นักแสดงตลก อซิซ อันซารี (Aziz Ansari)
ได้ร่วมมือกับ เอริก ไคลเนนเบิร์ก (Eric Klinenberg)
สำรวจคนโสดหลายร้อยคนทั่วโลกเกี่ยวกับวิธีติดต่อคู่เดตในยุคดิจิทัล พบว่า
►► โทรศัพท์มือถือหรือโปรแกรมแชตออนไลน์ต่างๆ
คือเครื่องมือสำคัญในการช่วยสานสัมพันธ์ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
►► เวลาที่ดีที่สุดในการส่งข้อความครั้งแรกคือ
ภายในวันเดียวกันกับที่คุณไปเจอคนที่ชอบมา
โดยหลีกเลี่ยงการส่งข้อความที่ให้ความรู้สึกสนิทสนมจนเกินไป
อาจจะลองเล่นมุกตลกดูบ้าง และที่สำคัญควรใช้ภาษาให้ถูกต้อง
►► อย่าส่งข้อความตอบกลับในทันที เพราะมันแสดงให้เห็นว่า
คุณกระตือรือร้นอยากคุยมากเกินไป และดูเหมือนไม่มีอะไรให้ทำในชีวิต
►► การเดตแบบน่าตื่นเต้นจะช่วยให้คุณรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น
เพราะการส่งข้อความไม่สามารถแทนการทำความรู้จักแบบตัวต่อตัวได้หรอก
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมทักคนที่ชอบไปแล้วเขาไม่ตอบ?
เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับหน้าตา และความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบเพียงอย่างเดียว
เพราะข้อความที่ส่งไปแต่ละครั้งก็มีผลที่อาจทำให้อีกฝ่ายไม่อยากตอบ
หรือสานความสัมพันธ์กับคุณ
จากหนังสือ Modern Romance ที่นักแสดงตลก อซิซ อันซารี (Aziz Ansari)
ได้ร่วมมือกับ เอริก ไคลเนนเบิร์ก (Eric Klinenberg) สำรวจคนโสดหลายร้อยคนทั่วโลก
เกี่ยวกับวิธีติดต่อคู่เดตในยุคดิจิทัลพบว่า โทรศัพท์มือถือหรือโปรแกรมแชตออนไลน์ต่างๆ
คือเครื่องมือสำคัญในการช่วยสานสัมพันธ์ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้
พวกเขายังพบอีกว่าหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับมารยาทในการส่งข้อความไปหาอีกฝ่าย
และถ้าคุณคือหนึ่งในนั้นที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ละก็ ไม่ต้องกังวลไป
ลองทำตามเคล็ดลับการส่งข้อความบางส่วน
ที่อันซารีและไคลเนนเบิร์กได้แนะนำไว้ในหนังสือดูก่อน
1. อย่ารอช้าที่เป็นคนเริ่มส่งข้อความก่อน ◄◄◄
คุณรู้จัก 'กฎ 3 วัน' หรือเปล่า?
มันคือกฎที่ใช้สำหรับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก
โดยอีกฝ่ายจะรอ 3 วันก่อนที่จะทักไป
เพื่อให้ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นไม่ได้อยากคุยมากจนเกินไป
ถึงแม้ว่าเขาจะชอบอีกฝ่ายมากขนาดไหนก็ตาม
ซึ่งดูเหมือนว่ากฎนี้จะยังเป็นที่นิยม หรือกลายเป็นกฎคลาสสิกไปแล้วก็ว่าได้
แต่อันซารีและไคลเนนเบิร์กกลับบอกว่า หลังจากที่คุณไปเจอคนที่ชอบมา
'เวลาที่ดีที่สุดที่คุณควรจะส่งข้อความครั้งแรกหาอีกฝ่ายก็คือ ภายในวันเดียวกันนั้นเลย'
เพราะว่ามันจะช่วยรักษาช่วงเวลาที่โรแมนติกให้ต่อเนื่องแทนที่จะส่งในวันต่อไป
เพราะการที่เขาให้เบอร์โทรศัพท์คุณ นั่นแปลว่าเขาก็แอบมีใจให้คุณอยู่เหมือนกันนะ
2. หลีกเลี่ยงคำว่า "ว่างายยย" (Heyyy) หรือคำที่ทำให้รู้สึกสนิทสนมกันจนเกินไป ◄◄◄
อันซารีและไคลเนนเบิร์กพบว่า หนึ่งในคำที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกเซ็งหรือโมโหเมื่อได้รับข้อความ
คือ คำทั่วๆ ไปอย่างคำทักทาย เช่น 'สวัสดี' แบบไม่เข้าท่า อันซารีบอกว่า
"ผมสามารถพูดได้เต็มปากหลังจากเห็นข้อความในโทรศัพท์ผู้หญิงมาเป็นร้อยๆ ครั้งว่า
ข้อความส่วนมากที่ผู้หญิงได้รับล้วนแล้วแต่น่าเศร้า มันดูไร้ความคิด
และไม่ได้แสดงถึงทัศนคติหรือตัวตนใดๆ เลย"
ในทางกลับกันให้คุณลองพูดถึงเรื่องที่พวกคุณเพิ่งคุยกันตอนที่เจอกันครั้งแรก
เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณตั้งใจฟังเขาพูดจริงๆ
3. พยายามทำตัวให้ตลก ◄◄◄
บางทีคุณอาจจะลองเล่นมุกตลกดูบ้าง อันซารีบอกว่ามันอาจจะช่วยให้คุณดูดีขึ้น
เพราะมันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่เครียด แถมยังกลายเป็นเรื่องที่น่าจดจำอีกด้วย
อย่างไรก็ตามอย่าพยายามมากเกินไปหากคุณไม่ได้เป็นคนตลก
เพราะบางทีมันอาจจะดูเยอะเกินและบางมุกตลกก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ
ซึ่งอาจจะทำให้คุณกลายเป็นหนุ่มหรือสาวจืดไปเลยก็ได้
4. ส่งข้อความในเวลาปกติ ◄◄◄
เวลาที่ดีที่สุดในการส่งข้อความคือตอนเที่ยงหรือบ่าย
อย่าพยายามส่งข้อความตอนเช้าหรือดึกเกินไป เพราะไม่เช่นนั้น
คุณอาจจะเสี่ยงต่อการปลุกอีกฝ่ายและทำให้เขารำคาญได้
5. อย่าตอบข้อความกลับในทันที ◄◄◄
จากผลสำรวจโดยการสนทนากลุ่ม (focus group)
อันซารีและไคลเนนเบิร์กพบว่า โดยทั่วไปแล้วคุณไม่ควรส่งข้อความตอบกลับภายในทันที
เพราะ 'การส่งข้อความตอบกลับทันทีนั้นเห็นได้ชัดว่าคุณกระตือรือร้นอยากคุยมากเกินไป'
แต่ให้รอสักประมาณ 1-2 ชั่วโมงแล้วค่อยตอบ จะทำให้คุณกลายเป็นที่น่าพอใจ
เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณมีสิ่งอื่นในชีวิตที่ยังต้องทำ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
อย่าให้อีกฝ่ายรอนานเกินไป มันอาจจะทำให้รู้สึกว่าคุณไม่สนใจเขาเลย
6. ใช้หลักไวยากรณ์และสะกดให้ถูกต้อง ◄◄◄
การใช้คำย่ออย่าง "Plz" หรือ "dk" หรือที่วัยรุ่นชอบใช้ในภาษาไทย
อย่าง "พน" (พรุ่งนี้) หรือ "มปร" (ไม่เป็นไร)
อาจจะดูโอเคสำหรับการส่งข้อความหาเพื่อน
แต่อันซารีและไคลเนนเบิร์กบอกว่า
"คุณควรส่งข้อความอย่างถูกต้องตามหลักภาษาไปหาคนที่คุณชอบ"
จากการสำรวจด้วยการสนทนากลุ่มเกือบทุกกลุ่มบอกว่า
"การใช้ภาษาแบบผิดๆ คือเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะไม่คุยต่อ"
เพราะการส่งข้อความแบบย่อทำให้คุณดูเป็นคนเป็นคนโง่และขี้เกียจ
7. มีการวางแผนที่ชัดเจน ◄◄◄
หลีกเลี่ยงการใช้คำทั่วไปอย่าง "ว่าไง" หรือ "ไปเที่ยวกัน"
โดยอันซารีแนะนำว่าให้ชวนคนที่คุณชอบไปเที่ยว หรือทำอะไรที่เจาะจง
พร้อมกับเวลาที่แน่นอน เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณสนใจ
ที่จะใช้เวลาร่วมกับอีกฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดไปอย่างนั้น
8. ไปเจอกันบ้างเพื่อรู้จักตัวตน ◄◄◄
"การส่งข้อความไม่สามารถแทนการทำความรู้จักแบบตัวต่อตัวได้หรอก"
อันซารีแนะนำว่า เมื่อคุณเริ่มวางแผนเดตแรก อย่าพาคู่เดตไปที่ธรรมดาๆ
อย่างร้านกาแฟ หรือร้านอาหาร ให้พาไปในที่ที่ตื่นเต้น อย่างเช่นไปดู Monster Truck Rally
เพราะการเดตที่น่าตื่นเต้นจะช่วยให้คุณเห็นตัวตนของอีกฝ่ายได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า อย่าเอาแต่จ้องมองคู่เดตจากอีกฝั่งของโต๊ะอาหารพร้อมจิบกาแฟ
และพูดคุยเรื่องทั่วไปอย่าง เรื่องครอบครัว บ้านเกิด หรือมหาวิทยาลัย อาจจะทำให้
คุณเสียเวลาในการสานความสัมพันธ์ ถึงแม้ว่าคู่เดตของคุณอาจจะดูโอเค
แต่ลองคุยเรื่องที่มันแสดงถึงความคิด ทัศนคติดูบ้าง
เพราะจริงๆ แล้วเขาอาจจะมีดีมากกว่าที่คุณคิด
แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่คำแนะนำ ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนกัน
เพราะบางครั้งเมื่อคุณรู้สึกชอบใครสักคน การรอ 1 ชั่วโมงเพื่อตอบกลับ
อาจจะยาวนานราวกับ 1 วัน เพราะฉะนั้นแค่ลองฟังเสียงหัวใจและทำตามดู
อ้างอิง:https://www.businessinsider.com/how-to-text-someone-you-want-to-date-2017-2
https://themomentum.co/happy-self-help-how-to-message-for-make-a-relationship