Group Blog
 
All blogs
 
ฉันซื้อเธอแล้ว

“ถึงแล้วสินะรปปงหงิ”ปิ่นปัทม์คลำทางด้วยตนเองมายังสถานีรปปงหงิจนได้ ย่านรปปงหงิ (Roppongi) ที่อยู่ค่อนไปทางทิศใต้ของมหานครโตเกียว เคยเป็นอดีตหมู่บ้านของซามูไรชั้นสูงในสมัยเอโดะ (ช่วงเวลาเทียบได้ประมาณปลายกรุงศรีอยุธยาถึงต้นรัชสมัยรัชกาลที่5 แห่งรัตนโกสินทร์) หากปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถูกพัฒนาด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับmega project กลายเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายประเทศ จึงทำให้มีร้านค้าและร้านอาหารแนว western& fusion มากมายเป็นศูนย์รวมสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีอันหรูหรา สไตล์โมเดิร์น เช่นคลับและบาร์ สถาปัตยกรรมต่างๆในบริเวณนี้ถูกออกแบบโดยใช้ความลื่นไหล เส้นโครงและลวดลายที่อ่อนช้อยหลากหลายแบบมาเป็นรูปทรงของตึกถือเป็นการออกแบบที่ดูสวยงาม ทันสมัยสุนทรียศิลป์และสอดรับกับการใช้งานเป็นความลงตัววิจิตรยิ่ง

ทันทีที่ออกมาจากสถานีจุดมุ่งหมายมิใช่การมา shopping ปิ่นปัทม์ต้องการจะมาดูการแสดงไฟใกล้เทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นนี้แน่นอนว่าประดาเมืองใหญ่ของโลกจะต้องมีการประดับแสงไฟเฉลิมฉลองโตเกียวก็เป็นหนึ่งในเมืองเหล่านั้นคนญี่ปุ่นแม้จะไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชนแต่กระตือรือร้นขอมีส่วนร่วมชนิดที่เรียกว่าคลั่งไคล้เข้าขั้นฟีเวอร์ ตามร้านรวงแฟชั่นจะมีทั้งเสื้อผ้า accessoriesที่วางขายเป็น theme เกี่ยวกับ Christmasโดยเฉพาะ ปิ่นปัทม์ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยเพราะพี่ยุ่นเขานิยมแต่ง cosplayอยู่แล้ว สาวสวยนึกภาพตาม ในคืน Christmas’ Eve บรรยากาศคงจะคึกครื้นเริงรื่นน่าดูชมมีเหล่าซานต้าสวยๆเซ็กซี่แต่ง cosplay การประดับแสงไฟตามอาคารและท้องถนนนับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เธอเฝ้ารอและรปปงหงินับรวมเป็นหนึ่งในสถานที่เลื่องชื่อเพราะความเป็นตะวันตกที่มากกว่าย่านอื่นทางการและภาคเอกชนจึงร่วมกันจัดงานแสงสีเป็นประจำทุกๆปี

ปิ่นปัทม์มาถึงส่วนบริเวณที่เรียกว่า TokyoMidtown ซึ่งมีการจัด event แสดงแสงไฟ LEDอะร้าอร่ามหลากสีสันสวยงามบนพื้นสวนกว้างประกอบดนตรี classic ทุกค่ำคืนตลอดช่วงหนึ่งเดือนเศษ

‘แม่คนนี้ขาลายสิ้นดี’เทคนิคการจดจำสีสันในสมัยมัธยมปลายถูกนำมาใช้เมื่อพี่ๆน้องๆ ม่วง คราม น้ำเงินเขียว เหลือง แสด แดง ต่างมารายงานตัววับวาวบนฟลอร์ถ้วนหน้าปิ่นปัทม์มิอาจลึกซึ้งเข้าใจความหมายของแสงสีที่สว่างวูบขึ้นแล้ววิ่งไปมาจากมุมซ้ายทแยงจรดมุมขวาบางครั้งกลุ่มแสงสีน้ำเงินก็วาบขึ้นมาก่อนจะแตกกระจายดูคล้ายหยดน้ำเธอเพียงเสพความงดงามก็อิ่มใจแล้ว

นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเองจากทั่วสารทิศรายล้อมเข้ามาดูประติมากรรมชิ้นเอกท่ามกลางผู้คนมากมายและการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นเต้นที่ฉาบไว้เป็นเปลือกส่วนลึกปิ่นปัทม์กลับเกิดความรู้สึกเคว้ง..ใจหายคนที่ถูกทิ้งมันเป็นแบบนี้เอง

จังหวะที่ปิ่นปัทม์มัวแต่ทุ่มความสนใจบันทึกvideoการแสดงเบื้องหน้า ไม่ระวังระไวจึงเผลอเดินชนเข้ากับร่างหนึ่งเข้าจังเบอร์

“I'm sorry.” สาวไทยรีบขอโทษขอโพยครั้นเมื่อเงยหน้าสวยของตนขึ้นมากลับต้องตกใจสุดขีด

“ยัยเด็กเสิร์ฟ!! โตเกียวนี่มันแคบแค่นี้เองรึไง”เสียงแหลมแหวกอากาศกระทบเข้าโสตของริโกะ

“คุณ!!” สาวฟันกระต่ายม่านตาขยายกว้างตกอกตกใจไพ่แพ้กัน ข้างกายเป็นเพื่อนพริตตี้สาวชื่อ ฮารุกะ ที่มาดูไฟด้วยกัน

“โอะ นะมะเอะ วะ นานเดสก๊ะ”ปิ่นปัทม์นึกครึ้ม ขอลองวิชา ถามไถ่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นเธอเพิ่งท่องจนขึ้นใจกรุ่นๆเมื่อตอนขึ้นรถไฟฟ้าเอง ภาษาญี่ปุ่นนี่ก็แปลก มีโอะนั่นก๊ะนี่ตลอด

“วะตะชิ วะ ริโกะ เดส (ชื่อริโกะค่ะสาวไทยเปิดแอพฯ dictionary บนสมาร์ทโฟน เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก ริโกะแปลว่าดอกมะลิเบ่งบานสีขาวบริสุทธิ์ส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ

“อ้อ..แม่ดอกมะลิ” ริโกะได้แต่ยืนตาปริบๆเป็นที่รู้กันว่าภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูได้เพียงคำพื้นๆโดดๆ yes, no, ok, thankyou, sorry อะไรเทือกนั้น ฮารุกะที่ยืนข้างกันหันมาอาสาเป็นล่ามให้ การสื่อสารของทั้งหมดจึงง่ายขึ้น

“มาทำอะไรที่นี่เวลานี้เธอต้องอยู่ร้านไม่ใช่เหรอ หรือว่าเป็นวันหยุด”

“ฉันลาออกแล้วค่ะมาสมัครงานละแวกนี้พอเสร็จจึงมาเดินเล่นแล้วก็บังเอิญเจอคุณ” ริโกะตอบตามจริง

“ออก?!” ปิ่นปัทม์ได้แต่ทวนคำไม่แปลกใจเกินควรเพราะรู้อยู่ว่างานเสิร์ฟมันจะไปพอยาไส้อะไร

“ค่ะ..มีเรื่องให้ต้องเปลี่ยนงาน”ผู้ตอบไม่บอกลงลึกในรายละเอียด คุณคนนี้ดูท่าปากคอเราะรายอาจโดนค่อนขอดว่าโอ้อวดและฮารุกะถ่ายทอดตรงไปตรงมาแปลความตามนั้น ปิ่นปัทม์หมุนศีรษะซ้าย-ขวารอบหนึ่งเหมือนใช้ความคิด ยื่นหน้าสวยของตนมาใกล้พินิจอดีตสาวเสิร์ฟตลอดกายเนื้อ สาวไทยผู้เลิศเลอยิ้มออกมาอีกครั้งการเที่ยวครั้งนี้ของเธอจะไม่เดียวดายแล้วล่ะ

“ฉันจะจ้างเธอเป็นไกด์..โอเคไหมริโกะเพียงจับความแค่อะไรไกด์ๆกับโอเคเป็นฮารุกะเจ้ากี้เจ้าการคิดแทน

“เพื่อนฉันค่าตัวแพงนะคะ”เพื่อนตัวดีปล่อยหมัดตรงหมายเข้าแสกหน้าตีหัวเข้าบ้านแม้ตระหนักดีกว่าเป็นไกด์นำเที่ยวมันเหนื่อยกว่าการมายืนปั้นหน้าสวยๆแต่เจอลูกค้ากระเป๋าหนักหนทางก้าวหน้าย่อมมีมากกว่าขายของด้วยเรือนกายแน่ๆ ปิ่นปัทม์เชิดหน้า หาได้แยแสรู้มาก่อนหน้าว่าแม่สาวร้อนเงินจะต้องโก่งค่าตัว

“ฉันสู้ทุกราคา”ฮารุกะมองหน้าเพื่อนตาหวาน เหลือบมามองคู่ต่อรอง ก่อนจะทำ quotation ทางวาจา

“วันละสามหมื่นเยน”ปิ่นปัทม์สะอึกน้ำลายเหนียวคอเธอไม่รู้ถึงระบบค่าจ้างค่าแรงของที่นี่ว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่นึกว่าสองนางนี้จะโหดฝุดๆอย่างไรก็ดีคนเอาชนะเป็นหลักชัยมีหรือที่จะยอม

“ไม่มีมัดจำ จ่ายเมื่อจบวันต่อวันพาฉันเที่ยวและตามใจเท่านั้น ถ้าไม่ตอบภายในหนึ่งนาทีจะจ่ายแค่ครึ่งเดียว”ปิ่นปัทม์ยื่นเงื่อนไขบ้าง นี่ถ้า สุพรรษาอยู่ด้วย ดีลแบบนี้ไม่มีวันได้แอ้มเงินในกระเป๋า ใช่.. ปิ่นปัทม์ยอมรับหากยึดตามหลักความเป็นจริงคงถือว่าเธอโง่มากๆที่ยอมทุ่มกับเด็กเสิร์ฟมือสมัครเล่นแต่จากสัญชาตญาณเธอเชื่อว่าตัดสินใจถูก

“ตกลงค่ะเดี๋ยวฉันขอคุยกับริโกะก่อนนะคะ” ฮารุกะรีบตกลงแรกทีเดียวเปิดราคาไว้ด้วยเกรงว่าจะโดนต่อสะบั้นหั่นแหลกไหงมันง่ายยิ่งกว่าอ้าปากง่ำโตเกียวบานานาเช่นนี้เพื่อนสุดแสบคว้าแขนของริโกะที่ยังโก๊ะๆ เดินหลบมุมไปคุยกันสองคน

“เฮ้ยๆ! ใครตกลงนี่แกก็รู้ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วไปเรียกราคาเลือดสาดขนาดนั้นเขาจะว่าเอาได้ว่าคนญี่ปุ่นหน้าเลือดไร้ซึ่งน้ำใจ” หลังจากที่รู้ว่าเจรจาความถึงตัวเธอริโกะรีบโวยเพื่อนอัตราจ้างอาชีพมัคคุเทศก์ทั่วไปอยู่ที่วันละไม่เกินหมื่นเยนเท่านั้นหรอก

“จะปฏิเสธก็ได้นะ ฉันจะกลับไปบอกคุณเขาดีไม่ดีฉันขออนุญาตรับงานนี้ไว้เสียเอง” ฮารุกะขู่หนักๆ ริโกะประมวลเหตุการณ์ดูแล้วคุณคนไทยสุดสวยน่าจะจ้างเธอไม่น้อยกว่าสามวันสี่วันงานพริตตี้หรือก็ยังไม่เริ่ม เงินหลักแสนเยนมารอตรงหน้า ใครจะไม่ฉวยคว้าไว้

“เครๆ.. แล้วมีเงื่อนไขอะไรอีก”

“ไม่รู้สิยังไม่ได้คุยลงในรายละเอียดเลย แค่คุณเธอบอกว่าให้พาเที่ยวและก็ตามใจเท่านั้น”

“อ้าวแกนี่ ชุ่ยจังฮารุกะว่าแต่แกจะหักค่านายหน้าเท่าไหร่”

“หูย ใครจะไปคิดกับแกลงคร้าเพื่อนช่วยฉันไว้ยามยากก็ตั้งหลายหน เจ๊าๆกันไปเนาะ” ริโกะซาบซึ้งนึกเปรียบกับอิโอริที่นำพาความเดือดร้อนมาให้เพื่อนดีและร้ายมีปะปนกันอยู่ที่การเลือกคบจริงๆเธอยังนิ่งเป็นต้นไม้ไร้ลมโบก ไม่ได้เคลือบแคลงว่าเพื่อนสาวไม่ตรงไปตรงมาที่ยังปากหนักเพราะสังหรณ์ใจแปลกๆต่างหาก

“เถอะน่าคุณเขาหน้าตาสะสวยดูผู้ดี๊ผู้ดีขนาดนี้คงไม่เรื่องมากหรอกแค่พาไปดูโน่นนั่นนี่ก็หมดวันรับเงินเละแล้วแกเอ๋ย” ฮารุกะรบเร้าต่อเนื่องครึ่งประโยคหลังน่ะเพื่อนตัวดีพูดถูกทุกพยางค์ แต่ไอ้เรื่องไม่มากเห็นท่าจะไม่ใช่แล้วดูจากทรงคุณเธอเชิดๆรั้นๆชอบเอาชนะแบบนี้ ไหนจะเรื่องการสื่อสารที่เป็นปัญหาอีกปวดหัวอลวนอลเวงแน่นอนริโกะจัง.. สองนารีชาวญี่ปุ่นเดินกลับมาหานายจ้างริโกะค้อมตัวอย่างนอบน้อม

“โยโรชิกุโอเนะกาอิไซมาซซซซ (ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะปิ่นปัทม์พยักหน้ารับเข้าใจเนื้อความดีเธอเป็นคนเรียนรู้ไวได้ยินและทวนซ้ำเพียงครั้งก็สามารถจำสิ่งนั้นๆได้ราวกับกดเซฟไว้ใน flashdrive

“ฉันจะใช้เธอให้คุ้มค่าตัวทุกเยนเลยล่ะแม่สาวน้อย”ประโยคมุบๆมิบๆในภาคภาษาไทยไร้ซับไตเติ้ล ทำให้ริโกะและฮารุกะแปลความไม่ได้แต่รอยยิ้มที่มุมปากเก๋ๆอย่างเคยมันแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มที่ดูร้ายลึกพิกลริโกะชักเสียวสันหลัง

“โฮเทรุ..งานแรกคือพาฉันกลับโรงแรม ” ปิ่นปัทม์เริ่มต้นออกคำสั่งทิ้งถุง shoppingเดินตัวปลิวสุดแสนสบายใจ ริโกะโบกมืออำลาฮารุกะก่อนจะเดินตามนายจ้างแกะกล่องต้อยๆ สองมือถือข้าวของพะรุงพะรัง...

เมื่อเจอเจ้าถิ่นปิ่นปัทม์ก็ไม่ต้องปวดหัวกับระบบรางเส้นทางคมนาคมทางใต้ดินที่ซับซ้อนอีกต่อไปเพียงยื่นนามบัตรของโรงแรมให้ สาวฟันกระต่ายก็พาเดินย่ำต๊อกซอกแซก

“ไกลหรือเปล่านายจ้างสุดพิไลสปีคอิงลิช ริโกะยิ้มแหย กลายเป็นภูเขาบังเส้นผมมืดมนกับการสื่อสาร ปิ่นปัทม์หาหนทางไว้ล่วงหน้าแล้ว เธอฉวยโทรศัพท์ขึ้นมาอาศัยตัวช่วยด้วยการเปิด Dictionary นิ้วน้อยๆกดตัวอักษรป้อนศัพท์ h-o-w f-a-r? ตัวคันจิเด้งขึ้นมาปรากฎบนหน้าจอยื่นให้ริโกะ ไกด์สาวส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่ไกลมาก ปิ่นปัทม์ใช้วิธีการเดิมคือเมื่อต้องการสิ่งใดใช้การพิมพ์เป็นวิธีส่งสาร เป็นคำๆอันภาษาทั่วโลกรูปประโยคล้วนกำเนิดมาจากคำ เพียงแต่จะวางประธานกริยาและกรรมเรียงลำดับกันอย่างไรเท่านั้น

“ฉันอยากนั่งแท็กซี่”

“มันแพงนะคะ”ริโกะทักท้วงพิมพ์ข้อความกลับส่งคืนไปบ้าง ปิ่นปัทม์หน้ามู่ยืนกรานว่าจะเอา เท่านั้นเธอพยักหน้ารับจำทำตามความต้องการ พาเดินมาถึงจุดเรียกแท็กซี่ซึ่งอยู่หน้าสถานีรถไฟ ปิ่นปัทม์เห็นมีคันหนึ่งจอดรออยู่สังเกตไฟสีเขียวตรงมุมล่างขวาที่ด้านหน้ากระจก จ้ำฝีเท้าจะก้าวขึ้นรถริโกะคว้าท่อนแขนห้ามเอาไว้

“ต้องขึ้นคันที่มีไฟสีแดงเรดค่ะเรด”

“อ้าว ใครจะไปรู้”ปิ่นปัทม์เป็นงงกับระบบสีที่น่าจะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกทั้งสองรอจนรถคันที่มีไฟสีแดงเข้ามาเทียบท่า เป็นรถ Toyota Crown รุ่นเก่าสีดำทรงกล่องไม้ขีดดูเทอะทะริโกะกระวีกระวาดเปิดประตูให้นายจ้างสาวเข้าไปนั่งก่อนที่เธอจะขึ้นตามไปส่งนามบัตรของโรงแรมให้คุณลุงคนขับท่าทางใจดีและสุภาพนอบน้อม สวมสูทผูกเนคไทและสวมถุงมือขาว ภายในรถดูสะอาดกว้างขวาง ตัวเลขที่มิเตอร์สตาร์ทที่ 700 เยน

“นอนโรงแรมแคปซูลไม่ต้องห่วง” ไลน์ข้อความจากสุพรรษาเด้งเป็นสีเขียวขึ้นมา หลังจากปิ่นปัทม์กดอ่านเธอรู้สึกชาไปทั่วร่าง เข้าใจอยู่ว่าเพื่อนโกรธจัดแต่ก็ไม่น่าหักหาญทิ้งเธอไว้ลำพัง

'เรามันนิสัยแย่ขนาดเพื่อนรักที่สนิทรู้ใจยังทิ้งกันได้ลงเรามันแย่มากๆเลยสินะ' ปิ่นปัทม์รำพันโทษความผิดทั้งมวลลงที่ตนแสงไฟสลัวจากท้องถนนและอาคารภายนอกสาดส่องต้องใบหน้านวลของปิ่นปัทม์ที่ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัดริโกะลอบสังเกตเห็นนายจ้างคนสวยมีน้ำใสๆปริ่มที่ขอบตา

'คุณคนสวยต้องทะเลาะกับแฟนแน่ๆอาการเฮิร์ทแบบนี้' ริโกะคิดดังๆในใจ อนุมานจากภาพตรงหน้าไม่ใช่ก็น่าจะไม่พ้นเรื่องปัญหาหัวใจ ลังเลอยู่พักใหญ่ๆว่าจะถามดีหรือไม่เกรงว่าจะก้าวล่วงความเป็นส่วนบุคคล

“โอเคไหมคะคุณคำน้อยที่ห่วงใยหลุดจากปากจนได้

“คืนนี้เธอต้องนอนกับฉัน..ที่โรงแรมนี่ คุณลุงช่วยแปลให้ทีค่ะ”ปิ่นปัทม์ออกคำสั่งและขอร้องลุงคนขับพร้อมๆกับหยดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มริโกะอึกอักและอึดอัด จะให้เธอค้างอ้างแรมกับสาวต่างชาติซ้ำยังไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำนี่นะ ที่สำคัญกำลังเศร้าอยู่นี่สิเขาว่าคนภาวะทุกข์ตรมอารมณ์จะค่อนข้างแปรปรวนปกติคุณคนสวยก็เรื่องเยอะขี้วีนเป็นทุนรอนสะสมมากโขอยู่แล้ว นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆคุณลุงโชว์เฟอร์พามาส่งถึงหน้าโรงแรมที่พัก ปิ่นปัทม์จ่ายค่าโดยสารตามมิเตอร์ไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นมูลค่าเท่าไหร่ เพราะเรื่องของแม่ไกด์สาวสำคัญกว่านัก

“คุณลุงคะช่วยเป็นล่ามต่อให้อีกสักหน่อยนะคะ หนูขอร้อง” สาวไทยยกมือไหว้ท่วมหัวคุณลุงพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ

“อย่าลืมสิว่าต้องตามใจทำตามคำสั่งฉันฉันซื้อเธอแล้วนะแม่ดอกมะลิ” ผู้สูงวัยทำหน้าที่อย่างแข็งขันแต่ไม่ได้ใส่ passionเผ็ดร้อนลงไปด้วยนั่นไม่สำคัญเพราะอาการเกรี้ยวกราดของปิ่นปัทม์บอกแจ้งครบถ้วนสาวฟันกระต่ายต้องการสยบให้นายจ้างสงบเสียก่อน เธอไม่ชอบความรุนแรงทุกประเภท

“เมืองไทยเลิกทาสไปแล้วนี่นาแล้วอีกอย่างคุณซื้อฉันได้แต่ตัว รู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ได้เต็มใจ”

“เลิกแล้วก็ขุดกลับขึ้นมาใช้ใหม่ได้อย่าเรื่องมาก และฉันต้องการเพียงตัวเธอ ไม่ได้ต้องการหัวใจ”ปิ่นปัทม์ตอกกลับระรัวเป็นไฟ ลุงคนขับก็แปลได้ไม่ครบ ฟังทันบ้างไม่ทันบ้างด้วยความเกรงใจ ท้ายที่สุดริโกะจำต้องยอมตามอย่างเสียมิได้...

ถึงห้องพักสิ่งแรกที่ทำคือปิ่นปัทม์ยกหูโทรศัพท์หามารดา

“เป็นยังไงบ้างลูก หนาวไหม”วรรณพิไลทักทายแบบที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

“ปัทม์หาซื้อชาเขียวยี่ห้อที่คุณแม่ชอบได้แล้วนะคะแม่ดูแลตัวเองดีๆ ปัทม์คิดถึงนะ..” ปิ่นปัทม์วางสายทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียงถอนหายใจจนร่างโยน หางตาเห็นแม่ไกด์สาวยืนเป็นแบ๊วทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่หน้าห้อง

“โอกาซัง (แม่) น่ะ” นายจ้างสาวเปรยขึ้นเพื่อคลายสงสัยริโกะคันปากยุบยิบๆจะถามว่าทำไมไม่พาคุณแม่มาเที่ยวที่นี่ด้วยกันแต่ต้องยั้งไว้กลัวว่าจะโดนด่ายับนึกถึงแล้วหลับตาปี๋ หน้าจ๋อยไปพลัน

“เป็นอะไร??” ถามไปอย่างนั้นเองไม่ได้ต้องการคำตอบ ปิ่นปัทม์เปลื้องเสื้อตัวนอกตัวในและตามติดด้วยกางเกงออกจนเหลือแต่อันเดอร์แวร์บางเบาสีเบจห่อหุ้มเรือนกายงามก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะ ริโกะที่ยังยืนอยู่ที่เดิมลอบมองนายจ้างในสภาพกึ่งเปลือยหลบแล้วก็แอบมองใหม่ พวงแก้มฝาดโลหิตระเรื่อแดงจัดบ่งชี้ชัดถึงความรู้สึกหวิวๆแปลกๆแบบที่อธิบายไม่ถูกรู้แค่ว่ามันแตกต่างมากเหลือเกินจากโมเมนต์ที่เธอเข้าออนเซ็นหรือชั่วโมงพละศึกษาที่เพื่อนสาวๆเปลี่ยนชุดในสภาพแบบเดียวกันนี่แหล่ะ

“มองอะไร!!” ปิ่นปัทม์ตะคอกถาม ริโกะสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เธอเคยดูหนังและละครไทยมาบ้างตามยูทูปแหวๆเสียงดังๆเท่าที่เห็นจะมีแต่ตัวอิจฉานะเออ

ด้านสาวไทยแอบสะใจเล็กๆอย่างน้อยการมีสาวน่ารักมาคอยรองรับอารมณ์หมองหม่นของเธอก็ไม่เลวร้ายเกินจนไปปิ่นปัทม์จ้องมองสาวฟันกระต่ายส่งนัยน์ตาเจ้าเล่ห์เหลี่ยมพรายนึกสนุกด้วยยังไม่หนำใจ มาถึงญี่ปุ่นขอทำอะไรๆแบบที่คนญี่ปุ่นเขาทำกันบ้างทั้งยังค้นพบวิธีการสื่อสารแบบใหม่ เข้าอากู๋ google พิมพ์ข้อความที่ต้องการสื่อถึง เสิร์ชรูป เท่านี้ก็เข้าใจต้องตรงกันเธอเริ่มต้นจากคำว่า ถู--ลั-ง รูปหญิงสาวสองคนนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกในอ่างน้ำเด้งขึ้นมานี่แหล่ะแบบนี้เลยๆที่อยากด้ายยยย

“มานี่ซิสาวน้อยนั่งลงตรงนี้” คนเอาแต่ตนเป็นที่ตั้งกวักมือเรียกเย้วๆ ตบเตียงดังปังๆริโกะละล้าละลัง ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ หย่อนกายนั่งลงข้างๆปิ่นปัทม์ เตียงเล็กยุบยวบลงไปตามน้ำหนักตัวสาวฟันกระต่ายสุดประหวั่นนัยน์ตาสั่นระริกด้วยเริ่มเห็นนายจ้างสาวจำแลงกายเป็นแม่เสือดุร้ายเตรียมจะขย้ำเหยื่อเข้าไปทุกขณะจิต

“สอนฉันอาบน้ำแบบญี่ปุ่นหน่อย”ไม่พูดเปล่า คนออกคำสั่งส่งภาพสีให้ดูกระจ่างชัด ริโกะแค่นเสียงสูงเข้าสู้ทันที

“มันก็แก้ผ้าอาบน้ำเหมือนๆกันทั้งโลกหรือว่าที่เมืองไทยไม่ใช่” รู้ความว่าปฏิเสธ ทั้งยังยอกย้อนแบบนี้ปิ่นปัทม์ยิ่งชอบใจ

“คนญี่ปุ่นเขาชอบให้ถูหลังกันไม่ใช่เหรอสาธิตหน่อยสิ” ริโกะก้มหน้างุด ตัวสั่นสะท้านเป็นลูกนกแรกเกิดจะมองว่าเป็นเรื่องแสนธรรมดาก็ใช่ นั่นสินะทำไมเธอต้องกลัวถึงขนาดนี้ด้วยรู้สึกร่างตนเองเบาหวิวอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักจนแทบจะครองสติไว้ไม่ได้

เห็นหน้าซีดและอาการป้อแป้สิ้นฤทธิ์ของริโกะเท่านั้นปิ่นปัทม์ก็หมดเรื่องแกล้งเอาเข้าจริงเธอก็ใจสั่นหวั่นไหว แม้ไม่มากแต่ก็ไม่นับว่าน้อยทำอวดเก่งฝีปากกล้าข่มนางไปอย่างนั้นเอง

“เครๆ..แม่คนหวงเนื้อหวงตัว แกล้งเย้านิดเดียว เปราะจังนะยะหล่อน” ปิ่นปัทม์ล้มเลิกความตั้งใจเสียดื้อๆยื่นมือเรียวของตนช้อนใต้คางแหลมของคนน่ารักก่อนจะลุกพรวดพาร่างของตนเข้าห้องน้ำไป ริโกะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากอุ้งมือมารเอ้ย..อุ้งมือนุ่มนิ่มของนายจ้างต่างชาติหาข้อสรุปให้ตนเองไม่ได้ว่าเป็นบ้าเป็นบออะไร?

“ฉันไม่ได้เจ็บได้ป่วยไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย

แค่ฉันขาดความอบอุ่น..ทางใจ

แค่กอดกันก็พอ ถ้าหากจะขอได้ถ้าขอได้

ก็ขอแค่นี้แล้วกัน

แค่กอดกันก็พอที่เหลือก็ปล่อยฉัน

มันเพ้อมันพล่ามของมัน..ไป”

เสียงใสๆฮัมเพลงอย่างมีความสุขในห้วงที่ร่างเปลือยนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำจู่ๆก็ถูกขัดจังหวะ ริโกะมายืนเคาะประตูเรียก

“ก๊อกๆ...”

“อะไรอีกสาวน้อยโทรศัพท์เหรอ” ปิ่นปัทม์ตะโกนถาม ลุกจากอ่างไม่ทันที่จะคว้าผ้าขนหนูมาห่อหุ้มปล่อยให้ฟองสบู่ขาวเกาะพราวตามเนื้อตัว แง้มบานประตูออกในระยะหนึ่งฝ่ามือ

“ฉัน…ฉันจะถูหลังให้คุณไงคะ”ริโกะพูดเสียงเบากว่าเบา สาวฟันกระต่ายไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่แต่ก็ปลงใจแล้วมือโชว์ผ้าขนหนูผืนเล็กยื่นสอดเข้ามา

“อุต๊ะ!!” ปิ่นปัทม์ใจเต้นระรัวยิ่งกว่ากลองสะบัดชัย เอาแล้วไงยัยปัทม์เอ๋ยยั่วนางไว้เจอเกมรุกสวนกลับ จะทำยังไงดี...




Create Date : 29 มกราคม 2559
Last Update : 29 มกราคม 2559 14:00:09 น. 1 comments
Counter : 350 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:16:49:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.