Group Blog
 
 
มิถุนายน 2560
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
10 มิถุนายน 2560
 
All Blogs
 
เที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด

ดองนานเชียวกับทริปมาเลเซีย
มีเรื่องเม้าเยอะเลย
ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
คือถามใคร ไม่ค่อยมีใครเคยไป KL เลย
มีแต่ไปปีนังกันทั้งนั้นเลย
ถามว่าทำไมถึงอยากไปมาเล
ง่ายมาก
แค่อยากเก็บเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มันมันเยอะ ๆ หน่อย
มาเล เป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรายังไม่เคยไปเลย
เพื่อน ๆ เราก็แทบไม่มีใครไปมาเล
แต่คนมาเลมาเที่ยวบ้านเราเยอะมาก
ถามใครก็มีแต่คนเคยมาเมืองไทย
แต่ก็มีแต่คนบอกว่า KL ไปทำไม ถ้าไม่ชอบช้อปปิ้ง มันไม่มีอะไร
แล้วก็บอกเลยว่า มันไม่มีอะไรจริง ๆ ก๊าก ๆ
ได้แต่อะไรกลับมาเล่าอยู่นะ

ทริปนี้เราก็บินเดี่ยวไปคนเดียวอีกแล้วจ้า
ใช้มุกเดิม
คือเข้าพวกแอปหาเพื่อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น tinder, couchsurfing
แล้วก็คุยไปก่อนประมาณนึง แล้วค่อยบินไปเจอ
ทริปนี้เราแพลนไปเจอคนจีนมาเล 4 คน
ชาย 3 หญิง 1
อ้อ ด้วยความที่เราเป็นหมวยเนอะ เราก็อยากจะเจอพวกเดียวกัน
แต่พวกที่ส่งข้อความมาที่อยากเจอเนี่ย มีแต่หน้าแขก ๆ อินเดีย ๆ หรือไม่ก็ผิวสีทั้งนั้นเลย
นี่หมวยอย่างกรู เป็นสเป๊คพวกนี้เหรอเนี่ย
(ขออภัย อิฉันเป็นพวกเหยียดผิวค่ะ เจอแต่จีนเท่านั้น ผิวคล้ำ ๆ อิฉันกลัวค่ะ เพราะอิฉันไปคนเดียว)

ไม่ได้ทำการบ้านอะไรเล้ย
เพราะทุกทริปที่นัดเจอคน local เค้าจะพาเราเที่ยว แล้วก็หาที่กินที่คน local กินกัน
ทำให้เราเที่ยวง่ายมาก ไม่หลง ไม่ต้องกังวลอะไร

เราจองตั๋วช้า จองแค่ 2-3 อาทิตย์ก่อนบิน
เลยได้ตั๋วที่ค่อนข้างแพง
เราบิน Milando ซึ่งเป็น low cost ที่หรูหน่อย แพงกว่า air asia อยู่ 6-7 ร้อย
แต่ได้แถมเลยคือ กระเป๋า 30 กิโล มีของว่างบนเครื่อง แถมที่นั่งกว้างกว่ากันเยอะเลย
ซึ่งถ้า air asia เพิ่มกระเป๋าอีก 20 กิโลก็ 640 บาทต่อเที่ยว ก็ไม่ต่างกัน
แถมไม่มีของว่าง แล้วที่นั่งเบียดเสียดติดขาอีกต่างหาก







ก่อนบิน
นัดแนะกับเหล่า local เสร็จสรรพ
สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างใจ
คนที่อยากเจอมากสุด กลับเป็นคนที่ไม่ว่างที่สุดเลย
แถมดั๊น มีหนุ่มสิงคโปร์มาขอแจมทริปเที่ยวคนเดียวของเราด้วย
ซึ่งงงงงงงงงงงงงงงงง
อิฉันไม่ได้ชวนง่า
แต่ด้วยความที่เค้าเป็นพวกข้อมูลเยอะจัด
แล้วแฟนเป็นมาเล เลยขับรถไปเที่ยวมาเลบ่อยมาก
เลยส่งข้อความไปถามว่า KL มีไรเที่ยวมั่ง
มันก็ถามว่าไปเมื่อไหร่ พักที่ไหน เที่ยวบินไป-กลับ (ถามละเอียดนะเนี่ย แต่ด้วยความที่ไม่คิดอะไรก็ตอบ ๆ ไป)
แล้วมันก็ส่งข้อความมาว่า
ยูว์.........ชั้นเพิ่งเลิกกับแฟน ขอไปเที่ยวด้วยได้มั้ย
หืม?????????????????
อัลไล ไม่ได้ชวนนนนนนน
ชั้นจะไปเจอหนุ่มมาเล ไม่ได้อยากไปเจอหนุ่มสิงคโปร์ในมาเล
แล้วชั้นก็นัดหนุ่มของชั้นไว้แล้วด้วย ไม่ให้ไปโว้ย (อันนี้แอบคิดในใจ)
แต่ในความเป็นจริงคือ
เราเปลี่ยนเรื่องคุยไปเลยจ้ะ ให้เหมือนกับว่าสิ่งที่มันพูดขึ้นมามันลอยหายไปในอากาศ
จะบอกปฏิเสธก็รู้สึกแย่
แต่จะตอบรับ ก็ไม่รู้ว่าจะทิ้งมันได้มั้ย ถ้าไปเจอหนุ่มมาเล
โอ๊ย คิดแล้วเหมือนสวย ก๊าก ๆ


แล้วพอใกล้วันประมาณอาทิตย์นึงก่อนเราบิน
มันก็ส่งข้อความมาว่า มันบุ๊ครถบัสไปกลับสิงคโปร์แล้วนะ
ถึงมาเลเช้าวันเสาร์ แล้วกลับวันจันทร์ตอนบ่าย
ไอ้เราก็เฮ้ย นี่ตูอุตส่าห์เปลี่ยนเรื่องแล้ว เมิงจริงจังเหรอเนี่ย
ก็กะว่า เออ มาก็มา แต่เดี๋ยวชั้นไปเจอหนุ่ม แกก็หาไรทำเองนะ อย่ามาดราม่า (แต่ผู้ชายมันไม่ดราม่าอยู่แล้ว ไม่ต้องตัวติดกัน)








ก่อนบิน
หนุ่มที่อยากเจอที่คิดว่าเค้าน่าจะพาเราเที่ยวได้ทั้งวันส่งข้อความมาบอกว่า
ชั้นคงเจอยูได้ late afternoon นะ
ก็แอบเซ็งกันไป เออ ไม่ไร ซักบ่าย 2 บ่าย 3 ก็ครึ่งวันก็โอเค
แล้ววันที่บินไปถึงจริง ๆ ฮีส่งข้อความมาบอกว่า late afternoon ของฮีคือทุ่มนึงจ้ะ กรูนี่อยากจิกรี๊ด
ไมไม่บอกกันก่อน จะได้นัดคนอื่นนนนนนน

แต่จริง ๆ ก็นัดอีกคนแหละ แต่คนนี้เนี่ย อ่านนะ แต่ตอบช้ามาก
แล้วก็โลเล เดี๋ยวก็ว่าง เดี๋ยวก็ไม่ว่าง
เพราะตอนนัดเนี่ยบอกว่า เจอกันวันเสาร์นะ
แล้วฮีก็ตอบว่า วันเสาร์คงทำงานอ่ะ ไม่ว่าง เจอวันศุกร์ได้มั้ย ประมาณ 3-4 ทุ่ม
เราก็บอกว่า อืม ๆ ได้ ๆ เดี๋ยวชั้นเที่ยวกับเพื่อนสาวมาเลที่นัดเจอกันก่อน
แล้วสุดท้ายวันศุกร์ฮีก็ส่งข้อความมาบอกว่า ถ้างั้นยูมีเพื่อนแล้ว เจอกันวันเสาร์แล้วกัน ชั้นว่างวันเสาร์
อ่อ ก็อืม ๆ เมิงว่างตอนไหน ตูก็เจอตอนนั้นอ่ะแหละ


แล้วการเดินทางของเราก็เริ่มต้นขึ้น
บิน Malindo นี่ก็โอเคนะ
แถวไม่ยาว วันนึงมีแค่ 2 ไฟล์
ตอนบ่ายกับตอนดึก
เราไทยไม่ค่อยบิน
อาจจะเพราะคิดว่ามัน low cost เหมือน Air Asia แต่มันแพงกว่า
แถม Air Asia มีไฟล์บินไปมาเลเป็นสิบเที่ยวต่อวัน บินไปทุกชั่วโมง คนก็จะแน่น
ทั้งลำ มีแค่ 10% เองมั้งที่เป็นคนไทย
นอกนั้นเป็นมาเลหมดเลย
ต้องขอบคุณหนุ่มมาเลที่บอกว่าเค้าไม่เคยบิน Air Asia เลย
บินมาไทยก็ Malindo ตลอด เพราะที่นั่งกว้างกว่า แถมได้กระเป๋า 30 กิโลด้วย
ก็เลยเชื่อฮี คุ้มกว่า Air Asia จริง ๆ คอนเฟิร์ม
(ไม่ใช่รูปที่เราถ่ายจ้ะ)



Image Hosted by PicturePush



ตอนไปก็ตื่นเต้นละ
เพราะจริง ๆ คือไฟล์ถึงมาเลบ่าย 3 แต่จำผิด คิดว่าออกจากดอนเมืองบ่าย 3 จ้า
เพราะกะว่าจะลาแค่ครึ่งวัน แบบว่าเอากระเป๋ามาเลย
แล้วออกเที่ยง ไปถึงดอนเมืองก็บ่ายโมง มีเวลา 2 ชั่วโมงขึ้นเครื่อง สวย ๆ
ดีนะที่เช็คอินออนไลน์ไปก่อน
แล้วมันเขียน boarding time 11 โมงกว่า เฮ้ย
จากสวย ๆ มันไม่สวยแล้วนะถ้าไปตอนนั้น เพราะเครื่องมันออกไปแล้ว
เดชะบุญ ยังมีสติอยู่ เลยได้ลาทั้งวัน ไปดอนเมืองตั้งแต่เช้า

บินไปถึง
แปลกใจเหมือนกัน เค้าไม่มีใบให้กรอกของ ตม เลยนะว่าชื่ออะไร พักที่ไหนยังไง
ก่อนถึง ตม. มันจะมีซิมการ์ดขาย
แอบอ่านใน pantip ไปแล้ว ถ้าใครไม่ได้ใช้เน็ทมาก อย่าซื้อเน็ทสนามบิน
เพราะมันจะขายแบบนักท่องเที่ยวใช้ แล้วอย่างต่ำ 20-30 ริงกิต
ถ้าไม่ได้ใช้เยอะ ข้างนอกมีขายซิมแค่ 5 ริงกิตเองมั้ง หรือแค่ 1 ริงกิตเนี่ยแหละ แล้วเติมเงินเอา 3 ริงกิตได้ 1 GB เล่นได้ 1 วันประมาณนั้น
ซึ่งจริง ๆ เราก็ไม่ได้ใช้หรอก แค่ไว้ส่งข้อความนัดเจอเองว่าถึงไหนแล้ว
เพราะเวลาเราเที่ยว เราก็ไม่แชทหรือโพสอะไรอยู่แล้ว เอามือถือเป็นกล้องถ่ายรูปอย่างเดียว
เลยไม่ได้ซื้อซิมตรงนั้น เพราะมีถูกสุดก็ 20 ริงกิต
แต่รู้สึกเสียดาย
เพราะ แถว ตม. ยาวมากกกกกกกก
ต่อคิวไปชั่วโมงครึ่ง อย่างไม่รู้จะทำอะไร
ทำได้เพียงทำสมาธิ ตามลมหายใจเข้าออกในคิว Asian ที่ทุกคนก้มหน้าก้มตาจิ้มมือถือ ฮา ๆ
อย่างน้อยก็ได้สร้างกุศลระหว่างรอ ตม. ล่ะวะ อิอิ


ตม.เรา เห็น passport ไทย พูดไทยใส่เลยจ้า
เหมือนพูดแซวน่ะ ยิ้มใส่แล้วพูดว่า มาคนเดียวเหรอ มากี่วัน เที่ยวไหนบ้าง แล้วทำสายตากรุ้มกริ่มใส่ เหอะ ๆ
พอผ่านเสร็จก็เดินไปตามทางให้ไปขึ้นรถบัสซื้อตั๋ว
ตรงที่ซื้อตั๋วมันเหมือน บขส บ้านเราเลยอ่ะ แขกเป็นคนขายตั๋วเนอะ
ไปดงขายตั๋วนะ กลิ่นที่ปะทะเข้าจมูกแล้วระลึกได้เลยคือ.....
กลิ่นเหมือนอยู่พม่าเลย
คือกลิ่นมันจะแขก ๆ เหมือนกลิ่นแขกเคี้ยวหมากอ่ะ ได้กลิ่นแล้วสยอง ขนลุกง่ะ
(ไม่ใช่รูปที่เราถ่ายนะ เรารีบ ไปถึงที่ขายตั๋ว เค้าบอกว่าอีก 2 นาทีรถออก แทบจะกระโดดขึ้นรถ)




Image Hosted by PicturePush





ตั๋วถูกมาก 10 ริงกิตเอง (80 บาท) รถบัสอย่างดี นั่งเข้าเมืองเป็นชั่วโมงเลยนะ
เราก็นั่งข้างหนุ่มคนนึง ผอม ๆ ดำ ๆ หน้าแขก ๆ
ก็ไม่ได้คุยอะไร นั่งหลับไป พอได้ครึ่งทางเลยหันไปคุยหน่อยว่าอีกนานมั้ย รถมันติดนิดหน่อย
ฮีก็บอกว่าพักที่ไหนล่ะ จะถามเรื่องเข้าเมืองด้วย
เพราะเพื่อนคนไทยที่ไปทำงานมาเลบ่อย ๆ ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามเรียกแท็กซี่ธรรมดาเด็ดขาด
ให้เรียก Grab หรือ Uber เท่านั้น
เราก็จะเรียก grab เหมือนกัน
แต่พอดี โชคดี หนุ่มคนนี้เป็นพม่า มาเรียนที่มาเล 7 ปีแล้ว กำลังเรียนบัญชีอยู่ในมหาลัย
บ้านอยู่ Bukit Bintang โรงแรมที่เราอยู่พอดี นั่งรถไฟฟ้ามากับฮี
รถไฟฟ้าที่นั่นน่ากลัวอ่ะ เหม็นด้วย เก่าด้วย รอก็นาน ร้อนด้วย ฝนตกมีน้ำหยดอีกต่างหาก
บนรถไฟฟ้ามีแต่แขก (อืม แขก 70% นี่เนอะ)
แล้วคนจีนมันไปไหนหมดวะเนี่ย
มารู้ที่หลังว่าจีนมาเลเค้าก็ขับรถกันเกือบหมด



ฮีก็พาเราลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้าง ผ่านห้างไปสถานีรถไฟฟ้า
แล้วรอรถไฟฟ้า แล้วฮีก็บอกว่า KL มันก็ไม่ค่อยปลอดภัยมากสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่มาคนเดียวหรอกนะยู
แล้วฮีก็พาเราหาโรงแรม ซึ่ง รร ที่เราจองเนี่ย ข้อเสียอย่างนึงเลยคือ มันอยู่ในซอกหลังตึกน่ะ
ไม่ได้อยู่หน้าถนนใหญ่ที่หาได้ง่าย ๆ
อิน้องหม่องนี่ก็พาเราเดินวนไปก็วนมา
เราจะเปิด google map
ฮีก็พาเราลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้าง ผ่านห้างไปสถานีรถไฟฟ้า




Image Hosted by PicturePush




แล้วรอรถไฟฟ้า แล้วฮีก็บอกว่า KL มันก็ไม่ค่อยปลอดภัยมากสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่มาคนเดียวหรอกนะยู
แล้วฮีก็พาเราหาโรงแรม ซึ่ง รร ที่เราจองเนี่ย ข้อเสียอย่างนึงเลยคือ มันอยู่ในซอกหลังตึกน่ะ
ไม่ได้อยู่หน้าถนนใหญ่ที่หาได้ง่าย ๆ
อิน้องหม่องนี่ก็พาเราเดินวนไปก็วนมา
เราจะเปิด google map ฮีก็บอกว่าไม่ต้อง แถวนี้ชั้นรู้จักก็เดินวนอยู่นั่นแหละ
สุดท้ายเราก็ต้องเปิด google map เพราะไม่ไหวละ กระเป๋าที่ลากอยู่ก็หนัก แถมถนนก็ไม่ดี ไม่ได้ลื่นปื้ดลากได้สบาย ๆ อีก


พอถึงโรงแรมเช็คอิน
เราก็ให้ขนมฮีจากเมืองไทย ที่เตรียมเอามาฝากหนุ่มสาวมาเลที่จะเจอในทริปนี้อยู่แล้ว
แล้วก็ขอลากกระเป๋าขึ้นห้องเอง
ฮีก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวลากไปส่งถึงห้อง
เราก็โอเค ๆ ด้วยความที่เหนื่อยมาก เพราะกว่าจะเจอโรงแรม ลากซะไหล่จะหลุด หลังจะหัก ยกขึ้นยกลงฟุตบาท
ฟุตบาทที่นั่นก็เหมือนบ้านเรา ขรุขระ บางช่วงก็ต้องลงมาเดินบนถนน แล้วก็ยกขึ้นฟุตบาทใหม่
เพราะแถวนั้น ฟุตบาทเค้ากางโต๊ะกินข้าวออกมาเต็มทางเท้าจ้ะ
ฮีก็ลากกระเป๋าขึ้นลิฟมาส่งถึงในห้อง
ตอนนั้นไม่ทันคิด
แต่ถ้าคิดก็จะไม่ให้ทำนะ
เพราะเราไปคนเดียว
ถ้ามันปิดประตูทำอะไรเรานี่จบเลยนะ
แต่โชคดี น้องมิได้ทำอะไรเจ้ เจ้รอดมาได้เพราะหน้าตาเจ้แท้ ๆ ก๊าก ๆ
เลือกโรงแรมนี้เพราะห้องน้ำ พูดเลย
เวลาเราจองโรงแรม สิ่งแรกที่เราดูเลยคือห้องน้ำ
เราชอบห้องน้ำใหม่ ๆ modern ๆ ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์มาก ชอบฝุด ๆ









คิดดูว่า
เครื่องลงบ่าย 3
แต่กว่าจะถึงห้องล่อไปทุ่มครึ่งจ้ะ
เพราะได้ขึ้นรถตอน 5 โมงเย็น
ถึงตอน 6 โมงครึ่งได้มั้ง กว่าจะลากถู รอรถไฟฟ้า ลากไปหาโรงแรม ซึ่งมันก็ไกลอยู่
ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าขนาดนั้น
อ่อ แล้วเราก็แวะซื้อซิมด้วย
ด้วยความที่งก ไม่ได้ซื้อที่สนามบิน 20 ริงกิต
เลยหาซิมที่ในเน็ทรีวิวว่ามีถูก ๆ
ก็เข้าไปหาใน 7-11 แม่ง มีขั้นต่ำ 30 ริงกิต
เลยเดินออกมาหาร้านอื่น
อิน้องพม่านั่นก็พามาหาแขกร้านนึง ซึ่งเป็นเพื่อน ๆ รู้จักคุ้น ๆ หน้ากัน
เป็นตู้ขายซิมอยู่ตรงถนนใหญ่
คุยไป คุยมาได้ 15 ริงกิต ฮ่วย คุยไปคุยมาแม่งไม่ต่างจากสนามบินเลย ที่สนามบินได้ 1-2 GB นี่แหละ
ไอ้นี่มีแค่ 500 mb โซเชี่ยลได้อย่างเดียวแล้วแม่งช้ามาก
รับส่งรูปก็ช้า โทรไลน์กลับบ้านก็ขาด ๆ หาย ๆ นี่แหละน้าความงก


แต่ก็เอามา
อิแขกพนักงานขายก็ถามใหญ่ มาคนเดียวเหรอ
มาจากประเทศอะไร พักอยู่โรงแรมไหน
แต่เราก็แค่บอกว่า อืม มาคนเดียว มาจากเมืองไทย จบ
ใครจะไปกล้าบอกว่าพักโรงแรมไหน
กูเจอมึงครั้งเดียวก็พอแล้ว
แต่อิน้องพม่านั่นรู้ถึงห้องเราเลยจ้ะว่าเราพักโรงแรมไหน ห้องไหน (ไม่น่าเล้ย)

หลังจากเก็บของเข้าโรงแรม ไลน์บอกแฟนคลับ เหล่าป๊าม้า เพื่อนตัวเอง เพื่อนที่ทำงานเรียบร้อนว่าถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย
ก็ได้เวลาไปหาสาวจีนมาเลกันแล้ว

เราก็ไปทางเดิมเลยคือ ไปรถไฟฟ้า
เพราะยังโง่อยู่ว่าจริง ๆ นั่ง grab หรือ uber เนี่ย
ทั้งถูกกว่า รับถึงที่ ไม่ต้องไปเจอคนเยอะ ไม่เหม็น
ไม่ต้องไปเจอสายตาจ้องมองจากแขกที่บ่งบอกเลยว่าจะฉุดกูให้ได้



บนรถไฟฟ้าตอนทุ่มครึ่งเป็นอะไรที่อนาจมาก
เพราะคนรอเยอะมากกกกกกกกกกกกก
แล้วกว่ารถไฟฟ้าจะมาแต่ละคันก็นานมากกกกกกกกก
ขบวนแรกมาก เราก็ขึ้นไม่ได้ และไม่อยากขึ้นด้วย
เพราะต้องไปเบียดกับแขกที่แสนล้านคนในนั้น กูไม่อยากจะคิดถึงกลิ่นเลยทีเดียว
พอรอคันที่สอง โห นานมากกกกกกกกกกกก
จนอิป้าข้าง ๆ ซึ่งมาทีหลัง แต่เดินเบียดขึ้นมาอยู่หน้าอิชั้น มองนาฬิกาแล้วก็จิ๊จ๊ะ หงุดหงิดแล้ว หงุดหงิดอีก
เออ กูก็หงุดหงิดเหมือนกันเนี่ย
กว่าอีกขบวนจะมา คือต้องกลั้นใจขึ้นมาก
เข้าไปก็........เหม็นกลิ่นแขกอย่างที่คิดไว้ แรงกว่าที่คิดไว้อีก
นี่ขนาดมาเลนะ กูไม่ไปแน่ ๆ อินเดีย



Image Hosted by PicturePush




เข้าไปก็ไปยืนข้างตี๋จีนคนนึง
แล้วก็มีการถามเรื่องสถานี
แต่ฮีก็งง ๆ เหมือนกัน เพราะบอกว่าไม่ค่อยได้ขึ้น ทุกทีขับรถ
เออ ตี๋หมวยที่นี่ส่วนใหญ่ขับรถน่ะ ที่ขึ้นรถไฟฟ้าแม่งเลยมีแต่แขก
แค่ 5 สถานี แต่มีความรู้สึกว่ามันนานมากกกกกกกกกกก
เพราะเหม็นและมึนมาก แถมในขบวน น้ำหยดติ๋ง ๆ ใกล้ ๆ ตรีนอีกต่างหาก
แขกผู้ชายที่นั่งใกล้ ๆ บริเวณที่เห็นเราได้ก็จ้องมองเราตลอดเวลา
จนเราต้องชวนอิตี๋จีนคุย แต่อิตี๋จีนก็ไม่ค่อยคุยหรอก เพราะมันก็ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ
เราจะเล่นมือถือก็กลัวจะเลยป้าย เพราะมันก็มีบอกสถานีต่อไปนะ แต่เบามาก จนเราไม่ได้ยิน
ทำได้เพียงนับเอา 5 สถานี เป็นประสบการณ์การอยู่ในดงแขกที่เลวร้ายมาก หลอนมาก

เดี๋ยวตอนหน้ามาเล่าเรื่องความหลอนแล้วรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยยังไงนะจ๊ะ
เขียนมายาวมากแล้ว แล้วก็เข้าใจว่าคุณผู้อ่านก็อ่านมานานมากแล้วด้วย
ติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้นะคะ
ซีรี่ย์มาเลย์รวมทุกตอน




ใครเพิ่งมาอ่านบล็อคนี้ครั้งแรก
ลองกลับไปอ่านตอนแรก ๆ ก่อนได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะคะเพื่อความต่อเนื่อง



เที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด

เที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด ตอนที่ 2

เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด

เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด ตอนที่2

เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สาม...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด

เที่ยวมาเลย์คนเดียววันสุดท้าย...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด จบ





อ่านแล้วเม้นท์ให้กำลังใจหน่อยนะจ๊ะ
อย่างน้อยจะได้รับรู้ว่าก็มีคนอ่านอะไรยาว ๆ ที่เราใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งพิมพ์เหมือนกันนะ
รักคนอ่านนะคะ


บล็อคนี้ไม่ใช่บล็อคแรกที่ไปเจอหนุ่มทางออนไลน์นะแจ๊ะ
เคยไปเจอแล้วทั้งสิงคโปร์และฮ่องกง
ตามไปอ่านประสบการณ์ฟิน ๆ ของหนุ่มที่เราไปเจอเมืองนอกกันต่อได้เล้ย

อันนี้ของสิงคโปร์


ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 1




อันนี้ของฮ่องกง


เครื่องลงฮ่องกงปุ๊บก็นัดบอดหนุ่มฮ่องกงมากินข้าวมื้อแรกด้วยกันเล้ย


อันนี้คือประสบการณ์ความเซ็งเมื่อไปเจอหนุ่มตี๋อินเตอร์ใน กทม เนี่ยแหละ


รวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 1


รวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 2



รวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 3




ส่วนอันนี้ ประสบการณ์การเล่น tinder
ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่เล้ย
เชิญเสพย์ต่อด้านล่างจ้ะ
เจ้ไม่ได้มาเล่น ๆ เจ้เล่นจริงจัง เก็บมาเม้าได้หลายบล็อคเลย ฮา ๆ


เม้าฝรั่งที่เจอในแอพ tinder หลังจากเพิ่งเล่นได้แค่อาทิตย์เดียว

เสียเซลฟ์กับหนุ่มใน tinder อีกละ

เรามาอ่าน tinder profile ขำ ๆ แย่ ๆ หรือสร้างสรรค์กันดีกว่า

มาอ่าน tinder profile ขำ ๆ กันต่อดีกว่า

มาอ่าน tinder profile สนุก ๆ ฝึกภาษากันต่อนะ

เม้าเรื่องที่แชทคุยกับหนุ่มสิงคโปร์

แชทคุยกับคนปลกหน้าที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกว่า 4 ชม. เกี่ยวกับด้านมืดของเธอ

ลองให้หนุ่ม ๆ ทายหัวข้อนิทรรศการภาพถ่ายนึง มาดูซิหนุ่มแต่ละอาชีพทายกันว่าอะไรบ้าง

เม้าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้แชทกะคนสิงคโปร์

คุยมาก็หลายเดือน ถึงเวลาเอาตัวเองบินไปเจอหนุ่มซักทีปีหน้า

นัดหนุ่มที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเข้าไปจับกันในความมืดเป็นชั่วโมง แล้วไกด์ก็ฮามาก ได้ใจสุด ๆ

นัดเจอหนุ่มทางเน็ทครั้งแรก แต่หนุ่มไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 3!!!!


เรื่องเศร้า ๆ เคล้าคำพูดแย่ ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่คุยด้วยจากใน tinder


แชทน่ารัก ๆ ฟิน ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่ได้คุยด้วย








Create Date : 10 มิถุนายน 2560
Last Update : 5 สิงหาคม 2560 22:43:43 น. 1 comments
Counter : 4258 Pageviews.

 
รออ่านอยู่นะคะ มาเลไม่เคยคิดจะไปเลยอ่าา มันดูน่ากลัว


โดย: Kate IP: 124.120.200.171 วันที่: 11 มิถุนายน 2560 เวลา:19:03:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.