mekhong จึงทำให้เนื้อไก่นุ่มละมุนลิ้นสุดๆ ครับ



จากนั้นก็ตามมาด้วย Crispy Snow Fish ปลาหิมะที่ทอดได้กรอบด้านนอก ส่วนด้านในนุ่มกำลังดี เสิร์ฟบนเส้นใหญ่ที่นำไปผัดกับน้ำแกงแบบไทยๆ แต่ไม่ใส่กะทิ ซึ่งจะมีรสชาติเค็มนิดๆ หวานหน่อยๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสมุนไพรไทย ทำให้รสชาติถูกปากคนไทยเช่นกัน แล้วก็เพิ่มรสชาติด้วย Mekhong Mantra ที่มีความเป็นสมุนไพรไทย โดยเฉพาะกลิ่นขิง เข้ากันได้ดีกับเมนูนี้ครับ





แล้วก็มาถึงเมนคอร์ส กับเมนู Massaman Lamb ข้าวมัสมั่นรสชาติเข้มข้นแบบไทยๆ แต่เติมความเก๋ด้วยเนื้อแกะ ที่เนื้อนุ่มไม่คาว และก้านชินนามอนที่เพิ่มความหอมให้กับเมนูนี้ได้ดี และเข่นเคย เมนูนี้คู่กับ Mekhong Mantra ซึ่งจะมาช่วยตัดความมัน ของแกงมัสมั่นได้ดี ช่วยเพิ่มรสสัมผัสของเมนูได้มากขึ้นด้วยนะครับ





จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน Thai Melon in Aromatic Coconut Syrup ไอศกรีมกะทิที่มาพร้อมแตงไทยรสชาติหวานฉ่ำ ชื่นใจ ปิดท้ายค่ำคืนนี้ได้อย่างลงตัวทีเดียวครับ



ใครที่ชื่นชอบอาหารไทยและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย Mekhong ในบรรยากาศหรูหราแบบนี้ แวะมาดื่มด่ำบรรยากาศดีๆ แบบนี้ได้ที่ Osha Thai Restaurant & Bar (Mekhong Elite Table) อยู่ที่ถนนวิทยุ ตรงแยกที่จะเลี้ยวเข้าซอยร่วมฤดี ภายในมีที่จอดรถสะดวกสบายด้วยนะครับ ลองแวะมาสัมผัสบรรยากาศความเป็นไทยแล้วเพื่อนๆ จะตกหลุมรักที่นี่ครับ







ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า

ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary



Create Date : 04 กันยายน 2558
Last Update : 4 กันยายน 2558 11:45:12 น. 0 comments
Counter : 3122 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.