Group Blog
 
All blogs
 
ตอนที่ 11 : Displease

รู้ไหมว่าใครเคือง

ชิออนเปิดเปลือกตาขึ้นพบว่าตนเองเผลอไผลหลับใหลอยู่ในอ่างอาบน้ำก็เตรียมจะลุกขึ้น

“กรี๊ดดดดด”

สาวลูกครึ่งร้องลั่นบ้านแทบแตกลุกพรวดออกจากอ่างอาบน้ำและวิ่งออกมานอกห้อง ทันทีที่สายตาเหลือบไปเห็นว่าตัวเองกำลังนอนแช่อยู่ในน้ำสีแดงฉานกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง เต็มห้อง ชนารดีแทบจะอาเจียนออกมา เอามือน้อยๆจะมาปิดปากแต่กลับยิ่งสยองเป็นร้อยเท่าเมื่อมือของเธอทั้งสองข้างเต็มไปด้วยคราบเลือด

หญิงสาวตาลีตาลานทำอะไรไม่ถูกสติแตกละเอียด น้ำตาไหลออกมาด้วยเพราะตกใจกลัวสุดชีวิตภาพสุดท้ายจับความรู้สึกได้เพียงเท่านั้น สาวลูกครึ่งสลบไปเพราะความกลัว...

“ตรู๊ดดดดดด”

“ตรู๊ดดดดดด”

ชิออนได้สติกลับคืนมาอีกครั้งเพราะเสียงเรียกเข้าจากปลายสายที่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดเธอพบว่าตัวเองนอนแอ้งแม้งเปลือยเปล่าอยู่ที่หน้าห้องน้ำหญิงสาวประคองร่างของตนขึ้นมาอย่างช้าๆ เจ้าตัวยังรู้สึกวิงเวียนศรีษะเล็กๆพยายามทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นหล่อนจำได้ดีว่าภาพสุดท้ายคือสองมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือด แต่ก็ยังไม่กล้ายกมือทั้งสองขึ้นมาดูเพราะจิตยังไม่เข้มแข็งพอ

ประสาทสัมผัสรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดก่อนหน้าจางหายไป เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นชิออนจึงรวบรวมความกล้ายกมือทั้งสองขึ้นมาดู รู้สึกโล่งใจและประหลาดใจปนเปมือขาวเนียนของเธอไร้ร่องรอยคราบเลือดที่เห็นก่อนหน้า เธอสำรวจตนเองก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ

สาวลูกครึ่งเดินมาที่เตียงระหว่างนั้นหล่อนต้องเดินผ่านกระจกบานใหญ่ที่โต๊ะเครื่องแป้งสาวสวยไม่กล้าพอที่จะเหลียวมองร่างเปลือยของตนเธอหยิบโทรศัพท์มาดูและพบว่ามีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับถึงยี่สิบสายชิออนดูนาฬิกาจากหน้าจอ เธอสิ้นสติสลบไปราวสี่ชั่วโมง!!

บ้าจริง!!

สาวสวยสบถกับตัวเองเมื่อแน่ใจแล้วว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นปกติจิตเธอคงหมกมุ่นกับเรื่องประหลาดมากไปจนเก็บไปฝันหรือไม่ก็หลอนไปเองหญิงสาวให้ข้อสรุปกับตนเอง

เธอโทรหารัตติกาลเพื่อนใหม่เพื่อนัดหมายให้ไปพบอาจารย์ยามาโมโต้ด้วยกันเนื่องด้วยเจ้าตัวเอ่ยปากขอร้องอยากได้ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์รัตติกาลดีใจเป็นที่สุด ไม่ใช่เพราะได้ที่ปรึกษาแต่เป็นเพราะเธอสามารถเปิดทางรักได้สำเร็จเป็นเบื้องต้น ไนท์รบเร้าขอให้ชิออนรออยู่ที่บ้านเธอจะอาสาเป็นสารถีคอยรับส่งเองเพราะต้องการตอบแทนน้ำใจเพื่อนใหม่ที่มี

ชิออนจนทางปฏิเสธความเป็นจริงหล่อนก็ต้องการเพื่อนมาอยู่ใกล้ๆสักคนเพราะไม่ไหวแล้วกับเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นอยู่คนเดียวมากไปจิตอาจหลอนขึ้นมาได้ทุกเมื่อชนารดีจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องและลงมารออยู่หน้าบ้านไม่นานรัตติกาลก็ขับรถหรูมารับ

เมื่อได้พบกับอาจารย์ยามาโมโต้ที่ล๊อบบี้ของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองชนารดีแนะนำเพื่อนใหม่ ให้ได้รู้จักกับอาจารย์ผู้มากชื่อเสียง ทั้งหมดคุยกันถูกคอเพราะ รัตติกาลเป็นลูกศิษย์เอกของเพื่อนร่วมรุ่นยามาโมโต้นั่นเองสาวเท่จัดการฝากฝังตัวเองเสร็จสรรพ

หลังจากนั้นชิออนก็เล่าเรื่องราวและความคืบหน้าทั้งหมดให้อาจารย์ฟังโดยมีไนท์ที่รับฟังอย่างตื่นเต้นอาจารย์อาวุโสให้ความเห็นว่าปรากฎการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้จะต้องสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลและมันก็เป็นหน้าที่ของนักวิจัยอย่างเราๆที่จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะหาไอ้เจ้าเหตุผลนี้มาอธิบายเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับชนารดีให้จงได้

อาจารย์ยามาโมโต้สนับสนุนการเดินทางไปเมืองเชียงกาญจน์ที่ว่า โดยตัวเขาจะคอยเป็นหน่วยเสริมอยู่ที่กรุงเทพเพราะรู้ว่าสังขารที่ร่วงโรยน่าจะเป็นตัวถ่วง ทำให้การเดินทางล่าช้าเสียมากกว่าเขาจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในเรื่องข้อมูลทางวิชาการ คอนเน็คชั่นและงบประมาณชิออนเข้าใจดีเพราะคาดการณ์ไว้แล้วตั้งแต่ต้นและเห็นด้วยกับอาจารย์ทุกประเด็นผู้อาวุโสจะนัดหมายอีกครั้งเมื่อมาฆวรัตน์กลับมา พร้อมกับพรานบุญจากนี้อาจารย์จะเตรียมพาหนะและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเดินป่าไว้ให้พรักพร้อม

...................................

ที่เวียงจันทน์สองสาวที่ตั้งใจจะเที่ยวเมืองหลวงก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะมุ่งหน้าไปหลวงพระบางลงมาสอบถามข้อมูลจาก รีเซฟชั่นหน้าขาวผู้อารีที่สื่อสารภาษาไทยได้อย่างฉะฉาน

มาฆวรัตน์ถามหาที่แลกเงินสาวรีเซฟชั่นให้คำแนะนำว่า สามารถใช้เงินไทยได้ในทุกๆที่ เพราะคนลาวชอบเงินไทยมากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รถรับจ้าง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรับเงินบาทหมดแต่จะรับเฉพาะธนบัตรเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีควรพกเงินกีบติดตัวไว้บ้างเพราะบางอย่างใช้เงินกีบจะลงตัวกว่า

สาวรีเซฟชั่นใจดีบอกกับเก๋ว่าให้ไปหาแลกแถวๆนี้ก็ได้ ประเทศลาวใช้เงินสกุลกีบ มีหน่วยเงินเป็นตัวย่อว่า Kip หรือ LAK (The Lao Kip) อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ต่อเงินกีบ จะอยู่ที่ ประมาณ 1 บาท : 250 กีบ (อัตราแลกเปลี่ยนณ มีนาคม 2557: ผู้แต่ง) การคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณให้ใช้วิธีตัดศูนย์สามตัวหลังของเงินกีบออก แล้วคูณด้วยสี่ จะเป็นเรทเงินบาท เงินกีบจะมีแต่ธนบัตรเท่านั้น ไม่มีเหรียญ

น้ำผึ้งบอกให้เก๋เช่าเหมารถตุ๊กตุ๊กพร้อมคนขับ เพื่อเที่ยวชมสถานที่สำคัญในเวียงจันทน์เช่น ประตูชัยพระธาตุหลวง หอพระแก้วได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ในเวลาที่จำกัดจำเขี่ยเช่นนี้ เมื่อเที่ยวเสร็จแล้วรถก็ส่งเราที่หน้าโรงแรมเลย

อาจารย์สาวพยักหน้ารับเห็นด้วยสองสาวเดินออกมาจากโรมแรม ทันทีที่ก้าวพ้นประตูโรงแรม คนขับรถชนิดต่างๆ มาเสนอตัวเป็นโชว์เฟอร์หลายคน มาฆวรัตน์เลือกคนแรกที่เข้ามาเพราะไม่อยากให้ผิดใจกันตกลงราคากันที่ 700บาท

คนขับสามารถฟังและพูดโต้ตอบเป็นภาษาไทยได้ราวกับว่าเป็นคนไทยเลยเก๋และน้ำผึ้งคุยกับคนขับรถ ได้แลกเปลี่ยนความรู้หลายสิ่งอย่าง เช่นคนลาวปัจจุบันสามารถพูดและอ่านไทยได้ถึง80-90% ส่วนที่พูดไม่ได้ก็ฟังภาษาไทยออก เพราะคนลาวเค้าดูทีวีไทยกัน

น้ำผึ้งถามเก๋ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปภาษาลาวจะถูกกลืนไหม อาจารย์สาวอธิบายกับคนที่นั่งข้างๆว่าอย่างน้อยๆก็เป็นความชาญฉลาดในการปรับตัวต่อกระแสวัฒนธรรมอันเชี่ยวกรากที่จะรักษาภาษาของตนไว้ให้คงอยู่ เก๋บอกกับน้ำผึ้งต่อว่า ภาษาลาวยังหลงเหลือเป็นอักษรมาจนปัจจุบันแตกต่างจากภาษาเวียดนามที่คงเหลือแต่ภาษาพูดเท่านั้นทั้งๆที่เวียดนามมีประชากรเหยียบร้อยล้านคนแต่ก็มิอาจสืบทอดไว้ได้แต่อนาคตอีกยี่สิบสามสิบปีข้างหน้าสำหรับลาวนั้นก็ไม่แน่เพราะนับวันฉภาษาลาวก็ใกล้เคียงพี่ไทยเข้าไปทุกทีๆ น้ำผึ้งรับฟังชื่นชมคนเก่งกาจแสนรอบรู้

‘คนอะไร สวยแล้วยังฉลาดอีก นี่ถ้าลดความเย็นชาลงละก็นะ’

สาวเชียงคานเริ่มมีใจเอนเอียงจนแทบจะบอกได้ว่ารักชอบคนข้างๆเอาเสียแล้ว

คนขับรถเห็นว่านักท่องเที่ยวสาวทั้งสองสนใจในประเทศตนจึงออกความเห็นขึ้นมาบ้าง เขาเล่าว่าในประเทศลาวต้องนำเข้าสินค้าจากไทยเกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภคทั้งหลาย ขนม เครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน น้ำมันแก๊ส ทำให้ค่าครองชีพในลาวค่อนข้างสูง สวนทางกับรายได้ที่ไม่มากเพราะเศรษฐกิจของลาวยังเป็นการเกษตรแบบดั้งเดิมเป็นหลัก

รถตุ๊กๆมาถึงจุดวะชมสถานที่แรก คือพระธาตุหลวงหรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี (ພຣະທາດຫລວງ) เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในประเทศลาว เรียกได้ว่าใครมาเวียงจันทน์ก็ต้องมาที่พระธาตุหลวงไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง ตามประวัติบอกว่าพระธาตุหลวงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 238 พร้อมกับเมืองเวียงจันทน์ ผู้สร้างคือ บุรีจันอ้วยล้วยหรือ พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรกพร้อมกับพระอรหันต์ คนขับรถอธิบายประวัติความเป็นมาอย่างภาคภูมิใจ

เก๋และน้ำผึ้งเดินเข้ามาภายในโดยคนขับรถขอรออยู่ที่ด้านนอก ตัวองค์พระธาตุมีลักษณะคล้ายดอกบัวตูมมีความสูง 45 เมตร ทาด้วยสีทอง มีหอไหว้พระอยู่ทั้ง 4ด้าน มีรั้วล้อมรอบ ด้วยความสำคัญของพระธาตุหลวง จึงมีการนำสัญลักษณ์ของพระธาตุหลวงไปเป็นส่วนหนึ่งตราแผ่นดินลาวตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 เป็นต้นมา ระหว่างที่เดินเที่ยวชมรอบๆสองนารีที่เดินจูงมือกันเห็นคู่รักคู่หนึ่งมาถ่าย Pre-weddingพาลให้อิจฉา

“ไม่รู้ว่าพี่จะได้มีโอกาสแบบนี้กับเขาบ้างไหมในชีวิต” อาจารย์สาวเปรยออกมามองไปยังคู่รักชื่นมื่นเสียงเศร้าหมดสิ้นซึ่งความหวัง

น้ำผึ้งมองมาที่นัยน์ตาของคนที่เอาแต่จมปลักอยู่กับอดีตแสนขมขื่น

“มีสิคะพี่ยังสาวยังสวย การศึกษารึก็สูง ทำไมเอาแต่ลดคุณค่าตัวเองแบบนี้ละคะ”สาวรุ่นกระชับมือแน่นหวังให้กำลังใจ

“ค่ะพี่จะเริ่มต้นใหม่กับใครคนนั้น คนที่เห็นคุณค่าหัวใจของพี่”อาจารย์สาวหันมาพูดประโยคนี้เน้นๆ ยิงกันตรงๆ จีบใครไม่เป็นก็ไม่ต้องอ้อมค้อมกันละ

สาวเชียงคานทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กลับจูงมือคนที่ไร้วาทศิลป์ไปอีกด้านของตัวพระธาตุ

ที่พระธาตุหลวงตัวพระธาตุหลวงมีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมมีทางเดินได้โดยรอบ พื้นที่ไม่กว้างมาก ใช้เวลา15-20 นาทีก็เดินจนทั่วแล้ว เก๋และน้ำผึ้งถ่ายรูปกันจนหนำใจเดินออกมาที่หน้าพระธาตุ ซึ่งมีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกเหมือนตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วๆไปของที่ขายก็มีเสื้อยืดที่ระลึก ผ้าซิ่น เครื่องเงิน กระเป๋าผ้า พวงกุญแจ

เก๋มาสะดุดที่หน้าร้านเครื่องเงิน เมื่อเห็น กำไลเงิน ฝังพลอยพญานาคนพเก้าหลากสีสันประกอบไปด้วย สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีขาว สีชมพู สีฟ้าอ่อน สีฟ้าครามสีน้ำเงิน สีเขียว รวมทั้งหมด 9 สี คนขายรีบเข้ามาอธิบายเป็นภาษาไทย

สีแดง เป็นสีแห่งฤทธิ์อำนาจ ช่วยให้ปลอดภัยจากอันตราย สีส้มป้องกันอาวุธ สีเหลือง นำโชคนำลาภ ความก้าวหน้า ความราบรื่นในชีวิต สีขาวใสพลังสมาธิ สงบและมั่นคง ใจกว้างพร้อมเสียสละ สีชมพู สร้างเสริมสง่าราศีมีความโดดเด่น มีเสน่ห์จากผู้คนรอบข้าง สีฟ้าอ่อน ติดต่อค้าขายสะดวก คล่องตัวน้ำใจกว้างขวาง น่าเคารพ สีน้ำเงิน เสริมสร้างบารมี มีอายุยืนยาวคล่องตัวในทุกเรื่อง สีเขียว มีความรอบรู้ในทุกด้าน น่าเชื่อถือทำให้เกิดความเคารพ สีม่วง มีพลัง หนักไปในทางดึงดูดทรัพย์ และมิตรสหาย

เก๋สอบถามราคา พบว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด ราคาที่บอกมาก็ไม่ได้บวกเยอะเว่อร์เหมือนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นี่ถ้าเป็นเมืองไทยนะ เหยียบหมื่นแน่ๆ มาฆวรัตน์ต่อรองราคาอีกนิดหน่อยแต่หนึ่งในความสนุกของการชอปก็คือการต่อนี่แหล่ะ

อาจารย์สาวหยิบเงินไทยออกมา และแม่ค้าก็ไม่ลังเลที่จะรับทันทีที่ได้ของถูกใจมา เก๋ก็ยื่นให้คนตรงหน้า

“ยื่นมือมาสิคะ”

“เอ๋?”

มธุบิณฑ์ทำหน้างงๆ ไม่คิดและคิดไม่ถึงว่าแม่ชาเย็นจะซื้อของแพงเช่นนี้ให้เธอ

สาวชาวกรุงพยักหน้า จับเข้าที่ข้อมือขาวๆสวมกำไลเข้าให้ปากก็พูดขึ้น

“เห็นมั้ย มันเหมาะกับน้ำผึ้งมากเลยใส่แล้วสวยเด่นเชียวดูสิ”

สาวรุ่นส่ายหน้า ไม่อยากรับของมีค่าใช่วันนี้แม่ชาเย็นอาจชอบพอหล่อน แต่ถ้าวันหนึ่งวันใดเกิดผิดใจกันขึ้นมาล่ะ

“อย่าปฏิเสธเลยนะคะ พี่คงใจสลายแน่ๆวันนี้พี่เจอคนที่จะเริ่มต้นใหม่แล้วของชิ้นนี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของเรา”

คำพูดแสนซึ้งออกมาจากปากของจอมวิชาการแม้ใจในจะไม่เห็นด้วย แต่เจอคำอ้อนวอนทั้งปนสงสารก็มิอาจบอกปัด น้ำผึ้งยกข้อมือขึ้นดูมันก็เหมาะกับเธอจริงนั่นล่ะ

“ขอบคุณค่ะ สำหรับสิ่งของและน้ำใจไมตรีที่มอบให้น้ำผึ้งแต่ก็มิได้หมายความว่าน้ำผึ้งเออออห่อหมกยอมเริ่มต้นกับพี่นะคะเราเพิ่งจะรู้จักกันเอง”

สาวรุ่นตอบอย่างฉลาดไม่ปฏิเสธน้ำใจแต่ก็ไม่ได้รับความสัมพันธ์เสียทีเดียวทั้งๆที่ก็รู้สึกหวั่นไหวกับคนตรงหน้าเป็นที่สุด ในส่วนลึกหล่อนไม่อยากไปแทนที่ใครและไม่อยากขึ้นชื่อว่า คบไปเพื่อให้ลืมใครบางคน

“พี่เข้าใจว่ามันยังเร็วเกินไป แต่แค่น้ำผึ้งรับไว้และไม่ปฏิเสธพี่ เท่านี้พี่ก็ดีใจเป็นที่สุดแล้ว”

อาจารย์สาวพูดได้เท่านั้นแต่กลับเป็นสาวเชียงคานที่จูงมือคนมีอดีตเดินไปที่รถ

“ไปค่ะ นี่แค่จุดเริ่มต้นเองเรายังมีระยะทางแสนยาวไกลให้ก้าวเดินนะ”

น้ำเสียงสดใส ทั้งกริยาท่าทางปลุกให้สาวสวยผู้เศร้าสร้อยให้รู้จักโลกในแง่มุมหวานเดินยิ้มแก้มปริตามสาวรุ่นไปอย่างว่าง่าย โลกสีชมพูมันเป็นแบบนี้นี่เอง

จากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นรถไปต่อที่ประตูชัยที่อยู่ไม่ห่างกันนัก ใช้เวลาเดินทางราว 10 นาทีเท่านั้น

ประตูชัย หรือ ปะตูไซ (Patuxay) เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเวียงจันทน์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับประชาชนที่ต่อสู้และเสียชีวิตในสงครามก่อนการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์

สถาปัตยกรรมของประตูชัย เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศส กับสถาปัตยกรรมทางท้องถิ่นของลาวถ้าดูไกลๆ จะเห็นว่าคล้ายกับประตูชัยที่ปารีส ฝรั่งเศส (Arcde Triomphe)

สองสาวชมประตูชัยเสร็จก็บ่ายแก่ๆตั้งใจว่าจะหาอะไรทานมื้อเย็นเสียแถวนี้ แต่ก็ไม่เห็นมีร้านอาหารเลยทั้งๆ ที่เป็น 1ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียงจันทน์

สอบถามเอาความจากคนขับรถ ก็ได้เป็นความรู้ใหม่ว่าในลาวไม่ค่อยมีร้านอาหารมากนักเพราะคนลาวนิยมกลับไปกินข้าวที่บ้าน ข้ามตามร้านอาหารมันแพง ไว้ขายให้นักท่องเที่ยวเท่านั้น

เก๋ตัดสินใจให้พี่คนขับรถใจดีพาไปที่ตลาดริมโขงเพื่อเดินเล่นชิวๆและหาของกินง่ายๆเอาที่นี่เลย

ตลาดริมโขงก็มีสภาพคล้ายๆ ตลาดนัดบ้านเรา มีขายเสื้อผ้าของใช้ อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ แต่โชคร้ายและผิดคาดไปนิดตรงที่ไม่ค่อยมีของกิน ผู้คนเดินกันคึกคักขวักไขว่ทั้งคนเวียงจันทน์และนักท่องเที่ยว

ที่ถนนเลียบแม่น้ำโขง จะเป็นที่ออกกำลังกายของคนเวียงจันทน์มีคนมาวิ่ง ปั่นจักรยานออกกำลังกายกันเยอะมาก ไฟส่องสว่างทั่วถนน ปลอดภัยมาก พี่คนขับรถกลับมาส่งที่หน้าโรงแรม

ตลอดสองข้างทางอาจารย์สาวสังเกตเห็นรถหรูๆ มากมาย วิ่งกันประชันโฉม เป็นที่น่าสงสัยว่าจริงๆ แล้วคนลาวก็มีคนรวยเยอะเหมือนกันหรือไม่ก็เป็นรถของคนไทยที่ซื้อในลาว เห็นพี่คนขับรถบอกว่าภาษีรถหรูในลาวถูกกว่าเมืองไทย เก๋เห็นรถหลายคันเป็นรถพลังงานไฟฟ้า หรูหราและทันสมัยมากเพราะในเมืองไทยยังไม่มีใช้เลย

มื้อเย็นสองสาวกินกันง่ายๆ เป็นไก่ย่าง – ข้าวเหนียวหลังจากที่เดินหาร้านกันอยู่นานจนชักท้อเก๋สังเกตว่าร้านอาหารที่เวียงจันทน์จะไม่ค่อยมีร้านอาหารท้องถิ่นส่วนมากจะเป็นอาหารฝรั่ง เห็นว่าเป็นร้านข้างถนนแบบนี้ ตอนเรียกเก็บเงินแทบจะเป็นลมเพราะราคาแพงกว่าบ้านเราอีก ไก่ย่างไม้ละ 70 บาท ข้าวเหนียว20 บาท

“อาหารที่ลาวแพงจริงๆ” เก๋บ่นๆ

ก่อนขึ้นห้องพัก อาจารย์สาวซื้อ เบียร์ลาว ที่เขียนว่าเบยลาวอันเลื่องชื่อและคนไทยเอามาล้อกันสนุกปากว่าเป็น เขยลาว มาขอชิมสองกระป๋อง

เบียร์ลาว (ເບຍລາວ) ผลิตโดยบริษัท ลาวบริวเวอรี จำกัด เป็นเบียร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดถึงเก้าสิบแปด%นับเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและเชิดหน้าชูตาของประเทศ

คนขายยังได้แนะนำเหล้าข้าวก่ำ ให้กับอาจารย์สาวอีกด้วยความเป็นคนอยากรู้อยากลองทำให้มาฆวรัตน์ซื้อมาหนึ่งขวด

ข้าวก่ำ(Purple Rice) เป็นข้าวพื้นเมืองภาคพื้นทวีปของเอเชียมีหลายชื่อ ชื่อที่คนภาคกลางรู้จักกันดีคือ ข้าวเหนียวดำ (Black StickyRice)

ข้าวก่ำนั้น นอกจากจะมีการนำมาบริโภคในรูปของอาหารแล้วยังมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย โดยพบว่าในสมัยก่อนหากสตรีใดคลอดลูกและมีการตกเลือดมากจะนำเอาต้นข้าวก่ำมาต้ม เคี่ยวน้ำให้งวดลงเล็กน้อยแล้วให้กิน

“คืนนี้ถ้าเมาแล้วจะทำยังไงคะ น้ำผึ้งดูแลพี่ไม่ไหวหรอกนะคะ”

สาวเชียงคานบ่นๆพี่เก๋ต้องขับรถทางไกลอีก ก็เธอเป็นห่วง

“กับเบียร์แค่สองกระป๋องแล้วก็เหล้าขวดนึงนี่นะคะบ่ยั่นหรอกแม่นาง อีกอย่างน้ำผึ้งก็ช่วยพี่กินด้วยสิคะ”เก๋ออกตัวมีแผนร้ายประสงค์รัก

“คิดจะมอมเหล้าน้ำผึ้งหรือไง”

หญิงสาวเท่าทันทำเอามาฆวรัตน์ยิ้มเอ็นดูในความฉลาดเฉลียว

“บร้าใครเค้าจะทำแบบนั้นกัน ไปเถอะค่ะ ขึ้นห้องกัน มีเรื่องสนุกๆรออยู่เยอะเลย”

อาจารย์สาวเชิญชวนด้วยประโยคให้ไปตีความได้อีกไกลสาวรุ่นเขินอายม้วนต้วน แต่ก็จูงมือนายจ้างไปอย่างว่าง่าย

..........................

ที่กรุงเทพฯ

สองสาวสวยคุยกับอาจารย์ยามาโมโต้เสียจนเพลินกระทั่งลืมเวลาไปมารู้ตัวอีกทีก็ค่ำมืดเสียแล้วจึงได้ร่ำลาปราชญ์ผู้น่าเลื่อมใส รัตติกาลขับรถมาส่งชิออนที่บ้านอย่างเสียมิได้ทั้งๆเจ้าตัวอยากใช้เวลาอยู่กับลูกครึ่งสาวให้นานเท่านานเมื่อรถคันงามมาถึงหน้าบ้าน สาวเท่จึงอ้อนวอนขอเข้าห้องน้ำและดื่มกาแฟสักแก้ว

ชิออนจนใจมิอาจบอกปัดด้วยมารยาทที่ดีและเพื่อการสานสัมพันธ์ ลูกครึ่งสาวพาแขกเข้ามาในบ้านของเพื่อนรักไนท์ทำทีเป็นขอเข้าห้องน้ำทั้งที่ไม่ได้รู้สึกปวดหนักปวดเบาสาวเจ้าเล่ห์ถือโอกาสและวิสาสะสำรวจตัวบ้านไปในคราวนี้ชิออนชี้มือไม้บอกทางและขอตัวไปชงกาแฟให้

รัตติกาลเดินไปที่ห้องน้ำสังเกตเห็นว่า ในบ้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดี แม้จะมีแต่ตู้หนังสือบ่งบอกว่าเจ้าของบ้านน่าจะเป็นหนอนหนังสือตัวแม่ไนท์มองไปทางใดก็ให้เห็นแต่รูปของสาวสวยอีกนางหนึ่ง เธอกลับมานั่งที่โซฟายาวรับแขกก็ยิ่งขุ่นเคืองเมื่อเห็นกรอบรูปบานหนึ่งตั้งอยู่ที่โต๊ะกระจกมันเป็นรูปของชิออนกับแม่คนสวยคนนั้น อยู่ในท่าทางที่กำลังป้อนไอศกรีมให้กันและกัน

อิจฉาริษยาวิทยาเป็นที่ตั้งรัตติกาลมโนไปไกลว่า คนในรูปคงไม่แคล้วเป็นเจ้าของหัวใจของชิออน

‘ช่างปะไรจะแย่งเสียอย่าง’

สาวเท่ทึกทักเอาอย่างนั้นพยายามเก็บซ่อนอาการไม่พอใจและสันดานดิบเอาไว้ให้มิดชิดเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าของบ้านเดินเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟในมือ

“ได้แล้วค่ะกาแฟร้อนๆ แต่ดื่มตอนนี้อาจจะตาแข็งหลับไม่ลงได้นะคะ”ชิออนวางแก้วกาแฟและนั่งลงข้างๆ

“แม้ไม่มีกาแฟถ้วยนี้ไนท์ก็หลับไม่ลงอยู่แล้ว”

ไม่พูดเปล่ารัตติกาลขยับตัวเข้ามาใกล้เอามือของตนมาเกาะกุมอีกฝ่าย

ชิออนสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่มากไปกว่านั้น หล่อนไม่ได้ดึงมือกลับด้วยเพราะอยากรู้บทเกี้ยวตอนต่อไป แค่นั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษ

“รู้ไหมว่าไนท์ตกหลุมรักชิออนตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาเจอหน้าใสๆของชิออนเมื่อคืนบนรถจากนั้นทุกเวลาที่เราห่างกันไนท์ก็เฝ้าแต่เห็นใบหน้าขาวนวลผุดขึ้นมาในความคนึงตลอด ไนท์ไม่สนใจหรอกนะว่าชิออนจะมีใครอยู่ดูแล ขอโอกาสให้ไนท์ได้เข้ามาใกล้ชิดพบเจอพูดคุยบ้างเท่านี้ก็สุขใจที่สุดแล้ว”

ประโยคหวานหูแต่ไม่ได้ทำให้คนฟังหวามไหวชิออนอึ้งไปพัก เพราะไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาด แม้จะไม่เคยรับฟังหญิงใดมาโอ้โลมปฏิโลมแบบนี้มาก่อนลูกครึ่งสาวใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว มีเพียงยิ้มน่ารักๆออกมาจากมุมปากมองไปที่นัยน์ตาใสเป็นประกายของอีกฝ่ายคล้ายค้นหาความจริงใจชนารดีต้องการรู้ถึงจุดลงเอยของบทรักตอนนี้

ไม่ต้องรอนานสาวมั่นโน้มใบหน้าใสเข้ามาใกล้หวังจะเผด็จศึกแม่นางน่ารักน่าชังที่ดูเหมือนจะคล้อยตาม

“เพล้งงงง!!”

“ว้าย!!”

สองสาวสะดุ้งตกใจชิออนสลัดมือออกจากคนข้างๆด้วยความหวาดหวั่น หล่อนโดนเล่นงานเข้าอีกแล้ว

แก้วกาแฟตกมาจากโต๊ะแตกกระจายน้ำนองเต็มพื้น มันลงมาเองแบบไม่มีสาเหตุ แต่ชนารดีเข้าใจได้ทันทีว่าสาเหตุคืออะไรหล่อนกวาดสายตาไปรอบๆ ภาวนาว่าอย่าให้เกิดอะไรผิดสำแดงไปมากกว่านี้หล่อนยังต้องการให้รัตติกาลเป็นเพื่อนร่วมทาง

ไนท์เซ็งสุดชีวิตหมดมู๊ด อารมณ์รักกระเจิงไปทันใดจะ เคลมได้อยู่แล้วเชียว

“ไนท์กลับไปก่อนดีกว่าดึกแล้วด้วยชิออนขอเก็บเศษแก้วก่อนนะคะ เดินระวังด้วยนะคะเศษอาจกระเด็นไปไกล ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งพรุ่งนี้เจอกันค่ะ”

ชนารดีได้โอกาสไล่แขกรัตติกาลหัวเสีย หล่อนไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง แต่ก็ปั้นหน้าตอบกลับไป

“ค่ะเอางั้นก็ได้”

รัตติกาลทำหน้าเซ็งโลกกำลังจะลุกเดินไป

“ชิออนดีใจที่ไนท์รู้สึกดีกับชิออนนะคะแต่ชิออนแค่ขอเวลาหน่อย เราเพิ่งเจอกันเอง”

เจ้าบ้านทิ้งท้ายแบบที่คนฟังมีความหวังเรืองรอง รัตติกาลยิ้มกว้าง พูดออกไปแบบไม่คิด

“ไนท์ก็ดีใจที่ชิออนให้โอกาสแน่นอนค่ะ เรายังต้องเรียรุ้กันอีกมาก บ๊ายบายนะคะ พรุ่งนี้เช้า ไนท์จะมารับ”

สาวมั่นพูดและเดินออกจากบ้านไปเมื่อให้หลัง ชิออน มองดูผลงานของใครบางคนที่ทำเอาไว้หล่อนจัดการเก็บเศษแก้วที่เกลื่อนกระจายจนเรียบร้อยและเดินขึ้นไปชั้นบนในใจก็ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ แล้วก็หลุดขำออกมา

‘วิธีการจีบของสาวเท่ดูไม่ค่อยเป็นลำดับขั้นเท่าไหร่เมื่อกี้ยังจะหาเรื่องฟักกับเราอยู่เลย มาตอนนี้ทำเป็นขอโอกาส แม่เสือสาวคนนี้ไวไฟน่าดูคราวหน้าคงต้องระวังระไวให้จงดี’

สาวลูกครึ่งฉลาดพอที่จะเรียนรู้จิตใจมนุษย์ว่ายากแท้หยั่งถึง ความสะสวยเป็นเพียงเปลือนอกที่ฉาบเอาไว้ แม้จะ เสแสร้งและสวมหน้ากากเข้าหากันแต่ไม่มีใครหรอกที่จะสามารถสวมหน้ากากไปได้ตลอด เมื่อถึงเวลาตัวตนที่แท้จริงก็จะเปิดเผยออกมา




Create Date : 24 เมษายน 2558
Last Update : 24 เมษายน 2558 10:18:34 น. 0 comments
Counter : 529 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.