เมษายน 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 เมษายน 2557
 
 
คิดยังไงกับเรื่องการหาโรงเรียนให้กับลูก

เมื่อลูกเข้าสู่วัย 2 ขวบ 4 เดือน นอกจากเรื่องที่เดิมก็พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นเพื่อเสริมพัฒนการให้กับเค้าแล้ว
เรื่องที่เราเริ่มคิดไม่ตกอีกครั้งก็คือการหาโรงเรียนอนุบาลให้เค้า

เมื่อเริ่มคิดที่จะให้ลูกเข้าเรียนก็ขอมาตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าเพราะอะไร ทำไม?? และทุกครั้งที่ทำการตามล่าหาโรงเรียนให้ลูก ก็ต้องย้อนกลับมาคิดถึงว่าเราหวังอะไร และคุณคิดว่ามันดีกับลูกคุณจริงหรือ

1. ถามตัวเองว่า ที่จะเอาลูกเข้าเรียนเพราะลูกเขาอยากเรียน หรือเพราะเราอยากให้เรียนกันแน่ ?
    คำตอบ "แน่นอนคำตอบคือเรานี่แหละที่อยากให้เรียน"

2. งั้นถามต่อ ว่าเพราะอะไรถึงอยากให้ลูกเข้าเรียน ในเวลาที่ลูกอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ในขณะที่บ้านมีคนเลี้ยงลูกให้
     คำตอบ "เข้าใจว่าศักยภาพของเด็กเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด และสามารถพัฒนาได้อย่างอัจริยะในอายุก่อน 3 ขวบ จึงควรให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาศักยภาพตัวเองให้ได้เร็วขึ้น โดยมีคนสอน จะได้ทันเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันด้วย"

3. ถามต่อ แล้วสอนเองไม่ได้หรอ
     คำตอบ 3.1 ไม่ได้ทำงานอาชีพครู แต่ก็สอนได้โดยผ่านการเล่น ซึ่งสามารถหาข้อมูลได้ตาม Internet และเราทำมันแล้วที่ผ่านมาก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่เราต้องทำงานประจำ ไกล ออกจากบ้านเช้า กลับบ้านมืด มีเวลาเล่นกับลูกได้เพียง 1-2 ชั่วโมงแถม 1-2 ชั่วโมง คือเรากินเวลานอนเค้าไป เพราะเรากลับถึงบ้าน 2-3 ทุ่ม อยู่กับเค้าอีก 2 ชั่วโมง นั่นหมายถึง ลูกเราจะนอนไม่ต่ำกว่า 4 ทุ่ม
                3.2  ยอมรับนะว่าบางครั้งเราไม่สามารถดึงเค้าออกจากความสนใจในบางสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่ได้ เพื่อจะสอนเค้า เช่น เมื่อเค้าดูทีวีเมื่อเค้าดูมือถือ และ Ipad ทำได้เพียงพยายามมองว่าสิ่งที่เค้ากำลังสนใจอยู่สามารถต่อยอดเป็นเรื่องต่างๆเพื่อให้เค้ามีพัฒนาการที่ดีได้ไหม
                3.3 แม่ติดละคร อืม!! อันนี้รู้ตัวว่าผิด อิอิ และกำลังพยายามปรับปรุงตัว
                3.4 แม่ไม่ขยัน อาจจะเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง เหนื่อยจากการทำงาน ก็เลยคิดว่า ถ้าระหว่างวันมีครูสอนเค้าน่าจะดีกว่า

4. คิดว่าที่จะให้ลูกเข้าโรงเรียนเพื่อให้ลูกได้รู้จักกับสังคม เป็นอย่างงั้นหรือเปล่า
    ตอบ  "มีส่วน แต่ไม่ใช่เหตุผลที่ให้เข้าเรียนโดยตรง เพราะที่บ้านเลี้ยงเด็กด้วยกัน 2 คน รุ่นเดียวกัน และยามว่างเสาร์อาทิตย์ก็จะพาเค้าไปร่วมกิจกรรมตามที่ต่างๆ ได้พบผุ้คนบ้าง ได้รู้จักเพื่อนๆ ที่ไม่ใช่แค่ในห้องบ้านบ้าง เพราะเรามีลูกรุ่นเดียวกันกับคลับต่างๆ เช่น คลับกระต่ายตุลา 54 เรามีเพื่อนเยอะแยะมากมาย ปีนึงเราจะพาลูกมาเจอกัน สนุกสนานด้วยกัน เค้าจะได้รับประสบการณ์เรื่องสังคม
ของเพื่อนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
             
5. โอเค งั้นถ้าลูกต้องเข้าโรงเรียน จะเลือกโรงเรียนให้ลูกยังไง มีเหตุผลอะไรบ้างที่จะเลือกโรงเรียนๆหนึ่ง
     ตอบ  1. ใกล้บ้าน เดินทางไปรับไปส่งสะดวก เพราะไม่ไว้ใจรถโรงเรียน จะให้ญาติไปรับก็ได้เพราะไม่ลำบาก
             2. อยากให้ลูกเป็นเด็ก 2 ภาษา โดยธรรมชาติ เรียนรู้ผ่านความรู้สึก ที่ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยการ ท่อง A Ant มด, B Bird นก ต้องเป็นโรงเรียนที่สอนแบบไม่แปลศัพท์ เพราะผู้ใหญ่ไทยผิดพลาดเรื่องการเรียนภาษามาโดยตลอดเพราะโครงสร้างการเรียนที่ผิด ซึ่งจริงๆ ต้องเริ่มจากการพูด คุย ก่อนการเขียน ก็เหมือนกับภาษาไทย  ที่เด็กรู้ว่า นี่คือ "หมา" ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าหมาประกอบด้วยตัวอะไรบ้าง แต่เห็นบุ๊ปก็รู้เลยว่ามันคือหมา  เห็นบุ๊ป ก็บอกได้เลยว่า "หมาอยู่ตรงนี้" โดยที่ไม่ต้องเรียน Gramma ว่าคำไหนต้องมาก่อนมาหลัง
             3. ในเด็กวัยอนุบาลเป็นวัยที่ควรสนุก มีความสุขกับวิชาการรอบๆ ตัว ไม่อยากให้ลูกถูกยัดเยียดให้เรียนหนักจนเกินไป อยากให้เรียนรู้ผ่านการเล่นไปพร้อมกับเพื่อนๆ มากมาย เค้าจะได้สนุกไปกับมัน ในขณะที่สนุกด้วยและได้ความรู้ด้วย ไม่ต้องการให้มานั่งโต๊ะ เก้าอี้ จับดินสอ เขียน ก. ไก่  ข. ไข่  A B C กันทั้งวัน โดยที่ไม่ให้เด็กให้รีแล็คเลย กลัวลูกเครียดจนทำให้ตัวเองไม่มีความเชื่อมั่น               

             4. สถานที่และสิ่งแวดล้อม โล่ง โปร่ง ไม่แออัดหรืออึดอัด มีร่มเงาต้นไม้ มีโซนกิจกรรม เครื่องเล่น สอนพัฒนการ บทบาทสมมติ มีสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่ แวดล้อมไปด้วยเรื่องที่ดี อาหาร นม น้ำได้คุณภาพ ก็ผ่านค่ะ
               5. บุคลากรที่ดูแลเด็ก ต้องมั่นใจได้ว่ามีประสิทธิภาพจริง ก็อาจจะใช้วิธีถามๆ จากผู้ปกครองที่ส่งเด็กๆเรียนก่อนหน้านี้ ว่าที่นี่ หรือครูที่นี่เป็นยังไง และคงต้องพูดคุยกับคุณครู และตีสนิทกับครู อิอิ
               6. ค่าเทอม อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นๆ โรงเรียนไหนที่เข้า concept อย่างที่หมายตาไว้ แต่ถ้าค่าเทอมแพง ก็ต้องกลับมามองว่า แพงขนาดไหนคุ้มไหม แล้วเงินมีพอสำหรับเทอมต่อๆไปไหม ถ้ามองรูปการแล้ว ลูกเรียนอนุบาลแต่ค่าเทอมปีละเป็นแสน ก็คงโบกมือ บ๊าย บายแต่ถ้าแพงในระดับกลางๆและคำนวณแล้วว่าความสามารถเราน่าจะไปไหว ก็จะยอมทุ่มเท เพราะมันคือการลงทุนเพื่ออนาคต แต่มันก็ต้องลำบากในวันข้างหน้าด้วย ดังนั้น มองว่า ถ้าค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนอนุบาลให้จบจนกว่าจะขึ้นประถมแพงเว่อร์ก็ไม่เอาค่ะ

                              
               
6. คาดหวัง หรือตั้งเป้าสำหรับอนาคตของลูกไว้ยังไง ก็หาโรงเรียนให้เค้าแบบนั้นดีไหม

ตอบ " ไม่ได้คาดหวังว่าลูกต้องเรียนในโรงเรียนที่เน้นวิชาการ หรือแข่งขันกันอย่างดุเดือด ไม่ได้หวังว่าอนาคตลูกต้องเอ็นท์ติดแพทย์ ไม่ได้คาดหวังว่าลูกต้องเอ็นท์ติดคณะที่มีคะแนนสูงๆ เพราะมหาลัย หรือโรงเรียนดัง ๆ ไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จในชีวิต แค่ต้องการให้ลูกรู้จักตัวเองและดึงศักยภาพที่เค้ามีออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ให้เขารู้จักตัดสินใจด้วยตัวเองและทำในสิ่งที่ตนเองชอบ การที่เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และชอบ ไปพร้อมๆกับพรสวรรค์ที่ตัวเองมี
อาจจะพัฒนาต่อยอดอีกสักหน่อย นั่นแหละมาถูกทางแล้ว "

          ดังนั้น มองแค่ว่า นอกจากตัวพ่อแม่ ที่ต้องสร้างความสุข ความรัก ความอบอุ่น ทั้งกอด ทั้งหอม และเล่นเพื่อให้เค้ามีพัฒนาการที่ดีแล้ว โรงเรียนไหนที่สามารถทำให้ตัวเค้าเองค้นพบศักยภาพของตัวเค้าได้ ทำให้เค้าเป็นเด็กที่เชื่อมั่นในตัวเองได้ ทำให้เค้าเป็นเด็กกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าที่จะทำได้ นั่นแหละคือที่ๆเหมาะสมที่สุด

7. รอได้ไหมถ้าตอนนี้โรงเรียนที่สอน 2 ภาษา +แนวบูรณาการ+วิชาการไม่เร่งแต่ก็มีสอนให้ไว้เพื่อเตรียมความพร้อม + สะดวกเรื่องการเดินทาง แต่ที่ที่ต้องการกว่าลูกเราจะเข้าได้ก็ต้องอายุ 4 ปีบริบูรณ์
ตอบ "บอกตรงๆค่ะ เหมือนจะรอไม่ไหว แต่ถ้าสำรวจจนแน่ใจแล้วว่าโรงเรียนนั้นผ่านข้อที่เราตั้งคำถามไว้แบบฉลุย ก็จะรอค่ะ" แต่ระหว่างรอก็จะไม่อยู่เฉย มีเวลาก็จะสอนเค้าตลอดถ้าเป็นไปได้ 

 

อืมมมม...... ตอบคำถามของตัวเองเสร็จหล่ะ ก็เริ่มหาโรงเรียนดีกว่า .....แล้วพบกันอีกทีใน โรงเรียนไหนดีน๊าาา..

 




Create Date : 11 เมษายน 2557
Last Update : 17 เมษายน 2557 12:49:01 น. 0 comments
Counter : 710 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

LittleLovePrincess
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สาวน้อยวัยใส ที่แม่ร๊ากกกที่สุด แม่ขอเรียกว่า "เจ้าหญิงตัวน้อยผู้น่ารัก" เรื่องราวของเราแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อมารวมเป็นเรื่องราว มันกลายเป็นสิ่งมีค่าที่น่าจดจำ

" LittleofPrincess"

และด้วยความรักที่มีต่อหนู แม่พยายามค้นหาข้อมูลเพื่อป้อนให้สาวน้อยของแม่มากมาย และพอรู้มันก็ถือเป็นความรู้ที่น่าจะบอกต่อ บทความดีๆที่อ่านแล้วอย่าเพียงแต่เก็บไว้คนเดียว จึงอยากเก็บรวบรวมและขอแบ่งปัน ^_^
[Add LittleLovePrincess's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com