Group Blog
 
All blogs
 
มีเสียไปก็มีได้มา


ณ สถานีรถไฟใต้ดินMRT(Mass Rapid Transit) ในช่วงเวลาเร่งด่วนของคนเมืองหลวงที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่รอใช้บริการเมื่อขบวนรถไฟฟ้าเคลื่อนตัวมาหยุดที่ชานชาลาผู้คนที่ยืนออกันอยู่ต่างเบียดเสียดแทรกกายเข้าไปข้างในตัวขบวนดั่งหนีตายเพราะหากพลาดขบวนนี้ไปก็หมายถึงระยะเวลาที่จะไปให้ถึงปลายทางก็จะต้องยืดยาวออกไปแล้วก็ใช่ว่าขบวนต่อไปคนจะน้อยกว่านี้ ในช่วงเวลาแบบนี้ no way!

ตอนนี้ด้านหน้าประตูอัดแน่นไปด้วยผู้คนจนเนื้อตัวของผู้คนที่ต่างแปลกหน้าเกือบจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันทั้งๆที่ด้านในยังมีที่ว่าง กว่าประตูจะปิดได้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาจัดระเบียบที่ต้องเวลาพอสมควรมันก็หมายถึงเวลาที่ทุกคนในขบวนต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์และติดตามมาด้วยความล่าช้าที่ไม่มีใครต้องการเป็นผลพวงมาจากความเห็นแก่ตัวของคนเพียงไม่กี่คน

ยิ่งรีบ ยิ่งช้า ยิ่งแก่งแย่ง ยิ่งสูญเสีย

“จะทันไหมเนี่ยแจนเอ้ย” หญิงสาวร่างบางแต่สูงเพรียวท่าทางเร่งรีบและเป็นกังวล เมื่อเรียบร้อยรถไฟฟ้าจึงเคลื่อนขบวนออกไป มันเป็นภาพชีวิตที่แสนจะปกติของชนชั้นกลางในเมืองหลวงที่เราจะเห็นได้ในทุกวี่วัน

จากนั้นราวครึ่งนาทีรถขบวนนั้นกลับต้องหยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหันไฟฟ้าที่สว่างไสวกลับทำงานเพียงครึ่งหนึ่งระบบเครื่องปรับอากาศถูกตัดเป็นอัตโนมัติ ผู้คนเริ่มมีท่าทีตื่นตระหนกและวิตกกังวล

“ท่านผู้โดยสารโปรดทราบทางระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนต้องขออภัยเป็นอย่างสูงเนื่องจากระบบจ่ายกำลังไฟฟ้าเกิดขัดข้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขคาดว่าอีกราว 10 นาทีจะเข้าสู่สภาวะปกติค่ะ”แต่มันจะปกติได้ยังไง ช้าเพียงเสี้ยววินาทีชีวิตก็แปรผันไปแล้ว

พรพิสุทธิ์หรือแจนหนึ่งในผู้ที่ติดอยู่ในรถไฟฟ้าขบวนนี้

“มาเสียอะไรตอนนี้คนยิ่งรีบๆ” หญิงสาวยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาเป็นร้อยครั้งในช่วงไม่กี่นาที ทั้งว้าวุ่นและเป็นกังวลบรรยากาศรอบตัวตอนนี้ก็ช่างแสนจะอึดอัด เพราะอุณหภูมิในร่างกายของทุกคนเริ่มสูงขึ้นจากอากาศที่ลดน้อยลงทำให้เหงื่อเริ่มไหลไคลเริ่มย้อยออกมาจากผิวหนังแต่ใจของทุกคนในขบวนที่กำลังเร่งรีบร้อนกว่านั้น พรพิสุทธิ์ไม่ได้รู้สึกวิตกอะไรกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนักเธอเชื่อมั่นว่ามันจะผ่านไปได้ แต่มันมีบางเรื่องน่ะซิที่เธอกำลังจะผ่านมันไปไม่ได้หากเธอยังต้องติดอยู่ในรถไฟฟ้าก็เธอมีสัมภาษณ์งานและเธอกำลังจะสาย!! ทั้งที่เธอเผื่อเวลามาเป็นชั่วโมงแต่ตอนนี้เวลามันเหมือนกำลังจะขาด

โอ่ว…ดั่งฟ้าไม่เป็นใจแลสรวงสวรรค์ยังกลั่นแกล้งสังหรณ์ใจตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านละจิ้งจกทั้งโขยงพร้อมใจกันร้องทัก เดินออกมาจากบ้านจะหามอเตอร์ไซค์รับจ้างสักคันก็ไม่มีทั้งที่ทุกวันเห็นยืนออกันยังกับกลุ่มโจรยืนรอมอเตอร์ไซค์รับจ้างจนขาเกือบจะแข็งเป็นหินกว่าจะมา ซ้ำร้ายยังมาติดแหงก อยู่บนท้องถนนอีกถึงรถสองล้อจะปราดเปรียวขับซิกแซ็กได้เปรียบรถที่มีล้อเยอะกว่าแต่มีสิ่งหนึ่งที่มอเตอร์ไซค์มิอาจมีอภิสิทธิ์เหนือรถอื่นๆ คือ… คือ… สัญญาณไฟจราจรนั่นเอง ไฟสีแดงมาเมื่อไหร่ไม่ว่าหน้าไหนก็ต้องหยุด

‘เฮ่อ’หญิงสาวถอนหายใจอยู่ในอก วันนี้มันไม่ใช่วันของเธอ สิบนาทีผ่านไปช่างเนินนานดั่งสามปีถ้าเกินจากสิบนาทีไปอีกเธอได้ขาดใจตายแน่ๆ ในที่สุดรถไฟฟ้าก็กลับมาเป็นปกติและค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปแม้แอร์ในรถไฟฟ้าจะกลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิมแต่ก็ไม่อาจช่วยดับไฟในใจของพรพิสุทธิ์ได้ใจของคนที่กำลังจะสาย เมื่อถึงสถานีที่ต้องการพรพิสุทธิ์รีบพุ่งตัวออกไปเมื่อประตูเปิดวิ่งตัวปลิวอย่างกับอยู่ในสนามแข่งขัน เพื่อรีบมาต่อรถไฟฟ้าบนดิน BTS (Bangkok Mass Transit System)

พรพิสุทธิ์กึ่งเดินกึ่งวิ่งเลาะซ้ายปาดขวาแซงผู้คนที่เดินอ้อยอิ่งมาถึงบันไดเลื่อนแต่มันก็รีบไปกว่านี้ไม่ได้แล้วเพราะคนยืนเรียงแถวคู่ขวางหน้าเธอเต็มเหยียดไปหมด

“ปิ๊ด ปี๊ด…”ทันทีที่สุดบันไดเลื่อน รถไฟฟ้าขบวนนั้นก็แล่นออกไป

‘ปัดติโธ่ถังกาละมังรั่ว แจนเอ๊ย!!’ทำไมชีวิตมันถึงต้องยากเย็นอะไรขนาดนี้ มันจะบังเอิญเกินไปนะที่อะไรๆจะดูติดขัดไปเสียหมดแต่เอาเถอะ! ไปช้าก็ยังดีกว่าไม่ไป ผิดเวลาก็ยังดีกว่าผิดนัดทางบริษัทที่เรียกเธอไปสัมภาษณ์คงจะประทับใจในตัวเธอมาก แต่เป็นในทางลบนะแถมบริษัทนี้ยังเป็นของฝรั่งมังค่าที่ถือนักหนาเรื่องความตรงต่อเวลา punctualityเป็นเรื่องสุดสำคัญ อุตส่าห์ปากกัดตีนถีบมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วคือการสัมภาษณ์กับนายจ้างชาวต่างชาติ

‘เฮ่อ…’หญิงสาวผู้โชคร้ายถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ว่าแต่…หมดหรือยังความซวย! ตอนนี้สิ่งที่อยากทำที่สุดคืออัพ Status ใน Facebook ว่า

‘ทำใจ’เธออยากแบ่งปันความรู้สึกนี้สู่ทุกคนที่รู้จักเธอ

เมื่อถึงสถานีที่ต้องการพรพิสุทธิ์รีบพุ่งออกไปจากขบวนเมื่อประตูรถไฟฟ้าเปิดวิ่งสุดฝีเท้าด้วยความหวังว่าพระเจ้าจะประทานความโชคดีให้กับเธอบ้างกระโปรงทรงเอกับรองเท้าคัชชูที่สูงถึงสามนิ้วเป็นอุปสรรคในการวิ่งอย่างมาก จากนั้นการกำจัดจุดอ่อนจึงเกิดขึ้นสิ่งที่ผิดแผกไปในตอนนี้คือรองเท้าที่มันควรจะอยู่ที่เท้าแต่ตอนนี้มันขึ้นมาอยู่ที่มือส่วนกระโปรงทรงเอสุดคับแคบยังคงอยู่ที่เดิม ก็ถ้าถอดหรือย้ายมันได้ก็คงทำไปแล้ว

ร่างบางวิ่งสุดฝีเท้าถึงกายจะแทบไม่ไหวแต่หัวใจเต็มร้อยพรพิสุทธิ์แลกบัตรก่อนจะรีบวิ่งมาที่ลิฟต์ แต่…ประตูลิฟต์ปิดต้อนรับเธอทันทีที่วิ่งมาถึง

แง่ว…ให้มันได้อย่างนี้!หญิงสาวยกนาฬิกาขึ้นมาดูอีกรอบเธอผิดเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว

“พรพิสุทธิ์ค่ะ”หญิงสาวรีบแนะนำตัวเมื่อมาถึงเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ในมือยังถือรองเท้า

“คุณพรพิสุทธิ์ นะคะ”ประชาสัมพันธ์เปิดดูข้อมูลก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ที่มันก็ทำให้รู้สึกดีอยู่หรอกนะแต่ประโยคที่ติดตามรอยยิ้มสวยๆมานี่ซิ ช่างเชือดเฉือนใจ

“คุณมาสายไปสี่สิบนาทีค่ะและเจ้านายก็เพิ่งจะออกไปเมื่อสักครู่นี่เองถ้าบริษัทเปิดรับสมัครรอบใหม่ทางเราจะติดต่อไปนะคะ”อย่ามาให้ความหวังลมๆแล้งๆกับฉันเลยแม่ประชาสัมพันธ์คนสวยฉันไม่กล้าฝันหรอกว่าจะมีการติดต่อกลับไปอีก ผิดนัดตั้งแต่วันสัมภาษณ์แบบนี้เขาคงไว้วางใจอยากรับเข้ามาทำงานหรอกนะ

เฮ่อ! ครั้งที่ร้อยหรือยังนะกับการถอนหายใจประชาสัมพันธ์สาวสวยยิ้มสำทับก่อนจะก้มหน้าสาละวนกับของตนที่ก็ไม่มีอะไรหรอกแค่ต้องการปิดการสนทนาสภาพยับเยินขนาดนี้ต่อให้มาทันจะรับไว้ก็คงจะคิดหนัก

พรพิสุทธิ์เดินไปทิ้งตัวที่โซฟารับแขกตัวยาวในพื้นที่สำนักงานจัดการใส่รองเท้าคัชชูคู่เก่ง ถึงอย่างไรชีวิตก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าตอนนี้ที่ทำได้คือละทิ้งความผิดหวังไว้ที่ตรงนี้

พรพิสุทธิ์เดินเหนื่อยๆออกมาจากออฟฟิศสุดหรูที่ก่อนหน้านี้มุ่งมาดปรารถนาจะมาฝากชีวิตไว้แต่เมื่อวาสนาไม่ต้องกันเธอก็ทำได้แค่เดินไปข้างหน้าแล้วก็หาเอาใหม่ เธอเชื่อมั่นว่าจะมีที่ที่ดีกว่ารอเธออยู่พรพิสุทธิ์ปลุกปลอบให้กำลังใจตัวเอง

พรพิสุทธิ์เดินเรื่อยๆมาถึง skywalk บริเวณแยกราชประสงค์เลยได้มารำลึกถึงความหลังครั้งยังเป็นวัยรุ่นที่สยามสแควร์แก้เซ็งสักหน่อยแน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้แทบไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยเกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่แทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะจากสิ่งแวดล้อม ผู้คนหรือสิ่งสร้างสรรค์ต่างๆที่ถูกคิดค้นขึ้นมาอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เหมือนเดิมเสมอก็เห็นจะเป็นบรรยากาศสาวๆสวยๆวัยทีนที่เดินเยื้องย่างกันขวักไขว่ที่พอจะช่วยบรรเทาอาการso sad ของคนชวดงานได้บ้าง

สายตาของพรพิสุทธิ์พาดผ่านไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมายแต่มีบางสิ่งสะดุดตาสะดุดใจขึ้นมา

“ด่วน!! รับสมัครอาจารย์สอนพิเศษประจำสถาบันหลายวิชาโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านใน” มันคือข้อความประกาศรับสมัคร tutorของสถาบันกวดวิชาที่มีชื่อเสียงพอประมาณแห่งหนึ่งใจกลางสยามสแควร์

where is where ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอกสารก็มีติดตัวอยู่ลองดูสักหน่อยจะเป็นไรไปงานอะไรที่พอจะทำได้ตอนนี้เธอสนหมดแหละ แม้จะไม่ใช่งานประจำที่มั่นคงแต่อาชีพนี้ก็สร้างเศรษฐีมาไม่น้อยๆนะเออเผื่อเธอจะเป็นหนึ่งในนั้นกับเขาบ้าง จับพลัดจับผลูมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาโอกาสที่อยู่เบื้องหน้าพาคนที่อยู่ในอารมณ์ผิดหวังฝันไปไกล แต่…เมื่อก้มดูสภาพของตัวเอง ยับเยินขนาดนี้ทั้งหน้าสดแถมเหงื่อโทรมยังกายยังกับเพิ่งออกมาจากงานกีฬาสี ไม่ได้!! ต้องไปเนรมิตตัวเองให้ดูดีก่อนคิดได้ดังนั้นร่างเพรียวจึงรีบพุ่งไปหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดตามความคุ้นชินเพราะคุ้นเคยกับละแวกนี้ดี

เมื่ออยู่หน้ากระจกพรพิสุทธิ์จัดการแต่งหน้าดูแลความเรียบร้อยเพื่อให้ตัวเองแลดูให้ดีที่สุดเท่าที่พอจะทำได้พรพิสุทธิ์ในวัย 25 ปีบริบูรณ์ หญิงสาวที่มีดวงตากลมโตเป็นประกายสดใสดั่งคนมองโลกในแง่ดีผิวขาวอมชมพูผุดผาดผ่องใส รูปร่างเพรียวระหงบนความสูง 168 เซนติเมตร ที่เจ้าตัวยังงุนงงจนทุกวันนี้ว่าสูงได้ใครมาเพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่คนรูปร่างสูงใหญ่เลยทั้งคู่

เมื่อดูแลความเรียบร้อยเพื่อให้ตนดูดีจนพอใจแล้วพรพิสุทธิ์จึงเดินออกจากห้องน้ำกลับไปยังสถาบันกวดวิชาแห่งนั้นเมื่อกายพร้อมใจพร้อมมือเรียวจึงผลักประตูกระจกเข้าไป

“สวัสดีค่ะมาดู course ให้ลูกเหรอคะ” พนักงานต้อนรับสาวสวยส่งยิ้มหวานต้อนรับคนที่ตนคิดว่าเป็นลูกค้า

“อย่าว่าแต่จะมีลูกเลยค่ะ แฟนก็ยังไม่มี”พรพิสุทธิ์ตอบกลับไป อีกฝ่ายสาวยังไม่คลายยิ้มทั้งยังหัวเราะร่วนขำคนสวยแต่ยังไม่มีแฟน ประชาสัมพันธ์สาวสวยอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบรัดรูปตึงเปรี๊ยะกระดุมสองเม็ดบนไม่ได้กลัดให้เรียบร้อยคงประสงค์อยากจะอวด ‘ของดี’ที่ตนเองมี

“ไม่มีลูกก็พอจะเชื่อได้นะคะแต่สวยขนาดนี้บอกว่ายังไม่มีแฟนอันนี้คงต้องขอคิดดูก่อน”พรพิสุทธิ์เพียงยิ้มรับไม่ได้ต่อประโยคเพราะเดี๋ยวจะพากันออกทะเลไปไกล ประชาสัมพันธ์สาวขยับตัวเปลี่ยนท่าทางนั่นยิ่งทำให้อะไรที่มันตูมๆท้าทายสายตาคนตรงหน้ามากขึ้นจนพรพิสุทธิ์ต้องเบี่ยงสายตาออกไปเพราะชักกระดากส่วนเจ้าของทรงโตก็คงไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ

“คือว่าจะมาสอบถามเรื่องสมัครงานค่ะเห็นติดป้ายรับสมัครอาจารย์สอนพิเศษไว้น่ะค่ะ”

“อ๋อ ค่ะ ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะงั้นกรอกใบสมัครไว้ก่อนเลย” ประชาสัมพันธ์สาวสวยเป็นกันเองก่อนจะลุกจากพนักเก้าอี้ไปที่ชั้นเอกสารเลื่อนสายตาไปที่ชั้นบนสุดดูเหมือนว่าวันนี้มันจะอยู่สูงเกินเอื้อมเพราะไม่ได้ใส่ส้นสูงพรพิสุทธิ์มองตามประชาสัมพันธ์สาวจากทางด้านหลังส่ายหน้าน้อยๆกับสาวทรงอวบอั๋นในกระโปรงสั้นสุดฟิตที่กำลังเขย่งเท้าเอื้อมหยิบเอกสาร

“จะหยิบแฟ้มไหนคะ เดี๋ยวฉันช่วยหยิบให้” พรพิสุทธิ์เสนอตัวเข้าไปช่วยที่ประชาสัมพันธ์สาวก็ยินดีเพราะอะไรที่มันช่วยให้ง่ายขึ้นมันเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

“ซ้ายมือสุดค่ะ”แขนยาวๆของคนที่ตัวสูงกว่าเอื้อมหยิบมาได้ไม่ยากนัก

“อุ่ยพรพิสุทธิ์กะพริบตาถี่ยิบระคายเคืองจากฝุ่นละอองที่ร่วงหล่นลงมาเข้าตามือเรียวกำลังจะถูกยกขึ้นมาขยี้เป็นอัตโนมัติเป็นไปโดยสัญชาตญาณแต่กลับโดนมือนุ่มนิ่มของประชาสัมพันธ์สาวจับเอาไว้

“มือคุณสกปรกอยู่อย่าเอาไปขยี้สิค่ะเดี๋ยวจะยิ่งระคายเคืองไหนขอพี่ดูหน่อย” ประชาสัมพันธ์สาวยื่นหน้าเข้ามาใกล้แม้หญิงสาวคนตัวสูงกว่าจะกำลังทุกข์กายแต่ใจกลับสั่นแปลกๆน้ำนัยน์ตาไหลพรากออกมาเพราะร่างกายต้องการจะชะล้างสิ่งสกปรกออกไป ประชาสัมพันธ์สาวพาคนมีน้ำใจแต่โชคร้ายมานั่งที่เก้าอี้ของตนรีบเปิดขวดน้ำดื่มเทน้ำใส่แก้วและยื่นให้คนเจ็บล้างตา

“ดีขึ้นรึยังเอ่ย อุ่ย! ตาแดงมากเลยค่ะ” เห็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกผิดเพราะมันเกิดมาจากที่อีกฝ่ายมาช่วยเหลือตน

”งั้น..รอพี่แป็บนึงนะคะจะไปซื้อน้ำยาล้างตาให้”

“ไม่ต้องหรอกค่ะนิดหน่อยเองเดี๋ยวสักพักคงดีขึ้น” พรพิสุทธิ์รีบปฏิเสธแต่หล่อนฟังที่ไหนเดินจ้ำอ้าวออกประตูไปแล้ว คนมาสมัครงานมองตามงงๆแต่ก็หลุดยิ้มออกมาให้กับความมีน้ำใจของคนสวยแต่ไม่นานเมื่อสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันความประทับใจก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแย่ๆก็วันนี้ตั้งแต่เดินออกจากบ้านมาจนตอนนี้ยังหาเรื่องที่เป็นมงคลให้กับชีวิตไม่ได้เลยงานก็ชวดแล้วแถมยังต้องมาเจ็บตาอีก แล้วเกิดบ้าบอตาเกิดจะบอดต้องหาเงินมารักษาเป็นแสนเป็นล้านเธอจะทำยังไงคนเจ็บคิดเพ้อเจ้อไปเรื่อยที่ล้วนเป็นไปในทางลบ

กริ้ง กริ้ง… เสียงกระดิ่งที่หน้าประตูดึงความสนใจจากคนเจ็บตามมาด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวของกลุ่มนักเรียนสาวๆ

“ขอเอกสารคอร์สเรียนหน่อย" หนึ่งในกลุ่มเด็กสาวพูดขึ้นสั้นห้วน ไม่มีหางเสียง ซึ่งเป็นปกติที่ลูกค้าหลายคนจะคิดเห็นสำคัญตนว่าเป็นดั่งราชาแต่ปัญหาคือคนที่นั่งอยู่ไม่ใช่คนรับลูกค้าไง เลยไม่ได้เป็นดั่งทาสหรือพลทหารของพระราชา พรพิสุทธิ์ได้ยิน รับทราบแต่ก็ทำเป็นนั่งนิ่งบนเก้าอี้ของประชาสัมพันธ์นี่มันคงเป็นความซวยในลำดับต่อไปที่มันยังไม่สิ้นสุดคือต้องมาเจอกับแก๊งเด็กแก่นแก้วไม่มีสัมมาคารวะชวนให้เสียอารมณ์ วันนี้คือวันอภิมหาซวยของเธอโอ่ว!! ความซวยที่แสนจะยิ่งใหญ่

“อ้าวพี่! ไหมนั่งเฉยล่ะคะไม่ได้ยินที่บอกไปเหรอ" เด็กสาวคนเดิมยังไม่หยุดพร่ำนั่นยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านของคนโชคร้ายแทบจะระงับเอาไว้ไม่อยู่พยายามมองออกไปข้างนอกภาวนาให้ตัวช่วยรีบมาไวๆแต่ก็ยังไร้เงาแล้วดันมามีลูกค้าอะไรตอนนี้ตอนประชาสัมพันธ์ไม่อยู่เมื่อกี้นางอยู่แล้วก็ว่างอยู่ตั้งนานเด็กนรกแก๊งนี้ก็ไม่ยอมมากัน

“สงสัยจะเมียเจ้าของ คนสวยก็แบบนี้แหละมักเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ"พรพิสุทธิ์ยังสงบอยู่ได้เพราะมีคำว่าสวยติดมาในประโยคพอจะช่วยดึงใจคนฟังให้ดีขึ้นมาได้หน่อยตัวเด็กสาวคนพูดเองหน้าตาก็ดีใช่ย่อยแล้วเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเหมือนที่ชอบว่าคนอื่นไหมล่ะพรพิสุทธิ์ได้แค่คิดไม่ได้พูดออกไป กลัวจะยาว

“รอก่อนนะคะประชาสัมพันธ์ออกไปซื้อของ"

“แล้วนี่มันใช่เวลาไปซื้อของหรือไงเวลางานทำไมไม่อยู่ทำงาน แถมยังทิ้งคุณป้าที่เป็นตาแดงมานั่งไร้ประโยชน์”

หือ…ป้าพรพิสุทธิ์มองเด็กสาวคนที่พูดตาเขียวปั๊ด ในใจนึกอยากฆาตกรรมเด็ก

“เหมือนคุณป้าจะไม่ค่อยพอใจพวกเรานะ"เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีอาการขุ่นเคืองเด็กสาวจึงแหย่ต่อถือว่ามีพวกมากกว่า

“ฉันดูเหมือนพี่สาวแม่ของพวกเธอเหรอหรือถ้าอยากจะนับญาติกันฉันก็มีสิทธิ์จับพวกเธอตีก้นได้ล่ะซิ ได้เลยจะจับตีก้นซะให้เข็ด"พรพิสุทธิ์ขาดสติลุกพรวดพราดขึ้นมาทั้งที่ตายังเจ็บพุ่งหาเด็กปากกล้า

“กล้าก็เข้ามาซิคะ" สาวรุ่นหัวโจกไม่มีท่าจะเกรงกลัวพุ่งตัวเข้าไปหาด้วยความแรงในระดับเดียวกันแต่ดีที่เพื่อนๆดึงตัวไว้ได้ทัน

“ตายแล้วน้องๆขาใจร่มๆกันก่อนนะคะอะไรกันคะ เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น" ประชาสัมพันธ์สาวเข้ามาห้ามทัพได้ทัน

“ก็ป้าคนนี้จะจับพวกเราตีก้น” เด็กปากกล้าคนเดิมเป็นคนตอบ

“คงมีเรื่องเข้าใจผิดกันแล้วน่ะค่ะ พี่คนนี้เขาเป็นติวเตอร์มาใหม่กล่องยังไม่ทันได้แกะเลย” ประชาสัมพันธ์สาวประนีประนอมไม่อยากเสียลูกค้าเด็กพวกนี้ตัวเงินตัวทองทั้งนั้นแม่หน้าสวยคนนี้ก็ยังต้องรักษาไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์ในอนาคต

“หือ…ยัยป้าหน้าเด็กคนนี้นะเป็นติวเตอร์"

“จะกลับไปไหนกันคะน้องๆขา ไม่เห็นป้ายประกาศกิตติคุณของที่นี่เหรอคะ เรารับประกันนะคะว่าคุณภาพคับแก้ว ว่าแต่น้องๆสนใจเรียนวิชาอะไรกันเอ่ย"ประชาสัมพันธ์ต้อนเด็กๆเข้าทางของตนเธอเจอมาเยอะและทำงานนี้มานานเด็กแสบพวกนี้ไม่ทำให้เธอสะท้านหรอก

“อังกิด" สาวรุ่นคนเดิมตอบกลับสั้นห้วนไม่คิดให้เกียรติเพราะมองอีกฝ่ายอยู่ในกลุ่มคู่กรณีไปซะแล้วก็ยัยคนสวยเป็นพวกเดียวกับยัยมนุษย์ป้าหน้าเด็ก

“อังกฤษค่ะ พูดจาให้ชัดถ้อยชัดคำหน่อยเวลาสอบสัมภาษณ์จะได้ไม่ตกไปกับเรื่องง่ายๆ" พรพิสุทธิ์ได้ทีเป็นพาลีสอนน้องเด็กสาวยักไหล่ไม่แยแสทั้งยังสะบัดบ๊อบใส่ ไม่ให้เครดิตจะเสวนาด้วย

“ใจเย็นดิวะดาว ฉันเอาเงินม๊ามาแล้วด้วยวันนี้ถ้าไม่มีใบเสร็จไปให้โดนแพ่นกบาลแน่"เด็กสาวนางหนึ่งดึงแขนสาวแสบหัวโจกหวังให้เปลี่ยนใจ ก็มัวแต่ลีลากันจนที่อื่นเขาเต็มไปหมดแล้วเหลือแต่ที่นี่แหละ

“ขอทราบวันเวลากับรายละเอียดของคอร์สหน่อยค่ะ"หัวโจกพูดขึ้นประชาสัมพันธ์สาวยิ้มหวานสุดชีวิตบอกแล้วไงว่าแค่นี้เธอเอาอยู่สบายแต่เธอยังต้องจัดการบางอย่างให้ลุล่วงไปพร้อมๆกัน มืออ่อนช้อยหยิบระเบียบการ ทำไฮไลท์วงกลมตัวโตๆให้เห็นเด่นชัดพร้อมกับคู่มือมาให้เด็กสาวเพื่อประวิงเวลา

“น้องๆอ่านโบร์ชัวร์ของสถาบันไปพลางๆก่อนนะคะพี่ติดขอไปล้างตาให้พี่เขาก่อน"

“เป็นง่อยหรือไงถึงล้างเองไม่ได้”

“ยัยดาว!" เพื่อนคนเดิมหันมาแหวใส่หัวโจกเป็นวัยรุ่นกวนได้เกรียนได้แต่ต้องรู้กาละด้วยอย่างยัยป้าคนนี้ก็เป็นถึงครูบาอาจารย์ส่วนพรพิสุทธิ์ทำได้เพียงแต่ใช้ทมะ (แปลว่าการข่มใจ) ในการเป็นฆราวาสธรรม 4 เข้าข่มเพราะเกรงใจพี่สาวประชาสัมพันธ์คนสวย เธอมันก็แค่คนมาขอโอกาสเขาทำงานจะไปทำป่วนให้เขาเสียงานเสียการก็ไม่ใช่วิสัยนางฟ้าแสนดี

มือนุ่มนิ่มของสาวสวยผู้อารีแต่หวังผลจูงคนเจ็บตามานั่งที่โซฟาจัดการเปิดขวดน้ำยาล้างตาเทใส่ถ้วยเล็กๆที่ติดมากับขวดและยื่นให้

“หมั่นไส้ยัยป้าอ่ะ แค่นี้ทำเป็น”เด็กสาวที่เพื่อนเรียกขานว่าดาวยังไม่หยุดกระแนะกระแหน ต่างจากพรพิสุทธิ์ที่ตอนนี้ก็เอาหูทวนลมแล้วเด็กก็คือเด็ก ต่อล้อต่อเถียงไปเธอก็จะกลายเป็นเด็กเพิ่มอีกคน คนอื่นเขาก็จะว่าเธอได้ว่าเป็นเด็กหน้าแก่

“อูยส์!..แสบจังค่ะ" พรพิสุทธิ์โอดครวญ

“กะพริบตาถี่ๆหน่อยค่ะน้ำยากำลังฆ่าเชื้อโรคอยู่ ทนอีกนิดเดียวเนาะ" คนโชคร้ายทำตามอย่างว่าง่ายสักพักก็เอาถ้วยออกจากเบ้าตาพี่สาวใจดีดึงถ้วยออกไปจากมือลุกขึ้นเดินเอาไปทิ้งให้ก่อนจะกลับมานั่งข้างๆ

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณพี่มากเลยนะคะ"พรพิสุทธิ์ยกมือไหว้นอบน้อมซึ้งจากใจ

“สงสัยเป็นอาจารย์สอนมารยาทไทย"เด็กที่ชื่อดาวยังตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยจนเพื่อนสาวชักเอือมกับพฤติกรรม

“พี่คะ คอร์สตะลุยโจทย์เต็มหรือยัง"

“เอ่อ..” ประชาสัมพันธ์สาวอึกอักชักไม่คล่องแคล่วอย่างเคย ก็คอร์สนี้เธอยังหาติวเตอร์มาสอนแทนคนเก่าที่ถูกอีกสถาบันซื้อตัวไปไม่ได้เลยนี่คอร์สก็จะเปิดพรุ่งนี้แล้ว ระหว่างที่พยายามจะแก้ปัญหา สายตาไวชำเลืองดูใบTranscriptที่วางอยู่ตรงหน้ากวาดตาดูแบบรวดเร็ว พรพิสุทธิ์ MBA GPA3.85 English A Thesis A … ประชาสัมพันธ์สาวสวยตัดสินใจโช๊ะเดียวฟันธงทันที

“เกือบเต็มแล้วค่ะ เหลือที่นั่งอีกแค่ห้าหกที่เท่านั้นแต่เดี๋ยวก็คงจะเต็มแล้ว"จิตวิทยาเริ่มถูกนำมาใช้ สาวมากประสบการณ์ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจว่าปมปัญหาได้ถูกแก้เรียบร้อยแล้ว

“สมัครเลยเนอะพวกเรา ฉันขี้เกียจเดินหาแล้วอ่ะเมื่อยตุ้ม อีกอย่างถ้าเขาสอนไม่ได้เรื่องเราก็โดดไปนู่นนี่กันก็ได้" หนึ่งสาวออกความเห็นสมาชิกที่เหลือก็พยักหน้าคล้อยตามแต่ดูเหมือนผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในกลุ่มจะยังไม่ตกลงปลงใจ

“ใครสอน"

“ก็พี่คนสวยคนนี้ไงคะเธอจบปริญญาโทเกียรตินิยมจากสถาบันที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศเชียวน้า" ผู้ที่ถูกพาดพิงถึงหน้าเหวอวืดไปเล็กน้อยก่อนจะเก็บอาการได้อย่างแนบเนียนแต่อะไร? ยังไง? ยังไม่ทันได้สัมภาษณ์กันเลยก็จะรับเธอแล้วเหรอ แล้วจะมาเปิดซิงเธอด้วยลูกศิษย์แก่นแก้วร้ายกาจพวกนี้อ่ะนะหูย! ขนลุกอ่ะ พรพิสุทธิ์รู้สึกหวาดๆแปลกๆมากกว่าจะตื่นเต้นดีใจที่ได้งานเรื่องความรู้ทางภาษาอาจมิใช่อุปสรรคแต่ปัญหาคือเธอไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการสอนมาก่อนนี่สิมันเรื่องใหญ่แล้วเกิดลูกศิษย์แก่นเซี้ยวเป็นพิมพ์เดียวกันหมดทั้งคลาส โอยแม่เจ้า! โหดร้ายเกินไปจนเธอคิดต่อไม่ไหวแล้ว

“ป้าคนนี้นะที่จะมาเป็นอาจารย์สอนพวกเราขนาดแค่ฝุ่นเข้าตายังแก้ปัญหาเองไม่ได้เลย" เด็กที่ชื่อดาวยังคงไม่หยุดค่อนขอดออกไปทางจะไม่เชื่อน้ำยาส่วนพรพิสุทธิ์ยังนั่งนิ่งรักษาฟอร์มรอฉันก่อนแม่เด็กน้อยฉันจะให้เธอได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของฉันแบบเต็มเวอร์ชั่น

“ขอตารางสอนด้วยค่ะ” ทีแรกว่าจะปฏิเสธเพราะไม่พร้อมทั้งกายและใจแต่อยู่ๆมานะก็เกิดขึ้นมาจากรากของทิฐิ จากการโดนคนที่อายุน้อยกว่าดูแคลน เธอจะไม่แคร์ไม่ใส่ใจก็ได้แต่ลึกๆเธอก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองและอีกอย่างความหยิ่งยโส เอาแต่ใจมันกินไม่ได้ ขายก็ไม่ได้ แถมยังเป็นภัยในใจหากมีมากเกินไป ก็แค่ติวเตอร์แค่สอนภาษาอังกฤษเด็กมันจะยากอะไร ใช่มะ!ความคิดของพรพิสุทธิ์ลอยออกทะเลไปไกลแต่สุดท้ายก็ลอยกลับมาติดฝั่งที่สถาบันติวแห่งนี้

“พรุ่งนี้เจอกันนะคะเด็กๆ" แม้ข้างในจะหวั่นไหวแทบอยากจะวิ่งหนีกับสถานการณ์แปลกใหม่ที่แวดล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าเด็กที่พร้อมจะเป็นนักล่าที่น่ากลัวแต่เธอก็ยังมีเวลาเตรียมตัวตั้ง…หนึ่งคืนคงฟิตทันแหละน่าขนาดสอบ Comprehension สุดโหดเธอยังผ่านมันมาแล้วเลยเด็กสาวที่ชื่อดาวมองอาจารย์สาวคนสวยนัยน์ตาเป็นประกายเอาเรื่อง สนุกแน่อาจารย์ขา

“โอเค งั้นพวกเราลงคอร์สนี้"เด็กสาวที่ชื่อดาวสรุป จากนั้นเด็กสาวทุกคนจึงจัดการกรอกใบสมัครและชำระเงินก่อนจะพากันออกไปลัลล้าตามประสาวัยซน

"หวังว่าจะไม่ใช่แค่ราคาคุยนะเจ้าคะอาจารย์ป้า" ก่อนออกไปเด็กแสบคนเดิมยังไม่หยุดราวีทางวาจาแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าจะอะไรกับแม่ ติวเตอร์คนนี้นัก

“ก็ถ้านักเรียนไม่มีปัญหาด้านสมอง และมีใจใฝ่เรียนอยู่บ้างความสามารถในการสอนของอาจารย์ก็คงจะสมราคา”พรพิสุทธิ์ตอบกลับกินนัยแต่ก็ไม่ได้สะเทือนใจเด็กสาวแต่อย่างไรเด็กอย่างพวกเธอไม่คิดมากอะไรกับเรื่องพวกนี้หรอก ด่ามาก็ด่ากลับก็เท่านั้น สองสาวต่างรุ่นมองกันด้วยสายตาท้าทายเอาเรื่องอยู่กลายๆ

"แล้วเจอกันค่ะป้า" ตานี้ไม่ได้กินนัยกันทางวาจาแต่เป็นที่น้ำเสียง จากนั้นกลุ่มเด็กสาวก็เดินออกไปสวนทางกับผู้ปกครองรายหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาสอบถามทำให้สองสาวยังไม่มีโอกาสได้คุยกันต้องรอจนเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างรอ พรพิสุทธิ์ก็ได้เห็นการทำงานของพี่สาวคนสวยที่ยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อหล่อนดูเป็นธรรมชาติมากทั้งการเจรจาพูดคุยกับลูกค้าก็แคล่วคล่องเต็มไปด้วยไหวพริบจากการพินิจพิเคราะห์พี่สาวคนสวยคนนี้หล่อนต้องเป็นคนสำคัญของที่นี่แน่ๆเพราะจากการตอบคำถามที่รู้ลึกเกินพนักงานต้อนรับทั่วไปและการตัดสินใจในเรื่องต่างๆแม้แต่เรื่องที่รับเธอเข้าทำงานก็เช่นกัน ก็ ประชาสัมพันธ์ที่ไหนเขามีสิทธิ์รับคนเข้าทำงานกันเล่า 




Create Date : 29 กันยายน 2558
Last Update : 19 ตุลาคม 2558 19:06:56 น. 1 comments
Counter : 484 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:17:05:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.