เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Villa Maroc @ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Villa Maroc



ความจริงเริ่มแรก โรงแรมนี้ไม่ได้อยู่ใน list ที่อยากจะมาพักซักเท่าไร แต่ด้วยรีวิวของหลายๆ คน รวมทั้งเพื่อนๆ หลายคนบอกว่าอยากไปที่นี่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังนั้นจึงหาโอกาสมาพักที่นี่ดูซักครั้งนึง



ตัวโรงแรมตั้งอยู่ที่ปราณบุรี ติดทะเล แล้วก็ใกล้กับอลีนตา ครับ

ที่จอดรถของที่นี่อยู่คนละฝั่งถนนกับตัวโรงแรมครับ แต่ว่ามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดๆ ปลอดภัยได้ครับ

มาถึงที่พักก็รับ Mojito เย็นๆ ชื่นใจดีครับ



ระหว่างเช็คอินก็นั่งรอตรงห้องพัก ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ตามสไตล์โมร็อกโก ครับ



สังเกตได้ว่าของตกแต่งแต่ละอย่างน่าจะมีราคาแพงมากๆ ซึ่งคุณตัน เค้าใส่ใจรายละเอียดในการตกแต่งมาก ๆ ครับ



การตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ตรงบริเวณ lobby ครับ



ทางเดินระหว่าง ไปห้องพัก



พาเดินไปห้องพักกันดีกว่าครับ

ทริปนี้ฝนตกบ่อยมากๆ ทำให้เราหาโอกาสมาถ่ายบรรยากาศข้างนอกได้น้อยครับ



ห้องที่เราพักเป็น type ต่ำสุดของที่นี่ เป็นแบบพูลคอร์ท

ห้องพักแบบพูลคอร์ท มีทั้งสิ้น 6 ห้อง ตั้งอยู่บนอาคารขนาดสองชั้นสร้างขึ้นตามแบบ “ริยาด” หรือแมนชั่นสไตล์โมร็อกโก

โดยห้องที่เราพักชื่อ Grunful และเลือกพักที่ชั้นล่าง



เข้าไปด้านในกันดีกว่าครับ

สาเหตุที่เลือกห้องนี้ เป็นเพราะห้องนี้มีการตกแต่งด้วยสีขาว และสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ดูสบายตากว่าห้องอื่นๆ ที่มีสัสันฉูดฉาดมากๆ



ภายในห้องพักตกแต่งได้อย่างสวยงามมากๆ

โดยมีหีบสมบัติสีดำ ซึ่งตกแต่งให้เป็นตู้เก็บ TV สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ครับ



เตียงนอนขนาด 6 ฟุต โดยที่หัวเตียง เจาะทะลุไปยังฝั่งห้องน้ำ



พื้นที่ภายในห้องมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ เนื่องจากเตียงตั้งอยู่กลางห้อง โดยมีการฉาบปูนขึ้นข้างเตียงเป็นที่วางของ ซึ่งติดชิดกับเตียง

รวมทั้งมีหีบสมบัติอยู่ที่ปลายเตียง และอีกด้างเป็นพื้นที่ของโต๊ะเครื่องแป้ง

ทำให้เตียงนอนเหมือนโดนบีบ และทำให้รู้สึกว่าเตียงนั้นแคบ

ที่สำคัญภายในห้องไม่มี Daybed ไว้สำหรับนั่งเล่นด้วยครับ



ด้านบนเพดานมีโคมไฟ สไตล์โมร็อกโก ซึ่งตอนกลางคืนเวลาเปิดไฟ จะมีสีสันสวยงามครับ



พาไปดูด้านหลัง ซึ่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำกันบ้างครับ



อ่างอาบน้ำของที่นี่ใหญ่มากๆ เป็นอ่างอาบน้ำที่ตกแต่งด้วยโมเสค เข้ากับบรรยากาศในห้องพักเป็นอย่างมาก



หน้าต่างด้านหัวเตียงสามารถเปิดทะลุถึงกันได้ครับ

จากมุมอ่างอาบน้ำ ทำให้เห็นมุมกว้างของห้องได้เป็นอย่างดี



ไปดูของในตู้กันบ้างดีกว่าครับ

มีชุดคลุมสีแดงสด ไว้ใส่เวลาอาบน้ำหรือหลังเล่นน้ำด้วยครับ บอกตรงๆ ว่าไม่กล้าใส่ เพราะตัดกับสีผิวมากๆ

และมีรองเท้าสลิปเปอร์แบบโมร็อกโก ไว้ใส่เล่นในห้อง

สำหรับรองเท่าแตะที่ใส่เดินเล่นในโรงแรม พนักงานแจ้งว่าสามารถนำกลับบ้านได้ครับ



ภายในห้องมีมุมให้สำรวจไม่มากนัก พาไปเดินเล่นข้างนอกกันบ้างดีกว่าครับ

ทริปนี้ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเท่าไร เลยไม่ได้เก็บฟ้าสวยๆ มาฝากเลย

ห้องนี้อยู่ติดกับ Pool เล็กๆ พอดี แต่ฝนตกตลอดเวลา เลยทำให้ไม่ได้ลงเล่นเลยครับ



ไปสำรวจโรงแรมกันต่อครับ มุมตรงกลางที่เป็นส่วนกลาง มีน้ำพุเล็กๆ ประดับไว้ ทำให้เป็นมุมที่ดูสวยงามขึ้นมาทันที



จากนั้นก็เดินต่อไปยังส่วนอื่นๆครับ

ด้านขวามือจะมีตึกสีฟ้า อยู่ซึ่งถูกใช้เป็นห้อง Fitness เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ภายในตกแต่งด้วยสีเหลือง พร้อมด้วยอุปกรณ์ออกกำลังที่ค่อนข้างครบครัน



เสร็จแล้วก็ไปยังสระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่ เป็นสระที่มีขนาดไม่ใหญ่มา ตั้งอยู่ตรงกลาง ติดกับห้องอาหารของที่นี่

เป็นสระที่หันเข้าหาทะเล ดังนั้นคนจึงใช้บริการที่สระนี้ค่อนข้างมาก

ซึ่งกว่าจะถ่ายรูปที่ไม่มีคนมาได้ ลำบากเหมือนกันครับ เพราะวันที่ไปพัก คนพักเต็มโรงแรม ที่สำคัญ สาวๆ ใส่บิกินี่เล่นน้ำกันอย่างไม่อายกันเลยทีเดียว





สังเกตได้เลยว่าที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ



จากนั้นก็เดินต่อไปยังสปาของที่นี่

พอดีมีคนใช้บริการอยู่เลยไม้ได้เข้าไปถ่ายข้างในมาให้ดูครับ



สปาที่นี่อยู่บริเวณเดียวกับห้องพักแบบ รอยัลวิลล่า ซึ่งมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น



หลังจากเดินเล่นอยู่พักใหญ่ ก็เกิดความรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมา

เลยชวนกันขึ้นไปสำรวจบาร์ของที่นี่ ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของห้องอาหารครับ



"ชิชาบาร์"

เป็นชื่อของบาร์ที่นี่ ได้รับการตกแต่งโดยใช้ของนำเข้าจากโมร็อกโก



บาร์ที่นี่เปิดตอน 5 โมงเย็น

การตกแต่งที่นี่หรูหรา โดยส่วนใหญ่ของตกแต่งจะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งนั้น



ที่ชิชาบาร์ สามารถมองเห็นทะเลได้ชัดเจน ทำให้สามารถนั่งเล่นชิลๆ ได้สบายๆ ครับ



ขึ้นมาสำรวจเปล่าๆ ไม่ได้ครับ

ต้องขอลองสั่งเครื่องดื่มเค้าซักหน่อย

เปิดเมนูมาเจอแต่ละอย่างราคาไม่ต้องพูดถึงครับ แรงได้ใจจริงๆ

แต่ก็ขอลอง "Moroc sunset" ซักแก้ว



ได้เครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับนั่งมองทะเลแบบนี้ สดชื่นสุดๆ

ยิ่งข้างล่างมีสาวๆ มาว่ายน้ำเล่นกันเต็มสระ ยิ่งสดชื่นเข้าไปอีกครับ





ด้านข้างของชิชาบาร์ ยังมีมุมสำหรับไพรเวทปาร์ตี้ได้ด้วยครับ

แต่เสียดายที่ตอนเย็นฝนตก เลยทำให้ไม่ได้มีโอกาสขึ้นมาชมความงามยามค่ำคืนครับ



และข้างบนนี้เองสามารถมองมุมต่างๆ ของโรงแรมได้อย่างชัดเจน



หลังจากสดชื่นกับเครื่องดื่มเย็นๆ แล้ว ก็พากันไปเดินเล่นริมทะเล เพราะว่าเป็นช่วงที่ไม่มีฝนพอดี

แล้วก็ได้เจอมุมที่อบอุ่นเล็กๆ คือ ลูกๆ พาพ่อแม่มาเที่ยวทะเลกัน ยามที่ท่านอายุเยอะแบบนี้ การได้มาพักผ่อนกับลูกๆ ถือว่าเป็นความสุขของท่านเลยก็ว่าได้ครับ



และแน่นอนครับ ทะเลแถวปราณ จะเห็นเรือของชาวประมงมากกว่า ทะเลที่หัวหิน ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้



และแล้วฟ้าก็เริ่มมืดขึ้นมา



ทุกครั้งที่มาเที่ยวต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็จะรอช่วงแสงทไวไลท์ แต่วันนี้ฟ้าปิด แสงหมดเร็วมากๆ ทำให้ไม่สามารถเก็บแสงสวยเหมือนทุกครั้งที่ไปเที่ยวได้เลย



ชมบรรยากาศห้องอาหารสวยของ Villa Maroc

ซึ่งห้องอาหารของที่่นี่ชื่อ คาซาบลังก้า (Casablanca)





และมื้อเช้าคงได้มีโอกาสมาใช้บริการที่นี่แน่นอนครับ



หลังจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องครับ ระหว่างทางก็เจอมุมสวยๆ ยามค่ำคินเช่นกัน







หลังจากนั้นก็กลับไปยังห้องพักครับ

โดยห้องพักได้มีการ trun down เรียบร้อย



ลืมบอกไปอย่างว่า ตอนเช็คอิน เค้าให้ Ipod มาเปิดฟังในห้องด้วยครับ เป็นเพลงแนวโมร็อกโก ฟังสบายๆ ให้เข้ากลับบรรยากาศของที่พัก



เป็นอีกคืนที่หลับสบายๆ

ทำให้ตอนเช้าไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา

และสภาพอากาศก็เป็นใจจริงๆ ฟ้าปิดอีกวัน ตั้งใจตื่นมาให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นแต่ว่า เมฆเยอะมากๆ





แต่ว่าในความโชคร้าย ยังคงมีโชคดีแฝงอยู่เสมอ

จังหวะที่กำลังจะหันกลับไปนอนต่อที่ห้อง

ภาพๆ นี้ก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นอยู่ตรงหน้า



นานแล้วที่ไม่ได้เห็นรุ้งแบบเต็มๆ แบบนี้ ที่สำคัญ เจอแบบสองชั้นด้วย

ถ่ายมาหลายภาพทีเดียว แต่ฟ้าตอนนั้นไม่เป็นใจจริงๆ ฟ้าหม่นตลอดเวลา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ตื่นมาตั้งแต่เช้า ทั้งๆ ที่อากาศชวนให้นอนคดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มแท้ๆ



และเมื่อหันกลับไปยังทะเล แสงสีทองก็เริ่มโผล่ขึ้นมาให้เห็น

และพร้อมกันนั้นเรือประมงก็เริ่มออกทำงานอีกครั้ง และได้เดินเรือผาดผ่านแสงสีทอง ทำให้เป็นภาพที่ผมประทับใจเช่นกัน



หลังจากนั้นฝนก็เริ่มลงเม็ดอีกครั้ง ผมก็เลยกลับห้องไปอาบน้ำเผื่อที่จะไปทานอาหารเช้าที่ห้อง คาซาบลังก้า



ตอนแรกตั้งใจจะมาสั่งอาหารเช้าแบบโมร็อกแกนสไตล์

แต่อดครับ พนักงานแจ้งว่าถ้าแขกมาพักเกิน 12 คน ทางโรงแรมจะจัดเป็นไลน์บุฟเฟต์แทนครับ



ไลน์อาหารเช้าที่นี่ก็เหมือนกับโรงแรมทั่วๆ ไป



มีขนมปัง แล้วก็บัตเตอร์เค้ก แต่ก็มีให้เลือกไม่มากนัก














แต่ที่ชอบอยู่อย่าง คือน้ำตาลสำหรับใช่ชา กาแฟ มีหลายแบบมากๆ ครับ





และที่พิเศษอีกอย่างคือ เมนู ไข่ มี egg benedict ให้เลือกสั่งด้วยครับ แต่ว่ารสชาติออกเค็มนิดหน่อย



ปิดท้ายด้วยผลไม้ล้างปากครับ ไลน์อาหารที่นี่ก็เหมือนกับโรงแรมอื่นทั่วไป แต่ก็มีให้เลือกไม่มากนัก



หลังจากอิ่มแล้วก็กลับไปเก็บของและพักผ่อนที่ห้องพักกันต่อครับ

ห้องที่พัก สามารถขึ้นไปนั่งเล่นบนดาดฟ้าได้นะครับ แต่ต้องแชร์กับห้องที่พักอยู่ชั้น 2







แต่แล้วก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้วสิครับ ทริปนี้ถ่ายรูปมาได้ไม่เยอะ เพราะว่ามีแขกพักเต็ม เดินไปทางไหนก็ติดคนไปหมด ซึ่งโรงแรมที่นี่ก็มีเนื้อที่ไม่มากนัก

ทำให้ความเป็นส่วนตัวอาจจะหายไปเล็กน้อย



สุดท้ายก็ต้องเก็บของเดินทางกลับบ้าน



บอกได้เลยว่าที่นี่สวยมากๆ การตกแต่งทำได้ดี รวมทั้งของประดับตกแต่งทั้งหมดก็มีมูลค่าสูง เป็นของที่นำเข้ามาเกือบทั้งหมด

แต่ว่าผมกลับไม่ประทับใจเรื่องการบริการของที่นี่เท่าไรนัก



ด้านที่พักของ Villa Maroc สวยงามมากๆ ครับ ทำได้ดีทั้งการออกแบบ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่ง ก็ดูดีมีมูลค่ามากๆ

แต่สิ่งที่ผมไม่ประทับใจกับกลายเป็นเรื่องบริการ

ซึ่งผมคิดว่า โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไร ส่วนใหญ่ก็พอใจกับโรงแรมที่ไปพักเกือบทุกที่

แต่สำหรับที่นี่ผมถือว่าจ่ายค่าที่พักไปเยอะพอสมควร ซึ่งผมพักห้องต่ำสุด เสียค่าที่พักไป 6,500 บาท (จากงานไทยเที่ยวไทย)

แต่ที่ผมกับไม่ประทับใจการบริการตั้งแต่เดินเข้าโรงแรม จนออกจากโรงแรมเลยครับ ซึ่งก็มี

1. ตั้งแต่เริ่มไปถึงโรงแรม ฝนก็ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่แรงเท่าไรนัก แต่พนักงานให้เราเดินตากฝน แม้ว่าจะเล็กน้อย แต่ผมว่าฝนแบบนี้ทำให้เป็นหวัดได้ง่ายๆ เลยครับ ซึ่งพนักงานไม่มีแม้แต่การบอกว่าร่มอยู่ที่ไหน ซึ่งผมไม่ต้องการถึงขนาดว่ามากางให้นะครับ แต่ขอให้มีเตรียมไว้ให้แขกหน่อยก็ดีนะ แต่ได้รับคำตอบเพียงแต่ว่า เดินระวังๆ นะครับ

2. Welcome Drink สามารถนำมาดื่มที่ห้องพักได้ แต่ดื่มเสร็จแล้ว ไม่มีพนักงานมาเก็บแก้วครับ ผมได้ตั้งไว้ที่ ที่นั่งริมห้องพัก เพื่อที่ว่าพนักงานจะได้มาเห็นง่ายๆ และไม่ต้องการให้มดมาตอม แต่ว่าพนักงานไม่มีการมาเก็บแก้วน้ำนั้นเลยครับ จนกระทั่งเช็คเอ้าท์ แก้วใบเดิมก็ยังคงอยู่ที่เดิม ครับ

3. พนักงานไม่ได้มีการแนะนำอุปกรณ์หรือ สิ่งที่อยู่ในห้องอย่างชัดเจนครับ รวมทั้งพื้นที่ดาดฟ้าที่แขกสามารถขึ้นไปนั่งเล่นได้ ซึ่งหากไม่ได้เข้าไปดูรีวิวใน Blue Planet ผมก็ไม่รู้ว่ามีดาดฟ้าที่ห้องด้วย เพราะทางขึ้นอยู่ด้านหลังห้องพัก ต้องเดินอ้อมไปดูถึงจะเห็นครับ

4. ตอนเช็คอิน พนักงานได้ขอถ่ายรูปเราไว้ แล้วบอกว่าจะ Print ให้ตอน Trun Down ห้อง แต่ว่าห้องเราไม่มีครับ ตอนเช็คเอ้าท์ก็เลยถามว่าไม่ได้มีรูปให้เหรอครับ พนักงานก็เลยถามว่าไม่ได้รับเหรอค่ะ แล้วก็แจ้งว่าเดี๋ยว Print ให้ใหม่ เราก็รออยู่นาน ความจริงไม่ได้อยากได้รูปหรอกนะครับ อยากกลับแล้วเหมือนกัน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอนิดนึง สุดท้ายก็กลับออกมาบอกว่า รูป Print ไม่ได้ ขอถ่ายใหม่อีกครั้ง เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะจะรีบกลับ แต่เจ้าหน้าที่ก็ขอถ่ายอีกครั้ง ก็เข้าใจว่าอยากทำให้ลูกค้าประทับใจ เราก็เลยยอมให้ถ่ายอีกครั้ง แต่ไม่อยากรอ Print มาให้ครับ เลยบอกให้ส่งตาม e-mail ที่ใส่ให้ตอนเช็คอินครับ เราเลยขอตัวกลับก่อน เพราะว่าเสียเวลานานแล้วเหมือนกัน แต่จนทุกวันนี้เราก็ยังไม่ได้รับรูปนั้นเลยครับ

5. ข้อสุดท้าย อันนี้รับไม่ได้เล็กน้อย เพราะตอนเก็บของจะกลับบ้าน มองไปเห็นที่พื้นห้อง มีน้ำซึมออกมา ตรงปลายเตียงกับตู้เก็บ TV (ดูที่รูปประกอบนะครับ) ซึ่งโชคดีที่ผมไม่ได้วางกล้อง หรือว่า Notebook ไว้บริเวณนั้น ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่า อุปกรณ์จะเป็นอะไรหรือไม่ พอแจ้งพนักงานก็ไม่ได้รับคำตอบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมคิดว่าโรงแรมราคาขนาดนี้ไม่น่าจะเกิดเรื่องพวกนี้ได้นะครับ

ส่วนนี้ขอให้คิดว่า อาจจะเกิดขึ้นที่ผมก็ได้นะครับ คนอื่นอาจจะไม่เจออย่างนี้ แต่ก็เพียงแต่ให้ข้อมูลที่ได้เจอมาจริง ปกติไม่เคยเขียนวิจารย์ห้องพักอะไรเยอะขนาดนี้เลยครับ แต่ว่าอย่างน้อยก็เพื่อเป็นการบอกให้ทางโรงแรมทราบ เผื่อจะได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้นนะครับ

เพราะผมเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายครับ แต่ได้ไปพัก ได้ถ่ายรูปเล่น ได้รับการบริการที่อยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ





Blog ที่เกี่ยวข้อง

ห้องอาหาร Casablanca @ Villa Maroc ปราณบุรี

ห้องอาหาร Shisha Bar @ Villa Maroc ปราณบุรี




ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary


Create Date : 03 ตุลาคม 2554
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 22:12:50 น. 15 comments
Counter : 8368 Pageviews.

 




โดย: Kavanich96 วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:8:10:29 น.  

 
สวัสดียามบ่ายๆค่ะ คุณปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง

ขอตามมาเที่ยวVilla Maroc @ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยคนค่ะ

ที่พักบรรยากาศดี มากๆ สวยงามแท้ๆ

ถ้ามีโอกาสจะไปพักบ้างค่ะ

ขอให้มีความสุขนะคะ


โดย: iamorange วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:16:10:51 น.  

 
ถ่ายรูปได้สวย และรีวิวได้น่าติดตามเช่นเคยเลยนะคะ ตามมาเที่ยววิลลา มาร็อคด้วยคนค่ะ สนใจที่นี่เพราะเป็นสไตล์โมร็อคโค หรูหราภารตะนี่ล่ะค่ะ ขอบคุณนะค๊ะสำหรับข้อมูลเล็กๆน้อยๆ


โดย: bulldoggirl IP: 180.214.214.225 วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:17:37:37 น.  

 
@ คุณ Kavanich96 : ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

@ คุณ iamorange : ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ ครับ ราคาก็แรงตามด้วย และต้องเผื่อใจเรื่องบริการนิดนึงนะครับ ที่นี่ยังไม่เป๊ะเรื่องบริการเท่าไรครับ

@ คุณ bulldoggirl : ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ ที่นี่หรูหราดีครับ บรรยากาศก็ดีด้วย


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:20:49:59 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:7:39:35 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:7:39:40 น.  

 
@ คุณ นู๋ที : ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:9:28:14 น.  

 
สวยมากเลยนะคะ
แต่ไม่รุ้จะมีโอกาสได้พักหรือป่าว
ราคาแพงอยู่ อิอิ


โดย: มิลเม วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:10:02:20 น.  

 
ที่พักสวยงามมาก
ถ่ายรูปก็สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ


โดย: แม่น้องปาย IP: 124.122.215.29 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:14:28:25 น.  

 
@ คุณ มิลเม : ขอบคุณมากครับ ก่อนจะไปพักก็คิดหนักพอสมควรครับ เพราะราคานี้พักโรงแรมดีๆ ในหัวหินได้เยอะเลยครับ

@ คุณ แม่น้องปาย : ขอบคุณมากๆ ครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:16:30:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณโอ

ตอนไปพักที่เอวาซอน ก็ขับรถไปโฉบๆดูที่นี่มาเหมือนกันค่ะ

ชอบภาพถ่ายคุณโอจัง ออกแนวใสๆ สีสดๆ ดูแล้วสบายตาเป็นที่สุด

ว๊า..เสียเงินไประดับนี้ก็อยากได้บริการดีดีเหมือนกันนะคะนี่ ถ้ายุ้ยเจออย่างนี้ก็คงมีเซ็งเหมือนกัน


โดย: nLatte วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:9:24:42 น.  

 
@ คุณ nLatte : สวัสดีครับ คุณยุ้ย ที่นี่คุณภาพการบริการยังไม่คุ้มค่ากับค่าห้องที่เสียไปเท่าไรครับ แต่การตกแต่งของเค้าสวยจริงๆ ครับผม


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:8:14:39 น.  

 
พี่คะ สวยมาก อลังการมากๆ อยากไปสักครั้งจัง
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆค่ะ


โดย: ปุยฝ้ายสายรุ้ง วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:27:42 น.  

 
ถ่ายรูปสวยมาก ๆ เห็นแล้วอยากไปสุดๆ ^o^


โดย: 1326Family วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:47:25 น.  

 
@ คุณ ปุยฝ้ายสายรุ้ง : กว่าจะไปที่นี่ได้ต้องกัดฟันซื้อ Voucher กันเลยทีเดียวครับ

@ คุณ 1326Family : ขอบคุณมากๆ ครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:04:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.