<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 พฤษภาคม 2558
 

ไต้หวัน วันที่ 5 : 03.12.57

 

 

 

 

ก๊องๆๆๆๆๆ เสียงเคาะกะโหลกว่าเวลาผ่านไปจะครึ่งปีละ ยังจำอะไรได้มั่งล่ะเธอว์ ฮ่า

 

 

 

ก่อนนอนเมื่อคืนป้อส่งแผ่นพับท่องเที่ยวละแวกซันมูนเลคให้ดูว่า อะ พี่จะไปไหนบ้าง บอกตรงๆว่าพี่ก็มะได้สนใจมากครือแบบไปไหนไปกันแต่ แต่ แต่ อยากไปเนี่ย Timber Factory กร๊ากกกกก นั่นมันเลยไปอีกไกลนะป้านะ

 

 

 

เช้าตื่นกันอย่างไว  ตื่นเช้าทู้กวัน ใช้ชีวิตคุ้มค่ามากทุกวันที่ไต้หวัน ตื่นแต่เช้ากลับดึกสุดไรสุด ฮา

 

เช้านี้กินโอเด้ง  แต่อย่าถามนะว่าโอเด้งเซเว่นหรือแฟมเพราะลืม  รู้ว่ากินโอเด้งเพราะถ่ายรูปไว้น่ะ  เอิ้ก เอิ้ก

 

 

จำได้แต่ว่าหยิบของมาจากหม้อน้ำใสแต่ตักน้ำซุปมาจากหม้อเผ็ด เพราะของในหม้อเผ็ดแทบไม่เหลืออะไรเลย

ก็อร่อยดีนะ ฮี่ ฮี่

กินเสร็จก็รีบจ้ำไปท่ารถกันเลย ไปถึงก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง บอกเลยว่าภูมิใจ

 

 

เห็นตรงที่คนมุงๆป่ะ ตรงนั้นจะมีราวกั้นประมาณว่าเป็นทางขึ้นรถ พอรถใกล้มาคนก็จะไปยืนเข้าคิวตรงนั้น รถก็จะมาจอดให้ขึ้นตรงนั้น ดูดีงามมากว่ามะ  ไปถึงป้อก็ไปส่องๆ ลุงที่ยืนตรงนั้นก็บอกว่าไปนั่งๆ รถยังไม่มา คือแกจะเป็นคนเรียกว่าสายนั้นสายนี้มาแล้วมาขึ้นรถได้ประมาณนั้น  ป้อก็กลับมานั่ง พอถึงเวลารถเราจะมา  ปรากฎว่าคงเป็นฤกษ์งามยามดีรถมาหลายสายโดยพร้อมเพรียงกัน  ละรถเรามาต่อท้ายอีกคัน เราก็เลยยืนรอๆอยู่ก็เห็นแหละว่ามีคนวิ่งไปขึ้น แต่คิดว่าเดี๋ยวเค้าคงเลื่อนมาจอดตรงทางขึ้น แต่ไม่ค่ะ รถเบี่ยงซ้ายออกไปเลยค่ะ กรี๊ดสิคะ เรียกลุงให้เรียกรถไว้ก่อนแต่ลุงมัวแต่มึนรถคันนั้นจึงออกจากท่ารถไปอย่างสง่างามโดยไม่มีเรา  ไม่แน่จริงทำไม่ได้นะ ไปถึงท่ารถก่อนเวลาแต่ตกรถเนี่ย!!!

พอลุงตั้งสติได้ว่าเราตกรถ ลุงก็บอกรอแป๊บเดี๋ยวมีรถไปอีก ไม่ต้องห่วง โห่ย แป๊บไรลุง ตามตารางเที่ยวต่อไปอีกชั่วโมงเลยนะ  โป้งล้าววววววว

อีกแป๊บก็มีรถมาจริงๆ ลุงกวักมือหยอยๆเรียกเราไปขึ้นรถ  ป้อก็ย้ำว่าเราจะไปซันมูนเลคนะ ลุงบอกคันนี้แหละไปได้ขึ้นเลยๆ  โห ไรเนี้ย คันทีเราจะไปนั่นรถใหม่ สวย ดูดีมีชาติตระกูลมากละดูคันนี้สิ เก่า โทรม ไรเนี่ยลุง ก่อนขึ้นก็ถามคนขับอีกทีว่าไปซันมูนเลคแน่นะ ฮีพยักหน้าก็ขึ้น ไปก็ได้ฟระ ชิ

รถคันที่เราขึ้นน่าจะเป็นรถประจำทางระหว่างเมืองน่ะ น่าจะไปไกลอยู่แต่เค้าก็ผ่านซันมูนเลคด้วย เอาจริงๆ ใครจะไปก็ไม่ต้องกังวลนะ รถผ่านเกือบทุกคันอะ 555 ไปถึงก็เจอคนที่ขึ้นรถคันก่อนหน้าเรายังอยู่แถวป้ายรถเลย ก็เลยแบบ โฮะ โฮะ หายนอยด์ละ จริงๆก็หายนอยด์ตั้งแต่ได้ขึ้นรถนั่นแหละ อิ อิ

information center เป็นแค่โต๊ะเล็กๆในร้านสะดวกซื้อ แถมถามไรก็ตอบไม่ได้สักอย่าง ไรเนี่ย สรุปต้องออกมาซื้อตั๋ว one day pass ที่อีกตึกนึง ซื้อเสร็จก็ต้องเดินไปลงเรืออีกที่นึง เมืองนั้นชื่อไรไม่รู้อะ ก็เรียกแต่ซันมูนเลคอะเนอะ แต่แบบผิดกับที่คิดไว้เยอะอยู่  มีตึกโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของเพียบ คนก็เยอะ เดินไปถึงท่าเรือก็ป๊ะกับทัวร์จีน

 

 

เดินๆๆ ไปหาที่ลงเรือของที่เราซื้อตั๋วไว้  จริงๆ บรรยากาศดีและสวยมากนะ สมกับที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวท๊อปฮิตของไต้หวัน

 

 

เดินจนเจอท่าเรือของเรา ก็นั่งรอกันไป ชิลล์ๆ เสียอย่างเดียวเหม็นบุหรี่มาก หลบไปทางไหนก็ไม่ได้เพราะสูบกันรอบตัว

 

 

ข่าวร้ายประจำวันนี้คือเคเบิ้ลคาร์ปิด maintainance แปลว่าเราจะอดขึ้นไปที่หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าด้วย คือไปรถได้แต่ไกลเพราะมันต้องอ้อมเขา เค้าถึงตัดเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปตรงๆ ป้ออกหักดังเป๊าะอีกละวันนี้ น่าจ๋งจ๋าน สรุปเราได้ใช้ตั๋วเรือ กะรถวนรอบซันมูนเลค ส่วนบัตรอันล่างสุดป้อก็ไม่รู้ว่าใช้ไปไหนเหมือนกัน

อะ ไปลงเรือกันเต๊อะ

 

 

นั่งท้ายเรือเพราะจะถ่ายรูป

 

 

จุดหมายเราก็วัดกะเจดีย์ลิบๆบนเขาโน้นนนนนนนน

 

 

หันหลังไปทางท่าเรือ เห็นมะว่ามันเจริญมาก โรงแรมใหญ่ๆ เพียบอะ

 

ถึงท่าเรืออย่างรวดเร็ว น้ำใสแหนว สีสวยจริงจัง  ขนาดเนวันที่ฟ้าครึ้มมาก อย่าหวังจะเจอแดดเล้ย

 

 

ขึ้นจากเรือ  เราก็ต้องเดินขึ้นบันไดไม่รู้กี่ขั้นขึ้นไปบนวัดที่เราเห็นจากบนเรือตะกี้นี้  คนมหาศาลมากอะ

 

 

ไม่สามารถจะถ่ายรูปให้ไม่ติดคนได้  ก็เลยหันเหไปพยายามถ่ายรูปวิวแทน

 

 

ฟ้าหม่นมากกกก เสียดายจุง จากตรงจุดนี้ เราจะนั่งเรือไปขึ้นท่าอิต๋าเต่าหรือจะขึ้นรถวนรอบเกาะก็ได้  ซึ่งแน่นอนว่าเราเลือกวนรอบเกาะ วะฮ่ะฮ่า

 

 

ไปสวัสดีหลวงพ่ออยู่ข้างนอกหน้าต่างละก็ออกเดินทางต่อ ฟิ้ววววว

 

 

เจอรถขายผลไม้  พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูง อยากกินๆๆ แล้วก็ต้องถอยออกมาอย่างรวดเร็ว  แพงง่ะ  ผลไม้ประเทศนี้แพงมาก ซื้อไม่ลง คิดถึงรถเข็นผลไม้เมืองไทยขึ้นมาจับจิต  อกหักจากผลไม้ก็เดินไปหาป้ายรถบัสต่อ

 

 

เจอป้ายรถละ แต่ยังไม่ถึงเวลารถมาก็เลยงัดแซนวิชเนื้อออกมางั่มๆ  กินยังไม่ทันหมดรถก็มาเลยต้องเก็บก่อน  รถบัสซิ่งมาก ซิ่งทุกคันด้วยนะ ทางขึ้นเขาลงเขาแคบโค้งแต่ซิ่งทุกคันคอนเฟิร์ม  เราบอกว่าเราจะขึ้นเจดีย์  ตดยังไม่ทันหายเหม็นลุงก็ซิ่งมาจอดเทียบทางขึ้นเขาละ  ลงจากรถมาแบบมึนงง  นี่เราต้องขึ้นเขาอีกเรอะ ป้ายติดไว้ 900 เมตร  เออ เอาก็เอา มาถึงละนี่  เดินต้านแรงโน้มถ่วงกันขึ้นไปได้ครึ่งทางก็มีลานจาดรถมีศาลานั่งพักมีห้องน้ำ เลยนั่งพักพร้อมควักแซนวิชออกมากินต่อ  กินหมดอันปุ๊บสิ่งนี้ก็โผล่มา

 

 

คือแซนวิชหมดแล้วอ่ะ ฮือออออ คุ้ยกระเป่าเจอขนมชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่หยิบมาจากที่พักก็เลยแกะให้นางกินไป จริงๆที่ไต้หวันเค้าห้ามให้อาหารสัตว์จรจัดพวกนี้นะ  แต่แบบ งืออออ

ขนมหมด ทิ้งขยะเรียบร้อย  ก็ลุยต่อ คราวนี้เป็นบันได มีระยะทางบอกเป็นระยะ ไม่รู้บั่นทอนหรือบันดาลใจ แต่ที่ไต้หวันจะมีบอกอย่างนี้แทบทุกที่นะ ขึ้นไปถึงแทบกรี๊ดดดด

 

 

คุณตาคุณยายค้า ขึ้นมากันยังไงค้า จะแข็งแรงไปไหนกันคนที่นี่  ฮือออออออ  เค้าจะตายอยู่แล้ว หายใจไม่ทัน เหงื่อเหงื่อไม่ต้องพูดถึง ประหนึ่งอาบน้ำ  เจอเก้าอี้ ก็ถอดเสื้อกันหนาว วางเป้ นั่งพักแป๊บนุงละก็เดินไปสำรวจเจดีย์ ทำเวลาฮะ หนทางยังอีกยาวไกล

 

 

ต้องขึ้นบันไดไปอี๊ก โอยยยย แต่ก็ขึ้น

 

 

มองลงมา  นี่ถ้าอากาศแจ่มใสคงสวยไม่รู้จะสวยยังไง  ถ่ายรูป สูดอากาศเต็มปอดละก็เดินลงมา ต้องไปต่อละ ฮึบ ฮึบ

 

 

อีกด้านมีศาลาหลังนี้  ข้างในไม่มีอะไร หรือยังไม่มีอะไรก็ไม่รู้  ก็เลยจ้ำลงเขากันดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันรอบรถ

 

 

ลงมาถึงละ ป้ายรถอยู่ตรงนี้เลย ยืนรอกันไปก็เห็นคู่นึงเดินเทรคกิ้งผ่านไป แม่เจ้า สุดยอดอะ อายุอานามก้น่าจะสี่สิบห้าสิบกันละจะแข็งแรงไปไหนกันคนประเทศนี้  อ้อ มีฝรั่งขี่จักรยานหลายคนอยู่นะ สู้ๆนะเธอว์

รอรถหันไปหันมาเจอป้ายนี้

 

 

ป้อบอกน่าจะชื่อวัดของเจดีย์นี่แหละ แต่ทำไมชื่อเจดีย์เป็นอีกชื่อ  พอรถบัสมา ขึ้ยรถไปได้จึ๋งเดียวแค่อ้อมเขาโค้งไปนั่นแหละ  เราก็พบว่ามันมีวัดอีกวัดใกล้ๆนั่นแหละ  อ้าว เฮ้ย พลาดดดดด ฮา จะลงก็ไม่ทันละ ตัดสินใจไปวัดเหวินอู่ตามแผนเดิมละกัน

ระหว่างทางซึ่งก็นานพอดูเพราะวัดเหวินอู่แทบจะอยู่อีกปลายทางนึงของรอบทะเลสาบ พอเลยป้ายสถานีเคเบิ้ลคาร์เราก็เห็นวิวที่แบบโคตรชอบ แบบโอ๊ยมันคืออะไร อยากลงไปดูมาก คือมันเป็นเหมือนดงไม้สีทองอยู่ข้างล่างริมทะเลสาบเลย แบบเกาะกระจกสุดริด อยากไป๊ 

 

 

ถึงวัดเหวินอู่ละ ถ่าบรูปวิวกันนิสนุงก่อน ครึ้มสุดๆอะ

 

 

ก็เลยคุยกัน ป้อบอกว่าขากลับจะไปลงเรือที่อิต๋าเต่า ก็โอเคได้ แต่แบบอยากกลับไปวัดที่เลยเจดีย์มา กับอยากลงป้ายที่เห็นดงไม้ด้วย ปรากฎว่าป้อก็เห็นแล้วก็อยากไปเหมือนกัน เย้ๆๆๆ คือตลอดทริปในไต้หวันเวลานั่งรถบัสจะนั่งกันคนละเบาะเลยเพราะรถมันว่างจะได้เห็นวิวทั้งคู่ วินๆ ตกลงกันได้ก็แทบวิ่งเข้าวัด ทำเวลาอีกละ กร๊ากกกกกก

 

 

วัดอลังมากและใหญ่มากกกกก

 

 

เจอญาติไม่ได้เลย  มาเป็นตัวขนาดนี้ต้องทักทายนะฮะ

 

 

ไหว้พระอย่างรวดเร็ว  เอาจริงๆเดินไม่ทั่วหรอก  วัดใหญ่และรายละเอียดเยอะมาก พอใกล้เวลารถมาก็ต้องรีบออกไปรอรถ

 

 

คือรอบรถอะ มันไม่เสมอกัน ประมาณว่าถ้าเราแวะดงไม้ก่อนแล้วค่อยไปวัดที่เราพลาดเราจะไม่มีรถรอบที่กลับมาที่อิต๋าเต่าจากทางนั้นอะไรประมาณนี้  ดังนั้นเราต้องไปวัดก่อน แล้วมาดงไม้ แล้วถึงย้อนกลับไปอิต๋าเต่าอีกที เพราะเราจะเอาอิต๋าเต่าเป็นจุดหมายสุดท้าย

รถบัสที่ขับวนบนเกาะเนี่ยมีหลายไซส์และหลายสภาพมาก บางคันก้หรูมาก บางคันก็โทรมเชียว ที่เหมือนกันคือซิ่งมาก 55 แต่คนขับบางคนน่ารักมาก อย่างคันที่เรานั่งวนกลับไปที่วัดเนี่นคนขับยังหนุ่มอยุ่เลยแต่ใจดีมาก มีคุณยายหลังงุ้มขึ้นมาฮีก็ใจเย็นมากรอคุณยายขึ้น ตอนลงฮีช่วยพยุงลงด้วย น่ารักมากอะ บ้านยายอยู่บนเกาะนี่แหละนางคงขึ้นบ่อยๆ

วนกลับไปถึงวัดแล้วจ้า  ฝนตกจั๊กๆด้วยจ้า

 

 

รอพักนึงก็แบบ มันคงไม่ซาไปกว่านี้แล้วล่ะ ข้ามไปกันเต๊อะ ก็ลุยฝนกันไป

 

 

วัดสวยนะ อาจจะไม่อลังเท่าเหวินอู่

 

 

แต่บรรยากาศดีและสงบ ชอบมากกกกกกกกกก

 

 

เป็นวัดนางชี

 

 

มองย้อนออกไปที่ทางเข้าวัด  สวยเนอะ

 

 

ขนาดฝนตกยังสวยขนาดนี้  ไม่อยากนึกถึงวัดฟ้าใสให้ช้ำใจ 55555

 

 

มีศาลาด้วย เหมือนจะมีร้านชาด้วยนะ  คนมานั่งจิบชาชมวิวกัน  อิจฉามากๆอะ  นี่ถ้าอากาศดีๆนะ โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆ  ชอบวัดนี้มากๆอะ

พอใกล้เวลารถมาก็ออกมารอรถกันต่อ เราจะไปดงไม้กันล้าวววว งิงิ

มันคือป้ายหัวกบ

 

 

จริงๆ มันชื่อป้ายรถหัวกบจริงๆ ป้อบอก  จริงๆดงไม้ที่เห็นมันน่าจะลงได้ 2 ป้าย คือป้ายนี้กับป้ายถัดไป แต่อีกป้ายไกลไปอีกและดูเหมือนลงไปแล้วจะมีอะไรสักอย่างเรากับป้อเห็นตรงกันว่าลงป้ายนี้แหละน่าจะเวิร์ค

ดูเวลารถบัสจะมาถึงป้ายกันอีกครั้งให้ชัวร์ เราต้องคุมเวลาไม่ให้พลาดเที่ยวรถเพราะมันจะเกี่ยวเนื่องไปถึงเวลาลงเรือด้วย

 

 

นั่นไง ดงไม้ของเรา  เดินลงมาละพบว่าเราก็ไม่สามารถไปถึงดงไม้ได้อยู่ดี  แต่เราเจออะไรที่โคตรน่ารักที่สามารถทดแทนกันได้ วะฮ่ะฮ่า

 

 

น้ำใสกิ๊กกกกกกกก  และ...

 

 

คุณกบจ้า  โอ๊ยยยยยย รูปปั้นกบอะเธอว์  น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก กรี๊ดกร๊าดดดกันสุดๆ แบบโอ๊ยยย น่ารักอะ น้ำใสอะ อากาศดีอะ ชอบอะ

เสร็จละเดินเลยไปพบว่า

 

 

มีคนตกปลาอะเธอว์  เก๊าขอโต๊ดดดดดด  แง้

ตรงนี้เหมือนมีที่พักด้วยอะ แบบตกปลาค้างคืนไรงี้  น่านอนมากอะ  ดูชีวิตดีสุดๆ จนมาเจอเราสองคนแหกปากเนี่ยแหละ 555555

 

 

ป้อแต่งตัวแบบตกน้ำไปเห็นไกลถึงฝั่งโน้นอะ เด็กแจ่มของเจ้

กำลังลั้ลลากันได้ที่แต่ถึงเวลาก็ต้องไป  ตกรถไม่ใช่เรื่องตลก เหอ เหอ

 

 

บ๊ายบายคุณกบ บ๊ายบายคุณปลา บ๊ายบายน้ำใส บ๊ายบายอากาศดีๆ เราจะคิดถึงเธอนะ

 

 

เห็นเสานี้ละเป็นอันใกล้ถึงถนนละ เย้  เสาไฟที่ซันมูนเลคนี่มีเป็นสัญลักษณ์ของตัวเองนะคะ กิ๊บเก๋มากอะ

รอรถไปก็นับกบไป 5555

 

 

ภาพเฉลยว่ามีกบกี่ตัว อิ อิ

 

next station itatao

 

 

บัสเที่ยวที่เรานั่งมาวิ่งมาแค่อิต๋าเต่า ไม่ได้ไปต่อถึงปลายอีกด้านของเกาะ  ลงรถมาพยายามหา visiting center แต่หาไม่เจอ  เลยเลิกหารีบเข้าไปในหมู่บ้านกันดีกว่าเดี๋ยวตกเรือ

 

 

 

ที่หา visiting center เพราะเราจะถามเรื่องไป timber factory เพราะเคเบิลคาร์ปิดทำให้เวลาเราเหลือพอจะไปได้ เราเลยงอแงจะไปซึ่งจากตรงนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไงได้  แต่เอาเหอะพักไว้ก่อนเรื่องนั้น  ตอนนี้เอาแค่เดินเที่ยวละไปลงเรือให้ทันรอบก่อน

 

 

อิต๋าเต่าเป็นหมุ่บ้านชนเผ่าที่มีคนอยู่อาศัย

 

 

เดินไปก็รู้สึกแปลกๆ

 

 

รู้สึกเหมือนกำลังล่วงล้ำสถานที่ส่วนตัว รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่  แต่ถ่ายรูปมาตรึมคืออะไรของแก๊

 

 

อาจจะเพราะเราไปเย็นแล้ว ไม่มีนักท่องเที่ยวอื่นเลย เลยยิ่งรุ้สึกเหมือนเป้นโจรมาด้อมๆมองๆบ้านชาวบ้านเค้า งืออออออ

เลยรีบเดินละก็ออกมา

 

 

ข้างนอกมีตึกเหมือนจะเป้นที่พัก ติดกระเบื้องลายชนเผ่าด้วย  ข้างๆเป้นร้านอาหาร จะมีอาหารพื้นเมืองขายมั้ยน้า

 

 

ฝั่งตรงข้ามเป้นสถานีตำรวจ น่ารักเนอะ

 

 

และ อิต๋าเต่ามีเสาไฟเป็นของตัวเอง เริ่ดดดดด

 

 

นี่ทางลงไปท่าเรือฮ่ะ

 

 

กิ๊บเก๋อีกละ

ละก็เพราะมัวแต่กิ๊บเก๋กันเนี่ยแหละ เกือบตกเรือ กรี๊ดดดด วิ่งสิจ๊ะ วิ่ง วิ่ง วิ่ง

นั่งเรือแป๊บเดียวก็ถึงท่าละ ท่าที่ลงเมื่อเช้านั่นแล โชคดีที่แป๊บเดียวเพราะบุหรี่สุด เบียดสุด แบบ โอยยยยย คนจีนนี่สุดยอดเจรงๆ

 

ขึ้นมาจากท่าเรือก็มาพยายามหาทางไป timber factory กันต่อ ดันทุรังจริงจัง แต่ในที่สุดก็มีคนชี้ทางสว่างให้เรา เย้ๆๆๆๆ ได้ไปจนได้  ขึ้นรถบัสไปนั่งรอพักนึงรถก็ออก รถวนรอบซันมูนเลยมาจากป้ายที่เราลงซึ่งแบบบบ วิวสวยสุดใจ  และที่สำคัญ มันคือทางจักรยาน

 

 

แน่นอนว่าป้อแทบจะลงไปแดดิ้น  โอ๋เอ๋นะ แล้วรถก็มาถึงป้ายซึ่งมีคนลง

 

 

มันเป้นสิ่งก่อสร้างสวยงามประจันหน้ากับทะเลสาบ มีคนมากมาย เรามาค้นพบตอนกลับมาแล้วว่ามันคือตึก visiting center ตัวจริง  และป้อก็มารู้ทีหลังว่าตั๋วไปสุดท้ายในชุด one day pass ที่เราซื้อมานั้นใช้สำหรับนั่งรถบัสมาที่นี่เอง

เลยจากจุดนั้นมานิดเดียว มีเหมือนถ้ำ และข้างหน้ามีรูปพระอาทิตย์พระจันทร์ ซึ่งอยุ่บนรถถ่ายไม่ทัน ป้อบอกว่ามันเขียนว่าทางจักรยาน  เลยมานึกว่า เอออ ตรงนั้นสินะที่เค้ามาขี่จักรยานกัน ที่มีสันเขื่อนที่เค้าถ่ายรูปกันสวยๆน่ะเอง มันอยู่ตรงนี้นี่เอง วันเดียวไม่พอนะสำหรับซันมูนเลค คอนเฟิร์มมมม

ส่วนเราก็ต้องตัดใจ 5555

 

 

นั่งรถบัสไกลออกไปเรื่อยๆ จากเมือง ชุมชน จนกลายเป็นป่ารอบด้าน สุดยอดอะเธอว์

แล้วในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายจนได้  เยสสสสส

 

 

วันเสาร์-อาทิตย์มีรถไฟมาด้วยนะ อ่านจากแผ่นพับเมื่อคืนนี้น่ะ

 

 

มีร้านขายของด้วย น่ารักชิมิล่ะ

 

 

ตอนเรามาถึงยังมีคนพอสมควรเลย  แต่ตอนนี้หายหมดละ ไรว้า

 

 

ระหว่างรอป้อเข้าห้องน้ำก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย

พอป้อมาก็เดินต่อ กรี๊ดดดดด นั่นง่ะ นั่นงายยยยยย

 

 

รูปที่เห็นจากแผ่นพับอยู่ตรงหน้าแล้ววววว

 

 

เดินลอดมาแล้วก็หันหลังกลับไป  โอยยยย สวยยยยยย

ถ่ายเทียบกับตึกสมัยใหม่ จ๋วยเนอะ

 

 

มีร้านชา อีกละ ประเทศนี้จะกินชาเยอะไปไหน

 

 

เดินไปอีกนิดเดียวววววว ก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์  อร๊ายยยยยยย  ทางเข้าเวอร์วังอลังการ  สวยมักมากกกกกก

 

 

เพื่อจะพบว่ามีโซ่เหล็กขวางทางรักของเรา

ปิดค่ะ พิพืธภัณฑ์ปืดแล้วค่ะ  เฮ้ย ไหงงั้น ไหนบอกปิด 17.30 นี่มันเพิ่งห้าโมงนะปิดได้ไง

ค่ะ นั่นมันเวลาสำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ วันธรรมดาปิดห้าโมงตรงเป๋งค่ะ

 

 

ค่ะห้องน้ำก็ปิดค่ะ  คาเฟ่ข้างบนห้องน้ำก็กำลังปิดค่ะ

 

 

ร้ายขายของก็กำลังจะล๊อคกุญแจแล้วค่ะ

 

 

กระซิก กระซิก  ไปไหนกันต่อดีล่ะ รถเที่ยวสุดท้าย 18.30 นะ

ไปทำมิวสิครอบสระน้ำกันมั้ยป้อ

 

 

เดินๆไป ก็ไปหยุดทำมิวสิค ด้วยแรงสั่นสะเทือนหรืออะไรไม่รู้ ทำให้สองสิ่งนี้พุ่งเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็ว

 

 

ฝูงเป็ดและปลาคาร์ฟยักษ์  หึ คงมีคนเคยให้อาหารสินะ แต่เสียใจ ตรูไม่มีให้เฟร้ยยยย

 

 

แน่นอนว่าเมื่อเราไม่มีสิ่งของพึงประสงค์ พวกนางก็เชิดใส่จากไปอย่างไม่ไยดี

นี่ๆ ปลายักษ์จริงๆนะ  ตัวเท่าเป็ดเบย

 

 

ส่วนเราก็ย่ำต๊อกต่อไป ต่อกแต่ก ต่อกแต่ก

 

 

ดูเข้ากั๊นเข้ากันเนอะว่ามั้ย

 

 

วนปายยย วนปายยยยยยยยย

 

 

สวยจริงจังมากเหอะ

 

 

พวกนางเริ่มพักผ่อนละ  ซะที่ไหน ป้อบอกเราถ่ายเสร็จเดินไปพวกนางก็ออกไปซิ่งต่อ  ชิชะ

 

 

นี่ทำอะไร แอบหลอนนะยะ

 

 

ริมบึง จ๋วยยยยดี ไม่มีไร 55

 

ในที่สุดก็ครบรอบ  เดินไปรอรถเที่ยวสุดท้ายกันดีกั่ว  เดินไปเจอร้านขายของร้านนี้ สว่างไสวใหญ่โต

 

 

แต่ที่ทำให้ทึ่งคือสิ่งนี้

 

 

เห็นรึยัง

 

 

ค่ะ มันคือบ้านคนค่ะ บ้านทั้งหลังที่มีคนอยู่จริงๆ มีผ้าตาก มีคนกำลังทำกับข้าว  และมันอยู่ในร้านขายของร้านนี้ค่ะ  amazingggggg

 

เดินออกมาในความมืดมิด  จะทำไรก็ทำไปเห๊อะ

 

 

เดินกันไปจนสุดสถานี

 

 

เหมือนจะร้างแต่ไม่ร้างนะจ๊ะ  ยังใช้งานอยู่

 


เข้ามาดูจิ มา มา

 

 

มีตารางเวลาด้วยเห็นมั้ยก๊ะ

พอๆ เลิกเล่นละ กลับๆ

 

 

เดินย้อนกลับไปนั่งรอรถบัสเที่ยวสุดท้ายอย่างสงบเสงี่ยมที่ห้องน้ำ 555555

ถึงจะรู้ว่ารถบัสไต้หวันไม่ทิ้งเราแน่ๆ แต่ก็แอบกระวนกระวานนิสนุงเนอะ  ในที่สุดรถก็มาตามเวลา ละก็เป็นบัสคันเล็กเหมือนเมื่อวาน อืมมม นี่มันบัสเก็บตกสิเนอะ  ขึ้นรถก็นั่งเล่นนอนเล่นกันมาจนถึงซันมูนเลค  ต้องมาต่อรถกลับเข้าผูหลี่แต่ไม่เป็นไรรถเยอะละ  ก็หาไรกินกัน  ระหว่างกินเราก็พบว่ากระเป๋าโทสับหาย  หายทั้งกระเป๋า  แม่เจ้า นั่งนึกทบทวนละน่าจะลืมไว้บนรถบัสเพราะเอาออกมาชาร์ตแบต รถมืดเพราะเค้าไม่เปิดไฟบนรถ กระเป๋าเราก็สึทึบด้วย ก็เลยหาเบอร์โทสับบริษัทรถจากตั๋วรถเรือ ละป้อก็โทรไป  โทรหลายรอบหลายต่อมากเพราะเค้าเลิกงานแล้ว  ก็โทรไปเรื่อยๆจนมีคนรับจนได้  ในที่สุดก็ตามจนรู้ว่าคนขับรถซึ่งต้องขับรถเข้าไปไว้ที่บริษัทรถที่ผูหลี่เอาไปฝากไว้ให้ที่นั่น โอยยยย โล่งอก  แต่แบบนี่ถ้าไม่ได้ป้อซึ่งพูดจีนได้มันจะตามง่ายขนาดนี้มั้ยล่า งืออออ ขอบคุณน้องมากๆเลย ณ จุดๆนั้น

สุดท้ายเราก็โบกรถกลับผูหลี่  คนขับหน้าตาคุ้นๆเนอะ 555 มันคือรถที่ขับวนรอบซันมูนเลคที่เราขึ้นตอนกลางวันนั่นเอง  สรุปรถบัสแถวนี้บริษัทเดียวกันหมด หมดเวลางานทุกคันคือต้องขับกลับผูหลี่ ป้อบอกน้องคนขับว่าเราจะต้องเข้าไปเอาของที่บริษัทรถ ฮีก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วก็มาปล่อยเราลงที่ท่ารถที่เราขึ้นตอนเช้าน่ะแหละ  พอเข้าไปถามอาเจ๊ที่อยู่โยงที่ท่ารถก็โวยวายว่าทำไมเราไม่เข้าไปที่บริษัท อ้าว แต่เจ๊ก็ใจดีแหละ ปากร้ายใจดี เจ๊ก็ต่อโทสับเข้าไปบอกให้คนขับรถเที่ยวต่อไปที่จะมาที่ท่ารถเอาโทสับติดรถมาให้ด้วย  เย้  เย้

พอโล่งใจ เราก็ช้อปปิ้ง 555 ก็ไม่รุ้จะทำอะไรนี่นา ก็เลยไปช้อปปิ้งเรื่อยเปื่อยจนใกล้เวลารถมาก็เดินกลับไปที่ท่ารถ

 

 

ได้มาแล้วจ้า คุณโทรศัพท์คู่ชีพ  จุ๊บๆ

ได้ของแล้วก็เดินกลับบ้าน ไปกินข้าวร้านที่เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าจะกินส่งท้าย  จริงๆเค้ามีหม้อไฟด้วย  แต่ไม่รู้อารมณ์ไหน สั่งข้าวมากินกันเฉยเลย

 

 

มีไข่เจียว ผัดผักน้ำตาของคนรัก 5555 ก็เค้าบอกว่ามันคือผักที่ออกเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นง่ะเลยอยากลอง อารมณ์ประมาณผัดผักกาดดองใส่ไข่ ละก็ข้อไก่ผัดโหระพาประมาณนั้น คือเมนูเป็นภาษาจีนละป้อก็ไม่รู้จักว่ามันคือข้อไก่ ถามเค้าๆละนึกว่าปีกไก่ ละป้อก็กินของแข็งไม่ได้เลยไปอ้อนเค้าผัดเนื้อมาให้อีกจาน ฮี่ ฮี่

 

จบวันอันแสนยาวนานแอบอิ่มจะอ้วก  คลานกลับไปนอนแบบหมดสภาพ  พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อกลับไถจงอีก  สู้ๆ

 

 

ปล.เบียร์ไต้หวันอร่อยดีนะ  อิ อิ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 28 พฤษภาคม 2558
Last Update : 29 พฤษภาคม 2558 13:38:12 น. 5 comments
Counter : 1235 Pageviews.  
 
 
 
 
จบสวยมาก น่าสนใจที่สุด

ดูอากาศดี๊ดี ชอบ ๆ อยากไปสูดอากาศบ้าง
 
 

โดย: Kenphile วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:59:18 น.  

 
 
 
โชคดีมากเลยเรื่องโทรศัพท์อ่ะ ดีนะน้องคล่องภาษาแล้วก็พยายามโทร (เป็นข้าพเจ้าสงสัยจะไม่ได้คืน)
 
 

โดย: Kenphile วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:02:51 น.  

 
 
 
จำ password ได้แล้วเหรอคะสาวโรงงาน

 
 

โดย: vanever วันที่: 29 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:15:25 น.  

 
 
 
เพิ่งสามารถล็อคอินได้ ^^'
อ่านแล้วอยากกลับไปปัดฝุ่นบล็อคตัวเองเรยยย
ทริปที่จะถึงนี้ถ้ามีเวลาจะเขียนให้อ่านนะ จุ๊บ ๆ
 
 

โดย: Kenphile วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:21:57:03 น.  

 
 
 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: peepoobakub วันที่: 14 มีนาคม 2560 เวลา:13:06:54 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

vanever
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add vanever's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com