และเทคโนโลยีในอีกสิบปีข้างหน้า โดยบทบาทของวัสดุศาสตร์
และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) นั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จากการรวบรวมข้อมูลงานวิจั
ยทางวิทยาศาสตร์และข้อมู
ลการจดสิทธิบัตรทั่วโลกที่อยู่
ในฐานข้อมูลของบริษัท ทีมวิจัยของทอมสันรอยเตอร์ (Thomson Reuters) ทำนายว่า นวัตกรรมใหม่ 10 อันดับแรกที่จะเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2025 จะมีดังนี้
1. ทุกอย่างจะกลายเป็นดิจิทัล - สิ่งของทุกอย่างจะเชื่อมต่อกั
นด้วยระบบดิจิทัล อันเป็นผลมาจากการพัฒนาสารกึ่
งตัวนำและตัวเก็บประจุ เครือข่ายโทรศัพท์ที่ไม่พึ่
งระบบเซลลูลาร์ และเทคโนโลยี 5G
2. แสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลั
งงานหลักของโลก - การพัฒนาเทคโนโลยีด้านเคมี
และโครงสร้างระดับนาโนของอะเรย์ ทำให้อัตราการแปลงแสงอาทิตย์เป็
นพลังงานสูงขึ้น จากปัจจุบันที่ต่ำกว่า 10%
3. ภาวะสมองเสื่อมลดลง - ความสามารถเข้าใจข้อมูลทางพันธุ
กรรมของมนุษย์และการกลายพันธุ์
ของยีน จะช่วยในการตรวจหาและป้องกั
นโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท เช่น ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
4. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะสามารถป้องกันได้ - ความรุดหน้าในการใช้ RNA ช่วยในกระบวนการพันธุวิศวกรรม จะทำให้เราป้องกันโรคบางโรคได้
ด้วยการแก้ไขยีน
5. การขาดแคลนอาหารและราคาอาหารที่
ผันผวนจะกลายเป็นอดีต - ด้วยเทคโนโลยีส่องสว่างที่ใช้
พลังงานต่ำผสมกับการแปลงพันธุ
กรรมพืช ทำให้เป็นไปได้ที่จะปลูกพืช 24 ชั่วโมงตลอดปีในพื้นที่ปิด นอกจากนี้เทคนิคด้านภาพจะช่
วยให้ตรวจจับโรคและความผิดปกติ
ในพืชได้อย่างรวดเร็ว
6. การขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบิ
นไฟฟ้า - แบตเตอรี่ที่เก็บไฟได้มากขึ้
นในขนาดที่เล็กลง และทางเลือกเช่นไฮโดรเจนที่เกิ
ดปฏิกิริยาผันกลับได้สำหรั
บเซลล์เชื้อเพลง ประกอบกับวัสดุที่เบาลง จะทำให้เราเห็นเครื่องบินไฟฟ้
าขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์บิ
นในเส้นทางใกล้ๆ
7. เซลลูโลสจะแทนที่ปิโตรเลียม - วัสดุจากนาโนเซลลูโลสที่แข็
งแรงและมีน้ำหนักเบาจะมาแทนที่
พลาสติก บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดในอนาคต ไม่ว่าจะสำหรับใส่อาหาร ยา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเสื้อผ้า ทั้งหมดจะย่อยสลายได้
ตามธรรมชาติ
8. การรักษามะเร็งจะก่อให้เกิ
ดอาการข้างเคียงน้อยลง - ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เกี่ยวกับผลในการรักษาระดั
บโมเลกุลของตัวยา และข้อมูลพันธุกรรมที่
เจาะจงของคนไข้ แพทย์จะสามารถออกแบบยาให้ตรงกั
บยีนของคนไข้แต่ละรายเป็
นการเฉพาะ ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลง
9. การทำแผนที่ทางพันธุกรรม (DNA Mapping) ตั้งแต่แรกเกิดจะเป็นเรื่องปกติ - ทารกจะถูกทำแผนที่ทางพันธุกรรม และจะมีการตรวจประจำปีเพื่อดูว่
ามีสัญญาณบอกโรคหรือไม่ การตรวจเลือดจะเป็นเรื่องล้าสมั
ย เมื่อเราสามารถใส่นาโนโพรบหรื
อตัววัดขนาดจิ๋วลงไปในร่
างกายเพื่อเก็บข้อมูลได้นานขึ้
นและแม่นยำขึ้น
10. การทดลองการเคลื่อนย้ายสสารหรื
อเทเลพอร์เทชั่น (Teleportation) - ตั้งแต่เปิดใช้เครื่อง Large Hadron Collider (LHC) งานวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคฮิกส์ก็
มีมากขึ้น จำนวนงานวิจัยที่เพิ่งขึ้นอย่
างมากดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้ว่าในปี 2025 จะมีการทดสอบควอนตัมเทเลพอร์
เทชั่น
ที่มา:
//sciencewatch.com/tags/2025อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่
//sciencewatch.com/sites/sw/files/m/pdf/World-2025.pdf