... Simplicity is Happiness ♥ ...
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
12 พฤศจิกายน 2559
 
All Blogs
 
วิธีการกำจัดรอยแผลเป็นจากสิวอย่างรวดเร็ว #3. !(•̀ᴗ•́)و ̑ ̑

การรักษาสิว วิธีการ 3. ดูแลผิวพรรณของคุณ



"ปกป้องผิวคุณจากแสงแดดอยู่เสมอ" ▲

รังสีอัลตร้าไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์จะไปกระตุ้นเซลล์ผลิตเม็ดสีของผิวหนัง
ซึ่งสามารถทำให้ลักษณะของรอยสิวแย่ลงได้ ถ้าคุณต้องใช้เวลาอยู่ท่ามกลางแสงแดด
ให้ปกป้องผิวของคุณด้วยการทาครีมกันแดด (ที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า)
สวมหมวกปีกกว้าง และพยายามอยู่ในที่ร่มให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

▲ "ใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สูตรอ่อนโยน"

บ่อยครั้งที่คนเราต่างต้องการที่จะกำจัดเจ้ารอยแผลเป็นจากสิวทั้งหลาย
และสีผิวที่ผิดปกติออกไปมากเสียจนไปใช้ผลิตภัณฑ์และวิธีการสำหรับขัดผิวทุกรูปแบบ
ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวและทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมได้
พยายามฟังเสียงจากผิวคุณดูสิ ถ้ามันมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีต่อผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งโดยเฉพาะล่ะก็
คุณควรที่จะหยุดใช้สิ่งนั้นทันที ให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนทั้งคลีนเซอร์
เมคอัพรีมูฟเวอร์ มอยซ์เจอไรเซอร์ และสครับ ซึ่งจะช่วยปลอบประโลมผิวของคุณ
มากกว่าที่จะไปทำให้ผิวอักเสบ

เวลาที่คุณทำความสะอาดหน้า ให้เลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัด เพราะน้ำร้อนอาจทำให้ผิวแห้งได้
ดังนั้นให้ลดอุณหภูมิน้ำลงมาสัก 2-3 องศา นอกจากนี้คุณยังควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้า
สำหรับเช็ดหน้า ฟองน้ำ และใยบวบที่มีความหยาบกระด้างกับใบหน้าของคุณ
เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีความอ่อนโยนและทำให้ผิวระคายเคืองได้

"ขัดผิวหน้าเป็นประจำ" ▲

การขัดหน้าจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และเผยผิวใหม่นุ่มละมุนที่อยู่ด้านล่างให้ปรากฏ
เนื่องจากรอยสิวมักมีผลกระทบแค่กับผิวชั้นบน ฉะนั้นการขัดหน้าจะสามารถเร่งกระบวนการผลัดผิว
ชั้นที่มีรอยสิวออกไปได้ คุณสามารถขัดผิวหน้าได้โดยการใช้สครับสำหรับขัดผิวหน้าโดยเฉพาะ
แค่ต้องแน่ใจว่าเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่าย

อีกทางเลือกก็คือ คุณสามารถขัดผิวหน้าด้วยผ้าขนหนูที่มีความอ่อนนุ่มกับน้ำอุ่น
โดยใช้ผ้าดังกล่าวมาหมุนวนเป็นวงเล็กๆ ให้ทั่วทั้งใบหน้า คุณควรขัดหน้าอย่างน้อย
สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และอย่างมากวันละ 1 ครั้ง หากคุณเป็นคนผิวแห้งมาก
คุณอาจต้องการขัดเพียง 3-4 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์

▲ "หลีกเลี่ยงการบีบกดเม็ดสิวและรอยสิว"

แม้ว่ามันจะยั่วยวนใจให้ทำก็เถอะ การทำเช่นนั้นกับรอยสิวจะไปรบกวน
กระบวนการที่ผิวรักษาตัวเองตามธรรมชาติ
แถมยังไปทำให้ลักษณะรอยสิวนั้นดูแย่ลงไปอีก
ในขณะที่การบีบกดเม็ดสิวก็สามารถทำให้ผิวคุณเกิดแผลเป็นได้ตั้งแต่แรก
เพราะแบคทีเรียจากมืออาจถูกส่งผ่านไปยังใบหน้าของคุณได้
ซึ่งเป็นเหตุให้สิวอักเสบและติดเชื้อ
ดังนั้นไม่ว่ากรณีใดก็ควรหลีกเลี่ยงการบีบกดสิวและรอยสิว

"ดื่มน้ำให้มากๆ และรับประทานอาหารให้สมดุล"

ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
และการคงร่างกายไม่ให้ขาดน้ำจะไม่ได้เสกให้รอยสิวหายวับเหมือนมีเวทมนตร์
แต่ก็เป็นการทำให้ร่างกายคุณได้ทำงานได้ดีที่สุด และช่วยให้ผิวรักษาตัวมันเอง
น้ำจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและคงความอิ่มน้ำเต่งตึงของผิวเอาไว้
ฉะนั้นคุณควรตั้งเป้าดื่มน้ำให้ได้วันละ 5-8 แก้ว วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ ซี และอี
ก็จะช่วยบำรุงและหล่อเลี้ยงผิวให้ชุ่มชื้นเช่นกัน

วิตามินเอพบได้ในผักต่างๆ เช่น บร็อกโคลี่ ผักโขม และแครอท
ส่วนวิตามินซีและอีพบได้ในส้ม มะเขือเทศ มันเทศ และอโวคาโด
คุณควรพยายามเลี่ยงอาหารที่มีแป้งและไขมันสูงให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
เพราะอาหารเหล่านี้ไม่ได้ให้ประโยชน์อันใดแก่คุณเลย

เคล็ดลับ การรักษาสิว

ต้องแน่ใจว่าร่างกายคุณนั้นไม่ขาดน้ำ
การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีในระยะยาว
และช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปได้เร็วขึ้นอีกด้วย ยิ่งคุณจัดการรักษารอยแผลเป็นเร็วเท่าไร
การรักษาก็จะยิ่งได้ผลมากขึ้นเท่านั้น การมีความอดทนเป็นวิธีการรักษารอยสิวที่ได้ผลดีที่สุด
รอยแผลเป็นจะค่อยๆ จางหายไปจนหมดเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน
เพราะได้คอลลาเจนใหม่มาเติมเต็มผิวบริเวณที่เป็นรอยสิว

ลองมาส์กหน้าด้วยมาส์กสูตรข้าวโอ๊ตสิ ตักข้าวโอ๊ตมา 1 ช้อนและรดน้ำให้เปียก
บีบแล้วนำน้ำนมที่ได้มาทาให้ทั่วทั้งหน้า จากนั้นนำเนื้อข้าวโอ๊ตทั้งหมดมาโปะหน้า
และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที อย่าทามาส์กข้าวโอ๊ตตรงบริเวณตาและปาก
หลังจากนั้นให้คุณล้างมาส์กออก การมาส์กหน้านี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบทันทีทันใด
แต่มันก็ใช้ได้ผลสำหรับบางคน คุณสามารถนำผงขมิ้นมาทาบริเวณที่เป็นรอยสิวได้
เพราะขมิ้นมีสารฆ่าเชื้อและต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยในการรักษาสิว
และรอยแผลเป็นบนใบหน้า สำหรับการผสมนั้น
คุณสามารถทำได้โดยนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำหรือน้ำมะนาว
เมื่อทาและปล่อยไว้ครบ 15 นาทีแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น

อีกวิธีหนึ่งคือ คุณอาจนำน้ำมะเขือเทศมาทาหน้าก็ได้
เพราะน้ำมะเขือเทศจะช่วยทำให้ผิวคุณกระจ่างใสขึ้นและช่วยลดรอยแผลเป็นได้อีกด้วย
ทาบริเวณที่มีรอยสิวด้วยส่วนผสมของน้ำมะนาว แป้ง และนม ทาน้ำมันมะพร้าวบนรอยแผลเป็น
และค่อยๆ ทาน้ำมันมะกอกบริเวณที่ยังเป็นสิวอยู่ คุณสามารถใช้แตงกวากับน้ำผึ้งก็ได้
เม็ดสิวที่กำลังปะทุจะแพร่กระจายความสกปรกผ่านทางรูขุมขนของคุณ และทำให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้น



ที่มา: https://www.chilldjung.com/views/1980
ที่มาและการอ้างอิง การรักษาสิว
↑ https://www.totalbeauty.com/content/article/fade-acne-scars ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=1 ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=1 ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=1 ↑ https://www.livestrong.com/article/251716-how-to-get-rid-of-acne-scars-on-african-americans/ ↑ https://www.huffingtonpost.com/2013/08/09/acne-scars-prevention-treatment_n_3728437.html ↑ https://www.oprah.com/style/Retinoid-Skin-Creams-Why-You-Should-Use-a-Retinoid ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=2 ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=2 ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/acne-scars?page=1 ↑ https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-1

 




Create Date : 12 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 19 ธันวาคม 2560 22:38:39 น. 0 comments
Counter : 853 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้บานริมรั้ว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]






▼ ห้อง SHOP 1 ▼

เสื้อ
แขนกุด สายเดี่ยว
แขนสั้น
แขน 3-5 ส่วน
แขนยาว กันหนาว
-------------------------
กางเกง
กระโปรง
เดรส
รองเท้า
ชุดผ้าไหม ชุดไทยๆ
ผ้าคลุมไหล่ / ผ้าพันคอ / หมวก
ตุ๊กตา

[ วิธีสั่งซื้อ ]
[ อัตราค่าส่ง & ข้อชี้แจง ]

▼ ห้อง SHOP 2 ▼

!! Clearance SALE !!
ล็อต : (A) - (O)


ล็อต : (P)
ล็อต : (Q)
ล็อต : (R)

Friends' blogs
[Add ดอกไม้บานริมรั้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.