Bloggang.com : ฮุยเฉง - ครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็เคยพิชิตฝรั่งเศส(ปารีส)-สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 3 ของการเดินทาง

ครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็เคยพิชิตฝรั่งเศส(ปารีส)-สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 3 ของการเดินทาง

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2556 เป็นวันที่3 ของการเดินทาง

ชมวิว Matterhorn - Gornergrat - Interlaken

พยายามปรับร่างกายให้เข้ากับเวลาที่นี่ (ที่นี่ช้ากว่าเมืองไทย 5 ชม)ตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่น 6 โมงเช้า เวลาในเมืองไทย ก็11 โมงละ ^^ เปิดหน้าต่างออกมา โอ้วววววบรรยากาศข้างนอกดีสุดๆ อากาศเย็น ลืมบอกไปโรงแรมไม่มีแอร์นะคะ มีแต่ฮีทเตอร์ ^_^

จัดการธุระส่วนสักนิด แล้วเราก็เอาข้าวไปอุ่นในไมโครเวฟ ที่ห้องครัวสำหรับมื้อเช้า รอดไปอีกมื้อ 555

กินอิ่มก็เก็บข้าวของแล้วเช็คเอาท์ เอากระเป๋าไปฝาก พนักงานบอกว่าให้ไปเก็บไว้ที่ล็อคเกอร์ข้างล่างนะคะ เค๊าไม่รับฝากคร่า...

ทางไปล็อคเกอร์ข้างล่างก็ดูจากรูปข้างบนเลย ตรงบริเวณนั่งกินข้าวจะเห็นประตู เปิดออกไป จะเจอตู้น้ำหยอดเหรียญ ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ จะมีห้องฝากโดยเฉพาะอยู่ขวามือ มีล็อคเกอร์เยอะเลย ไม่ฟรีนะคะ เสียค่าฝาก 5 ฟรัง ^_^

การเที่ยวชม Matterhorn ที่เมืองZermattจะมี 2 เส้นทางคือทางรถไฟกับกระเช้า (คนละยอดเขานะจ๊ะ)จะขึ้นรถไฟ ลงทางกระเช้าเลยทำมิได้ ให้เลือก 1 เส้นทาง เราเลือกเส้นทางรถไฟสาย Gornergrat ซึ่งสถานีรถไฟGornergrat ก็อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟZermatt และตรงข้ามโรงแรมเรานั้นละ

สถานี Gornergratt bahn(ZermattGGB) สถานีเริ่มต้นสู่ยอดเขา

ตอนเช็คเอ้าท์เจอน้องคนไทย 2 คนมาเที่ยวกันเองเหมือนกันเลยชวนขึ้นเขาพร้อมกัน (จริงๆ จะให้น้องนำหน้านั้นละ555)น้องเค๊าเรียนอยู่เยอรมัน น้องผู้ชายจบพอดี เลยเที่ยวส่งท้าย ^_^

ขบวนแรก 07.00 น.เนื่องจากนอนที่เมืองนี้ เลยสามารถขึ้นขบวนแรกได้สบายๆ จัดการซื้อตั๋วขึ้น Gornergrat ค่าตั๋วคนละ 82CHF ใช้สวิสพาส ลด50% เหลือ 41CHF เลือกนั่งฝั่งขวาของรถไฟขาขึ้นนะ จะได้เห็นวิวสวยๆ

รถไฟออกแล้ว...จัดไปหลายๆ ช็อต บ้านเค๊าน่าอยู่เนอะบรรยากาศดีมากอ่ะ

เย้ๆ ๆ ๆ ได้ยลโฉมเธอแล้ว Matterhorn เธอได้ชื่อว่าขี้อายสุดๆ และแล้วฉันก็ได้เห็น ^_^

รถไฟจะจอดทั้งหมด 4 สถานี Riffelalp, Riffelberg, Rotenboden และ Gornergrat (ใช้เวลา38 นาที) เราจะลงสถานีที่ 3 ก่อน ลงที่ Rotenboden แล้วจะเดินไปRiffelsee เพื่อดู matterhorn สะท้อนน้ำก่อนเพราะช่วงเช้าจะยังไม่ย้อนแสง

พอถึงสถานีRotenboden เราก็ลงกันค่ะ หันหลังมาอีกที อ้าว.........ไม่เห็นมีใครลงเลยอ่ะ 5555 มีผีบ้าอยู่ 2 คน ลงไปลั้ลลา กร๊ากกกก

ไร้ซึ่งผู้คน สงสัยเราจะลงผิดไหมหวา...^^ ด๊อนแคร์ค่ะ ลงมาแล้วอะนะ ทำไรไม่ได้แล้ว รถไฟก็ออกไปแล้ว ก็ต้องไปต่อ ชิมิ(ปลอบใจตัวเอง) เอาตั๋วสอดเข้าเครื่องหรือแตะ มีแน่ใจจำไม่ได้ละ แล้วผลักเครื่องกันไปข้างหน้า เพื่อเดินเข้าไปค่ะ แต่สงสัยบัตรเราจะมีปัญหา ผลักเครื่องกั้นไม่ไป ทำไงก็ไม่ได้ มองซ้ายมองขวาก็ไร้ซึ่งเจ้าหน้าที ทำไงละทีเนี่ย คนข้างบ้านก็เข้าไปแล้ว ใช้ช่องทางพิเศษก็แล้วกัน อิอิ (ทางหมาลอดค่ะ) มุดเครื่องกั้น กร๊ากกกก

จัดไปหลายช็อต ให้คุ้มกับการไร้ผู้คน อิอิ

ถ่ายรูปจนหนำใจ เราก็เดินไป Riffelsee กันเพื่อไปดู Matterhorn สะท้อนน้ำ ให้เดินลงเนินเขาไปทางขวา มองเห็นได้ไม่ยาก เดินไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงทะเลสาบแล้ว แต่ฟ้าไม่เป็นใจ รังแกเด็กน้อยตาดำๆ อย่างเราได้ไง แงๆๆๆๆ เมื่อกี๊ฟ้ายังใสกิ๊กอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้เป็นเยี่ยงนี้ละ TT

ดูๆ เห็นความต่างของอากาศเลย ด้านซ้ายและขวาของรูป หมอกลงจัดและหนามาก

รอฟ้าเปิดอยู่ 2 ชม.กว่าๆ ไม่มีทีท่าว่าฟ้าจะเปิด เลยต้องตัดใจ ขึ้นยอดเขากันดีกว่าค่ะ ถ่ายอีกมุม ดูซิ ฟ้าใสกิ๊ก เซรงจุงเบย

ถึงยอดเขาแล้วค่ะ ฟ้าใสเป็นหย่อมๆ 5555

ท้องฟ้าแปรปรวนจริงๆ

อยู่บนยอดเขาไม่ได้นานค่ะ พายุเขา หิมะตก พนักงานห้องอาหารเก็บโต๊ะ เก็บเก้าอี้กันแทบไม่ทัน ลมพัดปลิวเลยค่ะ ลมแรงมว๊าก 5555

ลงกันดีกว่าเนอะ เพราะมันหนาววววว รถไฟ ก็ยังไม่ขึ้นมา แต่ยืนไม่ไหวละ ลมหนาวมันพัดแรงมาก ไปหลบให้ห้องที่ขายอาหารและของที่ระลึก รอจนรถไฟมาก็ออกมาเก๊กท่าสวย ก่อนขึ้นรถไฟ ^_^

ลงมาข้างล่างแล้ว ดูรอบเวลารถไฟที่จะไป Interlaken แล้วยังพอมีเวลาเหลือๆ ก็เดินเล่นอีกนิด แล้วค่อยเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ พร้อมจัดการมื้อเที่ยงอีกมื้อ ที่โรงแรม ^_^

ใช้เวลาเดินทาง 2.10 ชม.จากZermatt ถึง Interlaken West ซึ่งตอนเราไปถึง Interlaken West ฝนตกปรอยๆ ค่ะ เรายืนรอให้ฝนเบาลงอีกสักนิดแล้วค่อยเดินไปโรงแรมค่ะ

ออกจากสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวขวาเดินเลาะแนวรางรถไฟไปเรื่อยๆ ก็จะเจอโรงแรม Hotel Rugenpark B&B Interlakenอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

เช็คอินไม่ยากนักแต่คุยยาว...^_^ พี่เจ้าของดูเป็นมิตร(จำชื่อเค๊ามะได้ละ)เราจองห้องส่วนตัว แต่ห้องน้ำรวม

พี่เค๊าถามโน่น นี่ นั้น จนตรูเกร็ง แต่ก็ดีนะ ได้ใช้ภาษาเต็มๆ ถึงจะฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ตอบเป็นประโยคบ้างเป็นคำๆบ้าง พี่เค๊าก็พยายามเข้าใจ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคล้ายลง เมื่อถามเยอะๆ แบบชวนคุย เราก็รู้สึกเพลินไปอีกแบบ ^^

พี่เค๊าถามจะเปลี่ยนเป็นห้องน้ำส่วนตัวไหม มีที่กินข้าวเย็นหรือยัง เค๊าจะได้แนะนำ เรามาจากเมืองไหนและพรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนต่อ เค๊าจะได้ดูตารางรถไฟให้ ทำไมนอนแค่คืนเดียวละ น่าจะนอน 2 คืนนะ จะได้ไป... จะเดินเล่นในเมืองไหม พร้อมแนะนำเส้นทางเดินเที่ยวในเมือง Interlaken แล้วพี่เค๊าก็ใช้ปากกาสีๆ ขีดเส้นทางบนแผนที่ให้เราเดินตามเส้นทางนั้น และแจ้งซุปเปอร์ปิดกี่โมง พร้อมส่งแผนที่และตารางรถไฟ สำหรับเที่ยวพรุ่งนี้มาให้ด้วย

ก่อนขึ้นห้องก็อธิบายวิธีการใช้กุญแจไขบ้าน ถ้าเรากลับดึก และก็หิ้วกระเป๋าเราไปส่งที่ห้อง ค่าห้องคืนนี้ 85 CHF กับ1.5 ยูโรจ่ายตอนจอง(เงินกินเปล่า) ^_^

ทำเลดี ราคาไม่แพง สะอาด แถมมีฟรีไวไฟ แค่นี้ก็โอแล้วเนอะ ^_^ วิวจากหน้าห้อง

ห้องไม่ใหญ่นัก สะอาด มีอ่างล้างหน้าในห้องด้วย เริ่ดอ่ะ

เก็บของเข้าห้องปุ๊บ รายงานตัวกับทางบ้านก่อน แล้วค่อยไปต่อ ^^

ออกจากโรงแรม ก็ดิ่งเข้าซุปเปอร์ก่อนเลย MIGROS ได้เป๊ปซี่ 2 ขวดๆละ 1 CHF กาแฟมา 1 แก้วๆละ 1.95 CHF กับช็อคโกแลต และขนมนิดหน่อยจ่ายไป 8.15CHF ไวน์อีก 1 ขวด 5.45CHF

จัดไปเบาๆ ก่อน คาดว่ากลับมาไม่ทันซุปเปอร์เปิดแน่ๆ แบกมันไปเดินเที่ยวด้วยละกัน 555

อยากบอกว่าเส้นทางที่พี่แนะนำมันยอดมาก สวยมาก ไม่ผิดหวังเลย ได้บัตรสำหรับขึ้นรถเมล์ฟรีในเมืองด้วย ถนนเส้นหลักของเมืองนี้ ถนนช็อปปิ้งก็ว่าได้ ^_^

จากตรงนี้ ก็ออกนอกเส้นทางจากถนนเส้นหลัก ตามคำแนะนำของพี่เค๊า

แล้วก็วกกลับเข้าเส้นหลักอีกครั้ง

ต่อจากนี้ ก็ช็อปปิ้งค่ะ จะซื้อของฝากอะไร เมืองนี้ได้เลยค่ะ มีให้เลือกเยอะ ราคาถูก ส่วนตัวได้มีดพก 34 CHF และแมกเน็ตอีก 1 อัน 5 CHF แล้วก็กลับมาจัดการมื้อค่ำในห้องครัวของโรงแรมนั้นละ อร่อยจุง ^^

กินอิ่มแล้วก็ขึ้นห้องค่ะ รายงานตัวกับทางบ้านอีกนิด ไลน์กับเพื่อนอีกหน่อย ก็นอนได้ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก เพื่อให้ทันรถไฟไป Engelberg เราจะไปTitlis กัน

ราตรีสวัสดิ์ พบกันใหม่ ในรีวิวตอนหน้านะคะ เราจะไป Titlis กัน

บายยยยยยยยยยยยยยย ^_^