พรจากฟ้า




#พรจากฟ้า #12ธันวาคม2559 #19ธันวาคม2559
พรจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พรที่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกนานแค่ไหน ก็ยังคงอยู่กับเราเสมอ เพราะท่านยังคงอยู่ในใจเราเสมอ

ได้มีโอกาสไปงานแถลงข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว แล้วก็ทิ้งร้างมาสามอาทิตย์เพิ่งได้มาดูหนังจริง ชอบมากกกกกกกกกก วันนี้เปลี่ยนภาพของเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว เป็นเรื่องราวของรัชกาลที่ ๑๐ ล่ะ ไอ้ลี่ก็ยังเหมือนเดิม แค่เห็นหน้าเห็นชื่อรัชกาลที่ ๙ น้ำตาก็หยดแหมะซะล่ะ





ไล่ยาวไปถึงงานแถลงข่าวก่อน ความตั้งใจอยากไปหามิว แต่... ไม่เจอ เจอแต่แม่มิว 555 ไปตามติดอยู่ที่พระเอกทั้งสาม นาย... เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ ท่าทางเหมือนหยิ่ง แต่ไม่หยิ่ง เฟรนลี่มาก คุยเล่นกับแฟนคลับตลอด แฟนคลับขอให้ทำอะไร ทำให้ทู้กกกกอย่าง แต่เวลาถ่ายรูปด้วยก็เป็นสุภาพบุรุษมากกกกก







พี่เต๋อ... เจอครั้งที่สองหลังจากเจอครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว 5555 น่ารักอ่ะ ฮาดี ไปขอเซลฟี่ แต่ดันเปิดกล้องหลัง พี่แกก็ "เอ๊า เอาแล้ววววว" แซวเล็กๆ ปลื้มอ่ะ แต่พี่เต๋อเล่นแซ็กโซโฟนเพราะนะคะ

ซันนี่... เคยเจอล่ะ แต่ก็ยังฮาเหมือนเดิม ดูเท่มากเวลาเล่นกีต้าร์
วี...ไม่เจอหนังโรงแต่มาเจอตรงทางออกที่จอดรถ ใส่รองเท้าแตะ วิ่งแต๊กๆไป ตามเรียกไม่ทัน ตัวจริงน่ารักมากกกกก ตัวเล็กๆ
หนูนา...นางมีความพยายามในการเล่นดนตรีมาก อีกคนที่ขอพูดถึงคือพี่เก้ง ผู้กำกับเรื่องของพี่เต๋อและหนูนา พี่มีความะยายามในการเล่นดนตรีมากค่ะ ถึงแม้ว่าเสียงยังแปร่งๆ แต่หนูชอบนะคะ 555

(รูปซันนี่ไม่รู้หายไปไหน ส่วนวี หนูนาและมิว สามสาวไซส์เอส ไม่ได้ออกมาให้ถ่ายรูปด้วยเบยยยยย)

รูปบรรยากาศงานแถลงข่าว




พี่เต๋อ หนูนาและพี่เก้ง ผู้กำกับ



มิว ซันนี่ และต้น นิธิวัฒน์ ผู้กำกับ แถมข้างด้วยนักดนตรีอย่างพี่เต๋อ หนูนาและพี่เก้งพร้อมเครื่องดนตรีคนละชิ้น อิอิ



มิว ซันนี่ และต้น นิธิวัฒน์ ผู้กำกับ







นาย วี และผู้กำกับ หมูและปิง



ภาพรวมนักแสดงและผู้กำกับ



เตรียมพร้อมสักหน่อยก่อนบรรเลงเพลงยามเย็มให้พวกเราฟัง เพราะมากๆ เลยค่ะ ตามไปดูในไอจีเราได้นะคะ

ผ่านมาอีกสองสัปดาห์เราถึงได้ไปดูที่พารากอน เป็นหนังที่ไม่คาดหวังอะไรเลย แค่มีความรู้สึกว่าอยากดูเท่านั้น



เปิดเรื่องมาเรื่องบีม(นาย) นักเรียนทุนรัสเซีย กะแป้ง(วี) นักร้องที่มาแสดงในงานเลี้ยง เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเพลง "ยามเย็น"แรกๆ เราก็เออ.. เอ๋อไปนิด เหมือนยังจูนไม่ติด แอบงงๆ แต่แป๊ปเดียวก็โอเค ตามเรื่องได้ วีกับนายเล่นดีกว่าที่คิดมากกกกก ด้วยแผลที่สดมากของแป้ง พอโดนสะกิดหน่อยก็น้ำตาหยดแหมะ บทร้องไห้ของวี แค่นายแตะปุ๊บน้ำตาหยดปั๊บ เริ่ด! แอบดีใจพี่โก้มาเล่นด้วยถึงแม้จะมาในบทอ่อง แฟนหนุ่มแอบเลวของแป้ง ส่วนนาย ทำไมเราคิดว่านายยังดูเจ้าชู้ไม่ค่อยขึ้นอ่ะ แต่ชอบที่บีมกับแป้งโต้ตอบกันดีนะ เป็นอะไรที่แบบไม่ได้ดูเยอะเกินไป นายดูหยอดตลอดแต่ไม่ได้ดูล้นอ่ะ



เป็นความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ดูแล้วยิ้มตาม มีฉากนึงที่ชอบคือที่แป้งถามบีม "เขาอยู่กันได้อย่างไรเป็น 20-30 ปี เจอหน้ากันทุกวันไม่เบื่อเหรอ?" เป็นฉากที่คิดตามแล้วน้ำตาไหลแหมะเลย คือเป็นอะไรที่น่ายินดีและซาบซึ้งมากถ้าจะมีใครสักคู่ที่อยู่ได้ไปได้นานอย่างมีความสุข






อีกอย่างที่ชอบมากคือชอบ body percussion เพลงยามเย็น จังหวะดี มาพร้อมๆ กับเสียงเพราะของวี เพราะมากกกกกกกก "โอ้ยามเย็น จวบยามนี้เป็นเวลาสุดอาวรณ์ ยามไร้ความสว่างห่างทินกร ยามรักจำจะจรจากกันไป..." จบด้วยความรู้สึกดีๆ ปลื้มปริ่ม





มาถึงเรื่องที่สอง



เป็นเรื่องของฟา(มิว) และเอ(ซันนี่) ช่างจูนเปียโน แค่เห็นหน้าซันนี่ก็ขำแล้วอ่ะ มิวเล่นต่อเนื่องมาจากเรื่องแรก ลาออกมาเพื่อดูแลพ่อที่อัลไซเมอร์แทนแม่ที่เพิ่งเสียไป  มิวนี่เรียกน้ำตาตามได้ทุกฉากจริงๆ



ส่วนซันนี่ก็มาเสียงเสียงหัวเราะ ตัวเอ ดูเหมือนไม่มีอะไรเด่นแต่เป็นตัวที่ทำให้เรื่องราวเดินไปต่อได้







ชอบตามฉากจบที่เล่นเปียโนแล้วพ่อเต้นรำไปด้วย ด้วยทำนองของเพลง still on my mind เป็นอะไรที่ชอบเพลงนี้อยู่แล้วถึงแม้ว่าจะร้องไม่ได้ก็ตาม 555 ตรงกับหนังที่บอกถึงว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องราวทั้งหมดยังคงอยู่ในดวงใจนิรันดร์ มีพี่เต๋อโผล่มานิดๆ เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย





และเรื่องสุดท้ายคือ "พรปีใหม่"



เป็นเรื่องของหลง(พี่เต๋อ) จากนักร้องวงร็อคสู่พนักงานบริษัท และคิม(หนูนา) พี่เต๋อเปิดตัวด้วย "ผม หลง ครับ" ฮาเลยจ้าาาาา เรื่องนี้เชื่อมต่อเรื่องราวที่แล้วคือหลงมาทำงาน นั่งที่โต๊ะของป้าฟ้า ที่ได้มาร่วมวงป้าฟ้า วงที่หลายคนในบริษัทร่วมกลุ่มกันเพื่อเล่นดนตรีตามใจรัก จนกระทั่งก่อให้เกิดการขออนุมัติสร้างห้องซ้อมดนตรี โดยมีผู้จัดการ...คุณสุพรรณิการ์คือแม่ของบีมที่ต้องฟังเพลงของหลงมาตั้งแต่บีมอยู่มอสาม มาช่วยเสนอการขออนุมัติในที่ประชุม



เรื่องนี้ชอบทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรีที่เพราะมาก ไพเราะมาจากคนที่เราไม่ต้องรู้จักว่าเป็นใคร ฟังด้วยเสียงร้องและเสียงดนตรีไม่ต้องดูหน้าตาเลย ปิดท้ายเรื่องด้วยเพลงพรปีใหม่



"สวัสดีวันปีใหม่พา
ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม
ต่างสุขสมนิยมยินดี
ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า
ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี
ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย
ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์
ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่
ผองชาวไทยจงสวัสดี
ตลอดปีจงมีสุขใจ
ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์
สวัสดีวันปีใหม่เทอญ"





เนื้อเรื่องทั้งสามข้ามกันไปคนละปี ตั้งแต่ธันวาคม 2014 จนจบที่ธันวาคม 2018 จบด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทุกคน บีมขอแป้งแต่งงาน ฟากับเอก็อยู่ในครอบครัวเลี้ยงฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุข และคิมกับหลงก็อยู่ในบริษัทที่มีแต่เสียงเพลง




ชอบในการต่อเรื่องของทั้งสามเรื่องย่อ เชื่อมโดยเราไม่รู้สึกสะดุดว่าเป็นคนละเรื่องราว เชื่อมโดยทั้งสามเรื่องยังคงมีความเกี่ยวพันกันอยู่ของตัวละคร (อย่างฟาก็เป็นคนจัดงานเลี้ยงนักเรียนทุน คิมคือพนักงานบริษัทเดียวกับป้าฟ้าแม่ของฟา หลงคือลูกชายของร้านตัดสูทที่ลุงป้อมพ่อของฟาไปตัด คุณสุพรรณิการ์คือแม่ของบีมที่เป็นหัวหน้าของหลงกับคิม) ชอบการแสดงของทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำทั้งหกคนที่เล่นได้ดีทุกคน นายกับวี ถือว่าเป็นการดูการแสดงครั้งแรกของทั้งสองคน เล่นได้ดี เคมีเข้ากันดี ชอบคู่นี้ที่สุดแล้ววววว วีน่ารักร้องเพลงเพราะ นายก็... นั่นแหละอย่างที่ทุกคนรู้ 555 มิวไม่ต้องพูดถึง เรียกน้ำตาได้ดีมากกกกกก หนูนา บทไม่หนักเหมือนมิวแต่เล่นดี น่ารักดูเป็นธรรมชาติ พี่เต๋อ ซันนี่ แค่เห็นหน้าก็ฮาล่ะ ขำหนักสุดคงเป็นพี่เต๋อตอนร้องเพลง "Fight for your dreams" หรือแม้กระทั่งนักร้องนักดนตรีที่ออกมาไม่กี่ฉาก และยังชอบที่ยังนั่งร้องไห้กับเรื่องของฟาแล้วก็หัวเราะต่อกับเรื่องของหลง กลายเป็นหัวเราะทั้งน้ำตา อ้อ อีกอย่างคือเป็นหนังที่ไม่ต้องลงดนตรีมากแต่เรารู้สึกไปกับมันด้วย จังหวะทุกอย่างก็ลงตัว มาให้หัวเราะด้วย

เรื่องนี้ได้ดูสองรอบ รอบแรกดูที่พารากอนได้ตั๋วมาจากเฟซบุ๊คของดอยคำ รอบที่สองมาดูที่ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต รอบนี้ได้ตั๋วมาจากเมเจอร์ สองใบ + เป๊ปซี่อีกสองแก้ว ดูไปสองรอบ ก็ยังคงนั่งหัวเราะ นั่งร้องไห้ได้เหมือนเดิม





ใครที่อยากจะไปดู ตอนนี้ยังมีฉายอยู่ทุกโรงภ่พยนตร์ ราคาที่นั่งละ 99 บาทเอง รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนเข้ามูลนิธิพระดาบสด้วยนะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ไปดูหรือไม่มีเวลาไปดูจะมารอดูในวันที่ 30 ธันวาคมที่ช่อง one ได้นะคะ ส่วนเวลายังไม่แน่ใจ หากทราบแน่นอนแล้วจะตามมาบอกอีกทีนะคะ

#บอกข่าว
 พรจากฟ้า..ฟังด้วยหู..ดูด้วยใจ
เพราะภาพยนตร์คือความสุขของทุกคน..

GDH และ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น
ขอส่งต่อความสุขกับกิจกรรมรอบพิเศษเพื่อผู้พิการทางสายตา ด้วยการฉายภาพยนตร์ที่มี Audio Description (เสียงบรรยายภาพ) ผ่านระบบDolby 5.1 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกับภาพยนตร์ พรจากฟ้า ระบบปกติ

ในวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ที่โรง 15 โรงภาพยนตร์  SF WORLD Cinema @ เซ็นทรัลเวิลด์
10:30 น. : ผู้ชมลงทะเบียนรับบัตร ที่ชั้น 9 หน้าโรง 15
11:30 น. : เริ่มฉายภาพยนตร์ พรจากฟ้า
14:00 น. : ภาพยนตร์จบ เริ่มงานแถลงข่าวบนเวที ภายในโรงพร้อมโชว์จากผู้กำกับและนักแสดง

ผู้ที่สนใจสามารถโทรมาลงชื่อ เพื่อชมภาพยนตร์ พรจากฟ้า รอบพิเศษสำหรับผู้พิการทางสายตา ฟรี!! ได้ที่สถาบันคนตาบอดแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนา
02-2463835 ext. 310-312 ตั้งแต่วันนี้ - 22 ธันวาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 10:00-16:00



Create Date : 21 ธันวาคม 2559
Last Update : 21 ธันวาคม 2559 22:06:00 น.
Counter : 3641 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Leelee LifeStyle
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
21 ธันวาคม 2559
All Blog