น้ำพระราชหฤทัยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ปกแผ่เยาวชนอนาคตของชาติทั่วทั้งแผ่นดิน
นับแต่ทรงเจริญพระชันษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงตามรอยพระบาท ทูลกระหม่อมพ่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านต่างๆอย่างไม่ขาดสาย ทั้งในเรื่องของพระราชกรณียกิจด้านการศาสนา ด้านการทหารและความมั่นคง ด้านการต่างประเทศ ด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อม ด้านการดนตรีและวัฒนธรรม ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านสังคมสงเคราะห์ และที่ทรงมุ่งมั่นสานต่อพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่องคือ พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา ด้วยทรงตระหนักว่า การศึกษาของเด็กและเยาวชนเป็นรากฐานและเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาประ เทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองอย่างมีคุณภาพ พระองค์สนพระราชหฤทัยในการจัดการศึกษาให้แก่เยาวชนในท้องถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสรับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนดังกล่าว รวมถึงทรงรับโรงเรียนบางแห่งเข้าอยู่ในพระราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ยังพระราชทานความช่วยเหลือแก่ครูและนักเรียนในด้านอุปกรณ์การเรียนอีกด้วย มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 นับเป็นองค์กรหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ของพระองค์ ในอันที่จะส่งเสริมเรื่องการศึกษาของไทย โดยทรงรับเป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ และทุกปีในวันพระราชสมภพ สมเด็จพระ บรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนจากทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้รับพระราชทานทุนเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานทุนการศึกษาและโล่เชิดชูเกียรติ พร้อมพระราชทานพระราโชวาทแก่นักเรียนและคณะทำงานของมูลนิธิฯ เมื่อปี พ.ศ. 2557 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นักเรียนทุนของมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน (ม.ท.ศ.) เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลามิตราภิรมย์ วังศุโขทัย และทรงมีพระราโชวาทใจความตอนหนึ่งว่า
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องให้แก่นักเรียนทุนรุ่นที่หนึ่งถึงรุ่นที่ห้า และนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับทุนเป็นรุ่นที่หก ในปีการศึกษานี้ ขอแสดงความชื่นชมกับครูและนักเรียนทุนรุ่นที่สามทุกคน ที่ได้ปฏิบัติตนปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ ผลการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานให้ทราบนั้น น่าพอใจอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นพัฒนาการของงาน ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมืออย่างจริงจังของคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งแสดงให้เห็นผลสำเร็จในการพัฒนานักเรียน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ทางวิชาการ ความสนใจใฝ่เรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะต่างๆ ตลอดจนความรักความสามัคคีในหมู่นักเรียนทุน ซึ่งพร้อมจะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ส่วนรวม ข้อสำคัญการที่นักเรียนทุนรุ่นที่สามส่วนใหญ่สามารถสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ นับเป็นความสำเร็จอันน่าชื่นชมยิ่ง ทั้งของตัวนักเรียนเองที่ตั้งใจเรียนด้วยความขยันหมั่นเพียร ทั้งของครูผู้ดูแลสั่งสอนศิษย์ด้วยความเมตตาเสียสละ ทั้งของคณะกรรมการมูลนิธิที่เอาใจใส่สนับสนุนให้นักเรียนมีโอกาสเล่าเรียนสูงขึ้นสมความตั้งใจ ข้าพเจ้าจึงขอขอบใจทุกคนทุกฝ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติบริหารงานของมูลนิธิอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด ขอให้ท่านทั้งหลายรักษาความดีที่ได้กระทำมา และร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติกิจการงานในหน้าที่ของท่านต่อไป ด้วยกำลังใจอันกล้าแข็ง ให้มีผลสำเร็จอันน่าชื่นชมยิ่งๆ ขึ้น สำหรับนักเรียนทุกคน เมื่อได้รับโอกาสในการศึกษาสมดังที่มุ่งหวังแล้ว ก็ขอให้ใช้โอกาสอันดีนี้พัฒนาตนเองในทุกๆด้าน ให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยวิชาความรู้ ความฉลาดสามารถ และคุณธรรมความประพฤติที่ดี ความรู้และความดีเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะเกื้อกูลให้แต่ละคนเป็นคนดีมีคุณภาพ สามารถสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตนแก่ชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง นางสาวอารียา ประเสริฐสังข์ หนึ่งในนักเรียนทุนพระราชทาน จาก จ.หนองบัวลำภู เคยให้สัมภาษณ์ว่า ดิฉันได้รับการคัดเลือกให้รับทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ.2553 และเข้าไปรับพระราชทานจากพระองค์ที่วังศุโขทัย จำได้ว่าพระองค์ท่านรับสั่งว่า ให้ดำรงรักษาความดี เป็นคนดีของสังคม และทำตัวให้เป็นประโยชน์ ปี พ.ศ.2555 ดิฉันสอบเข้าต่อได้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งดิฉันเลือกเรียนสาขานี้เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง และช่วยเหลือผู้อื่นได้ ตอนที่เพื่อนๆเขารู้ว่าดิฉันเป็นนักเรียนทุนของพระองค์ ก็บอกว่า ดิฉันโชคดีที่มีโอกาสเช่นนี้ ดิฉันรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นล้นพ้น ตั้งใจว่าจะเป็นคนดีของสังคมและจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด สมดังที่พระองค์พระราชทานพระราชดำรัสไว้ นายธีรภัทร ชะนะเมืองดล นักเรียนทุนพระราชทานรุ่นแรกจาก จ.นครปฐม กล่าวในตอนหนึ่งว่า พระองค์ท่านทรงเป็นเหมือนพ่อที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผม ผมขอถวายคำสัญญาว่า จะเป็นคนดี ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและประเทศชาติต่อไป นอกจากนี้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หนึ่งในคณะกรรมการมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานฯ เล่าถึงน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงมีต่อบุคลากรด้านการศึกษา ไว้ตอนหนึ่งว่า เรื่องหนึ่งที่สมควรเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบคือ น้ำพระราชหฤทัยที่มีต่อครู ทั้งครูที่ได้ดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ และครูที่เดือดร้อน เช่น ประสบอุทกภัย ก็จะเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมโรงเรียน พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ เหตุการณ์หนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำของครูตลอดไป คือ การเสด็จฯ แทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพครูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดิฉันได้มีโอกาสรับเสด็จฯ เมื่อพระองค์เสด็จฯไปยังงานพระราชทานเพลิงศพ ครูประสาน มากชู ผู้ถูกยิงเสียชีวิตในห้องเรียนขณะสอนหนังสือที่โรงเรียนบ้านบือแรง จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2547 ตอนที่เสด็จฯ ไปพระราชทานเพลิงศพ พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งกับคณะครูที่เฝ้ารับเสด็จที่ยังจารึกอยู่ในใจครูจวบจนทุกวันนี้ ดังความตอนหนึ่งว่า พวกเราทุกคนเป็นผู้ที่มีเกียรติ มีความกล้าหาญ เป็นที่น่าเคารพนับถือ และเป็นผู้ที่ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างยิ่ง ซึ่งเรานับถือในน้ำใจและในความกล้าหาญ และก็ขอให้มีความกล้าหาญและมีกำลังใจต่อไป
น้ำพระราชหฤทัยที่ยิ่งใหญ่ไพศาลจึงคุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมครูและนักเรียนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลเพียงใด ล้วนมีโอกาสได้รับพระราชทานโดยถ้วนหน้ากัน
. ที่มา : บางส่วนจากทีมข่าวหน้าสตรี นสพ.ไทยรัฐ สำนักข่าวเจ้าพระยา
Create Date : 29 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2559 0:23:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1073 Pageviews. |
|
|