10 วิธีที่จะช่วยให้เราข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ ถ้าเราเตรียมพร้อม !!
"การกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อย่าปล่อยให้มันมีอิทธิพลในชีวิตของคุณ"
คนเราทุกคนเมื่อเรียนจบก็ต้องหางาน ทำงาน แต่งงาน มีลูก และเกษียณ ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า "แล้วยังไงต่อ?" คำตอบก็อาจจะเป็น "ไม่รู้สินะ ยังคิดอะไรไม่ออก" แต่ถ้าคุณมีแผนอยู่ในใจแล้ว ก็บอกให้โลกรู้ไปเลย อย่ากลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไรคุณมักจะพิจารณาจากประสบการณ์ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต
"เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง เนื่องจากคุณต้องอยู่กับตัวเองไปจนตราบนานเท่านาน"
หา โอกาสเพิ่มพูนประสบการณ์และความสนใจใหม่ๆ ขัดเกลาทักษะและความรู้ รวมถึงต้องซื่อสัตย์กับตัวเองด้วย ควรให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วค่อยตามด้วยความ ต้องการของคนที่คุณรัก ยิ่งคุณรักและมองเห็นคุณค่าของตัวเอง มากเท่าไร คุณก็ยิ่งรักและเคารพสิ่งที่คุณให้และรับจากผู้อื่นมากเท่านั้น
"การวางแผนเรื่องเงินในปัจจุบัน จะยิ่งเพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยในอนาคตข้างหน้า"
ไม่ ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มทำงานครั้งแรกหรือเตรียมตัวที่จะเกษียณ คุณควรวางแผนและเป้าหมายในการออมและใช้จ่ายเงิน สิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณสามารถรับผิดชอบการกระทำและทางเลือกของตัวเองได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างรากฐานของความอิสระด้วย แม้ว่า คุณจะออมเงินแค่สัปดาห์ละ 100 บาท แต่ตลอดทั้งปีมันจะงอกเงยขึ้นมาเป็น 5,200 บาทเลยทีเดียว
"การวาดฝันถึงความสัมพันธ์กับใครสักคน และการหาความสงบสุขหลังจากที่อกหัก อันที่จริงสองอย่างนี้คือเรื่องเดียวกัน ต่างกันแค่ตรงเปลือกหุ้มเท่านั้น"
หากคุณรู้สึกกังวลใจในเรื่องความสัมพันธ์หรือกำลังรักษาแผลใจ หลังจากที่เลิกรากับคู่สมรสที่แต่งงานกันมาตั้งแต่หนึ่งเดือนไปจนถึง 25 ปี เชื่อไหมว่าความรู้สึกโหยหาความรักจากทั้งสองเหตุการณ์นี้ไม่แตกต่างกันเลย คุณอาจรู้สึกเหงาหรือรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อไม่มีใครอยู่เคียงข้าง แต่ประเด็นคือ จริงๆคุณสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองนะ และหากมีคนที่ใช่ปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆ คุณก็สามารถสร้างอนาคตและใช้ชีวิตไปพร้อมๆกันได้แม้จะแตกต่างกัน
"การเฝ้าติดตามความสัมพันธ์ และเรื่องราวชีวิตของคนอื่น อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า โดยเฉพาะเมื่อคุณเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย"
การใช้เวลาหมดไปกับการคิด การถกเถียง และพูดซ้ำแต่เรื่องเดิมๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่าการเป็นครอบครัวและเพื่อนที่ดีคือการเป็นที่พักพิงในยามทุกข์ หรือแบ่งปันเสียงหัวเราะกันในยามเฮฮา แต่ควรฟังและให้คำแนะนำ อย่างมีเหตุผลและขอบเขต บางทีคุณต้องเอาตัวให้รอดก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่นนะ
"การวัดความสำเร็จของตัวเองโดยเทียบกับความสำเร็จของคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ดี"
หากเพื่อนหรือคนสำคัญของคุณตัดสินใจที่จะเป็นทนายความขณะที่คุณอยากเป็นครู นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวเลือกของคุณที่ต่างจากของคนอื่นจะไร้ความสำคัญ ทุกคนล้วนมีด้านที่ตัวเองถนัดและสามารถประสบความสำเร็จได้
"หาเวลาอยู่กับผู้สูงอายุ และศึกษาประสบการณ์ชีวิตจากคนเหล่านั้น จากนั้นก็แบ่งปันความรู้กับผู้ที่อายุน้อยกว่าคุณ"
ทั้ง ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา พ่อแม่พี่น้อง เพื่อน คุณครู และเพื่อนร่วมงาน ทุกคนล้วนผ่านทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมาแล้ว พวกเขาจะบอกเล่า ถึงความผิดพลาดและการประสบความสำเร็จในอดีต พร้อมกับชี้แนะแนวทาง ในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ให้กับคุณ ซึ่งคำแนะนำและประสบการณ์เหล่านี้ แหละที่จะติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
"การใช้เวลาเพื่อดูแลตัวเองจะช่วยเสริมสร้างนิสัยที่ดีในระยะยาว"
คุณควรเริ่มดูแลจิตใจ ร่างกาย และความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนยาว คุณไม่ควรรับประทานอาหารหรือของหวานตามใจปากมากเกินไป แต่ควรรับประทานทุกอย่างแต่พอดี
"การนอนหลับเพื่อกระตุ้นจิตใจและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง จะช่วยทำให้คุณมีพลังทำตามความฝันได้อย่างเต็มที่"
การอดหลับอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอจากการถูกรบกวนติดต่อกันหลายๆคืน ะทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม ดังนั้นควรกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการนอนหลับ เพื่อให้เพียงพอกับการที่ร่างกายจะเปลี่ยนความอิดโรยให้เป็นพลังงาน
"การใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก และเป็นห่วงเราจริงๆ จะยิ่งทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเอง"
หากใครรู้สึกดีกับคุณ คุณจะรู้สึกได้ ทั้งสายตาที่เขามองคุณและความสนใจในสิ่งที่คุณพูด และพวกเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ แต่ถ้าคุณเจอคนที่จ้องแต่จะหาเรื่อง และทำให้คุณรู้สึกตกต่ำลงไปเรื่อยๆ อย่าไปทน! กรุณาเดินหนีออกมาเลย
Thank you ♥ เรื่องจาก yenta4.com รูปจากอินเตอร์เน็ต
Create Date : 28 มีนาคม 2558 |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2558 12:31:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1044 Pageviews. |
|
|