Group Blog
 
All blogs
 
ยามเมื่อสายลมหนาวพัดมา 13

ป้านวลสาระวนอยู่กับงานบ้านไม่คิดจะไปเร่งเร้าเจ้านายสาวที่เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออกคุณวาร์มเธอก็เอาแต่ใจไม่แพ้พี่น้องคนอื่นๆแค่มีเหตุผลและเอาการเอางานมากกว่า

โชติกาปรือตาขึ้นมองไปรอบตัวก็พบเห็นแต่ความมืด

“คุณวาร์มคะ”

“หือ” เมื่อมีสติอ้อมแขนก็กระชับกอดร่างบางให้แน่นขึ้นก็เธอหนาว

“มืดแล้วค่ะ ลุกได้แล้ว”

“อื่อ”

“อื่อนี่แปลว่าอะไรคะ”

“ก็แปลว่าลุกได้แล้วไง แต่ที่ยังไม่ลุกเพราะเธอนอนทับฉันอยู่” อะไรกันโยนความผิดให้เธอเฉยเลย ก็ตัวเองกอดเค้าอยู่

“บ้าจริง คุณเนี่ย” ร่างบางลืมตัวฟาดมือไปตนตัวคนที่พูดเข้าข้างตัวเอง

“โอ้ย!! เธอทำร้ายฉันอีกแล้วนะฉันป่วยอยู่ลืมไปหรือไง” อีกแล้ว เหตุผลของคนเอาแต่ใจ

“โรสขอโทษค่ะ” ร่างบางเสียงอ่อยแม้นจะเท่าทันแต่ก็รู้สึกผิดอยู่ดีก็พี่วาร์มป่วยอยู่จริงๆ

“งั้นก็ลุกเถอะค่ะ ไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะคะจะได้ออกไปทานข้าวทานยา” โชติกาอาทรอ่อนหวานจนทำให้หัวใจของคนฟังหวั่นไหวสินีนาฏยอมคลายอ้อมกอดและร่างที่อยู่ด้านบนก็ดีดตัวขึ้นไปนั่งข้างๆทันที

“โรสออกไปดูอาหารด้านนอกก่อนนะคะ ทิ้งไว้นานคงเย็นชืดหมดแล้ว” พูดจบร่างบางก็เดินออกไป ภายในบ้านอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนมีกลิ่นหอมอ่อนๆของบุหงารำไป เครื่องหอมไทยโบราณทำด้วยดอกไม้หลายชนิดผึ่งแห้ง พรมด้วยน้ำหอมหรือน้ำปรุงแล้วบรรจุในห่อผ้าโปร่งหรือผ้าตราพริกไทย

“ตื่นกันแล้วเหรอคะ ป้าอุ่นอาหารให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” ป้านวลเดินนำไปที่ห้องอาหาร เมื่อพบพิกัดของห้องอาหารแล้วโชติกาจึงขอตัวออกไปเอาของที่รถเธอต้องโทรบอกว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่รีสอร์ทวีกับแม่สอนจะได้ไม่ต้องมาเสียเที่ยว

เมื่อเดินพ้นประตูบ้านออกไปผิวกายกายที่สัมผัสได้กับความเย็นยะเยือกจนหน้าชาภายนอกตอนนี้ถูกความมืดครอบคลุมไว้จนหมดโชคดีที่รถจอดอยู่ในระยะที่แสงไฟหน้าบ้านสาดถึงโชติการีบวิ่งไปที่รถเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ จัดการดึงกุญแจออกล็อครถและรีบวิ่งกลับเข้ามาเพราะไม่อาจทานทนกับอากาศหนาวที่แม้นว่าเธอจะเกิดในประเทศที่มีหิมะแต่การแต่งกายของเธอตอนนี้มันไม่เอื้อรับกับอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิติดลบแบบนี้

เมื่อผ่านประตูกลับเข้ามาโชติการีบต่อสายถึงวีกิจทันทีแต่… เมื่อเพ่งมองที่จอมือถือก็เห็นได้ว่ามันไม่มีสัญญาณเลยสักขีด

“ต้องเดินไปอีก 6 กิโลถึงจะมีสัญญาณ” ร่างบางหันมองต้นเสียงด้วยอารมณ์ที่เป็นกังวลและขุ่นเคือง ตอนนี้หล่อนอยู่ในชุดลำลองท่าทางชิวมากจนน่าหมันไส้

“แล้วคุณโทรมาบอกป้านวลได้ยังไงคะตอนคุณจะขึ้นมา” ร่างบางซักไซ้เอาความ

“ก็บ้านป้านวลเขาอยู่ข้างล่างจะขึ้นมาที่นี่เฉพาะเวลามาทำความสะอาดและเวลาที่ครอบครัวฉันมาพักเท่านั้น”

“โรสต้องการใช้โทรศัพท์ตอนนี้มันเป็นเรื่องสำคัญคุณวาร์มขับรถพาโรสไปหน่อยนะคะ”

“ฉันไม่สบาย” พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าห้องอาหารไปใบหน้าอิ่มเอิบที่ขวางทางรักของคนอื่นได้สำเร็จทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าจะลำบากทำไปทำไมแต่ก็สะใจดีร่างบางมองตามด้วยความรู้สึกสิ้นหวังและเป็นกังวล

ชิดชนกปรือตามองโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงที่กำลังดังก่อนจะเอื้อมมือไปรับ

“มีคนมาติดต่อขอพบคุณโรสค่ะชื่อวีกิจรออยู่ด้านหน้าฟร้อนไม่ทราบว่าเป็นคนรู้จักหรือเปล่าคะ” ชิดชนกคิดเพียงแวบเดียว

“เดี๋ยวจะออกไปดู” เท่านั้นก็วางไปเธอสนใจเรื่องของเลขาคนสวยของวาร์มในฐานะเพื่อนเธอต้องมีข้อมูลบ้างเพื่อคอยซับพอตเพื่อนเมื่อมาถึงหน้าฟร้อนชิดชนกก็ได้พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีกับหญิงวัยกลางคน

“โรสไม่อยู่หรอกค่ะ ออกไปทำงานนอกสถานที่กับเจ้านาย”

“ไปที่ไหนเหรอครับ คือผมติดต่อโรสไม่ได้เลยผมเป็นห่วงเขามาก” ชายหนุ่มซักไซ้ในใจเป็นกังวล

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะคะเพราะเจ้านายของโรสเขามาเชียงใหม่บ่อยคุ้นชินกับที่นี่ดีว่าแต่…คุณทั้งสองเป็นอะไรกับโรสเหรอคะ” ชิดชนกไม่อ้อมค้อม ก็เธออยากรู้!

“ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโรสครับ ส่วนคนนี้คือแม่สอนเป็นแม่ของผมเป็นป้าของโรสครับ”

“สวัสดีค่ะ” ชิดชนกยกมือไหว้ผู้สูงวัยไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะมารยาทงามเพราะมันขัดแย้งกับรูปลักษณ์ที่สวยเฉี่ยวในเสื้อคลุมตัวหนาสีฉูดฉาด

“ไหว้พระเถิดจ้ะ” ป้าสอนรับไหว้ด้วยความเอ็นดูและชื่นชม

“ฉันชื่อชลลี่ค่ะ เป็นเพื่อนของเจ้านายโรสเดี๋ยวฉันจะบอกโรสให้เรื่องที่คุณสองคนมาหาถ้ายังไงโรสกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะบอกให้เขารีบติดต่อหาคุณนะคะ”

“ขอบใจนะจ๊ะหนู”

“ขอบคุณนะครับ” ชายหนุ่มและหญิงวัยกลางคนซาบซึ้งในน้ำใจ

“งั้นพวกเราขอลากลับก่อนนะครับ” ชิดชนกมองตามจนทั้งคู่ลับตาไปก่อนจะเดินไปที่ห้องอาหารตอนนี้เธอก็หิวมากเพราะเธอหลับไปตั้งแต่ตอนบ่ายตื่นขึ้นมาตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ฟ้ามืดแล้วเมื่อตอนบ่ายพนักงานเดินมาแจ้งเธอเรื่องห้องพักว่าวาร์มให้เธอเข้าไปพักที่ห้องได้ ว่าแต่…มืดค่ำแบบนี้วาร์มพาเลขาไปไหนหรือว่ายังทำงานไม่เสร็จแต่คิดไปก็ปวดหัวโตๆกันแล้วเดี๋ยวก็กลับกันมาเอง

สินีนาฏมองเลขาของตนที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มทั้งที่ข้าวในจานมันพร่องไปเพียงนิดเดียว

“ป้านวลคะโรสอิ่มแล้ว โรสอยากพักรบกวนพาโรสไปที่ห้องด้วยค่ะ” ป้านวลเลิกคิ้วสงสัยว่าทำไมต้องพาไป

“ก็ห้องที่คุณโรสพักกับคุณวาร์มไงคะ”

“โรสต้องการห้องส่วนตัวค่ะ”

“แต่คุณวาร์มเธอสั่งให้เปิดแค่ห้องเดียวค่ะ” โชติกามองไปทางบอสของตนอย่างขัดเคืองใจ

“ในฐานะเลขาโรสมีสิทธิ์เรียกร้องห้องส่วนตัวได้ค่ะ”

“ทานข้าวใจจานให้หมดก่อนแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน” สินีนาฏพูดประโยคที่ไม่ต่อเนื่องออกไป

“โรสอิ่มแล้วค่ะ” ร่างบางไม่โอนอ่อน ก็เธอไม่หิว

“งั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน”

“งั้นโรสจะนอนที่ห้องรับแขก”

“ป้านวลเดี๋ยวจัดการปิดเครื่องทำความร้อนในบ้านทั้งหมดก่อนกลับด้วย”

“ค่ะ” หญิงชรามองสาวลูกครึ่งหน้าหวานที่นั่งหน้าเสียอยู่ด้วยความเห็นใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

“งั้นโรสขอไปอาศัยนอนบ้านป้านวลได้ไหมคะ ใช่บ้านป้านวลมีสัญญาณโทรศัพท์ ตอนนี้โรสต้องการโทรศัพท์มากเลยค่ะ” ร่างบางยังไม่ยอมง่ายๆ เธอไม่ไหวแล้วกับจอมเผด็จการ

“เอาซิถ้าเธอทำแบบนั้นฉันจะไล่ป้านวลออก และถ้าเธอยังไม่ยอมทานข้าวในจานให้หมดแบบดีๆหละก็ฉันจะป้อนเธอ…ด้วยปากของฉัน” น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดแต่ก็บาดใจคนๆฟังน่าดู โชติกามองคนเผด็จการน้ำตาคลอพี่วาร์มใจร้ายที่สุดร่างบางลงมือทานข้าวในจานอีกครั้งแต่เป็นการทานแต่ข้าวแบบอัดๆเข้าไปในปากโดยไม่สนใจในรสชาติและกับข้าวบนโต๊ะ

“อาหารน่าทานมากนะคะป้านวล แต่เพราะโรสเหนื่อยจากการเดินทางทำให้ทานไม่ค่อยลง” ร่างบางหันไปออกตัวกับป้านวลก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปสินีนาฏส่ายหน้าน้อยๆในความดื้อรั้นก่อนจะลุกตามไป เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างบางนั่งหันหลังอยู่บนเตียงไม่ต้องเดินไปใกล้ๆก็รู้ได้ว่าต้องร้องไห้อยู่

“เป็นอะไร” ยังมีหน้าไปถามเขาอีก

“เปล่าค่ะ”

“แล้วร้องไห้ทำไม”

“อยู่ๆมันก็ร้องเองโรสไม่ได้ตั้งใจร้อง” สินีนาฏอมยิ้มกับคำตอบของเด็กน้อย ร่างบางขยับตัวหนีเมื่ออีกฝ่ายทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆ

“อุ่ยแต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเพราะถูกรวบเอวไว้

“เด็กดื้อ”สินีนาฏพูดขึ้นมาลอยๆ

“โรสไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ของเล่น และคุณไม่มีสิทธิ์มาล่วงเกินโรสแบบนี้” โชติกาหันมาแหวใส่

“ฉันล่วงเกินอะไร” สินีนาฏอียงตัวมองเพื่อจะสบตากับอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ขัดขืนหลบตา

“บอกมาซิว่าฉันล่วงเกินอะไรเธอ”

“ก็ คุณวาร์มมากอดโรสแบบนี้ทำไม” ร่างบางเสียงอ่อยขาดความมั่นใจสุดๆ

“ทำไมหละ ก็ฉันเอ็นดูเธอเพราะเธอเป็นน้องสาวเพื่อน…ไม่ได้เหรอ” คำตอบดูดีมากกับคนพูดแต่คนฟังนี่ซิ…สุดแสนจะปวดร้าว ‘น้องสาวเพื่อน’ คำนี้ที่ไม่อาจจะพัฒนาไปเป็นคำอื่น

“อุ่ยร่างบางใจหายวาบเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็ขโมยหอมแก้มเธอ

“คุณวาร์ม!!” ร่างบางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสูงหันมาเอาเรื่องแต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าเป็น ไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ทำไมหละฉันก็กอดก็หอมน้องสาวฉันแบบนี้”

“แต่โรสไม่ใช่น้องสาวคุณและคุณก็ปล่อยโรสได้แล้ว อื่อ…” ร่างบางพยายามผลักใสแต่อีกฝ่ายกลับโอบกระชับแน่นขึ้นแขนอีกข้างที่ว่างอยู่ก็ไม่ปล่อยให้เปล่าประโยชน์นำไปกอดรัดสมทบกับแขนอีกข้างด้วยความหน้ามึนยิ่งพาให้อีกคนขัดเคืองใจ

“คุณนี่ ว้าย!! ทำอะไรแบบนี้คะ”

“ฉันจะกอดเธอแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าเธอจะเลิกขัดใจฉัน” อีกแล้วเหตุผลหน้ามึนที่เอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง

“โรสไม่เคยขัดใจคุณไม่เคยทำอะไรที่ผิดไปจากหน้าที่ของการเป็นเลขา” ร่างบางโอนอ่อนลงทั้งทางน้ำเสียงและทางกายเพราะไม่อาจขัดขืนคนเอาแต่ใจที่ชอบใช้กำลังพี่วาร์มที่แสนดีคนนั้นคงไม่มีอยู่แล้วจริงๆ มีแต่คนใจร้ายคนนี้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายอ่อนลงสินีนาฏจึงยอมคลายอ้อมกอดแต่ก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขน

“ปล่อยโรสเถอะค่ะ โรสเหนียวตัวอยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว” ร่างบางหาทางออก แต่ก็นึกแปลกใจที่อีกฝ่ายยอมง่ายๆ

“อื่อ ไปอาบน้ำพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว” สินีนาฏหวังเอาใจเด็กเพราะรู้สึกได้เหมือนกันว่าใจร้ายรังแกหล่อนมากไปแล้ว

“ไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ โรสจะกลับรีสอร์ทจะกลับกรุงเทพฯจะทำงานเท่านั้นค่ะ”

“เธอนี่น้า ไม่ขัดใจฉันบ้างสักนิดมันจะเป็นจะตายเลยหรือไงแต่ก็ตามใจฉันจะนอนละ” สินีนาฏทิ้งตัวนอนลงไปเพราะความเหนื่อยล้าเพราะโรคภูมิแพ้อากาศโชติกามองคนที่กำลังดึงผ้าขึ้นมาห่มแต่ก็ดูขัดตาจึงช่วยดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้ ก่อนจะหันเดินออกไป

“โรส”

“คะ” ร่างบางหันกลับมามอง

“เธอมีเรื่องติดค้างฉันนะ”

“อะไรคะ” โชติกาเลิกคิ้วแปลกใจ

“เธอเคยขอให้ฉันกู๊ดไน้ท์คริส”

“หือ…”ร่างบางเขินจนแก้มแดงเมื่อนึกถึงสิ่งที่อีกฝ่ายพูด แล้วหล่อนจะพูดถึงมันอีกทำไมก็มันผ่านมาตั้งนานแล้ว

“วันนี้ฉันขอคืนบ้าง”

“บ้าซิคะ หมดเขตขอคืนไปนานละค่ะ” พูดจบร่างบางก็เดินลิ่วๆออกไป คนที่นอนยาวเหยียดมองตามยิ้มๆก่อนจะปิดเปลือกตาลง

“พี่วาร์มคะ”

“หือสาวร่างสูงหันมองเด็กสาวที่ยังเจื้อยแจ้วทั้งที่ได้เวลานอนแล้ว”

“Good nightkiss ค่ะ” เด็กสาวรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อพูดคำนี้ออกไปอีกไม่นานพี่วาร์มก็จะกลับเมืองไทยแล้วและก็ไม่รู้ว่าเธอจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่วาร์มแบบนี้อีกหรือเปล่าร่างสูงเดินยิ้มๆกลับเข้ามานั่งลงข้างๆและก้มลงพาริมฝีปากของตนไปแตะที่ริมฝีปากของเด็กสาวเบาๆ

“Good night จ้ะเด็กน้อย นอนได้แล้วนะ” ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปปิดไฟและเดินออกจากห้องไปทิ้งให้เด็กสาวนอนกรี๊ดกราดอยู่ในความมืดด้วยความเปี่ยมสุข คนหนึ่งสุขใจจนแทบทะลักคนหนึ่งเพียงเอ็นดูดั่งน้องสาว แต่อีกคนหนึ่งนี่ซิเป็นกังวลสุดแสนกับภาพที่เห็นภาพที่วาร์มจูบโรส

ก๊อกก๊อก ก๊อก

ชิดชนกเดินไปเปิดประตูดีใจว่าเพื่อนสาวกับเลขากลับมาแล้วแต่… สิ่งที่เห็นตอนนี้ดีกว่าที่คิดไว้มากแต่อีกคนนี่ใจหายวาบเมื่อคนที่เปิดประตูออกมาเป็นคนที่ตนไม่ชอบหน้าแล้วหล่อนทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ที่ห้องคุณวาร์ม

“ฉันมาพบคุณวาร์ม” นางแบบสาวพยายามข่มอารมณ์ขุ่นเคืองที่มีต่อกัน

“คุณมีธุระอะไรกับวาร์มเหรอคะ” ชิดชนกทำเป็นสอดรู้ เธอก็แค่อยากกวน

“เรื่องส่วนตัวค่ะ” น้ำเสียงที่เรียบนิ่งไม่เป็นมิตรทำให้ชิดชนกเข้าใจว่าตนเป็นความไม่พอใจของสาวสวยตรงหน้า

“เชิญค่ะ” ชิดชนกผายมือทำทุกอย่างเป็นทางการจนอีกฝ่ายนึกหมันไส้เพราะรับรู้ได้ว่าหล่อนทำประชดประชันเมื่อนางแบบสาวเดินเข้าไปชิดชนกก็จัดการปิดประตูล็อคกลอนอย่างแน่นหนาก็เธอห่วงเรื่องความปลอดภัยเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนของสองเพื่อนรักคือความคิดที่ทำให้ตัวเองดูดี เมธินีหันมองเมื่อได้ยินเสียงโซ่ที่ถูกนำไปคล้องที่ประตูนึกสงสัยว่าทำไมต้องแน่นหนารัดกุมมากขนาดนั้นเพราะเดี๋ยวเธอก็จะออกไปแล้วแต่ก็นะไม่อยากจะสนใจคนที่ชอบก่อกวนอารมณ์ให้ขุ่นใจแล้วนางแบบสาวเดินเข้าไปในห้องรับแขกแต่ก็ไม่พบใครสายตาเหลือบมองไปที่ประตูห้องนอนแต่ก็ไม่กล้าเดินเข้าไปเพราะเป็นการเสียมารยาทนางแบบสาวหันมองชิดชนกตั้งใจจะขอความช่วยเหลือให้หล่อนบอกคุณวาร์มให้เธอหน่อยว่าเธอมาขอพบแต่เรื่องแค่นี้หล่อนน่าจะรู้นะไม่น่าจะต้องให้เธอบอกเมื่อนางแบบสาวหันมาทางตนชิดชนกจึงผายมือให้เข้าไปในห้องได้เลยเมธินีก็ไม่รอช้ากับสิทธิพิเศษนั้น!




Create Date : 23 มีนาคม 2557
Last Update : 23 มีนาคม 2557 12:37:05 น. 0 comments
Counter : 403 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.