Group Blog All Blog
|
ปั้นค่านิยมเยาวชน ฮักบ้านเกิด ให้ความสุขอยู่ใกล้ตัว ปั้นค่านิยมเยาวชน ฮักบ้านเกิด ให้ความสุขอยู่ใกล้ตัว ช่วงสายของวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคนหนุ่มสาว ต.โพนแพง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร พวกเราได้มีโอกาสไปร่วม มหกรรมความสุขอยู่ที่บ้านเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมโครงการ ฮักบ้านเกิด (ความสุขอยู่ที่บ้านเรา) ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนกิจกรรมหนนี้ นอกจากจะเวทีแสดงฝีมือของน้องๆเยาวชน12 กลุ่มย่อย (รายละเอียดท้ายเรื่อง) ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนแล้ว ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ทั้งการแสดงของกลุ่มเยาวชนเด็กฮักถิ่น บ้านกลาง การแสดงดนตรีจากวงดนตรีที่เข้าร่วมในโครงการดนตรีเพื่อการเรียนรู้ พร้อมด้วยการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนกับกลุ่มชาวบ้าน ที่มอบภูมิปัญญาที่มีคุณค่าให้กับคนรุ่นใหม่ ธนภัทร แสงหิรัญ (ตั้ม) บัณฑิตหนุ่มจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผู้รับผิดชอบโครงการ และเป็นหนึ่งคนสำคัญที่ทำให้มีกิจกรรมในวันนี้ เล่าว่า กิจกรรมโครงการฮักบ้านเกิดฯ มีเป้าหมายที่มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการเรียนรู้และสุขภาวะของเด็กและเยาวชนใน 4 มิติ คือกาย ใจ ปัญญา และสังคม เช่น กาย ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การแสดงออก หรือ ใจ ซึ่งจะเกิดความเสียสละ จิตอาสา และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ส่วนสังคมนั้นหมายถึง การยอมรับและเข้ามามีส่วนร่วมจากคนในชุมชนมากขึ้น หรือสามารถขับเคลื่อนให้สังคมเกิดการตระหนักต่อปัญหาขณะที่ ปัญญา คือมุมมอง ทัศนคติ ซึ่งล้วนเกิดจากการปรับเปลี่ยน การมองปัญหาและกล้าทำในสิ่งที่ดีงาม ที่มาของกิจกรรมการเรียนรู้เกิดขึ้นจากสภาพปัญหา ทั้งตัวเด็กและเยาวชน สิ่งแวดล้อม และชุมชน ที่กลุ่มเยาวชนแต่ละกลุ่มได้เรียนรู้และดำเนินงานภายใต้โครงการฮักบ้านเกิดฯในช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ ซึ่งหลังจากการตั้งโจทย์แล้ว เยาวชนทั้ง 12 กลุ่มนี้จะเรียนรู้จากกิจกรรมตั้งแต่เริ่มต้น คือการสืบค้นปัญหา คิด วิเคราะห์ถึงปัญหาในพื้นที่ พร้อมปรับปรุง แก้ไข ปัญหา อุปสรรค และพัฒนาศักยภาพการขับเคลื่อนโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแต่ลักษณะชุมชนของตนเอง ทุกคนอยากให้เยาวชนมีจิตอาสาที่ดีต่อสังคม ไม่ได้คิดถึงขนาดว่าโครงการที่ทำจะต้องเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด แต่ภายหลังเริ่มโครงการ ทุกคนเห็นศักยภาพเด็กมากกว่านั้น ได้เห็น เด็กสนใจคิดประเด็นในการแก้ปัญหาหมู่บ้านของตัวเอง เด็กได้สะท้อนปัญหาภายในชุมชนขึ้นมา ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองเองก็สนับสนุนให้เด็กได้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ไม่ได้มามั่วสุมกันที่จะมีชีวิตไปวันๆเท่านั้น ตั้มอธิบายเสริม เราสังเกตเห็นซุ่มกิจกรรมที่แต่ละโครงการทำอย่างเรียบง่าย ทว่าล้วนผ่านการเข้าใจในชุมชนของตนเองในระดับหนึ่งและทั้งนี้นอกจากจะเป็นพื้นที่แสดงออกของเยาวชนแล้ว อีกนัยหนึ่งกิจกรรมได้สะท้อนถึงแนวคิดด้านจิตสำนึกและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เยาวชนมีต่อบ้านเกิดของตัวเองด้วย ยกตัวอย่าง "โครงการรักษ์ไทย รักษ์ถิ่น" ที่ กลุ่มยุววิจัยรักษ์ไทย รักษ์ถิ่น โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ศึกษาท้องถิ่นตัวเองก่อนจะบันทึกผ่านสื่อสารคดีวีดีโอ หรือกลุ่มเยาวชนสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสกลนคร ที่ศึกษาเรื่องแนวคิดการใช้สมุนไพร ไม่นับอีกจำนวนหนึ่งที่ให้คุณค่ากับเรื่องวัฒนธรรมและแนวคิดพื้นบ้านที่ควรค่าอนุรักษ์ เบียร์-จันทร์จิรา สาขามุละ นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ สะท้อนว่า กิจกรรมได้ช่วยเปิดมุมมองและส่งเสริมให้มีโอกาสกลับมาสำรวจพื้นที่ชุมชนตัวเอง ซึ่งภายหลังจากการทำกิจกรรมแล้ว ได้เกิดความรู้สึกภูมิใจในชุมชนของตัวเองเหมือนกับที่ บิว-วรัญญา แสงมณี โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์ ที่ว่า กิจกรรมที่ทำอาทิ การทอผ้า สมุนไพรในชุมชน การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ได้ย้ำเตือนถึงคุณค่าที่อยู่ใกล้ๆตัว และตอกย้ำที่คนรุ่นใหม่ต้องหวงแหนรักษาไว้จริงอยู่ที่ว่ากิจกรรมฮักบ้านเกิดฯ จะไม่ได้คาดหวังว่างานที่ทำจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนในชุมชนอย่างฉับพลัน แต่สำหรับตัวเยาวชนเองแล้วสิ่งที่เก็บเกี่ยว แบบสิ่งละอัน พันละน้อยในครั้งนี้ล้วนส่งผลต่อวิธีคิด ที่จะมองสังคมใกล้ตัวโดยเฉพาะความหวงแหนในบ้านเกิดของตัวเอง ที่ความสุขเวียนว่ายอยู่ใกล้ๆตัว รายชื่อโครงการ 12 กิจกรรม
|
กระจายสุข
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Link |