พร้อมด้วยฟังก์ชั่นอุ่นกาแฟและระบบวาล์วป้องกันการหยดของน้ำ
ซึ่งหากคุณเปิดเครื่องทิ้งเอาไว้จะมีระบบนิรภัยปิดเครื่องอัตโนมัติภายในเวลา
เครื่องชงกาแฟนี้ออกแบบมาโทนสีขาวล้วนขนาดไม่ใหญ่น้ำหนักเบา
เหมาะสำหรับคนที่อาศัยในอพาทเม้นท์หรือคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด
ตัวเหยือกเป็นวัสดุทำมาจากแก้วฉะนั้นแล้วเวลาจะใช้งานก็ควรใช้อย่างระวัง
ภายในกล่องจะมีคู่แนะนำการใช้งานมาให้ยังไงก็ทำความเข้าใจกันก่อนใช้นะจ๊ะ
จะได้ทำกาแฟแบบสนุกๆไม่ติดขัด^^
หลังจากแนะนำพระเอกกันไปแล้วเราก็จะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เมนูที่จะนำเสนอในวันนี้มี 3 เมนูเริ่มที่อันแรกก่อนเลยคือ อิตาเลียนเอสเพรสโซ่
เริ่มต้นด้วยการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และวัสถุดิบต่างๆโดยมีดังนี้
- เครื่องชงกาแฟ Electrolux ECM1303W
- เม็ดกาแฟบด Bon café
- น้ำเปล่า
- แก้วเปล่า
เริ่มต้นด้วยการเปิดฝาเครื่องด้านบนจากนั้นให้เราใส่ฐานกรองลงไปก่อน
ตามด้วยกระดาษกรองทับลงไปด้านบน จัดระเบียบทั้งสองส่วนให้เข้าที่แล้ว
จึงนำน้ำสะอาดที่เตรียมเอาไว้ใส่ลงไปในช่องเก็บน้ำบริเวณด้านหลัง
หลังจากใส่น้ำลงไปแล้วให้ตามด้วยการใส่ตัวกาแฟลงไปบนกระดาษกรอง
ตัวกาแฟต้องเป็นแบบบดแล้วเป็นผงๆเท่านั้นนะ
ใครมาเป็นเม็ดกลมๆเพียวๆอันนี้ใช้ไม่ได้นะค่ะเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปหมด
กาแฟที่เลือกใช้ในคราวนี้เป็นเม็ดกาแฟเอสเพรสโซ่ชนิดบดซึ่งจะมีรสขมเข้มข้นแบบฉบับของเอสเพรสโซ่แท้
ส่วนอัตราส่วนว่าจะใส่น้ำปริมาณเท่าไรผงกาแฟเท่าไร อันนี้ไม่ยากเลยให้สังเกตบริเวณข้างๆตัวเครื่อง
จุดที่แสดงปริมาณน้ำนั่นล่ะจะมีบอกเอาไว้ใกล้ๆกันเป็นรูปช้อนกาแฟให้เห็นชัดเลย
ยกตัวอย่างของมิ้งค์ในวันนี้ต้องการจะชงกาแฟประมาณ4 6 ถ้วย
ก็ต้องใส่ผงกาแฟลงไปประมาณ4 ช้อน(หนึ่งช้อนประมาณ6-7 กรัม)
หลังจากใส่เม็ดกาแฟบดลงไปแล้วก็ปิดฝาเครื่องให้สนิท
ตรวจเช็คเหยือกของเราให้ดีว่าอยู่บนแผงทำความร้อนดีหรือไม่
แล้วกดปุ่มonเริ่มได้เลยปุ่มจะมีไฟชึ้นมาเพื่อแสดงสถานะให้เห็นว่าเครื่องกำลังทำงานอยู่
จากนั้นก็รอสักพักใช้เวลาไม่นานน้ำร้อนที่เดือดจะไหลเข้าสู่ที่กรองช้าๆ
แล้วค่อยๆซึมซับความเข้มข้นจากเม็ดกาแฟบดหยดลงในเหยือกแก้วทีละหยดๆ
จนเต็มปริมาตรน้ำที่เรากำหนดไว้ในตอนแรกพอดีเป๊ะ
รินกาแฟที่ได้ลงบนถ้วยแก้วที่เตรียมไว้กลิ่นหอมๆจากกาแฟโชยอบอวลทั่วครัวจนรู้สึกเคลิ้มได้ที่
สำหรับอิตาเลียนเอสเพรสโซ่นั้นไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเพิ่ม
เพราะเราจะซึมซับความเข้มข้นแท้ๆที่มากจากเม็ดกาแฟสด
เสร็จแล้วกับเมนูอิตาเลียนเอสเพรสโซ่แก้วแรกของวัน
ความเข้มข้นและหอมกรุ่นทำให้ถึงกับซดหมดแก้วแบบไม่รู้ตัว(*0*)
จากนั้นมาลองทำเมนูที่สองคาปูชิโน่ กันบ้าง
คราวนี้เพิ่มอุปกรณ์เข้าไปเป็นเครื่องตีฟองนมกับน้ำตาลเตรียมเอาไว้ใกล้ๆกัน
ตอนนี้เรามีกาแฟเอสเพรสโซ่ที่อยู่ในเหยือกอยู่แล้วก็เริ่มตีฟองนมได้เลย
จากนั้นใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยสัก2-3ช้อนเพื่อให้ความหวาน
เหลือบมองดูฟองนมกำลังฟูได้ที่ก็ตักระหว่างที่ร้อนๆใส่ลงมาได้เลย
ฟองนมจะค่อยๆไหลกลายเป็นนมผสมลงกับกาแฟเอสเพรสโซ่ในแก้ว
ส่วนด้านบนสุดฟองที่กำลังฟูก็ช่วยขับความนุ่มละมุนลิ้นให้กับผู้ดื่มได้เป็นอย่างดี
เสร็จแล้วกับเมนูที่ 2 คาปูชิโน่ความเข้มข้นของเอสเพรสโซ่
ถูกเสริมให้กลมกล่อมและนุ่มละมุนยิ่งขึ้นด้วยรสชาตินม
ให้ความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำตาลเหมาะสำหรับช่วงเวลายามบ่าย
ที่ต้องการคลายความเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่ชื่นชอบกาแฟเย็นต้อง เมนูที่สาม ลาเต้เย็น
แค่เตรียมนมกับกาแฟเอสเพรสโซ่ที่อยู่ในเหยือกเช่นเดิม
จากนั้นใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยสัก 2-3 ช้อนเพื่อให้ความหวาน
นำน้ำแข็งในตู้เย็นมาเตรียมไว้ น้ำแข็งก้อนใหญ่ไปหน่อย อิ_อิ ขออภัยค่ะ
นำมาเทใส่แก้วก็จะเป็นลาเต้เย็นแบบนี้ค่ะ
สำหรับกาแฟทั้งสองเมนูที่แนะนำมานี้ต้องชื่นชมพระเอกของเราเจ้าเครื่องชงกาแฟElectroluxECM1303W
ที่ทำให้การทำกาแฟดื่มเองไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้วสะดวกต่อการใช้งานระบบเครื่องไม่ยุ่งยาก
จัดเก็บง่ายไม่เปลืองเนื้อที่มีระบบที่คอยรักษากาแฟให้ร้อนอยู่ตลอดทำให้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาชงกาแฟบ่อยๆ
นุ่นไปฟังที่ยูทูปมาแล้วด้วย
ชอบกาแฟมากค่ะ ในเครื่องดื่มทั้งหลาย
ชากาแฟนม ชอบกาแฟที่สุด
แต่ไม่เคยซื้อเครื่องมาชงเองเลย
ส่วนมากซื้อกินตลอด ก็ราคาแพงด้วยสิ อิอิ
มีแบบนี้สักเครื่องก็คงดี
น่าใช้มากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
เอาไว้ค่อยมาใหม่นะคะ ^^
kikujungna Food Blog ดู Blog