มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง มีรสเปรี้ยวจัด มีสีเหลืองคล้ายน้ำชา มีเส้นใยบางๆ ลอยอยู่ มีความเป็นกรดประมาณ 5% (Acetic Acid) มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซียมสูง

การเลือกซื้อและการเก็บรักษาแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา : ควรเลือกซื้อน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่บรรจุในขวดแก้ว มีฉลากระบุแหล่งที่ผลิตอย่างชัดเจน มีเครื่องหมายอย. หรือ เครื่องหมายรับรองคุณภาพ มอก. ดูวันหมดอายุร่วมด้วยยิ่งใหม่ยิ่งคงคุณค่า

หลังจากเปิดใช้แล้วให้ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องในที่แห้งและมืด เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและป้องกันการระเหย

วิธีกินแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา : ให้เขย่าขวดก่อนเพื่อให้เส้นใยฟุ้งขึ้นมา หลังจากนั้นให้เทน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้งอีก 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นเต็มแก้ว แล้วคนให้เข้ากัน ดื่มหลังตื่นนอนตอนเช้าหรือก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็นประมาณ 30 นาที

ปริมาณที่เหมาะสมคือกินวันละ 2 ช้อนชาหรือน้อยกว่า ด้วยการผสมกับน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ แต่หากรับประทานชนิดเม็ด ขนาดที่แนะนำคือ 285 มิลลิกรัมต่อวันหรือไม่เกิน

ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์
1.โพแทสเซียมช่วยในการแบ่งเซลล์ หากขาดแร่ธาตุนี้จะมีผลทำให้ร่างกายมีอาการผิดปกติ เช่น ผมร่วง ผมหงอก ร่างกายเติบโตช้า และแก่เกินวัย
เป็นต้น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์และหลอดเลือดแดง

2.ช่วยลดความดันโลหิตและโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของหนูทดลองได้ แต่สำหรับคนยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ

3.ช่วยปรับระดับความเป็นกรด-ด่างในร่างกายให้สมดุล

4.มีส่วนช่วยป้องกันโรคต่างๆและช่วยลดการติดเชื้อลดพิษจากอาหารที่รับประทานเข้าไป

5.ช่วยทำให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น ทำให้ความจำดีขึ้น ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ และหอบหืด

6.ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ชะลอความแก่ คงความหนุ่มสาว

7.ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วและการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ

8.ในต่างประเทศถือว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่ช่วยล้างพิษในร่างกายได้

โทษของแอปเปิ้ลไซเดอร์

-เนื่องจากน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มีฤทธิ์เป็นกรด การกินไม่ถูกขนาดหรือมากเกินไปอาจจะก่อให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในกระเพาะได้

สำหรับผู้ที่เริ่มกินควรกินแต่น้อย ประมาณ 1 ช้อนชาผสมกับน้ำประมาณ 8 ออนซ์ เพื่อดูว่าร่างกายจะตอบสนองต่อแอปเปิ้ลไซเดอร์อย่างไร

-ไม่ควรดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลยเพราะอาจจะทำลายเนื้อเยื่อปากและลำคอได้

-ควรระวังเรื่องเคลือบฟันจะกร่อนและเสียเอาได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ ควรบ้วนปากด้วยทุกครั้ง

-ไม่ควรกินในปริมาณมาก หรือติดต่อกันนานจนเกินไป ควรหยุดพักการกินเป็นระยะๆ

-การกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับของธาตุโพแทสเซียมต่ำลงและกระดูกบาง

-ปริมาณของกรดในแอปเปิ้ลไซเดอร์ ในแต่ละยี่ห้อจะไม่เท่ากัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ก็ควรเริ่มกินแต่น้อยก่อน เพื่อดูการตอบสนอง

-สำหรับผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ก่อนและหลังกินยารักษาไทรอยด์

-น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ อาจมีปฏิกิริยากับยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากมีโครเมียมที่อาจเปลี่ยนแปลงระดับอินซูลินได้

การที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ได้ผ่านการรับรองจากอย. และมีการบ่งบอกว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ มันไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัย 100% แต่อาหารเสริมที่ผ่านอย. นั้นแค่หมายถึงการรับรองว่าไม่มีสารที่เป็นอันตรายตกค้างอยู่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ก่อให้เกิดโทษกับร่างกาย

Cr : นานาสาระเพื่อสุขภาพทีดี