writer's block
เปล่า ช่วงนี้ไม่มีบล็อค (แต่อาจจะต้อง touch wood สักหน่อย เพื่อไม่ให้ทวยเทพเกิดอย่างกลั่นแกล้งตูแล้วส่งมันมา)
ที่เขียนเพราะหงุดหงิดเพจที่ตามช่วงนี้ จริงๆ เป็นเพจที่ดีมาก และคาดว่ามีเงินทุนหมุนเวียนเบื้องหลังก้อนใหญ่ เพราะสามารถจะสรรหาคอนเทนต์มาได้เรื่อยๆ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แต่ที่รำคาญมากคือมันพยายามบอกว่าไรเตอร์บล็อคไม่มีในโลก เป็น myth มึงทำผิดพลาดบางประการในชีวิตจึงติดบล็อค เช่นมึงไม่เขียนเอาท์ไลน์ มึงขี้เกียจ มึงไม่เขียนทุกวัน
อา แสดงว่าท่านไม่เคยอยู่ในคืนมืดมิดแห่งจิตวิญญาณ
มันมีอะไรแบบนั้นจริงๆ นะ คืนวันที่ไม่มีคำตอบอะไรสักอย่าง ไม่รู้จะไปที่ไหน มืดไปหมดและล่องลอยอยู่ในความมืดที่ออกไปไม่ได้ แน่นอนว่านั่นอาจจะเป็นพยาธิสภาพของคนบางประเภท เช่นพวกติสต์แตก คิดมากเกินไป แต่เอาจริงๆ คนบางประเภทก็เป็นคนประเภทหนึ่งในโลก จะคาดหวังว่าคนทุกประเภทต้องไปทำนั่นทำนี่ตลอดเวลา ต้องไปออกกำลังกาย จากนั้นชีวิตจะบริ๊งค์สดใส คาดว่าคิดผิดไปโขแล้วละ
คนที่เขียนหนังสือในฐานะงาน ก็เป็นแบบหนึ่ง คนที่เขียนหนังสือเหมือนควักไส้ตัวเองมาเขียน ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง (เปล่า ตูไม่ได้ควักไส้เสมอไป ตูเป็นแค่คนธรรมดารักสบาย ควักไส้เป็นสิ่งที่ทำนานๆ ทีเมื่อโลกบังคับให้ทำ)
ที่จริงความโกรธก็ไม่ได้โกรธเพราะทางนี้เคยติดไรเตอร์บล็อค แม้จะหงุดหงิดนิดหน่อย เหมือนตูเป็นหวัด แล้วมีคนมาบอกว่า หวัดไม่มีหรอกก๊าก เป็นตำนานพื้นบ้าน เอ็งไม่ได้เป็นหวัด แค่มโนไปเอง (แล้วที่ตูไอจามเป็นไข้นั่นคืออะไรคะ)
ที่โกรธเป็นเพราะมันส่อแสดงถึงการ "ไม่ยอมรับ" ซึ่งขัดกับ principle ของตูมากเกินไป
ใน principle ของตู คนเราควรจิตตกมืดมนบัดซบได้ เพราะชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้ คนทั้งปวงควรจะมีสิทธิ์ร้องไห้ดีดดิ้น กุไปไหนไม่ได้ กุไม่รู้จะทำยังไง แน่นอนว่าอีตอนร้องไห้ดีดดิ้นมันไม่สบายหรอก แต่ถ้าไม่รับมันไว้ มันก็เหมือนปฏิเสธชิ้นส่วนหนึ่งของชีวิต อยากจะกินแต่สายไหมตลอดไปนี่ในความคิดของตูมันไม่ respectful มากๆ (ข้านับถือเทพแห่ง melancholy สินะ)
แน่นอนว่าการที่เอาจมปลักตลอดเวลาก็ไม่เวิร์คพอกัน เพราะทำให้ชีวิตหยำเหยอะไม่เคลื่อนที่ไปไหน ยิ่งดิ้นอยู่ในปลักนานเท่าไหร่ก็ยิ่งสงสัยตัวเอง จนบางครั้งก็อยากจะกระตุกแรงๆ ให้พ้นจากปลักไปเสียที พอได้แล้ว ชีวิตเมิงต้องดำเนินต่อไป
แต่ก็ยังเชื่ออยู่ดีว่า ถ้าไม่ลงปลักละก็ จะไม่เจออะไรที่ดีนะ ถ้าไม่เคยหยำเหยอะบัดซบ ไม่เคยทนทุกข์ทรมาน จะไม่เข้าใจว่าแสงสว่างปลายอุโมงค์เป็นอย่างไร การที่ไม่ยอมรับความทุกข์โศก ความล้มเหลว การกลับไม่ได้ไปไม่ถึงทางจิตวิญญาณบางอย่าง การไม่ยอมอดทนรอ การไม่ยอม contemplate เอาแต่คิดว่า "แก้ปัญหาๆ" บางทีมันก็คือการอยู่อย่างตื้นเขิน (ในบางความหมาย)
แน่นอนว่าใช้ชีวิตให้ดีก็ต้องสายกลาง และคนเราก็ชอบความราบรื่นไปง่าย แต่ในบางจุดที่เจอบล็อคของชีวิต มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะตายตรงนั้นเสมอไป
ชอบคิดว่าบล็อคคือ blessing (เหมือนเคยเขียนมาแล้ว) เพราะมาให้ผ่าน ถ้าผ่านได้ละก็ จะได้ขึ้นเลเวลถัดไป
และวิธีผ่านก็ไม่ได้มีแต่แก้ปัญหาๆ บางทีคิดพยายามแก้ปัญหา ก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้จริงๆ เสมอไป บางทีทางแก้มันก็มาเมื่อไม่รู้จะไปไหน บางทีก็มาเมื่อฉลาดขึ้น บางทีก็ต้องรอ ต้องคิด ต้องค่อยๆ เข้าใจ
เอาเป็นว่ามองชีวิตแบบนี้ก็แล้วกัน
Create Date : 08 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2557 7:35:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 506 Pageviews. |
|
|