หลายๆคนคงมีเป้า หมายให้ได้คะแนน TOEIC มากกว่า 700 คะแนน ทำแบบฝึกหัดมาก็เยอะ แต่ไปสอบมาหลายทีก็ไม่ผ่านซักที วันนี้เรามีเทคนิคในการทำข้อสอบ ให้คุณสามารถพิชิต TOEIC 700 up มาลองดูกันนะคะ

ก่อนอื่นเลย เรามาดูเทคนิคของการทำข้อสอบในภาพรวมกันค่ะ

ฝึกการตัด Choice – ใช้เทคนิคการเดาอย่างมีหลักการ ข้อไหนที่คิดว่าไม่ใช่ให้ตัดทิ้งก่อน อย่าพยายามหาข้อที่ถูกเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งการตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่จะทำให้การทำข้อสอบเร็วขึ้น

ทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ – TOEIC ไม่มีการหักคะแนนในข้อที่ตอบผิด ดังนั้นคุณควรทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ

ใช้ลำดับของคำถามให้เป็นประโยชน์

ยกเว้นคำถามที่เกียวกับ Main Idea โดยทั่วไปแล้วคำตอบของข้อแรกก็จะอยู่ในช่วงแรกของ Listening หรือ Reading นั่นคือ หากคุณกำลังฟัง Passage คำตอบของข้อที่ 1 จะอยู่ในช่วงต้น และคำถามข้อที่ 3 จะอยู่ช่วงท้ายของ Passage ตามลำดับ และเมื่อเรามาดูเทคนิคทำข้อสอบในแต่ละ Part ก็จะพบว่า ปัญหาของ Listening คือการฟังไม่ทัน และฟังไม่ออก แต่สำหรับ Reading แล้ว ปัญหาที่ทุกคนจะเจอคือการทำข้อสอบไม่ทัน งั้นเราลองมาดูกันนะคะว่ามีเทคนิคไหนที่คุณยังไม่ได้ลองทำบ้าง สำหรับใน Listening เทคนิคในการทำ Part นี้คือ อย่ารอให้คำตอบถูกอ่านจนครบทุกข้อ หากคุณคิดว่าข้อไหนใช่ เลือกเลยค่ะ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปเตรียมตัวในข้อต่อไปจะดีกว่า

อ่านและคาดเดา ในส่วนนี้จะใช้ได้กับทุก Part ของ Listening ยกเว้น Part 2 คุณควรดูคำตอบไว้ล่วงหน้า และเดาเนื้องเรื่องจากคำตอบไว้ในใจของคุณ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณมี Direction ของเรื่องที่จะฟัง และคุณจะสามารถ Focus คำตอบขณะที่ฟังได้ง่ายขึ้น หากคุณพลาดข้อไหนไป จงทำใจ และช่างมัน หากคุณยังคงกังวลอยู่กับข้อที่ผ่านไปแล้ว คุณจะเสียสมาธิกับข้อที่อยู่ตรงหน้าคุณได้ค่ะ

ในส่วนของ Part นี้ให้คุณลองหาคำศัพท์ต่างๆและประโยคที่เกี่ยวข้องกับจุดสำคัญของภาพนี้ ยกตัวอย่างเช่น ภาพนี้จุดสำคัญคือ คน 3 คนกำลังคุยกันอยู่ คุณอาจมีประโยคเหล่านี้อยู่ในใจ เช่น Three persons are talking หรือ The man is listening to the woman หรือ They are standing by the table. หรืออีกเทคนิคหนึ่งนั่นคือ ตัดตัวเลือกที่คุณคิดว่าไม่ใช่มากที่สุด ซึ่งจะทำให้โอกาสของการถูกเพิ่มขึ้นอีก 25% เลยทีเดียว

สำหรับใน Part นี้ คุณควรตั้งใจฟัง คำแรก ของคำถามให้ดีๆ เนื่องจาก หากเป็น Wh- questions คุณก็จะสามารถฟังคำตอบได้ง่ายขึ้น เช่น Where is the toilet? สิ่งที่คุณควรฟังคือสถานที่ หรือคำตอบที่ออกแนวบอกทาง เช่น Right down the hallway เป็นต้น หรือ หากคุณได้ยินว่า How many … สิ่งที่คุณต้องฟังคือ จำนวน นอกจากนี้หากคำถามขึ้นต้นด้วย Do you, Does she, Was he, Did you, Are you เหล่านี้คือคำถามต้องการคำตอบที่เป็น Yes or No  อย่างไรก็ตามความยากของ Part นี้ คือ บางครั้งผู้พูดอาจไม่ได้ตอบตรงๆ เช่นคำถามในภาพ คุณจะเห็นได้ว่าคำถามเป็นแบบ Yes-No question แต่คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ C การฝึกใน Part นี้จึงต้องอาศัยทักษะการฟังให้มากๆ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คะแนนใน Part นี้ดีขึ้นค่ะ

สำหรับใน 2 Part นี้เทคนิคจะเหมือนกันค่ะ ในแต่ละ Talk หรือ Conversation จะมีคำถามชุดละ 3 ข้อเสมอ ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มทำใน Part นี้ ขณะที่คุณได้ยิน Direction ของการทำข้อสอบ ให้คุณดูคำถามและคำตอบใน 3 ข้อแรก (นั่นคือชุดแรกของ Conversation/Talk แรกนั่นเอง) เดาและหา Direction ของเรื่องที่คุณกำลังจะได้ยิน และขณะที่ฟังเรื่องอยู่ คุณควรตอบคำถามไปด้วย และเมื่อฟังจบ คุณควรตอบคำถามครบ 3 ข้อ และใช้เวลากับการที่ Narrator อ่านคำถามไปดูคำถามและคำตอบใน 3 ข้อต่อไปจะดีกว่าค่ะ

คนส่วนใหญ่จะมีปัญหากับ Part นี้ในเรื่องของการทำไม่ทัน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ คุณควรจะ

คอยจับเวลาอยู่เสมอ คุณควรใช้เวลาในแต่ละข้อประมาณ 1 นาทีสำหรับ Part สุดท้าย และประมาณ 30 วินาทีสำหรับแต่ละข้อใน Part V และ Part VI

คุณไม่จำเป็นต้องทำข้อสอบเรียงตามลำดับ Part สุดท้าย (Part VII) จะเป็น Part ที่ยาวและยาก และมีจำนวนข้อที่เยอะที่สุด ดังนั้นคุณควรเริ่มทำใน Part นี้ก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่หมดเวลาไปเสียก่อนมาถึง Part นี้

คุณควรเริ่มจากการอ่านคำถามและคำตอบก่อนทุกครั้ง เช่นเดียวกับการฟัง การดูคำถามและคำตอบก่อนจะช่วยให้คุณเดา Direction ของเนื้อเรื่องได้ อย่าอ่านทั้ง Passage โดยเฉพาะใน Part VII

ทำข้อที่คุณรู้สึกว่าง่ายที่สุดก่อน แล้วค่อยกลับมาทำข้อที่คุณยังติดอยู่