Day 3 มุ้งมิ้งในเกียวโต (Ginkakuji-Kiyomizudera-Higashiyama-Nishiki-Gion)

เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วรอบนึง ตอนนั้นไปโตเกียวค่ะช่วงซากุระบานด้วย ก็ว่าตอนนั้นเมืองสวยน่ารักขั้นสุดแล้วนะ
แต่ตอนนี้ ขอมอบตำแหน่งเมืองน่ารักแห่งใหม่ ให้กับเกียวโตค่ะ (ปรบมือรัวๆ)
หลงรักเธอเข้าอย่างจังเลย เมืองบ้าอะไร ผู้คนแต่งตัวสวยหล่อขนาดไหนก็ปั่นรถจักรยานขึ้นลงเนินแบบชิวๆ ขยะเรี่ยราดก็ไม่เห็นมี
มีบ้านเรือนบรรยากาศเก่าๆ มีคนแต่งตัวด้วยชุดญี่ปุ่นเดินให้เพียบ มีสวนญี่ปุ่นสวยๆให้ชม มีแม่น้ำใสไหลผ่านกลางเมือง
ดูคุณภาพชีวิตดี๊ดีอ่ะ.. โม้มาซะเยอะเลย ไปเที่ยวกันดีกว่า

วันนี้เดินทางโดยใช้รถเมล์เป็นหลัก เลยซื้อ Kyoto bus pass 1 day ราคา 500 เยน มาใช้ ซื้อจากเคาเตอร์ต้อนรับของโรงแรมที่พักค่ะ
มื้อเช้าเปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารง่ายๆแบบตะวันตกอย่างแซนวิช แพนเค้ก ทานคู่กับกาแฟ ชากันบ้างค่ะ
ร้าน Holly's cafe อยู่แถวๆโรงแรม แต่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะด้านในร้านอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ด้วย เหม็นมาก

ข้อดีหากเราพักในเกียวโต คือ เวลาขึ้นรถเมล์ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ ถ้าขึ้นจากหน้าสถานีเกียวโต คนจะแน่นมาก
แต่ถ้าขึ้นจากจุดอื่นสายอื่นที่ไม่ผ่านสถานีเกียวโต รถเมล์ก็จะโล่งๆแบบนี้แหละ


นั่งรถเมล์ชมเมืองมาเพลินๆ แป๊บๆก็มาถึงวัด Ginkakuji หรือวัดเงิน
ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรกับวัดนี้เลยค่ะ แต่พอมาเที่ยวแล้วคิดในใจว่า ถ้าไม่ได้มาที่นี่คงน่าเสียดายมากๆแน่
ทางเดินขึ้น จะผ่านต้นทางของถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's path)


ทางขึ้นมีร้านขายขนมของฝากคอยดักเงินนักท่องเที่ยวตาดำๆตลอดสาย
สุดท้ายก็ไม่รอด แม่เราแวะซื้อขนมอะไรซักอย่าง เป็นแป้งเหนียวหนึบโรยด้วยผงชาเขียว


เข้ามาในเขตวัด Ginkakuji แค่ทางเข้าก็น่าสนใจแล้ว


จ่ายเงินปุ๊บ ผ่านประตูเข้ามาก็เจอต้นสนอายุเยอะกว่าคุณทวดของคุณทวดต้นนี้ต้อนรับอยู่


สวนสวยมากๆ ตำหนักเงิน ที่มาของชื่อวัด


ตอนเราไปถึงมีคนมาเที่ยวไม่เยอะเท่าไหร่ เดินชมสวนดูโน่นดูนี่ได้แบบสบายๆ


มีลานกรวดสวนหินอยู่หน้าตำหนัก


พื้นสวนปกคลุมด้วยมอสเขียวๆ บางจุดยังมีหิมะที่ยังไม่ละลายเหลืออยู่




อาจเป็นเพราะเราชอบเดินดูสวนดูต้นไม้สวยๆ กลับมาดูรูปอีกรอบใจก็ยังเต้นแรงอยู่เลย
ใครชอบแนวๆนี้ แนะนำให้ไปให้ได้นะ รับรองว่าถูกใจ ขนาดเราไปตอนแห้งๆยังสวยขนาดนี้


ขอมาเดินสำรวจเส้นทางนักปราชญ์ซักหน่อย ไม่ใช่ช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี ทางเดินเลียบคลองแห่งนี้ก็ดูเงียบสงบดีนะ


เอ๊ะ...นี้บ้านโดราเอมอนเหรอ?


เจอแก๊งนี้เข้าไป แก๊งขุ่นพ่อขุ่นแม่เราดูวัยรุ่นไปเลย


ขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวต่อที่วัดสุดฮิตของเกียวโตกันดีกว่า
คนเยอะได้อีกนะ สูตรเดิม ถนนดูดเงินก่อนเข้าวัด มาวัดทั้งที เงินของนอกกาย ตายไปก็ไม่ได้ใช้ใช้ซะตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่นี่แหละ กร๊ากก


เสียเงินกับของทานเล่น ต่างๆนานา
แวะทานขนมชูครีมและเค้กที่ร้านพ่อค้าสุดหล่อกันค่ะ


เดี่ยวจะหาว่าโม้..


เจอสาวๆแต่งกิโมโนกันตรึมเลย คา-วา-อี๊..


เอ๊ะ นี่ยังไม่ได้บอกเลยใช่มั้ยคะว่าเราจะไปที่ไหนกัน แต่เชื่อว่าหลายคนคงรู้แล้วแหละ
ที่นี่คือ วัด Kiyomizudera หรือวัดน้ำใสค่ะ


คนกำลังต่อคิวทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มี 3 สาย เพื่อขอพรให้สมหวังใน 3 ด้าน การศึกษา ความรัก สุขภาพ แต่ถ้าทานครบทุกสายจะถือว่าเป็นคนโลภ เท่าที่เห็นมีแต่วัยรุ่นที่มาต่อแถว


เดินต่อมาที่ย่านเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้ Higashiyama area


เป็นตรอกซอยเล็กๆ กินพื้นที่ระหว่าง เนินเขาที่ตั้งวัด Kiyomizudera ไปจนถึงศาลเจ้า Yasaka มีร้านค้าบรรยากาศเก่าๆ วัดหลายแห่ง เรียวกังในเกียวโตส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ค่ะ


มุมกุ๊กกิ๊ก หน้าร้านแมวมอง


มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง ถ้ามาตอนใบไม้เปลี่ยนสีหรือช่วงซากุระบานจะฟินขนาดไหนเนี่ย


มีร้านค้าของข้างทางให้มองตลอด อากาศเย็นๆ แถมเดินลงเขา ไม่ทันจะเหนื่อยก็เดินมาถึงศาลเจ้า Yasaka


เดินกันต่อผ่านย่านกิอง ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำกาโมะ (Kamogawa)


จนมาถึงตลาดนิชิกิ ที่เดินไกลขนาดนี้ไม่ใช่ว่าลืมใช้บัสพาสนะ แต่ร้านค้าบรรยากาศข้างทางมันน่าเดินมาก


มาหาข้าวเที่ยงทานกันตอนบ่ายสองกว่าๆ (เมื่อบลอกก่อนยังบอกว่าต้องให้พ่อแม่ทานอาหารให้ตรงเวลาอยู่เลย แฮ่...) ที่ร้าน Gogyo Ramen


ร้านราเมนแต่รอบกลางคืนเปิดเป็นบาร์ด้วย ร้านเลยตกแต่งสวยเชียว มาแบบไม่ต้องรอคิว เพราะเค้ากำลังจะปิดร้านรอบกลางวันแล้วจ้ะ ไปทันเวลา last order พอดี
จัดราเมนมาหลายแบบ ทุกคนในกลุ่มลงความเห็นว่าอร่อยจริงอะไรจริง แถมพนักงานยังใจดีอาสาถ่ายรูปหมู่ให้ด้วย


แม้ราเมนจะมี Burnt oil สีดำลอยอยู่ด้านบนแต่มันอร่อยนะ ไม่เลี่ยนแบบที่จินตนาการเอาไว้


ทานกันเสร็จ กลับไปพักร่างที่โรงแรมกันแป๊บ เดินไปได้ ห่างจากตลาดนิชิกิประมาณครึ่งกิโล
แล้วก็กลับไปรับน้องสาวของเราสมาชิกคนสุดท้ายที่เพิ่งตามมาสมทบเพราะชีแอบแว๊บไปเที่ยวหาเพื่อนที่โตเกียวมาก่อนหน้านี้
หนึ่งทุ่ม พากันนั่งรถเมล์มาที่ย่านกิอง ที่ถนน Hanami-koji เพื่อพบกับความเงียบเหงา กับแสงไฟสลัวๆแบบห่างๆ สงสัยจะมาดึกเกินไป


ลองเดินมาดูแถวคลอง Shirakawa ก็พบว่ายิ่งวังเวงหนักไปกว่าเดิมอีก


หมดความพยายามสำหรับกิองแล้ว เดินไปหาอะไรทานสำหรับมื้อเย็นดีกว่า
มื้อนี้ลองพาพ่อแม่มาเจอปลาดิบตัวจริงเสียงจริงกันดูบ้าง ร้าน Chojiro อยู่ย่าน Pontocho ฝั่งที่อยู่ติดกับคลอง
ร้านอยู่ชั้นใต้ดิน หาง่าย ไม่ไกลจากทางออกรถไฟใต้ดิน Kawaramachi ร้านนี้ได้คะแนนเรตติ้งค่อนข้างดีใน tripadvisor ด้วย
Tourist-friendly สุดๆ พนักงานพูดภาษาอังกฤษพอได้ สั่งเมนูพร้อมภาพประกอบจากไอแพดประจำโต๊ะ มีเมนูอังกฤษ พ่อครัวยิ้มแย้มพูดคุยกับเราตลอดเลย
พยายามให้ทั้งสองแม่ลองทานปลาดิบ แต่ไม่มีใครยอมทานเลย ยอมทานแค่ไข่หวาน ซูชิหน้าปลาไหลย่าง ซุปหอย ส่วนพ่อเราสบายมาก จกหมดทุกอย่าง


มีเรื่องฮา กับซูชิปลาฮามาจิจานนี้


เรื่องก็มีอยู่ว่า พ่อครัวเข้ามาคุยว่าเพิ่งได้ปลาฮามาจิสดๆมา อยากจะลองทานกันมั้ย จริงๆเราก็อิ่มแล้วแหละ
แต่ด้วยความเกรงใจ ไหนๆเค้าก็ภูมิใจนำเสนอ เลยขอลองซักจาน ก่อนเอาซูชิมาเสิร์ฟ พ่อครัวก็ยกหัวปลาฮามาจิที่เพิ่งถูกตัดมาวางโชว์ถึงโต๊ะ กำลังพะงาบๆเลย
เราก็ไม่เคยกินฮามาจิมาก่อน นึกในใจตอนนั้นว่า ต้องแพงแน่เลย พอเค้ายกมาปลามาเสิร์ฟเห็นสีจานแล้วก็โล่งใจหน่อยว่ามันก็ไม่ได้แพงนี่หว่า
ก็แบ่งกันทานคนละชิ้นกับแฟน..

พอเข้าปาก..เริ่มเคี้ยวชิ้นปลาเท่านั้นแหละ ถึงกับน้ำตาคลอ ..กลืนไม่เข้าคายไม่ออก.. ซึ้งเลยกับคำเปรียบเปรยนี้
เนื้อปลามันเหนียว กัดไม่ขาด พยายามกลืนแต่มันก็ไม่ไปซักที พ่อครัวยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น จะคายออกมาก็ดูแย่ เราเลยอมยิ้มให้พ่อครัวค่ะ
จนเค้าเดินไปทางอื่น นั่นแหละ ถึงได้คายออกมา.. เฮ้อออออ



บลอกหน้าจะพาไปเที่ยวเกียวโตทางฝั่งตะวันตกพร้อมอาบน้ำแร่แช่ออนเซนค่ะ




Create Date : 21 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 17:11:05 น. 1 comments
Counter : 4187 Pageviews.

 
confirm ความหล่อของพ่อค้าร้านชูครีมค่ะ


โดย: ohkouu วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:53:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.