อ่านเอามาเล่า

จิตรกรผู้ชาญฉลาด

          ในสมัยโบราณมีกษัตริย์พระองค์หนึ่ง  เกิดมาก็มีพระพักตร์ที่อัปลักษณ์  นัยน์ตาข้างหนึ่งบอด  ขาข้างหนึ่งเป๋

 

            วันหนึ่ง  กษัตริย์องค์นี้เกิดนึกสนุกขึ้นมา  กลับมีราชโองการให้ระดมจิตรกรทั้งหลายมาวาดภาพให้แก่พระองค์  และมีรับสั่งว่า  หากวาดภาพถูกพระทัยแล้วจะได้รางวัลอย่างงาม  แต่หากวาดแล้วไม่พอพระทัยก็จะถูกตัดหัว

 

            จิตรกรทั่วประเทศถูกระดมให้มารวมตัวกันในที่เดียว  คนทั้งหลายต่างวิพากษ์วิจารณ์กันระงม  ในจำนวนนั้นมีจิตรกรผู้หนึ่งนึกในใจว่า  “บารมีกษัตริย์น่าเกรงขามยิ่ง  ใครจะบังอาจกล้าละเมิด  ไม่ว่าพระองค์จะอัปลักษณ์เพียงใด  ข้ายังคงต้องวาดภาพพระองค์ให้สวยงามจะดีกว่า”  ดังนั้น  เขาถวายภาพวาดให้กับกษัตริย์  บนภาพกษัตริย์ไม่บอดไม่เป๋ไม่อัปลักษณ์  ดูบารมีน่าเกรงขามหาใครเทียบได้  หารู้ไม่ว่าษัตริย์เห็นแล้วเดือดดาลขึ้นมาทันที  ตวาดใส่ว่า  “ไอ้คนถ่อยที่ชอบยกยอปอปั้น  เสแสร้งแกล้งทำ  เจ้าจะต้องเป็นคนถ่อยที่มักใหญ่ใฝ่สูงเป็นแน่  เก็บเจ้าไว้หาประโยชน์อันใดไม่  ลากเอาไปประหาร”  จิตรกรผู้นี้ถูกนำออกไปประหารทันที

 

            จิตกรคนที่สองคิดในใจว่า  “ในเมื่อวาดภาพไม่สมจริงทำให้กัตริย์พิโรธโกรธกริ้ว  ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะวาดภาพตามความเป็นจริง”  จิตรกรคนที่สองจึงนำภาพที่วาดถวายแก่กษัตริย์   บนภาพเป็นกษัตริย์ที่ตาบอดข้างหนึ่ง  ขาเป๋ข้างหนึ่ง  ทั้งแก่ทั้งอัปลักษณ์  ไม่มีราศรีน่าเกรงขามดุจกษัตริย์ที่เป็นผู้ครองนครเลยแม้แต่น้อย  กษัตริย์เห็นแล้วเดือดเป็นไฟ  ตวาดเสียงดังว่า  “บังอาจเขียนหน้าตาของกษัตริย์อัปลักษณ์ได้ถึงเพียงนี้  กล้าลบหลู่บารมีข้า  ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก  เอาไว้ทำไมลากออกไปประหาร”  จิตรกรคนที่สองถูกนำออกไปประหาร

 

            เหล่าจิตรกรเห็นดังนั้น  กลัวจนสติแตกใครไหนเลยจะกล้าวาดภาพให้กษัตริย์อีก  แต่ไม่วาดก็ไม่ได้  ขัดราชโองการมีโทษตัดหัว  ขณะที่ทุกคนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี  ท่ามกลางฝูงชนมีคนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมา  เขาถวายภาพๆ หนึ่งแก่กษัตริย์ 

 

            กษัตริย์มองดูภาพแล้วชมไม่ขาดปาก  หัวเราะร่าเบิกบานใจยิ่งนัก  แล้วมอบภาพวาดให้เหล่าขุนนางได้ชมกัน

 

            เป็นภาพที่กษัตริย์กำลังล่าสัตว์  เห็นกษัตริย์ยืนขาข้างเดียว  ขาอีกข้างหนึ่งพาดอยู่บนตอไม้  ตาข้างหนึ่งหลับปี๋  อีกข้างหนึ่งเบิ่งโตกำลังเล็งไปที่เป้าหมาย  ภาพๆ นี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เหล่าขุนนางอุทานไม่ขาดปาก  เหล่าจิตรกรก็ชื่นชมไม่ขาดสายว่าหาใดเทียบได้ยาก  ดังนั้น  กษัตริย์จึงมอบทองคำพันตำลึงให้แก่จิตรกรผู้นี้เป็นรางวัล

 

***ในชีวิตของเรามักจะเผชิญกับปัญหายากลำบากที่คาดคิดไม่ถึงเช่นกัน  บ้างก็เป็นผู้อื่นสร้างปัญหาให้  ในสภาพเช่นนี้  มีแต่ต้องปรับเปลี่ยนและระดมกำลังความคิด  หาวิธีหรือปรับเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหา  ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน  ทั้งไม่บิดเบือนความเป็นจริงและยังสามารถตอบโจทย์ที่น่าพอใจแก่ผู้คน

 

*****

 




Create Date : 16 ตุลาคม 2555
Last Update : 16 ตุลาคม 2555 8:12:39 น. 2 comments
Counter : 1496 Pageviews.  

 
เป็นคำตอบของภาพที่น่าประทับใจมาก แต่ในชีวิตจริง ๆ สถานการณ์คล้าย ๆ กันนั้นเราจะนึกได้มั้ยน่ะ


โดย: อัสติสะ วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:9:08:05 น.  

 
เนื้อหาน่าสนใจมาก

เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยค่ะ



โดย: Thanvarath วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:15:35:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Krareinpa
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add Krareinpa's blog to your web]