Group Blog
 
All blogs
 
ยามเมื่อความรักเพรียกหา 4

เด็กสาวถูกจับลองชุดนั้นชุดนี้จนเวียนหัวจะขัดขืนดื้อดึงก็เห็นใจคนทำงานไว้ซื้อไปแล้วค่อยเอาไปบริจาคหรือขายต่อเอาเงินมาทำบุญก็ได้ก็คิดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาแต่หากได้รู้ราคาที่แท้จริงคงใจหาย ก็เข็มขัดเส้นหนึ่งของที่นี่เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็ได้มอเตอร์ไซด์มือหนึ่งออกมาขับแล้ว

นานจนง่วงงุนตาปรือแต่ก็โทษใครไม่ได้ก็ตัวเองสั่งไปซะมากมายหลายสิบชุด

“แวว”เสียงนี้…ที่คุ้นเคย โสรยายิ้มรับแต่หนังตายังหนักอยู่ก็เมื่อคืนหนักไปหน่อย

“ทำไมไม่ให้คนไปเรียกสรละ” หญิงสาวเจ้าของร้านเดินมานั่งลงข้างๆคนที่นั่งตาปรืออยู่ สายตาเหลือบมองไปที่ถ้วยกาแฟเห็นมีเพียงความว่างเปล่าใบหน้าเรียวยาวส่ายไปมาน้อยๆเอ็นดูในทาทางหมดสภาพของเพื่อนสาว

“กาแฟก็ไม่ช่วยอะไรใช่ไหมแล้วไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา” นภัสรเจื้อยแจ้วเสนาะหูคนฟังเหลือเกินคงจะดีหากเจ้าของเสียงนี้เป็นของเธอ

“งานยุ่งๆนะเลยเหนื่อยๆ” โกหก!! คนที่ยุ่งจริงๆคือเลิศชัยต่างหากนี่ถ้าเซ็นเอกสารแทนกันได้ก็เท่ากับหล่อนไม่เหลืองานแล้ว

“เป็นผู้บริหารพันล้านก็แบบนี้” ร่างบางชื่นชมจริงใจหลงเชื่อภาพที่โสรยาสร้างขึ้นแต่ต่อให้ไม่สร้างภาพอะไร ภาพที่มีติดตัวก็เริ่ดหรูยากที่จะมีใครมาแข่งขันก็หล่อนทั้งสวย รวย ตระกูลดี แถมตอนนี้ยังเข้าไปเป็นผู้บริหารของศิราณุวัฒน์กรุ๊ป

“ไม่หรอก เป็นลูกน้องเข้าต่างหาก” พอมีคนมาชวนคุยก็พอจะช่วยให้หายง่วงได้บ้าง

“เด็กในร้านบอกว่าแววพาสาวมาซื้อของสาวที่ไหนเหรอ” แซว

ออกไปอย่างรู้รสนิยมกันดีและเธอก็รู้ดีด้วยว่าแววคิดยังไงกับเธอแต่วันนี้ทำไม…

“เด็กที่บ้านนะ แม่ให้ช่วยพามาซื้อเสื้อผ้าของใช้” โสรยาบอกเล่าไปเรื่อยเปื่อยไม่เห็นเป็นประเด็นสลักสำคัญแต่คนฟังนี่ซิสับสนปนงงงวยก็แววใช้คำว่าเด็กที่บ้านแต่มาซื้อของร้านเธอเนี่ยนะที่แต่ละตัวตัวราคาเป็นหมื่นเป็นแสน

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงผู้จัดการร้านเรียกสายตาของหญิงสาวทั้งสอง โสรยาอึ้งไปชั่วขณะกับ…นางฟ้าตรงหน้าคนเดียวกับที่เมื่อคืนเธอนอนกอดอยู่ทั้งคืนเสียดายเล็กๆที่เมื่อคืนไม่มีสติไม่อย่างนั้น… นั่น!ความคิดในเบื้องลึกของคนหน้ามึน เดิมหล่อนก็ดูดีมากอยู่แล้วกับผิวพรรณที่ขาวนวลเนียนในแบบฉบับของสาวเหนือตาคมเฉี่ยวไปทางสาวเวียดนามที่เธอเดาว่าหล่อนน่าจะมีเชื้อทางนั้นมาบ้างแถมร่างยังสูงโปร่งได้มาตรฐานยิ่งยืนอยู่บนส้นสูงที่มีดีไซด์ยิ่งส่งให้ขาดูเรียวยาวดูดีมากขึ้นไปอีกเอวบางร่างน้อยน่าทะนุถนอม หากเรื่องนายบรรเจิดเป็นจริงอย่างที่ผู้หญิงคนนี้ว่าก็ไม่แปลกที่หล่อนจะเป็นที่หมายปองนภัสรมองเด็กสายตรงหน้าสลับกับเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับเธอมาตลอดไปมาด้วยหางตาเนี่ยนะเด็กในบ้านสวยอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์ แถมชุดที่หล่อนกำลังใส่อยู่รวมๆแล้วราคาเกือบครึ่งแสนมากไปไหมสำหรับเด็กในบ้าน ฝ่ายมณีรัตน์ได้เพียงยิ้มเก้อๆอึดอัดกับบรรยากาศสุดๆ ว่าแต่...ทำไมสังคมคนเมืองกรุงถึงมีแต่คนสวยๆนะ

พนักงานสาวอีกสองคนนำถุงใส่ข้าวของมากองตรงหน้าที่เจ้าของร้านเองเห็นแล้วยังใจหายทั้งหมดนี่รวมๆแล้วก็น่าจะ…หลายแสน!!

โสรยายื่นบัตรเครดิตให้ผู้จัดการร้านปล่อยให้เด็กสาวยืนเก้ๆกังๆไม่ใส่ใจจะแนะนำ

“ใครเหรอแวว”นภัสรถามออกไปท่าทีไว้ตัวกับเด็กสาวตรงหน้า

“ชื่อมณีรัตน์” …เท่านั้น ก็ไม่มีคำพูดใดจากใครอีกมีเพียงสายตาที่มองกันไปมาแต่ทำไมในใจของนภัสรถึงร้อนรุ่มที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมก็เธอเองไม่ได้คิดอะไรกับแววเกินเพื่อนไม่ใช่เหรอ?

เมื่อเซ็นใบเสร็จบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วโสรยาจึงลุกขึ้นร่ำลาเพื่อนสาว

“เรากลับก่อนนะ วันนี้เถลไถลไม่ได้แม่รออยู่”

“จ้ะ ไว้วันไหนแววว่างเราไปทานข้าวกันนะ” นภัสรเข้าไปโอบกอดเพื่อนสาวแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมและความเป็นคนสำคัญทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม

“จ้ะไว้เจอกันนะ”ยากเย็นเหลือเกินกับการควบคุมหัวใจตัวเองไม่ให้สั่นเพราะหวั่นไหวเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตนแอบรักมณีรัตน์มองคนทั้งคู่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แล้วยังไง!ก็แค่ผู้หญิงสองคน

พนักงานสาวสองคนช่วยกันถือข้าวของไปใส่ที่รถด้วยความแฮ็ปปี้กันแบบสุดๆก็แค่ยอดขายจากคุณแววในวันนี้ปิดร้านไม่ต้องทำงานกันได้เป็นอาทิตย์เลยแหละ

“ขอบใจ”ก่อนจะยื่นธนบัตรใบละหนึ่งร้อยส่งให้ไปสองใบตอบแทนความมีน้ำใจที่แม้จะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วแต่ที่ให้เพราะเธอเห็นความสุขในแววตาของสองคนนี้เวลาที่ให้บริการ เป็นความสุขที่ได้ทำไม่ใช่เพราะหน้าที่เพียงอย่างเดียว

อีกแล้วกับบรรยากาศของความอึดอัดเมื่อต้องอยู่กันตามลำพังต่างคนต่างนิ่งเงียบอยู่ในโลกของตัวเอง โสรยาเองก็คิดเพียงทำหน้าที่ของตนให้เสร็จๆเพื่อให้แม่พอใจส่วนเด็กสาวก็คิดแต่จะหาทางออกว่าจะชิ่งออกจากบ้านหลังนี้ได้ยังไง เมื่อที่แท้แล้วไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่รบกวน

เมื่อรถจอดสนิทเด็กสาวรีบเปิดรถออกมาและเดินเข้าบ้านไปทันทีโดยไม่สนใจข้าวของในรถโสรยาเพียงมองตามงงๆเพราะเรียกไม่ทันป้าศรีเดินมาพอดีจึงได้เรียกให้ทุกคนมาช่วยเอาของที่มากมายหลายถุงลงจากรถ

มณีรัตน์เปิดประตูห้องเข้าไปจัดการถอดชุดสวยราคาแพงออกและเอาชุดนักศึกษาที่ใส่มาออกมาใส่เธอต้องไปจากที่นี่แล้วเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่เอาติดตัวมาด้วยเรียบร้อยแล้วเด็กสาวจึงเปิดประตูเดินออกมาแต่… เป็นจังหวะเดียวกับที่โสรยาจะเดินกลับขึ้นมาบนห้องพอดีหญิงสาวร่างที่สูงกว่ามองเด็กสาวร่างบางด้วยสายตาเป็นคำถาม

“จะไปไหน”เด็กสาวหลบตาเป็นอัตโนมัติเพราะไม่อาจจะสู้สายตาคมดุมีมองเธออย่างมีอคติ

“จะกลับบ้านค่ะ” พูดจบเด็กสาวก็น้อมตัวเพื่อจะเดินผ่านไป

“ว้าย!!” เด็กสาวก้มมองข้อมือของตนที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้

“คิดจะหนีความผิดหรือไง”

“คุณพูดอะไรคะมณีต้องหนีความผิดอะไร” เด็กสาวเลิกคิ้วไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด

“ก็ที่เธอปั้นเรื่องขึ้นมาหลอกคนในบ้านนี้ไง” พอจะเข้าใจละ ผู้หญิงคนนี้ใจแคบและคิดลบกับเธอ

“มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นค่ะและตอนนี้ก็เข้าใจตรงกันแล้วมณีก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ที่นี่อีกกรุณาปล่อยมณีด้วยค่ะ”

“ไม่ใช่ว่าจนทางหาทางหลอกลวงต่อไม่ได้แล้วเหรอ” โสรยายังจับข้อมือเด็กสาวไว้แน่น

“มณีหลอกอะไรพวกคุณก็บอกแล้วไงคะว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”เด็กสาวแข็งกร้าวสู้สายตา ทนไม่ได้ที่ถูกดูถูกน้ำใจ

“เธอต้องพิสูจน์เรื่องราวทุกอย่างก่อนเธอถึงจะไปจากที่นี่ได้”

“ไม่จำเป็น ปล่อยมณีนะคะ” มือเรียวเล็กพยายามแกะมือที่เหนียวเป็นตุ๊กแกออกจากข้อมือของตน อีกแล้วที่เด็กคนนี้ทำสีหน้าอวดดีกับเธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร

“ว้าย!!” ไม่เพียงแต่จะแกะไม่ออกกลับถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงเข้าไปในห้องนอนของตน

“นี่!!” เด็กสาวหัวใจเต้นแรงเมื่อต้องเข้ามาอยู่ในที่ลับตาคนกับคนใจร้ายกับคนที่…มีรสนิยมในเพศเดียวกัน ว่าแต่…หล่อนคิดอะไรกับเธอหรือเปล่าเนี่ยเด็กสาวจับคอเสื้อตัวเองให้รัดกุมที่อีกฝ่ายมองออกว่าคิดอะไร พาให้อีกฝ่ายนึกดูถูกถึงความไม่เจียมตัวก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าสวย แต่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่มาที่ไปแบบนี้คิดเหรอว่าคนอย่างเธอจะลดตัวลงไปเกลือกกลั้วเมื่อได้จังหวะเด็กสาวรีบพุ่งตัวไปที่ประตูทันทีมันเป็นทางเดียวที่เธอจะรอด

“ว้าย!! นี่คุณ!! ปล่อยมณีน้า” เด็กสาวโวยวายเสียงดังเมื่อถูกคว้าเอวเอาไว้

“บอกแล้วไงว่าฉันปล่อยให้เธอไปไหนไม่ได้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะถูกเปิดเผย”ตอนนี้เด็กสาวถูกรวบตัวอยู่ในอ้อมกอดที่เจ้าของอ้อมแขนหวังตัดกำลัง

“คุณไม่มีสิทธิ์กักขังหน่วงเหนี่ยวมณีนะคะ” เด็กสาวดิ้นรนสุดกำลังใจหนึ่งก็ขัดเคืองอีกใจหนึ่งก็หวาดหวั่นคนไร้เหตุผล

“อะไรกัน เสียงนี้ดึงสายตาของคนทั้งคู่

“คุณหญิงขาช่วยมณีด้วยค่ะ” ตานี้เด็กสาวดันตัวเองออกมาอย่างง่ายดายเพราะคู่กรณียอมคลายอ้อมแขนรีบวิ่งไปหลบหลังคุณหญิงเนื้อตัวสั่นเทาเพราะขวัญเสีย

“ทำอะไรน้องยัยแวว” คุณหญิงเสียงเข้ม จ้องเขม็งไปที่ลูกสาวตัวต้นเหตุ

“ก็เด็กคนนี้กำลังจะหนีกลับบ้านแววก็แค่จะจับตัวไว้”

“แต่เมื่อกี้แม่เห็นแกกอดหนูมณีเขาอยู่”

“โธ่ คุณแม่คะ” โสรยาเหนื่อยใจจะอธิบายก็พูดกันดีๆแล้วรู้เรื่องเธอจะต้องทำอะไรแบบนั้นเหรอ

“คุณหญิงขาคือหนูไม่ได้คิดมาหลอกลวงอะไรคนบ้านนี้จริงๆนะคะ ให้หนูไปสาบานที่ไหนก็ได้และหนูก็ไม่อยากจะอยู่รบกวนคนที่นี่แล้วค่ะ” เด็กสาวน้ำเสียงสั่นเครือขอความเมตตา

“หนูจะกลับไปได้ยังไงก็นายบรรเจิดเขาตามตัวหนูอยู่”

“หนูรู้ค่ะ” เด็กสาวน้ำตาคลอ

“แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่ให้คนเขามองว่าเป็น18 มงกุฎเที่ยวหลอกลวงคนในบ้านนี้อยู่ให้เขาดูถูกดูแคลนน้ำใจ” แม้เด็กสาวจะไม่ได้หันมองและไม่ได้เอ่ยว่าเป็นใครแต่เจ้าตัวก็รู้ตัวและร้อนตัวได้เองพาลนึกโกรธที่หล่อนมีมายาเล่นละครตบตาให้แม่ของเธอสงสาร

“ใครกันที่คิดกับหนูมณีแบบนั้น” คุณหญิงดึงเด็กสาวมาโอบกอดปลอบประโลมหลงใหลในความใสซื่อของเด็กคนนี้เสียแล้วมณีรัตน์ใช้สายตาเป็นคำตอบแต่ก็ต้องวูบสลดหลบตาเมื่ออีกฝ่ายส่งสายตาคมแข็งเอาเรื่องกลับมาคุณหญิงปรามลูกสาวด้วยสายตาเพราะทันได้เห็นพอดี

“ไม่ต้องมองน้องแบบนั้นเลยนะเราเป็นพี่ดีแต่รังแกน้อง”

“ก็…”

“ไม่ต้องมาก็อะไรทั้งนั้นต่อไปถ้าแกยังรังแกหนูมณีอีกแม่จะเอาเรื่องแกและก็อย่าลืมว่าแกต้องรับผิดชอบหนูมณีที่แกเอาเขาไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงทั้งคืนเพราะน้องเสียหาย”

“แต่…”

“หยุดไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”ผู้เป็นแม่ไม่ต่อความยาวสาวความยืดด้วย

“ไป…หนูมณีออกไปดูซิว่าออกไปข้างนอกได้อะไรมาบ้าง” โสรยามองตามแม่กับยัยเด็กแปลกหน้าออกไปด้วยความงุนงงทำไมแม่ถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ หลงมนต์อะไรเด็กคนนี้นักหนา




Create Date : 24 เมษายน 2557
Last Update : 27 พฤษภาคม 2557 11:17:34 น. 0 comments
Counter : 336 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.