Sweetheart Rider ยอดรักนักปั่น
พี่นุชจำเรื่องที่คุณคมเดชน์ ชวนให้หนูไปทำงานด้วยได้ไหมคะ จริงสิทำไมเราถึงลืมไปเสียสนิท น้องนุชพยักหน้ารับและเห็นเป็นโอกาสที่จะร่วมมือกับคุณบอสกำราบคนอารมณ์ร้าย เรานี่แสบใช่ย่อยเลยนะ คิดแผนนี้ออกมาได้ดีเจอแพ็กเกจคู่แบบนี้ยัยไหมถึงคราวจะต้องสำนึก หนูไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องนั้นหรอกค่ะ หนูแค่อยากจะพิสูจน์ตัวเองขวัญข้าวตอบไปอย่างที่คิดเรื่องพรรค์นั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอาเองเถิดประการเดียวคือเธอต้องมีชีวิตอยู่รอดให้ได้ในสังคม เพื่อลบคำสบประมาทดูถูกดูแคลนจากพี่สาวใจร้าย น้องนุชไม่รีรอ เธอกดโทรศัพท์หาคมเดชน์ทันที ผมว่าจะโทรไปเอาคำตอบกับคุณอยู่พอดี ปลายสายทักทายคนโทรหาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรนัดคุณบอส ให้มาติวการแสดงเลยก็เพราะมัวแต่วุ่นวายกับเรื่องของญาติสาว นุชขอโทษค่ะ พอดีระยะนี้มีหลายเรื่องให้ต้องคิด ...เอาเป็นว่าค่ำนี้คุณคมเดชน์ว่างมั้ยคะแต่นุชไม่ไปหาที่ออฟฟิศนะ... นุชกลัวนักเขียนบทสาวยังฝังใจจำกับเหตุการณ์ลุ้นระทึกเมื่อคราวก่อนยิ่งตกเวลากลางคืนด้วยแล้ว ใครจะย่างกรายก็เชิญ เธอไม่เอาด้วยหรอกนะ มาหาผมที่บ้านแล้วกัน สะดวกและเป็นส่วนตัวดีเดี๋ยวส่งแผนที่ให้ทางไลน์ เท่านี้ก่อนนะครับ ติดลูกค้าอยู่เจ้านายของไหมเงินไม่รอฟังคำตอบ เสนอทางเลือกเป็นแกมบังคับ หนูว่าคุณคมเดชน์เธอปิ๊งพี่นุชนะคะ สาวผมยุ่งออกความเห็นเอียงคอเล็กน้อยตามด้วยยิ้มหวานๆ ไม่ม้าง เค้าก็แค่ใช้พี่เป็นครั้งคราว นักเขียนบทอายม้วนต้วนตอบแก้เก้อ ก็เธอไม่อยากให้ความหวังตัวเอง แล้วถ้าครั้งคราวของคุณบอส มาถี่ขึ้นๆแบบวันเว้นวันหรือทุกวันล่ะคะพี่นุชจะโอเคให้เขาใช้อยู่มั้ย ขวัญข้าวเดินมาใกล้ๆ แกล้งเย้ากระซิบความที่ซอกหูเล่นเอาคนฟังเตลิดกระเจิดกระเจิง น้องนุชแก้เขินเอามือน้อยๆตีไปที่ต้นแขนเสียทีหนึ่ง แก่แดดแก่ลมมากเกิ๊น ไม่เอาไม่พูดแล้วพี่จะทำงานต่อสาวสวยจบการสนทนา ก่อนจะเวิ่นเว้อถึงชายมาดเนี๊ยบไปมากกว่านี้ นักเขียนบทสาวเอางานมากองตรงหน้าเรื่องของเจ๊อ้อยเสร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว เหลือแต่ให้ผู้ใหญ่ของช่องอนุมัติแต่ถ้าจะแก้ก็คงไม่มากเพราะถ่ายไปออกอากาศไป พิถีพิถันมากจะไม่ทันการที่เธอหนักใจเห็นจะเป็นเรื่องที่นักเขียนคนเดิมทิ้งงานไปกลางคันเสียมากกว่าจะเปิดกล้องอยู่รอมร่อ งานยังไม่ได้คืบได้ศอกเลยส่วนขวัญข้าวก็ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ หยิบนิยายมานั่งอ่านเพราะสาวรุ่นไม่มีอะไรให้ต้องปัดกวาด ดูสิ ห้องของพี่นุชสะอาดสะอ้านดีเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วกระเบียดคืบ น่านั่งน่านอนจะตายไปไม่อุจาดตาเหมือนห้องของใครคนนั้นนึกถึงบั้นหน้าแล้วก็ให้คิดถึงผู้อุปการะขึ้นมาโดยพลัน... .................................... ไหมเงินยังนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกที่ร้านกาแฟบริเวณชั้นล่างของคอนโดกับน้อยหน่าอย่างออกรส เพลินเสียจนลืมเวลาลืมการงานไปสิ้นไหนๆก็พังไปหมดแล้ว ขออู้มันสักวันแล้วกัน น้อยหน่าคะ พาไหมไปซื้อจักรยานตอนนี้เลยได้ป่าวไหมอยากปั่นเต็มแก่แล้ว ผู้รับฟังแหงนหน้าขึ้นคิดแวบหนึ่งก่อนตอบกลับมาด้วยความดีใจ ดีเลยฮะ เราจะได้เอาคันนี้ไปเปลี่ยนยางด้วยแต่ไหมมี สเปคแล้วเหรอนักเขียนสาวที่อยากจะจำแลงกายเป็นนักปั่นมือสมัครเล่นส่ายหัว ก็แค่รู้ว่าอยากได้ก็อีแค่รถสองล้อ มันจะมี สปงสเปคอะไรให้วุ่นวาย กะแค่ซื้อจักรยานนี้ต้องคิดให้มากเรื่องด้วยหรือคะไม่เอาอ่ะ ไหมเครียดมาหลายวันแล้ว น้อยหน่าเลือกให้เลยได้มั้ย อ้าวแล้วกันของแบบนี้มันอยู่ที่รสนิยมชมชอบด้วยนะฮะนอกเหนือไปจากการใช้งาน...เอาเป็นว่าเราไปที่ร้านกันเลยดีกว่า เดี๋ยวไหมเห็นเข้าก็จะรู้เองว่าทำไมต้องมีสเปค สาวห้าวขอตัวเดินไปเอารถกระบะเพื่อยกรถจักรยานขึ้นไปไหมเงินค่อนข้างแปลกใจที่สาวตัวเล็กๆแต่ขับรถคันโตดูไม่สมกับบุคลิกเอาเลยน้อยหน่าเห็นเข้าแบบนั้นก็หยอกเอินเข้าให้ เดี๋ยววันหลังเราจะโชว์ขับรถเครนให้ดู เธอยิ้มกว้างพร้อมเบ่งกล้ามกระเปาะเล็กๆอวด จริงอ่ะ ไหมเงินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าอะไรจะเก่งเกิ๊น สาวห้าวหลุดหัวเราะ แกล้งต่อไม่ไหวแล้ว ฮิฮิ ล้อเล่นฮะ ไหมเงินเริ่มต้องกลืนน้ำลายตัวเองจากที่เคยออกจะแอนตี้พวกผิดเพศเสียด้วยซ้ำไป กาลเวลาผ่านมา คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงมาบัดนี้เธอยอมรับทอมแก่นแก้วคนนี้เข้าไว้ในอ้อมใจเรียบร้อยโรงเรียนนักปั่นแล้ว ที่ร้านจักรยานย่านชานเมืองริมถนนใหญ่สองคูหาไหมเงินลงจากรถพร้อมๆกับน้อยหน่าทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้านที่เต็มไปด้วยจักรยานนับร้อยคันที่บ้างก็แขวนโชว์อยู่บนหัวบ้างก็จอดพิงกำแพง บ้างก็จอดเรียงเป็นแถวยาวอยู่ตรงกลางร้านเย้ายวนลูกค้าให้เข้ามาเลือกชมนักเขียนสาวรู้สึกตื่นตาตื่นใจและตื่นเต้น กับสีสันและแบบที่หลากหลายจริงอยู่ที่หล่อนพอจะมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกตั้งแต่เครื่องบินรถเก๋งไปจนถึงมอเตอร์ไซค์เพราะบ่อยครั้งที่ตัวเอกในนิยายของเธอจะต้องใช้เป็นพาหนะคู่ใจ หลายฉากหลากตอนก็ต้องอาศัยยวดยานเป็นแบคกราวน์เล่าเรื่อง ไหมเงินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตกม้าตายเอากับเรื่องที่ดูประหนึ่งว่าง่ายแต่แท้จริงแล้วมันมีรายละเอียดที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนเอาการทีเดียวกับเจ้าสองล้อไร้เครื่องยนต์เหล่านี้ ระหว่างที่ไล่ดูไปทีละคันๆ น้อยหน่าก็อธิบายรายละเอียดของรถแต่ละประเภทเริ่มตั้งแต่จักรยานแม่บ้านแสนธรรมดา จักรยานเสือภูเขา (Mountain Bike) ที่มีเอกลักษณ์คือล้อหนาใหญ่ แฮนด์ตรง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขี่ในทางลาดชันทางวิบากลุยไปได้ทุกที่ที่มีทาง เหมาะกับพวกรักการผจญภัย แถมยังปั่นในเมืองได้อย่างไม่เคอะเขิน จักรยานเสือหมอบ (Road Bike) ล้อบางดอกเล็กแนวสปอร์ตเซ็กซี่เข้ากับคุฯผู้หญิงเน้นความปราดเปรียวรวดเร็วเป็นหลักการออกแบบจึงต้องทำให้แฮนด์งองุ้มลง เพื่อให้นักปั่นหมอบตามชื่อเป็นหลักอากาศพลศาสตร์(Aero-dynamics) ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าลู่ตามลมนั่นหล่ะ เสือหมอบเหมาะกับทางเรียบ หากเจอทางวิบากคนขี่จะหมอบเอาเสียเองต่อมาเป็นจักรยานไฮบริด (Hybrid) ชื่อก็บ่งบอกอยู่ในตัวว่าเป็นลูกผสมเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของจักรยานเสือภูเขา มารวมร่างเข้ากับเสือหมอบ จุดเด่นคือ ล้อบางเล็กแต่ปรับแฮนด์ให้ตรง เน้นการใช้งานในเมืองเพราะไม่ต้องหมอบให้เมื่อย ผู้ขี่สามารถนั่งตัวตรงได้แต่เพิ่มความเร็วให้ดีขึ้นกว่าจักรยานเสือภูเขา ประเภทสุดท้ายคือจักรยานฟิกซ์เกียร์(Fix Gear) หรือที่บรรดานักปั่นเรียกกันติดปากว่าฟิกซี่ จะมีเกียร์เดียว ความเร็วเดียวล้อไม่มีสเตอร์ (เฟือง) ทำให้เวลาปั่นแล้วบันไดถีบจะหมุนไปเรื่อยๆขาเลยต้องปั่นตามไปด้วยไม่หยุด แถมยังมีลูกเล่นปั่นถอยหลังได้อีก ไหมเงินมาสะดุดตากับจักรยานแบบพับได้ สีชมพูหวานแหววน่ารักฝุดๆมันเป็นไฮบริด แถมสนนราคาก็พอสู้ไหว นักเขียนสาวไม่ลังเลใจควักเงินสดถอยเจ้าแพรชมพูมาเป็นเจ้าของทันที ระหว่างที่รอทางร้านเช็คความเรียบร้อยน้อยหน่าก็ชื่นชมกับชื่อกิ๊บเก๋ที่ไหมเงินตั้งให้เจ้าสองล้อคันงาม เข้าใจตั้งชื่อนะฮะ...แพรชมพู เจ้าของเขาชื่อไหมเงินนี่คะ ก็เอาให้คล้องกันหน่อย นักเขียนสาวบอกเล่าไปอย่างภาคภูมิใจ แล้วของเราล่ะฮะ สาวห้าวทวงถาม ก็หล่อนอยากจะมีชื่อให้รถคู่ใจบ้างไหนๆคนก็เป็นคู่แล้วพ่วงรถไปด้วยเลยแล้วกัน นักเขียนสาวมองไปยังจักรยานคันแดงที่ตอนนี้เปลี่ยนยางเสร็จแล้ว ก็ยิ้มน้อยๆ ตอบไปแบบไม่ต้องใช้ความคิดมาก แตงโมแล้วกันค่ะ เพราะเจ้าของเป็นผลไม้เหมือนกัน สาวสวยให้เหตุผลเสร็จสรรพเดินตามมาดูพนักงานแบกรถขึ้นกระบะของน้อยหน่าและรับใบเสร็จ ไหมเป็นพวกนักดูดวงตั้งชื่อหรือเปล่า? น้อยหน่าชักสงสัยเพราะทั้งการพูดจาที่มักจะหยิบเอาคำแปลกหูมาใช้และความสามารถในการเรียกชื่อสิ่งนั้นสิ่งนี้ ม่ายบอก ฮิฮิ น้อยหน่าจะพาไหมไปปั่นที่ไหนดีน้า ประเดิมเจ้าแพรชมพูเสียหน่อยไหมเงินถามอย่างตื่นเต้นด้วยเบอร์ห้า บ้าเห่อของใหม่ ทั้งสองทำท่าจะขึ้นรถยังไม่ทันที่น้อยหน่าจะตอบเสียงทุ้มๆของเจ้าของร้านวัยไล่เลี่ยกับนักเขียนสาวก็แทรกขึ้นมา ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีอุปกรณ์เสริมหรือยังครับ อุปกรณ์เสริม? แหมทำอย่างกับพวกมือถือเลยนะคะ ไหมเงินต้องทวนคำเพราะฟังดูเป็นเรื่องตลกรับประทานที่พ่อค้ามักจะหาทางขายสินค้าเพิ่ม เห็นเราเป็นหมูในอวยหรือไงชิชะ กระนั้นหล่อนและน้อยหน่าก็เดินตามพ่อค้ากลับเข้าไปในร้าน ครับ มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากช่วยให้มีความปลอดภัยแล้วยังเพิ่มความสนุกในการขับด้วยครับเหตุผลดูดีมาก แต่คนจะขายของเขาก็เจรจาต้าอวยกันอีหรอบนี้ทั้งนั้น ยังไงคะ? ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฟังเอาเป็นความรู้เสียหน่อยจะเป็นไรไปเธอก็อยากดูวาทศิลป์ในการจูงใจลูกค้าของพ่อค้ารายนี้ นี่ครับหมวกนิรภัย แม้กฎหมายจะไม่ได้บังคับแต่เราก็ควรใส่ทุกครั้งที่ขับขี่ผมเองแม้แต่ขี่ไปซื้อกาแฟยังต้องใส่เลย อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับอาจมีเด็กวิ่งตัดหน้า คนเมาแล้วขับ จิปาถะครับ หนุ่มคนขายรู้ใจยื่นหมวกจักรยานทรงสปอร์ตสีชมพูสลับขาวเข้ากันกับตัวรถไหมเงินรับมาแม้จะเป็นวัสดุเหมือนพลาสติกแต่แข็งแรงทนทานน่าจะป้องกันได้จริงที่สำคัญคือเบา โอเคค่ะ ไหมชอบอันนี้ แล้วมีอะไรจะแนะนำเพิ่มอีกมั้ยคะ ที่จำเป็นที่สุดก็คือหมวกนี่ล่ะครับรองลงมาก็เป็นไฟหน้าหลังที่ผมแถมไปให้กับรถแล้วที่เหลือก็ตามแต่ความชอบและงบประมาณของคุณผู้หญิงครับ มีกระติกน้ำ ถุงมือ ไมล์วัดระยะทาง ที่ล็อครถแล้วก็ชุดปะยางฉุกเฉินครับ ฉุกเฉิน ก็ดีสิคะ ไหมเงินนึกถึงเจ้าแตงโมที่ยางรั่วก็ร้องอ๋อ ใช่ ถึงคราวฉุกละหุกก็ต้องมีไว้ นี่ขนาดว่าไหมเป็นแค่มือสมัครเล่นนะคะนี่สงสัยพวกมืออาชีพเต็มสูตรนี่คงกระเป๋าฉีก หลังจากเห็นยอดบิลของบรรดาอุปกรณ์เสริมนักเขียนสาวก็บ่นเข้าเล็กๆมันใช่น้อยเสียเมื่อไหร่ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ บางอย่างก็สามารถดัดแปลงเอาได้ เพื่อลดต้นทุนบางอย่างเราก็มีติดบ้านอยู่แล้ว เจ้าของร้านยิ้ม ให้คำแนะนำเพิ่มเติมสองนารีออกจากร้านมา น้อยหน่าพาคนกะเป๋าฉีกมุ่งหน้าไปยังปลายทาง ณ สถานที่หนึ่ง ยังไม่ตอบไหมเลย ว่าจะไปประเดิมทริปแรกกันที่ไหน ไหมเนี่ยคันไม้คันมือจะแย่แล้วค่ะ แม่นักเขียนไม่ใคร่เห่อของใหม่ หันมาทวงถามสิ่งที่ยังคางคา คนขับรถก็ลอยหน้าลอยตาเปิดเพลงดังลั่นรถ ทำหูทวนลมเสียอย่างนั้น ไหมเงินก็รู้ว่าเธอโดนแกล้งแต่ก็เต็มใจให้เขาหยอกเย้า...หรือน้อยหน่าคนนี้จะเป็นผู้กำราบความร้ายกาจของเธอ...หรือแท้จริงแล้วเป็นเราที่ยอมถอดเขี้ยวเล็บเสียเอง รถกระบะขับมาถึง ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑลสายสองไหมเงินก็ร้องอุทานออกมากลบเสียงเพลงที่ว่าดังอยู่แล้ว ถนนอักษะ! น้อยหน่านี่ช่างรู้ใจไหมจริงๆ นักเขียนสาวรู้ได้โดยพลันก็เธออยากมาที่นี่ตั้งนานนม ยินกิตติศัพท์ว่าเส้นทางสายนี้เป็นถนนที่สวยและใช้งบประมาณในการก่อสร้างที่แพงที่สุดของประเทศ รู้ใจแล้วจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านมั้ยฮะรับรองกินง่ายอยู่ง่ายน้อยหน่าต่อบทได้ทีทำคะแนนต่อเนื่อง พูดอย่างกับตัวเองเป็นน้องหมาน้องแมวเลี้ยงเลิ้งอะไรกัน ไหมเงินไม่รับลูกด้วยทำเป็นเดียงสา เป็นหมาก็ซื่อสัตย์รักนายได้คนเดียวไงฮะหรือจะให้เป็นแมว แต่เราอ้อนคนไม่เก่งนะฮะ ชอบแต่ให้คนอื่นมาอ้อน มัณฑนากรสาวเกี้ยวต่อก็มุกนี้เธอเตรียมมาจากคอนโดแล้ว กลัวว่าจะเป็นแมวติดสัดน่ะสิไม่ว่าพอถึงฤดูก็ทิ้งเจ้านายไปดี๊ด๊านอกบ้าน ไหมเงินพูดหยอกเข้าแรงๆพลั้งปากไปแบบไม่คิด ไหม... เสียงแหลมเล็กพูดเพียงสั้นๆดึงสติคนคะนองให้กลับคืนมา อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ไหมปากร้ายไปหน่อย หญิงสาวเอามือตีปากตัวเองทีหนึ่งเพื่อเป็นการลงโทษที่ตนปากพล่อย ป่าว...เราจะบอกว่าถึงแล้ว ทอมแก่นแก้วเลี้ยวหักพวงมาลัยเข้ามาที่ถนนสวยจอดเต๊าะไฟฉุกเฉินเข้าข้างทาง บรรยากาศยามเย็นช่างเป็นใจให้สองนารี แดดร่มลมโชยไหมเงินและน้อยหน่าลงจากรถ สายลมพัดผ่านจนปอยผมสลวยของนักเขียนสาวปลิวไสว สวยจริงๆไหมเงินชื่นชมกับทัศนียภาพเบื้องหน้า รอบกายมีผู้คนมาเดิน วิ่งออกกำลังกายประปรายบ้างก็ปั่นจักรยานมาเป็นกลุ่มๆ ถนนอักษะ(ชื่อใหม่คือ ถนนอุทยาน) เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และพุทธมณฑลสาย 4 โดยขนาน ไปกับถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของแขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยสิ่งที่โดดเด่นของมากที่สุดของถนนอุทยาน(ถนนอักษะ) คือ บริเวณเกาะกลางถนนที่ได้รับการตกแต่งประดับประดาด้วยสระบัวหลากสีสันที่สวยงามตามธรรมชาติ นอกจากนี้สะพานข้ามคลองทั้งสองแห่งก็มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คงความเป็นเอกลักษณ์ไทย สวยงามตระการตา พร้อมบ่อน้ำพุเล่นระดับ 3 แห่งระบบแสงสว่างของถนนติดตั้งเสาโคมไฟสูงรูปหงส์ จำนวน 979 ต้นเรียงรายตลอดสองข้างถนน พร้อมพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งคู่ช่วยกันแบกจักรยานลงมาจากกระบะท้ายก่อนจะเริ่มปั่นเคียงคู่กันไป วนรอบถนนสวยได้สองรอบปิดท้ายด้วยการนั่งพักที่ท้ายกระบะ ดูแสงไฟและผู้คนยามค่ำคืน ขอบคุณนะคะ สำหรับวันนี้ไหมเงินหันมาพูดกับคนข้างๆบรรยากาศมันช่างโรแมนติกประหนึ่งบทตอนฉากรักใคร่ในนิยายของเธอ เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นคำอื่นได้มั้ยฮะ น้อยหน่ารุกคืบถึงขั้นสุดท้ายปลายทางหัวใจแต่มันถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งรักระหว่างเราสอง ยังไงคะ? ไหมเงินตีหน้าซื่อถามกลับออกไปเพื่อให้บทรักสมบูณ์แบบ ก็ตอบรับเราเป็นแฟน...ได้มั้ยนักเขียนชื่อดังไม่เอ่ยวาจา แสดงเป็นภาษากายด้วยการเอามือเรียวสัมผัสเข้าที่มือน้อยๆของอีกฝ่ายทั้งสองอนงค์หันมาสบประสานสายตากันหวานซึ้งและเนิ่นนานถ่ายทอดความรู้สึกผ่านอวัจนภาษา ไหมเงินไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอตกกระไดหัวใจพลอยโจนมาอยู่ในสถานการณ์นี้ได้อย่างไรความรู้สึกด้านลบกับรักในนิยามนี้ มันได้พัฒนาให้เป็นกลางและกลับมาเป็นบวกได้ในชั่วระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์ แม้เธอจะยังตอบกับตัวเองไม่ได้เต็มปากเต็มหัวใจนักว่ารักชอบคนตรงหน้านี้หรือไม่แต่ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอสัมผัสได้ถึงความสุขและหัวเราะได้อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร ทุกคราวที่นัดแล้วไม่เจอกันทำไมจิตใจต้องร้อนรุ่มกระวนกระวาย นี่อาจจะเป็นความรักชอบ..แล้วกระมัง คนเราก็เป็นแบบนี้เมื่อความรักวิ่งมาชน จะหลบเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้นไม่ทันเสียแล้วไหมเงินได้แต่ปล่อยให้หัวใจนำพา เรียนรู้และยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น...
Create Date : 20 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 20 มิถุนายน 2558 10:51:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 454 Pageviews. |
|
|