Group Blog
 
All blogs
 
Voyeur แอบดู

 นิยายเรื่อง ขออภัยมือใหม่หัดรัก มีต้นฉบับยาว 830 หน้า

หากอนงค์รดีจะจัดพิมพ์หนังสือ โดยแบ่งเป็น 2 เล่ม รวมราคาค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนพร้อมแล้ว

อยู่ที่ 830 บาท จะมีผู้อ่านท่านไหนสนใจสั่งซื้อบ้างไหมคะ อนงค์รดีขอซาร์วเสียง

ผู้อ่านท่านไหนที่สนใจ แจ้งชื่อ ไปที่ kritcharat@hotmail.com 

หรือ  Line id : k.toon_writer นะคะ 

หากมียอดจองถึง 30 ก็จะทำการจัดพิมพ์ค่ะ

ขอบคณสำหรับทุกการติดตามนะคะ

----------------------------------

ที่ทะเลสาบของหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งจักรยานคันน้อยของน้อยหน่าจอดที่ข้างต้นไม้ใหญ่ใกล้กันเป็นสองสาวนั่งคุยริมตลิ่งกระหนุงกระหนิง

“ไหมเพิ่งรู้นะว่าน้อยหน่าขาใหญ่ ยามหน้าหมู่บ้านเห็นนี่ตะเบ๊ะกันใหญ่เลยอย่างกับว่าเป็นลูกเจ้าของโครงการ” ไหมเงินทำทีเป็นแซวแต่ลึกๆเธออยากรู้ความจริง มันธรรมดาเสียที่ไหนที่คนภายนอกจะเข้านอกออกในหมู่บ้านไฮโซที่เข้มงวดกับการรักษาความปลอดภัยเช่นนี้แถมชื่อหมู่บ้านยังดูคุ้นๆหูอย่างไรพิกล สาวนักปั่นแทบสำลักน้ำเมื่อเจอเข้ากับคำถามซอกแซก

“แค้ก แค้ก... เราดูรวยขนาดนั้นเลยเหรอฮะ”

ไหมเงินไม่ตอบ แย่งกระป๋องน้ำอัดลมมาดูดนี่ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนตวาดเอาคำตอบไปแล้ว

“คือ...มันเป็นหมู่บ้านของลูกค้าเรา ที่เราเป็นคนออกแบบตกแต่งภายในให้ยามเยิมอะไรเลยตีซี้รู้จักกับเค้าไปโหม้ดด”

ไหมเงินฟังคำตอบ หันมาจ้องที่ดวงตาค้นหาว่าโป้ปดหรือไม่ตากลมโตใสไม่สำแดงให้พบพิรุธอะไร มือน้อยๆส่งคืนกระป๋องน้ำอัดลม และลุกยืนขึ้น

“ช่วงนี้ไหมเครียดจังค่ะ แต่รู้มั้ยว่าพอเจอหน้าน้อยหน่าปุ๊บ ไหมอารมณ์ดีขึ้นมาปั๊บเหมือนเสียบปลั๊กอย่างไรอย่างนั้น”ไหมเงินทอดสะพานรักเปิดโอกาสให้ทอมสาวก้าวข้าม มีหรือที่คนข้างๆจะไม่ประสาความร่างทะมัดทะแมงลุกขึ้นยืนตาม ใช้มือจับเข้าที่หัวไหล่ของอีกฝ่ายและพูดขึ้น ส่งสายตาที่จริงใจที่สุดที่เคยเป็นมา

“เราจะเป็นได้มากกว่านั้น...ถ้าไหมต้องการ”

“ตอนนี้อยากให้เป็นแค่คนทำให้ไหมหัวเราะก่อนก็พอค่ะไหมยังไม่อยากคิดไปไกล” นั่นโดนเข้าให้อีกคนกับความแปรปรวนรวนเรของเจ้าหล่อนไหมเงินปิดทางข้ามไว้เพียงก้าวสองก้าวแรก สาวมั่นไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์นั้นเธอยิ้มปากกว้าง แลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียน

“ค้าบบ จะให้ทำอะไร น้อยหน่าคนนี้ทำได้ทุ๊กอย่าง”

“ขอให้จริงเถิดแม่ ขี้คร้านจะเบื่อไหมขึ้นมา วิ่งหนีแทบไม่ทัน”

“ไม่รู้สิฮะ รอให้ถึงวันนั้นก่อน หรือว่ามันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้เราเป็นพวกไม่ค่อยกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เป็นพวก (Hedonism)สุขนิยมน่ะฮะ” คำตอบแบบไม่ผูกมัดทำให้ไหมเงินรู้ได้ทันทีว่าสาวมั่นคนนี้ไม่ธรรมดา

“ผิดกับไหมนะคะ ย้ำคิดย้ำทำ เวิ่นเว้อเพ้อเจ้อ ถึงได้เครียดบ่อยนี่ถ้าเป็นไมเกรนคงได้หัวหลุดไปแล้ว” ไหมเงินบ่นถึงข้อเสียของตนเองสาวมั่นรับฟังและคิดตาม ตอนจีบกันใหม่ๆแบบนี้มันช่วงโปรโมชั่น อะไรมันก็ดีก็งามไปซะทุกเรื่อง

“ไหมเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้วฮะ แค่ลดความเครียดลง วิธีง่ายๆคือไม่ต้องเอาทุกๆเรื่องมาคิดพร้อมกัน ไหมยังโชคดีนะไม่ต้องมีหัวหน้าลูกน้องเราเองบางวันลูกค้าเขวี้ยงแบบแปลนใส่หน้ายังเคยมาแล้ว”

“รู้ด้วยเหรอว่าไหมทำงานเป็นนายจ้างตัวเอง?” ก็เธอยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเธอทำอะไรจะให้สืบเหรอ อะไรมันจะลงทุนขนาดน้าน น้อยหน่ายิ้มเก๋สำหรับคนที่เฝ้าดูพฤติกรรมแล้วมันคาดได้ไม่ยากหรอก

“เดาเอาฮะ ก็เราไม่เห็นไหมไปทำงานตรงเวลาแบบสาวออฟฟิศ”

“ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่มีงานไหนในโลกหรอกนะคะที่เราจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครเลยขนาดคนที่ขายของออนไลน์ก็ยังต้องดู ฟีดแบ็คลูกค้า เราเลี่ยงไม่ได้หรอกแล้วตอนนี้คนที่ไหมต้องดีลงานด้วยเขา...เขา ช่างเถอะค่ะ”ไหมเงินไม่อยากจะเอ่ยถึงบุคคลภายนอกให้เสียอารมณ์ คนที่รับฟังก็ยิ่งอยากจะรู้เพราะนอกจากการเฝ้าดูแล้ว น้อยหน่าแทบจะไม่มีข้อมูลอะไรกับคนที่เธอชอบด้วยซ้ำ

“เอ่อ...” ไม่รอให้สาวมั่นพูด ไหมเงินชิงจบเดทแรกเอาตรงนี้

“กลับกันเถอะค่ะ ขากลับเดี๋ยวไหมอาสาปั่นเองนะ ตามมาเร็วสิคะ”ร่างอรชรวิ่งไปที่จักรยาน ขึ้นควบโดยมีสาวทอมวิ่งตามมานั่งซ้อนท้ายสองมือจับเข้าที่แฮนด์ สองเท้าเริ่มถีบ...ไหมเงินชักสนุกหลงเสน่ห์ของการปั่นรถเพราะนอกจากจะได้ชมวิวรับลมเย็นแบบชิลๆแล้ว ยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย

“อาทิตย์หน้าพาไหมไปซื้อเจ้านี่อีกคันได้ป่าว” ไหมเงินเหลียวหลังมานิดออเซาะเล็กๆ สาวมั่นรีบตอบเอาใจ

“อีกสองสามคันก็ได้ฮะ ถ้าไหมต้องการ”

“ตัวเองนี่เป็นไฮเปอร์ (Hyper) หรือเปล่ามีแต่เกินไม่มีขาด”

“ขาดสิฮะ...”

“ขาดคนดูแล...ฮิ้วว!!”

สองสาวพูดออกมาพร้อมกันไหมเงินเท่าทันมุกจีบมุกเกี้ยวของน้อยหน่าเข้าได้ไม่ยาก ต่างหัวร่อต่อกระซิกหรือว่าเราจะชอบทอมเข้าแล้ว? ไม่นะไหมเธอแค่อยากหาใครสักคนมาเข้าใจรับฟังและเอาไปเขียนหนังสือเท่านั้นสาวสวยปั่นรถตรงไปยังที่พัก ในใจก็ขัดแย้งกันเองถึงความรู้สึกที่แท้...

นักเขียนสาวกลับมาที่ห้องตัวเองเดินยิ้มฝันหวานเข้ามาทิ้งอารมณ์ร้ายก่อนหน้าไปที่ทะเลสาบจนหมดสิ้นก็ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากที่เคยเป็น น้องนุชยังนั่งหลังงอ จดจ่ออยู่ที่หน้าจอส่วนยัยผมยุ่งน่ะหรือ หยิบหนังสืออะไรไม่รู้ นอนคว่ำเหยียดยาวอ่านอยู่ที่เตียงกระเพาะปลาที่ซื้อมาสามถุงถูกแกะกินไปแล้วสอง เหลืออีกหนึ่งซึ่งเป็นของเธอเองไหมเงินเอาไปใส่ตู้เย็น ยังไม่มีใครหันมาสนใจการกลับมาของเธอ ช่างปะไรเดี๋ยวขออาบน้ำให้ชื่นใจเสียก่อน

หลังจากอาบน้ำออกมา ไหมเงินมานั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งทาครีมบำรุงผิว เหลือบไปมองสาวรุ่นที่รู้นะว่าแกล้งทำเป็นไม่สนใจหลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ไหมเงินก็เดินมานั่งที่เตียงเธอเห็นแล้วว่าขวัญข้าวอ่านหนังสืออะไรอยู่ มันเป็นนิยายของเธอนั่นเอง

“ชอบด้วยหรือ เรื่องสืบสวน” นักเขียนสาวหยิบแว่นตามาสวมใส่ทำทีเป็นหาเรื่องคุย

“หนูอ่านได้หมดล่ะค่ะ” น้ำเสียงยังบ่งบอกว่า ‘งอน’ ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าคนถาม เอาแต่เพ่งมองตัวหนังสือทั้งๆที่คนเขียนก็นั่งอยู่ตรงนี้นี่นะ เอาๆ อยากจะงอนก็งอนไปนักเขียนสาวหันไปมองที่ญาติสนิทป๊ะสายตากันเข้าให้พอดี

“พรุ่งนี้เช้าจะกินอะไร” ไหมเงินทำเป็นถามแก้เก้อกับยัยหัวยุ่งเธออาจจะใช้สิทธิ์ไม่ง้อได้ แต่กับญาติสาวหากเธอทำแบบนั้นก็เท่ากับตัดเพื่อนคนสุดท้ายออกจากชีวิต

“ต้มเลือดหมูดีมั้ย?”

น้องนุชไม่อะไรมากอยู่แล้ว ที่ไม่พูดคุยเป็นเพราะเธอไม่อยากจะวุ่นวายมันก็ลงเอยอีหรอบนี้ทุกที พอหายเคือง ไหมเงินก็ปะเหลาะเธอพอโกรธเข้าไคลก็แว๊ดใส่เสียทีหนึ่งแต่คราวนี้เจ้าหล่อนน่าจะมีที่ระบายอารมณ์ชั้นยอด ก็สาวรุ่นผู้น่าสงสารนี่ไง

ไหมเงินพยักหน้ารับ เธอลุกเดินมาที่โต๊ะอีกตัวเปิดโน๊ตบุ๊คและเอ็มพีสาม นั่งยิ้มละไมฟังเพลงแดนซ์ที่ชื่นชอบขยับกายโยกย้ายส่ายหัวพอครื้นเครง ก่อนจะเริ่มกดแป้นพิมพ์บรรเลงงานอย่างอารมณ์ดีมันเป็นกิริยาที่น้องนุชรับรู้และเข้าใจดีว่าไหมเงินต้องได้รับสารกระตุ้นพิเศษอะไรสักอย่างมาจากการที่เธอหายไปราวสองชั่วโมงเป็นแน่แท้

จนผ่านไปค่อนคืน ยิ่งดึกก็ยิ่งเหมือนหัวสมองของไหมเงินจะลื่นไหลตรงกันข้ามกับน้องนุชที่เริ่มรู้สึกอยากจะเฝ้าพระอินทร์เต็มแก่ แน่ล่ะเธออดหลับอดนอนมาได้สองวันสองคืนเข้าแล้ว พลันก็นึกขึ้นได้ ด้วยความสงสัยว่าไหมเงินทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่แอบไลน์แอบโทรศัพท์ และอารมณ์ที่ดี๊ดีเป็นพิเศษ น้องนุชอยากจะรู้ความเคลื่อนไหวจึงหาเรื่องวางแผนการ

“ไหม...นุชเปลี่ยนใจไม่กินต้มเลือดหมูแล้วเดี๋ยวว่าจะลงไปหาซื้อบะหมี่เสียหน่อย ถือโอกาสไปยืดเส้นยืดสายด้วยปวดหนึบๆที่ต้นขา สงสัยจะนั่งอยู่กับที่มากไป เอาอะไรมั้ย?”

“เอา...เป๊บซี่เย็นๆสักกระป๋องแล้วกัน” เธอคิดอะไรไม่ออกพอคิดถึงกระป๋องน้ำอัดลมที่ริมทะเลสาบก็หลุดปากสั่งไปโดยอัตโนมัติน้องนุชเป็นงงกำลังสอง เพราะแต่ไหนแต่ไรมาญาติสนิทเธอไม่ใคร่ดื่มน้ำอัดลมสีดำนี่เลย ไหมเงินเปี๊ยนไป๋?? แม้มันจะกระตุ้นต่อมอยากรู้เป็นที่สุดแต่ก็เก็บซ่อนความสงสัยไว้ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงนักสืบสาวก็คงจะนำความกระจ่างมาให้..

“เคร นุชจะเอาขวัญไปด้วยนะ จะได้รู้ที่ทางไว้เผื่อครั้งหน้าจะได้ให้เป็นเด็กส่งข้าวส่งน้ำบ้าง”

“ตามใจ แต่อีกหน่อยเขาคงไม่อยู่ให้เราอาศัยพึ่งพาแล้วล่ะ จะไปเป็นรีเซพชั่นแต่งตัวสวยๆสมใจแล้วนี่”สาวรุ่นที่กำลังอ่านหนังสือ ตาปรือเพราะเคลิ้มตาแทบจะปิดพอได้ยินประโยคกระแหนะกระแหนเข้าก็ปิดหนังสือ ยันกายลุกพรวดตื่นตัวขึ้นมาทันทีไหมเงินหันมาจ้องหน้า เตรียมพร้อมต่อปากต่อคำเต็มที่น้องนุชเห็นท่าจะเกิดศึกสองนาง รีบเดินมาคว้าแขนบางๆของสาวรุ่นทันที

“ไปๆ ขวัญเดี๋ยวร้านจะปิดเอา”

สาวผมยุ่งลุกจากเตียงหันมาค้อนขวับแต่มันเป็นค้อนกระดาษที่แสนจะเบาหวิว ไหมเงินหลุดยิ้มออกมาเด็กหนอเด็กคิดจะมาเอาชนะคนอย่างเรา ให้ฝันอีกสิบคืนเลยเอ้า!

เมื่อประตูห้องปิดลง น้องนุชก็หันมาถามขอความคิดเห็นกับขวัญข้าวทันที

“เห็นเหมือนที่พี่เห็นมั้ย ไหมดูแปลกไปหลังจากที่ลงไปข้างล่างตั้งสองชั่วโมงกว่า พี่ว่า...ไหมน่าจะแอบไปพบใครมา”

“ค่ะ” สาวรุ่นได้แต่ตอบไปเท่านั้นเธอไม่อยากรับรู้อะไรกับพี่สาวที่เคยใจดีอีกต่อไปวันนี้เธอโดนจัดหนักเป็นพายุบุแคมเลยทีเดียว

“พรุ่งนี้เช้า... ขวัญต้องแอบไปสืบ” ขวัญข้าวตกใจกับภารกิจลับๆล่อๆที่เธอจะต้องทำพี่นุชนี่ท่าจะหมกมุ่นกับละครมากไป นี่มันชีวิตจริงนะคร้า

“หา...ขวัญทำเรื่องแบบนั้นไม่เป็นหรอกค่ะ แล้วถ้าโดนจับได้...” สาวรุ่นไม่อยากนึกภาพต่อไม่ไหวๆ ตายแน่ๆ

“ก็อย่าให้จับได้ซี..ขวัญไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมไหมประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย...แบบนี้เขาเรียกว่ากำลังอินเลิฟและถ้าให้พี่เดา คงเป็นหนุ่มข้างห้องข้างบ้านนี่ล่ะ.. The man next door” น้องนุชพยายามหว่านล้อมก็ถ้างานมันไม่เร่ง เธอก็อยากจะตามไปดูเสียด้วยตัวเอง

“อินเลิฟ??” สาวผมยุ่งฟังแล้วก็ให้ยิ่งว้าวุ่นในหัวใจ...’พี่ไหมจะมีแฟนที่จริงเราควรจะดีใจนี่นา ไม่ใช่มาคิดมากแบบนี้’

“กะ..ก็ได้ค่ะ” เป็นไงเป็นกันเธอเองก็อยากจะเห็นหน้าค่าตาแฟนของพี่สาวสุดที่รัก

น้องนุชให้คีย์การ์ดไว้กับสาวรุ่น เพื่อที่จะได้เข้าออกตามสะดวก หลังจากเดินไปซื้อบะหมี่โต้รุ่งแล้วก็กลับขึ้นมาด้วยความเพลีย นักเขียนบทสาวก็ฟุบกายลงบนเตียงส่วนขวัญข้าวก็ทำท่าจะหยิบหนังสือมาอ่านต่อ ไอ้ง่วงก็ง่วงอยู่หรอกแต่จิตใจมันวุ่นวายจะข่มตาหลับคงไม่ง่าย อ่านหนังสือฆ่าเวลาไปแล้วกันหัวสมองจะได้ไม่ว่างเวิ่นเว้อ

“ไง รู้จักทางแล้วสินะ ระวังอย่าหนีตามไอ้หนุ่มขายบะหมี่ไปเสียล่ะเห็นว่าหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ” ไหมเงินยังไม่เลิกตอดเล็กตอดน้อยมันก็เป็นไปได้สูง วัยไล่เลี่ยกันน่าจะคุยกันถูกปากถูกคอ เหลืออดแล้วใจขวัญข้าวหันมาแหวใส่ โต้กลับเอาบ้าง

“พี่ไหมเถอะ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวมีความรักแล้วอย่ามาเหมาว่าคนอื่นเขาจะเป็นไปด้วย”ความโมโหทำให้สาวรุ่นเผลอหลุดปากไป ไหมเงินหยุดทุกสิ่งที่ทำอยู่ หล่อนลุกขึ้นยืนไม่มีอะไรจะหยุดฉุดรั้งอารมณ์คนปากร้ายได้แล้ว

“สู่รู้ มันจะมากไปแล้วนะ รู้อย่างนี้ปล่อยให้นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นไม่เก็บมาเลี้ยงให้มาแว้งกัดเอาแบบนี้หรอก”

“ก็...”

“พอๆๆ คนจะนอนได้ยินมั้ย ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้ไหมจะเลิกว่าน้องสักคืนจะเป็นจะตายเชียวหรือ เด็กมันก็อยู่เฉยๆนะ”น้องนุชถลันตัวพรวดขึ้นมาจากเตียง ปาหมอนลงไปที่พื้นเธอทนเห็นสาวน้อยถูกรังแกอีกไม่ไหวแล้ว นักเขียนสาวได้สติมันก็จริงเป็นเธอที่ไปยั่วเย้าสาวรุ่นก่อนเองจะเถียงญาติสนิทก็ไม่มีน้ำหนักมาหักล้างได้เหมือนเอาไม้ซีกต่อกรงัดกับท่อนซุงจึงนั่งลงปั่นงานต่อ

ขวัญข้าวแสนน้อยใจ อะไรๆก็กรู ร่างเล็กเดินเข้าห้องน้ำและขังตัวเองอยู่ในนั้น ไม่อยากจะออกมาเจอหน้ากับคนชอบหาเรื่องแม้จะเสียใจที่โดนกระหน่ำกัดจิกไม่เว้นวาย แต่คราวนี้เธอกลับสงบเยือกเย็นขึ้นนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้... จนเผลอหลับไป

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”.... “ขวัญขวัญ”

เสียงของน้องนุชเคาะประตูเรียกด้วยกลัวว่าสาวรุ่นจะขาดสติทำอะไรบ้าๆลงไป เป็นไหมเงินนั่นเองที่ปลุกลูกพี่ลูกน้องให้มาร้องเรียกมันเงียบงันผิดปกติเกินไป ขวัญข้าวสะดุ้งตื่นขึ้น และรีบมาเปิดประตูไหมเงินรู้สึกโล่งอกที่ยัยผมยุ่งไม่ทำอะไรโง่ๆอย่างที่เธอกลัวน้องนุชเรียกให้มานอนที่เตียง ระหว่างที่เดินมาคู่กรณีได้สบตากันแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เจรจาความอันใดกัน ไม่นานสองสาวก็หลับสนิทไหมเงินยังคงนั่งทำงานอย่างต่อเนื่องเหมือนเครื่องจักรกลจะมีหยุดพักมาล้างหน้าล้างตาบ้างก็เท่านั้น

จนกระทั่งฟ้าสางเป็นจังหวะเดียวกับที่ไหมเงินพิมพ์บทแรกของนิยายยูริเสร็จเธอปริ้นท์เอ้าท์ออกมาเป็นแผ่นกระดาษ จัดการเซฟลงเครื่องและแฟลชไดร์ฟ เพื่อป้องกันความผิดพลาดทุกงานของเธอจะทำเป็นแพทเทิร์นนี้หมด ไหมเงินยังรู้สึกสดชื่นไม่รู้เป็นเพราะเธอหรือเปล่า...น้อยหน่าเมื่อคิดถึงสาวทอมนี่ก็ได้เวลาที่จะลงไปเจอกันแล้วไหมเงินคว้ากระเป๋าใบเล็กเดินตัวปลิวมุ่งไปยังจุดนัดพบของหัวใจ..ที่เดิม

ประตูปิดลง แม้เสียงจะไม่ดังจนรบกวนคนนอนหลับให้ตื่นได้แต่คนแอบเนียนแกล้งหลับก็ลุกจากเตียง เริ่มปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายขวัญข้าวรู้สึกตัวตื่นได้สักพักแล้ว เพราะยินเสียงปริ้นท์เตอร์ทำงานเมื่อทิ้งระยะได้สักสามนาที สาวผมยุ่งก็ลงลิฟท์ตามมา เดินมองซ้ายขวาออกไปสุดสายตาอย่างระแวดระวัง รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักสืบสาวตัวละครเอกในหนังสือของพี่สาวปากร้าย เมื่อเปิดประตูกระจกบานนอกสุดออกมาสาวรุ่นก็เห็นเพียงด้านหลังของไหมเงิน ซ้อนท้ายจักรยานออกไปด้านนอกแล้วเธอเห็นคนขี่ไม่ใคร่ถนัดนักเพราะว่าพี่สาวผู้อุปการะบังมุมสายตาพอดิบพอดี เห็นเพียงว่าเป็นคนตัวเล็กๆผมสั้นใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสีน้ำตาลเข้มเท่านั้น

‘แฟนพี่ไหมตัวเล็กอย่างกับเป็นหนุ่มกระทงเลย’ ได้ความเท่านั้นก็เดินคอตกขึ้นมาที่ห้องจิตใจยังคงสับสน แม้จะยังคงน้อยใจเสียใจที่โดนด่าว่าอยู่ตลอดแต่ตอนนี้มันออกจะเศร้าเสียมากกว่า สาวรุ่นบอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบว่าน้องนุชตื่นแล้ว และกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำนักเขียนบทสาวถามด้วยความตื่นเต้นอยากรู้

“ได้ความมั้ย?” ขวัญข้าวพยักหน้า

“หนูไปทันเห็นแค่ว่าพี่ไหมซ้อนจักรยานออกไป แต่คนขี่เห็นไม่ชัดค่ะ เห็นแค่ว่าเขาตัวเล็กๆอย่างกับเด็กสิบสี่สิบห้าเห็นจะได้”

“เชอะ! ที่แท้ก็เป็นตัวกินเด็กมิน่าเล่าถึงได้กระปรี้กระเปร่าเหลือหลาย ได้ยาโด๊ปขนานดีนี่เอง”น้องนุชพอจับใจความได้ก็โวยเข้าให้ ก่อนจะหันมากำชับความกับสาวรุ่น

“อย่าให้ผิดสังเกตนะ พรุ่งนี้จับตาดูใหม่ เอาโทรศัพท์พี่ติดไปด้วยถ่ายรูปเป็นใช่มั้ย”

“ค่ะ” ขวัญรับคำสั้นๆ ความรู้สึกไม่ต่างจากพี่นุชเท่าไหร่เธออยากเห็นบั้นหน้าของแฟนหนุ่มพี่สาวเป็นที่สุด

ราวชั่วโมงเศษ ไหมเงินก็กลับเข้ามายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อารมณ์ดีดุจเดียวกับเป็นภาพฉายซ้ำจากคืนวาน หล่อนเห็นสาวรุ่นกำลังตากผ้าอยู่ที่ระเบียงส่วนน้องนุชยังนอนคุดไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นอยู่บนเตียงนักเขียนสาวเดินมาผ่มผ้าให้ลูกพี่ลูกน้อง น้องนุชจึงแสร้งทำเป็นว่าสะดุ้งตื่น

สามสาวทานมื้อเช้าพร้อมหน้า สาวผมยุ่งไม่กล้าสบสายตากับผู้อุปการะในความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเกรงความผิด ทั้งยังเสียใจที่สำคัญสุดๆคือเธอรู้สึกเศร้าเกินกว่าที่จะสู้หน้า

“ยัยหัวยุ่ง สายๆออกไปข้างนอกกับพี่หน่อยนุชล่ะจะออกไปพร้อมไหมเลยมั้ย”

คนรับฟังทั้งสองต่างพยักหน้า ซดน้ำซุปจากบะหมี่ ไม่ได้ต่อความกันต่อ เมื่อกินเช้าเสร็จไหมเงินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนแบตเตอรี่หมด เธอล้มตัวลงนอนบนเตียงและหลับไปในเวลาไม่นาน

.................................................

ที่สถาบันสอนภาษาแห่งเดิม ไหมเงินเดินนำหน้าพาสาวรุ่นมาสมัครเรียน ทั้งสองนั่งเคียงกันต่อหน้าพนักงานสาวที่ให้คำแนะนำหลักสูตร

“ขอสมัครคอร์สไพรเวท ตัวต่อตัวค่ะ..แล้วมีสอนนอกสถานที่มั้ยค่ะดิฉันจะรับผิดชอบค่าเดินทางให้” ไหมเงินแสดงความจำนงค์ต่อพนักงานสาว

“มีค่ะ แต่ทางเรารับสอนในเขตกรุงเทพฯเท่านั้นค่าเดินทางแต่ละครั้งห้าร้อยบาทเพิ่มต่างหาก จากค่าสอนชั่วโมงละแปดร้อยบาทเรียนครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมงสามารถเลือกวันและเวลาได้ตามที่ลูกค้าสะดวกค่ะไม่ทราบว่าคุณลูกค้าอยากจะเรียนกับอาจารย์ไทยหรือต่างชาติคะแล้วจะเน้นคอนเวอร์เซชั่นหรือเป็นวิชาการคะ” พนักงานแนะนำหลักสูตรแจกแจงให้รายละเอียดและสอบถามความต้องการของลูกค้าเพิ่มเติม คอร์สไพรเวทของที่นี่ สามารถออกแบบหลักสูตรได้ตามความต้องการของผู้เรียน

“ขอทั้งสองแบบเลยค่ะ แต่เบื้องต้นขออาจารย์ไทยก่อนพอปรับตัวได้แล้วค่อยเรียนกับอาจารย์ฝรั่ง อ้อขอเป็นอังกฤษหรืออเมริกันเท่านั้นนะคะ ไม่เอาพม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์แล้วก็เน้นไปที่ภาษาอังกฤษที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่จำกัดชั่วโมงค่ะแต่เน้นว่าต้องใช้งานได้จริงๆ”

“ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางเรารับประกันหากพูดไม่ได้ภายในสามสิบชั่วโมงเรายินดีคืนค่าเรียนค่ะ” พนักงานสาวให้ความมั่นใจขวัญข้าวได้แต่นั่งฟัง ทำตาปริบๆ วาบความคิดก็สงสัยขึ้นมา สามสิบชั่วโมงนี่นะ?

“งั้นตกลงตามนี้นะคะ เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ วันละสี่ชั่วโมง อ้อแล้วค่าเรียนจะชำระอย่างไรคะ”

“คุณลูกค้าจ่ายกับทางเราเลยค่ะ สามสิบชั่วโมงในครั้งแรกถ้าจะเรียนต่อก็ต่อได้ครั้งละสิบชั่วโมงค่ะ ส่วนค่าเดินทางให้จ่ายกับท่านอาจารย์ในวันที่สอนเป็นครั้งๆไปค่ะอืม...สามสิบชั่วโมง สองหมื่นสี่พันบาทถ้วนค่ะ”พนักงานเคาะเครื่องคิดเลขและยื่นให้ไหมเงินดู ขวัญข้าวตกใจอ้าปากค้างโห...สองหมื่นสี่ ซื้อทองได้ตั้งบาทแถมยังเหลือเงินอีก

ไหมเงินขอตัวไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มใกล้ๆ เธอไม่โปรดการใช้บัตรเครดิตทั้งๆที่เทเลเซลโทรมาขายแทบทุกวัน ไม่ใช่อะไรหรอก สาวเจ้าขี้เกียจมานั่งจำนั่งบริหารการเงินว่าบัตรไหนเหลือวงเงินเท่าไหร่ต้องจ่ายวันไหนแบบที่น้องนุชทำ




Create Date : 17 มิถุนายน 2558
Last Update : 17 มิถุนายน 2558 10:55:35 น. 0 comments
Counter : 512 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.