Group Blog
 
All blogs
 
Sweetheart Rider ยอดรักนักปั่น


“พี่นุชจำเรื่องที่คุณคมเดชน์ ชวนให้หนูไปทำงานด้วยได้ไหมคะ” จริงสิทำไมเราถึงลืมไปเสียสนิท น้องนุชพยักหน้ารับและเห็นเป็นโอกาสที่จะร่วมมือกับคุณบอสกำราบคนอารมณ์ร้าย

“เรานี่แสบใช่ย่อยเลยนะ คิดแผนนี้ออกมาได้ดีเจอแพ็กเกจคู่แบบนี้ยัยไหมถึงคราวจะต้องสำนึก”

“หนูไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องนั้นหรอกค่ะ หนูแค่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง”ขวัญข้าวตอบไปอย่างที่คิดเรื่องพรรค์นั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอาเองเถิดประการเดียวคือเธอต้องมีชีวิตอยู่รอดให้ได้ในสังคม เพื่อลบคำสบประมาทดูถูกดูแคลนจากพี่สาวใจร้าย

น้องนุชไม่รีรอ เธอกดโทรศัพท์หาคมเดชน์ทันที

“ผมว่าจะโทรไปเอาคำตอบกับคุณอยู่พอดี” ปลายสายทักทายคนโทรหาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรนัดคุณบอส ให้มาติวการแสดงเลยก็เพราะมัวแต่วุ่นวายกับเรื่องของญาติสาว

“นุชขอโทษค่ะ พอดีระยะนี้มีหลายเรื่องให้ต้องคิด ...เอาเป็นว่าค่ำนี้คุณคมเดชน์ว่างมั้ยคะแต่นุชไม่ไปหาที่ออฟฟิศนะ... นุชกลัว”นักเขียนบทสาวยังฝังใจจำกับเหตุการณ์ลุ้นระทึกเมื่อคราวก่อนยิ่งตกเวลากลางคืนด้วยแล้ว ใครจะย่างกรายก็เชิญ เธอไม่เอาด้วยหรอกนะ

“มาหาผมที่บ้านแล้วกัน สะดวกและเป็นส่วนตัวดีเดี๋ยวส่งแผนที่ให้ทางไลน์ เท่านี้ก่อนนะครับ ติดลูกค้าอยู่”เจ้านายของไหมเงินไม่รอฟังคำตอบ เสนอทางเลือกเป็นแกมบังคับ

“หนูว่าคุณคมเดชน์เธอปิ๊งพี่นุชนะคะ” สาวผมยุ่งออกความเห็นเอียงคอเล็กน้อยตามด้วยยิ้มหวานๆ

“ไม่ม้าง เค้าก็แค่ใช้พี่เป็นครั้งคราว” นักเขียนบทอายม้วนต้วนตอบแก้เก้อ ก็เธอไม่อยากให้ความหวังตัวเอง

“แล้วถ้าครั้งคราวของคุณบอส มาถี่ขึ้นๆแบบวันเว้นวันหรือทุกวันล่ะคะพี่นุชจะโอเคให้เขาใช้อยู่มั้ย” ขวัญข้าวเดินมาใกล้ๆ แกล้งเย้ากระซิบความที่ซอกหูเล่นเอาคนฟังเตลิดกระเจิดกระเจิง น้องนุชแก้เขินเอามือน้อยๆตีไปที่ต้นแขนเสียทีหนึ่ง

“แก่แดดแก่ลมมากเกิ๊น ไม่เอาไม่พูดแล้วพี่จะทำงานต่อ”สาวสวยจบการสนทนา ก่อนจะเวิ่นเว้อถึงชายมาดเนี๊ยบไปมากกว่านี้

นักเขียนบทสาวเอางานมากองตรงหน้าเรื่องของเจ๊อ้อยเสร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว เหลือแต่ให้ผู้ใหญ่ของช่องอนุมัติแต่ถ้าจะแก้ก็คงไม่มากเพราะถ่ายไปออกอากาศไป พิถีพิถันมากจะไม่ทันการที่เธอหนักใจเห็นจะเป็นเรื่องที่นักเขียนคนเดิมทิ้งงานไปกลางคันเสียมากกว่าจะเปิดกล้องอยู่รอมร่อ งานยังไม่ได้คืบได้ศอกเลยส่วนขวัญข้าวก็ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ หยิบนิยายมานั่งอ่านเพราะสาวรุ่นไม่มีอะไรให้ต้องปัดกวาด ดูสิ ห้องของพี่นุชสะอาดสะอ้านดีเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วกระเบียดคืบ น่านั่งน่านอนจะตายไปไม่อุจาดตาเหมือนห้องของใครคนนั้นนึกถึงบั้นหน้าแล้วก็ให้คิดถึงผู้อุปการะขึ้นมาโดยพลัน...

....................................

ไหมเงินยังนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกที่ร้านกาแฟบริเวณชั้นล่างของคอนโดกับน้อยหน่าอย่างออกรส เพลินเสียจนลืมเวลาลืมการงานไปสิ้นไหนๆก็พังไปหมดแล้ว ขออู้มันสักวันแล้วกัน

“น้อยหน่าคะ พาไหมไปซื้อจักรยานตอนนี้เลยได้ป่าวไหมอยากปั่นเต็มแก่แล้ว” ผู้รับฟังแหงนหน้าขึ้นคิดแวบหนึ่งก่อนตอบกลับมาด้วยความดีใจ

“ดีเลยฮะ เราจะได้เอาคันนี้ไปเปลี่ยนยางด้วยแต่ไหมมี สเปคแล้วเหรอ”นักเขียนสาวที่อยากจะจำแลงกายเป็นนักปั่นมือสมัครเล่นส่ายหัว ก็แค่รู้ว่าอยากได้ก็อีแค่รถสองล้อ มันจะมี สปงสเปคอะไรให้วุ่นวาย

“กะแค่ซื้อจักรยานนี้ต้องคิดให้มากเรื่องด้วยหรือคะไม่เอาอ่ะ ไหมเครียดมาหลายวันแล้ว น้อยหน่าเลือกให้เลยได้มั้ย”

“อ้าวแล้วกันของแบบนี้มันอยู่ที่รสนิยมชมชอบด้วยนะฮะนอกเหนือไปจากการใช้งาน...เอาเป็นว่าเราไปที่ร้านกันเลยดีกว่า เดี๋ยวไหมเห็นเข้าก็จะรู้เองว่าทำไมต้องมีสเปค”

สาวห้าวขอตัวเดินไปเอารถกระบะเพื่อยกรถจักรยานขึ้นไปไหมเงินค่อนข้างแปลกใจที่สาวตัวเล็กๆแต่ขับรถคันโตดูไม่สมกับบุคลิกเอาเลยน้อยหน่าเห็นเข้าแบบนั้นก็หยอกเอินเข้าให้

“เดี๋ยววันหลังเราจะโชว์ขับรถเครนให้ดู” เธอยิ้มกว้างพร้อมเบ่งกล้ามกระเปาะเล็กๆอวด

“จริงอ่ะ” ไหมเงินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าอะไรจะเก่งเกิ๊น สาวห้าวหลุดหัวเราะ แกล้งต่อไม่ไหวแล้ว

“ฮิฮิ ล้อเล่นฮะ”

ไหมเงินเริ่มต้องกลืนน้ำลายตัวเองจากที่เคยออกจะแอนตี้พวกผิดเพศเสียด้วยซ้ำไป กาลเวลาผ่านมา คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงมาบัดนี้เธอยอมรับทอมแก่นแก้วคนนี้เข้าไว้ในอ้อมใจเรียบร้อยโรงเรียนนักปั่นแล้ว

ที่ร้านจักรยานย่านชานเมืองริมถนนใหญ่สองคูหาไหมเงินลงจากรถพร้อมๆกับน้อยหน่าทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้านที่เต็มไปด้วยจักรยานนับร้อยคันที่บ้างก็แขวนโชว์อยู่บนหัวบ้างก็จอดพิงกำแพง บ้างก็จอดเรียงเป็นแถวยาวอยู่ตรงกลางร้านเย้ายวนลูกค้าให้เข้ามาเลือกชมนักเขียนสาวรู้สึกตื่นตาตื่นใจและตื่นเต้น กับสีสันและแบบที่หลากหลายจริงอยู่ที่หล่อนพอจะมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกตั้งแต่เครื่องบินรถเก๋งไปจนถึงมอเตอร์ไซค์เพราะบ่อยครั้งที่ตัวเอกในนิยายของเธอจะต้องใช้เป็นพาหนะคู่ใจ หลายฉากหลากตอนก็ต้องอาศัยยวดยานเป็นแบคกราวน์เล่าเรื่อง ไหมเงินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตกม้าตายเอากับเรื่องที่ดูประหนึ่งว่าง่ายแต่แท้จริงแล้วมันมีรายละเอียดที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนเอาการทีเดียวกับเจ้าสองล้อไร้เครื่องยนต์เหล่านี้

ระหว่างที่ไล่ดูไปทีละคันๆ น้อยหน่าก็อธิบายรายละเอียดของรถแต่ละประเภทเริ่มตั้งแต่จักรยานแม่บ้านแสนธรรมดา จักรยานเสือภูเขา (Mountain Bike) ที่มีเอกลักษณ์คือล้อหนาใหญ่ แฮนด์ตรง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขี่ในทางลาดชันทางวิบากลุยไปได้ทุกที่ที่มีทาง เหมาะกับพวกรักการผจญภัย แถมยังปั่นในเมืองได้อย่างไม่เคอะเขิน จักรยานเสือหมอบ (Road Bike) ล้อบางดอกเล็กแนวสปอร์ตเซ็กซี่เข้ากับคุฯผู้หญิงเน้นความปราดเปรียวรวดเร็วเป็นหลักการออกแบบจึงต้องทำให้แฮนด์งองุ้มลง เพื่อให้นักปั่นหมอบตามชื่อเป็นหลักอากาศพลศาสตร์(Aero-dynamics) ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าลู่ตามลมนั่นหล่ะ เสือหมอบเหมาะกับทางเรียบ หากเจอทางวิบากคนขี่จะหมอบเอาเสียเองต่อมาเป็นจักรยานไฮบริด (Hybrid) ชื่อก็บ่งบอกอยู่ในตัวว่าเป็นลูกผสมเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของจักรยานเสือภูเขา มารวมร่างเข้ากับเสือหมอบ จุดเด่นคือ ล้อบางเล็กแต่ปรับแฮนด์ให้ตรง เน้นการใช้งานในเมืองเพราะไม่ต้องหมอบให้เมื่อย ผู้ขี่สามารถนั่งตัวตรงได้แต่เพิ่มความเร็วให้ดีขึ้นกว่าจักรยานเสือภูเขา ประเภทสุดท้ายคือจักรยานฟิกซ์เกียร์(Fix Gear) หรือที่บรรดานักปั่นเรียกกันติดปากว่า’ฟิกซี่’ จะมีเกียร์เดียว ความเร็วเดียวล้อไม่มีสเตอร์ (เฟือง) ทำให้เวลาปั่นแล้วบันไดถีบจะหมุนไปเรื่อยๆขาเลยต้องปั่นตามไปด้วยไม่หยุด แถมยังมีลูกเล่นปั่นถอยหลังได้อีก

ไหมเงินมาสะดุดตากับจักรยานแบบพับได้ สีชมพูหวานแหววน่ารักฝุดๆมันเป็นไฮบริด แถมสนนราคาก็พอสู้ไหว นักเขียนสาวไม่ลังเลใจควักเงินสดถอยเจ้าแพรชมพูมาเป็นเจ้าของทันที

ระหว่างที่รอทางร้านเช็คความเรียบร้อยน้อยหน่าก็ชื่นชมกับชื่อกิ๊บเก๋ที่ไหมเงินตั้งให้เจ้าสองล้อคันงาม

“เข้าใจตั้งชื่อนะฮะ...แพรชมพู”

“เจ้าของเขาชื่อไหมเงินนี่คะ ก็เอาให้คล้องกันหน่อย” นักเขียนสาวบอกเล่าไปอย่างภาคภูมิใจ

“แล้วของเราล่ะฮะ” สาวห้าวทวงถาม ก็หล่อนอยากจะมีชื่อให้รถคู่ใจบ้างไหนๆคนก็เป็นคู่แล้วพ่วงรถไปด้วยเลยแล้วกัน นักเขียนสาวมองไปยังจักรยานคันแดงที่ตอนนี้เปลี่ยนยางเสร็จแล้ว ก็ยิ้มน้อยๆ ตอบไปแบบไม่ต้องใช้ความคิดมาก

“แตงโมแล้วกันค่ะ เพราะเจ้าของเป็นผลไม้เหมือนกัน” สาวสวยให้เหตุผลเสร็จสรรพเดินตามมาดูพนักงานแบกรถขึ้นกระบะของน้อยหน่าและรับใบเสร็จ

“ไหมเป็นพวกนักดูดวงตั้งชื่อหรือเปล่า?” น้อยหน่าชักสงสัยเพราะทั้งการพูดจาที่มักจะหยิบเอาคำแปลกหูมาใช้และความสามารถในการเรียกชื่อสิ่งนั้นสิ่งนี้

“ม่ายบอก ฮิฮิ น้อยหน่าจะพาไหมไปปั่นที่ไหนดีน้า ประเดิมเจ้าแพรชมพูเสียหน่อย”ไหมเงินถามอย่างตื่นเต้นด้วยเบอร์ห้า บ้าเห่อของใหม่ ทั้งสองทำท่าจะขึ้นรถยังไม่ทันที่น้อยหน่าจะตอบเสียงทุ้มๆของเจ้าของร้านวัยไล่เลี่ยกับนักเขียนสาวก็แทรกขึ้นมา

“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีอุปกรณ์เสริมหรือยังครับ”

“อุปกรณ์เสริม? แหมทำอย่างกับพวกมือถือเลยนะคะ” ไหมเงินต้องทวนคำเพราะฟังดูเป็นเรื่องตลกรับประทานที่พ่อค้ามักจะหาทางขายสินค้าเพิ่ม ‘เห็นเราเป็นหมูในอวยหรือไงชิชะ’ กระนั้นหล่อนและน้อยหน่าก็เดินตามพ่อค้ากลับเข้าไปในร้าน

“ครับ มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากช่วยให้มีความปลอดภัยแล้วยังเพิ่มความสนุกในการขับด้วยครับ”เหตุผลดูดีมาก แต่คนจะขายของเขาก็เจรจาต้าอวยกันอีหรอบนี้ทั้งนั้น

“ยังไงคะ?” ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฟังเอาเป็นความรู้เสียหน่อยจะเป็นไรไปเธอก็อยากดูวาทศิลป์ในการจูงใจลูกค้าของพ่อค้ารายนี้

“นี่ครับหมวกนิรภัย แม้กฎหมายจะไม่ได้บังคับแต่เราก็ควรใส่ทุกครั้งที่ขับขี่ผมเองแม้แต่ขี่ไปซื้อกาแฟยังต้องใส่เลย อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับอาจมีเด็กวิ่งตัดหน้า คนเมาแล้วขับ จิปาถะครับ” หนุ่มคนขายรู้ใจยื่นหมวกจักรยานทรงสปอร์ตสีชมพูสลับขาวเข้ากันกับตัวรถไหมเงินรับมาแม้จะเป็นวัสดุเหมือนพลาสติกแต่แข็งแรงทนทานน่าจะป้องกันได้จริงที่สำคัญคือเบา

“โอเคค่ะ ไหมชอบอันนี้ แล้วมีอะไรจะแนะนำเพิ่มอีกมั้ยคะ”

“ที่จำเป็นที่สุดก็คือหมวกนี่ล่ะครับรองลงมาก็เป็นไฟหน้าหลังที่ผมแถมไปให้กับรถแล้วที่เหลือก็ตามแต่ความชอบและงบประมาณของคุณผู้หญิงครับ มีกระติกน้ำ ถุงมือ ไมล์วัดระยะทาง ที่ล็อครถแล้วก็ชุดปะยางฉุกเฉินครับ”

“ฉุกเฉิน ก็ดีสิคะ” ไหมเงินนึกถึงเจ้าแตงโมที่ยางรั่วก็ร้องอ๋อ ใช่ ถึงคราวฉุกละหุกก็ต้องมีไว้

“นี่ขนาดว่าไหมเป็นแค่มือสมัครเล่นนะคะนี่สงสัยพวกมืออาชีพเต็มสูตรนี่คงกระเป๋าฉีก” หลังจากเห็นยอดบิลของบรรดาอุปกรณ์เสริมนักเขียนสาวก็บ่นเข้าเล็กๆมันใช่น้อยเสียเมื่อไหร่

“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ บางอย่างก็สามารถดัดแปลงเอาได้ เพื่อลดต้นทุนบางอย่างเราก็มีติดบ้านอยู่แล้ว” เจ้าของร้านยิ้ม ให้คำแนะนำเพิ่มเติมสองนารีออกจากร้านมา น้อยหน่าพาคนกะเป๋าฉีกมุ่งหน้าไปยังปลายทาง ณ สถานที่หนึ่ง

“ยังไม่ตอบไหมเลย ว่าจะไปประเดิมทริปแรกกันที่ไหน ไหมเนี่ยคันไม้คันมือจะแย่แล้วค่ะ” แม่นักเขียนไม่ใคร่เห่อของใหม่ หันมาทวงถามสิ่งที่ยังคางคา คนขับรถก็ลอยหน้าลอยตาเปิดเพลงดังลั่นรถ ทำหูทวนลมเสียอย่างนั้น ไหมเงินก็รู้ว่าเธอโดนแกล้งแต่ก็เต็มใจให้เขาหยอกเย้า...หรือน้อยหน่าคนนี้จะเป็นผู้กำราบความร้ายกาจของเธอ...หรือแท้จริงแล้วเป็นเราที่ยอมถอดเขี้ยวเล็บเสียเอง

รถกระบะขับมาถึง ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑลสายสองไหมเงินก็ร้องอุทานออกมากลบเสียงเพลงที่ว่าดังอยู่แล้ว

“ถนนอักษะ! น้อยหน่านี่ช่างรู้ใจไหมจริงๆ” นักเขียนสาวรู้ได้โดยพลันก็เธออยากมาที่นี่ตั้งนานนม ยินกิตติศัพท์ว่าเส้นทางสายนี้เป็นถนนที่สวยและใช้งบประมาณในการก่อสร้างที่แพงที่สุดของประเทศ

“รู้ใจแล้วจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านมั้ยฮะรับรองกินง่ายอยู่ง่าย”น้อยหน่าต่อบทได้ทีทำคะแนนต่อเนื่อง

“พูดอย่างกับตัวเองเป็นน้องหมาน้องแมวเลี้ยงเลิ้งอะไรกัน” ไหมเงินไม่รับลูกด้วยทำเป็นเดียงสา

“เป็นหมาก็ซื่อสัตย์รักนายได้คนเดียวไงฮะหรือจะให้เป็นแมว แต่เราอ้อนคนไม่เก่งนะฮะ ชอบแต่ให้คนอื่นมาอ้อน” มัณฑนากรสาวเกี้ยวต่อก็มุกนี้เธอเตรียมมาจากคอนโดแล้ว

“กลัวว่าจะเป็นแมวติดสัดน่ะสิไม่ว่าพอถึงฤดูก็ทิ้งเจ้านายไปดี๊ด๊านอกบ้าน” ไหมเงินพูดหยอกเข้าแรงๆพลั้งปากไปแบบไม่คิด

“ไหม...” เสียงแหลมเล็กพูดเพียงสั้นๆดึงสติคนคะนองให้กลับคืนมา

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ไหมปากร้ายไปหน่อย” หญิงสาวเอามือตีปากตัวเองทีหนึ่งเพื่อเป็นการลงโทษที่ตนปากพล่อย

“ป่าว...เราจะบอกว่าถึงแล้ว” ทอมแก่นแก้วเลี้ยวหักพวงมาลัยเข้ามาที่ถนนสวยจอดเต๊าะไฟฉุกเฉินเข้าข้างทาง บรรยากาศยามเย็นช่างเป็นใจให้สองนารี แดดร่มลมโชยไหมเงินและน้อยหน่าลงจากรถ สายลมพัดผ่านจนปอยผมสลวยของนักเขียนสาวปลิวไสว

“สวยจริงๆ”ไหมเงินชื่นชมกับทัศนียภาพเบื้องหน้า รอบกายมีผู้คนมาเดิน วิ่งออกกำลังกายประปรายบ้างก็ปั่นจักรยานมาเป็นกลุ่มๆ

ถนนอักษะ(ชื่อใหม่คือ ถนนอุทยาน) เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และพุทธมณฑลสาย 4 โดยขนาน ไปกับถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของแขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยสิ่งที่โดดเด่นของมากที่สุดของถนนอุทยาน(ถนนอักษะ) คือ บริเวณเกาะกลางถนนที่ได้รับการตกแต่งประดับประดาด้วยสระบัวหลากสีสันที่สวยงามตามธรรมชาติ นอกจากนี้สะพานข้ามคลองทั้งสองแห่งก็มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คงความเป็นเอกลักษณ์ไทย สวยงามตระการตา พร้อมบ่อน้ำพุเล่นระดับ 3 แห่งระบบแสงสว่างของถนนติดตั้งเสาโคมไฟสูงรูปหงส์ จำนวน 979 ต้นเรียงรายตลอดสองข้างถนน พร้อมพันธุ์ไม้นานาชนิด

ทั้งคู่ช่วยกันแบกจักรยานลงมาจากกระบะท้ายก่อนจะเริ่มปั่นเคียงคู่กันไป วนรอบถนนสวยได้สองรอบปิดท้ายด้วยการนั่งพักที่ท้ายกระบะ ดูแสงไฟและผู้คนยามค่ำคืน

“ขอบคุณนะคะ สำหรับวันนี้”ไหมเงินหันมาพูดกับคนข้างๆบรรยากาศมันช่างโรแมนติกประหนึ่งบทตอนฉากรักใคร่ในนิยายของเธอ

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นคำอื่นได้มั้ยฮะ” น้อยหน่ารุกคืบถึงขั้นสุดท้ายปลายทางหัวใจแต่มันถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งรักระหว่างเราสอง

“ยังไงคะ?” ไหมเงินตีหน้าซื่อถามกลับออกไปเพื่อให้บทรักสมบูณ์แบบ

“ก็ตอบรับเราเป็นแฟน...ได้มั้ย”นักเขียนชื่อดังไม่เอ่ยวาจา แสดงเป็นภาษากายด้วยการเอามือเรียวสัมผัสเข้าที่มือน้อยๆของอีกฝ่ายทั้งสองอนงค์หันมาสบประสานสายตากันหวานซึ้งและเนิ่นนานถ่ายทอดความรู้สึกผ่านอวัจนภาษา

ไหมเงินไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอตกกระไดหัวใจพลอยโจนมาอยู่ในสถานการณ์นี้ได้อย่างไรความรู้สึกด้านลบกับรักในนิยามนี้ มันได้พัฒนาให้เป็นกลางและกลับมาเป็นบวกได้ในชั่วระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์ แม้เธอจะยังตอบกับตัวเองไม่ได้เต็มปากเต็มหัวใจนักว่ารักชอบคนตรงหน้านี้หรือไม่แต่ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอสัมผัสได้ถึงความสุขและหัวเราะได้อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร ทุกคราวที่นัดแล้วไม่เจอกันทำไมจิตใจต้องร้อนรุ่มกระวนกระวาย นี่อาจจะเป็นความรักชอบ..แล้วกระมัง

คนเราก็เป็นแบบนี้เมื่อความรักวิ่งมาชน จะหลบเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้นไม่ทันเสียแล้วไหมเงินได้แต่ปล่อยให้หัวใจนำพา เรียนรู้และยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น...




Create Date : 20 มิถุนายน 2558
Last Update : 20 มิถุนายน 2558 10:51:07 น. 0 comments
Counter : 454 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.