แก้ปัญหาลูกติดดูดนิ้วกันค่ะ

การดูดนิ้วของลูกถือเป็นเรื่องที่ขัดใจคุณแม่อย่างยิ่งเลยใช่ไหมคะซึ่งคุณแม่มักจะพบเห็นลูกเริ่มดูดนิ้วได้ตั้งแต่ในช่วงประมาณ 2 เดือนเป็นต้น ซึ่งในเด็กบางคนที่คุณแม่ปล่อยละเลยหรือไม่ได้หาวิธีให้ลูกเลิกดูดนิ้วอาจล่วงเลยไปจนโตซึ่งเด็กบางคน 2-3ขวบแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกดูดนิ้วเลยด้วยซ้ำ จริงๆการดูดนิ้วเหมือนเป็นพฤติกรรมของลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้องเลยนะคะซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดในการที่ลูกมักจะติดและชื่นชอบการดูดนิ้วแต่หากการตามใจให้ดูดนิ้วนานๆไปจนติดเป็นนิสัยอาจจะส่งผลร้ายให้กับลูกได้เช่นกัน

สำหรับเรื่องการที่ลูกติดดูดนิ้วมือโดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วโป้งหรือบางครั้งแทบจะหมดทุกนิ้วเลยอาจจะมาจากหลายสาเหตุได้ อย่างเช่น คันเหงือกเพราะฟันน้ำนมเริ่มขึ้นเด็กก็จะใช้การดูดนิ้วมือเพื่อลดอาการคันเหงือก เรื่องความหิว เด็กบางคนอาจจะใช้การดูดนิ้วมือเพื่อแสดงให้คุณแม่เห็นว่าหนูอาจจะยังไม่อิ่มหรือว่ากำลังหิวก็เป็นได้หรืออาจจะเป็นช่วงที่คุณแม่กำลังฝึกให้ลูกเลิกดูดขวดนมเด็กอาจจะใช้นิ้วมือเพื่อทดแทนจุกขวดนมที่หายไป เด็กบางคนก็อาจจะเหงาเลยใช้นิ้วมือดูดคล้ายเป็นเพื่อนเล่นเพื่อความเพลิดเพลินรวมถึงบางครั้งอาจจะใช้การดูดนิ้วเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณแม่ก็เป็นได้เพราะคุณแม่หลายท่านจะดุและสนใจลูกทุกครั้งที่เห็นลูกดูดนิ้วมือลูกก็จะเคยชินว่าการที่อยากให้คุณแม่สนใจก็เลยใช้วิธีการดูดนิ้วเรียกร้องให้คุณแม่สนใจในทันทีก็เป็นได้ และหลากหลายเหตุผลของการที่ลูกชอบดูดนิ้วอาจจะไม่ได้ผิดปกติอะไรของเด็กซึ่งก็เกิดขึ้นกับเด็กแทบทุกคนอยู่แล้วจนคุณแม่มองเป็นแค่เรื่องธรรมดาและคิดว่าเดี๋ยวลูกก็จะเลิกดูดนิ้วไปเองเมื่อโตขึ้นแต่ก็มีเด็กอีกจำนวนไม่น้อยนะคะที่ติดและชื่นชอบการดูดนิ้วเป็นชีวิตจิตใจจะห้ามจะดุยังไงก็ไม่ยอมเด็กบางคนดูดนิ้วอมนิ้วจนนิ้วเปื่อยหรือจนบวมแดงและบางทีก็เริ่มเป็นแผลและอาจติดเชื้อโรคได้ง่ายซ้ำร้ายไปกว่านั้นหากเด็กติดการดูดนิ้วมือนานๆอาจส่งผลให้ฟันบนอาจจะยุบเข้าไปฟันล่างก็จะยื่นออกมาข้างหน้าทำให้ฟันไม่สวยอีกด้วยนะคะ

ทีนี้คุณแม่มาลองฝึกลูกน้อยให้เลิกดูดนิ้วมือกันเถอะค่ะกรณีที่เป็นเด็กเล็กคุณแม่อาจจะหาถุงมือหนาๆมาใส่ให้ลูกเพราะความหนาของถุงมือก็อาจจะทำให้ลูกดูดนิ้วมือได้ยากขึ้นและเริ่มเบื่อไปเองหรืออาจจะหาจุกนมหลอกมาให้ลูกแทนการดูดนิ้วมือก็พอช่วยได้เพราะจุกนมหลอกหากคุณแม่ต้องการให้ลูกเลิกดูดก็ง่ายกว่าเพราะสามารถทิ้งหรือเก็บให้พ้นสายตาลูกพอลูกหาไม่เจอก็จะเลิกสนใจไปเองหรือหากจะลองใช้บอระเพ็ดหรือน้ำส้มสายชูทานิ้วที่ลูกชอบดูดก็พอได้ผลนะคะแต่ก็อาจจะไม่ใช่กับเด็กทุกคนเพราะจากที่เคยเห็นเด็กบางคนถึงรู้ว่าขมก็ยังไม่ยอมร้องไห้ไปดูดนิ้วไปอยู่ดีแต่เด็กบางคนก็ใช้ได้ผลนะคะเจอรสชาติขมเข้าไปถึงกับกลัวขยาดไม่กล้ายกนิ้วขึ้นมาดูดอีกเลยก็มีแต่หากเป็นในกรณีเด็กโตที่พอเข้าใจและเริ่มรับรู้แล้ว คุณแม่อย่าใช้วิธีบังคับ ดุหรือตีลูก เพื่อให้ลูกหยุดการดูดนิ้วมือแต่ควรหาวิธีที่ละมุนละม่อมอาจใช้การพูดคุย เช่น บอกกับลูกว่าหนูโตแล้วควรเลิกดูดนิ้วได้แล้ว หรืออาจจะเล่นเป็นเกมส์เก็บคะแนนว่าวันนี้ถ้าลูกไม่ดูดนิ้วแม่จะมีรางวัลให้หรือหาของเล่นต่างๆจูงใจให้ลูกไม่เบื่อหรือเหงาจนต้องกลับมาดูดนิ้วอีก หากิจกรรมเสริมเช่นการเล่านิทาน ระบายสี หรืออาจจะชวนลูกไปขี่จักรยาน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่น่าเบื่ออย่างการดูโทรทัศน์เพราะลูกอาจจะเผลอยกนิ้วมือขึ้นมาดูดเพลินๆก็ได้

การแก้ปัญหาก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายหรือยากจนเกินไปทุกปัญหาขึ้นอยู่ที่ครอบครัวและการเลี้ยงดูเอาใจใส่ หากคุณแม่เริ่มต้นฝึกให้ลูกตั้งแต่เนิ่นๆก็อาจจะง่ายๆในการแก้ปัญหาหรือบางทีลูกก็อาจจะเลิกดูดนิ้วไปเองเลยก็มีแต่หากคุณแม่ที่ปล่อยและตามใจลูกจนล่วงเลยจนโตก็อาจจะแก้ไขยากเพราะบางทีเด็กก็ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมต้องเลิกทำไมต้องห้ามยิ่งห้ามอาจจะยิ่งเหมือนยุด้วยซ้ำเริ่มต้นฝึกกันตั้งแต่แรกๆดีกว่าจะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆในอนาคตค่ะ

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง