วันแรก เชียงใหม่>ฮ่องกง ซิตี้เกตเอาท์เลต โปโห มงก๊ก

แล้วก็ตกเป็นทาสการตลาดอีกเช่นเคย เมื่อแอร์เอเชียออกโปรเชียงใหม่-ฮ่องกง ไปกลับคนละ 3500 บาท
เลยกดจองไปแบบงงๆมา 2 ที่นั่ง ไว้ไปเที่ยวชิวๆกับแฟนช่วงปลายปี
ทริปนี้ ไม่เน้นช้อป ไม่เน้นไหว้พระ เน้นเดินขึ้นดอย จริงๆเน้นกินด้วยแต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ TT

สำหรับเที่ยวบินของไทยแอร์เอเชียจากเชียงใหม่ไปฮ่องกงมีวันละ 1 เที่ยว เครื่องออกตอน 6 โมงเช้า
เป็นเที่ยวบินแรกของวันที่ออกจากสนามบินเชียงใหม่เลยค่ะ

ด้วยความที่เครื่องออกเช้ามาก เราออกจากบ้านที่ลำพูนตอนตีสาม ถึงสนามบินเชียงใหม่ตอนตีสามครึ่ง
ปรากฎว่าเคาเตอร์เช็คอินยังไม่มีพนักงานมาเลยจ้า.. ผู้โดยสารก็ต่อแถวรอกันไป จนตีสี่นิดๆพนักงานถึงมาเปิดเคาเตอร์
จากนั้นพอเช็คอินเสร็จจะผ่านตม. ส่วนของตม.ก็เปิดตอนตีห้า ก็รอกันไปอีกรอบ

ผู้โดยสารรอ ตม.ขาออกเปิด (คงมีแต่เที่ยวบินเดียวกันกับเรานี่แหละ เพราะดูตารางแล้ว เที่ยวบินขาออกต่างประเทศเที่ยวถัดไป ออกตอน 8 โมงนู้น)
ส่วนเราขี้เกียจยืนต่อแถวอีกรอบ เลยมานั่งรอให้แถวสั้นลงแล้วค่อยไปยืนต่อ ก็ได้ขึ้นเครื่องแบบสบายๆเค้าเรียกบอร์ดดิ้งพอดี


ดังนั้น.. ถ้าใครจะนั่ง FD515 ไม่ต้องรีบมาเร็วก็ได้ เราว่ามาถึงซักตี่สี่ครึ่งกำลังดี จะได้มีเวลานอนต่อที่บ้านอีกนิด

ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงสนามบินฮ่องกง ผ่านตม.ฮ่องกงมาอย่างรวดเร็ว ไม่ถงไม่ถามอะไรซ้ากกคำ 
รอรับกระเป๋า เช่า octopus card เสร็จ ก็เดินมารอรถสาย S1 ไป Citygate Outlet
ตอนแรกก็วางแผนว่าจะฝากกระเป๋าระหว่างเดินช้อปที่นี่ แต่พบว่าลอกเกอร์ที่ซิตี้เกตเต็มทั้ง 2 ชั้น (มีช่องลอกเกอร์น้อยมาก ใครจะฝากบอกเลย..ว่ามีโอกาสเต็มสูงค่ะ)
เห็นว่ามีที่ฝากกระเป๋าที่สถานีกระเช้านองปิงด้วย ก็ไปหาจนเจอ แต่ค่าฝากแพงมาก 80$ ต่อชิ้น ทำใจฝากไม่ลง
ดังนั้น ก็หอบกระเป๋าไปช้อปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ 

สรุปเดินได้แค่ 2 ชั่วโมง แถมไม่ได้ของอะไรเลยซักอย่าง มาเที่ยวรอบนี้ของแพงขึ้นมากค่ะ 
ดูแล้วราคาพอๆกับที่ไทย กลับไปซื้อที่บ้านก็ได้ ชิ..

จากนั้นก็นั่งรถบัสสาย E11 ไปเช็คอินโรงแรม จริงๆจากนี้จะนั่งรถไฟฟ้าไปก็ได้นะราคาก็พอๆกัน แต่ขี้เกียจเดินไกล ต้องลงเดินเปลี่ยนสายอีก
เราหาข้อมูลสายรถบัสจาก //www.nwstbus.com.hk/home/default.aspx?intLangID=1 มีบอกละเอียดทุกสิ่งค่ะ เริ่ดมาก

ครั้งนี้เราพักที่โรงแรม Butterfly on Hollywood ขอย้ายมาฝั่งฮ่องกงบ้าง
ขอบอกว่าทำเลถูกใจมาก โรงแรมตั้งอยู่บนถนนฮอลลีวู้ด แถวเชิงหว่าน มีคาเฟ่สวยๆ ถนนสะอาดสะอ้าน ฝรั่งหน้าตาดีให้เกลื่อนกลาดค่ะ
แต่ไม่เหมาะกับคนที่มากับเด็กๆหรือผู้สูงอายุเท่าไหร่ เพราะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพอสมควรและต้องเดินขึ้นดอยอีกเล็กน้อย 


ส่วนของห้องพัก พื้นที่กำลังดี ไม่แคบมากค่ะ จอง Agoda ราคาสามพันต้นๆต่อคืน
ห้อง Deluxe room มีหน้าต่างที่ผนังห้องทั้ง 2 ด้าน 




ด้านนึงติดสวนสาธารณะ อีกด้านเป็นวิวราวตากผ้าของตึกฝั่งตรงข้ามค่ะ :P


ห้องน้ำ


มีโทรศัพท์ให้ ใช้ 3Gได้ไม่อั้น โทรในประเทศได้ฟรี เราเอาออกไปเที่ยวด้วยทุกวัน เอาไว้เปิดแผนที่กับแชร์เนต


ตกแต่งธีมฮอลลีวู้ด


ออกไปเดินเล่นทอดน่องกันดีกว่า มาทานมื้อที่สองในฮ่องกงที่ For Kee Restaurant 
(มื้อแรกที่เอาท์เล็ต ไม่อร่อย ขอไม่พูดถึงนะ)


อยู่ใกล้กับที่พักมาก เดินมาไม่เกิน 100 เมตร ร้านนี้ดังเรื่องข้าวหน้าพอร์กชอป แต่ตอนเรามาข้าวหมดซะละแต่ยังมีพอร์กชอปอยู่
เลยสั่งขนมปังพอร์กชอปมาแทน หมูทอดรสอร่อยดี นุ่มมาก เสียดายไม่ได้กินกะข้าว


สั่งขนมปังปิ้งกับชานมร้อนด้วย แต่สองอย่างนี้รสธรรมดา กินที่ไทยถูกปากกว่า


เป็นร้านบ้านๆ มีแต่คนท้องถิ่นมาทาน ที่ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษค่ะ 
เห็นคนเยอะๆหน้าร้าน นี่คือ มาถ่ายแมวเหมียวกันนะ ไม่ได้ต่อคิวเข้าร้าน


แมวเหมียวของร้าน น่ารักเนอะ


มีแรงแล้ว ก็เดินขึ้นดอยกัน


แถวนี้เรียก ย่าน Poho แหล่งรวมคาเฟ่ แกลอรี่ศิลปะ ร้านขายของดีไซน์สวยๆ ไอเดียแปลกๆ 
ที่นี่ คือ นิมมานเหมินท์แห่งฮ่องกง นั่นเองงงงง


Hong Kong Museum of Medical Science
ไม่ได้เข้าไปหรอก แต่ตึกสวยดี


มีคนจูงหมาเดินเล่นแถวนี้เยอะมากๆๆ 


ถนนฮอลลีวู้ด มีร้านขายของแอนทีคซะเยอะ


Upper Lascar Row หรือ Cat Street ก็ขายของเก่าสไตล์จีนๆเช่นกัน
แต่เราคนไทยอ่ะเนอะ ดูแล้วก็เฉยๆ แต่เห็นฝรั่งเดินหยิบๆจับๆกันสนุกเลย


เดินมาเรื่อยๆจนมาถึงร้าน Kau Kee ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดัง บน Gough st.
เห็นคนต่อคิวแล้วนึกอยากจะลองบ้างแต่ยังอิ่มอยู่ ขอผ่านจ้า..


ไปเที่ยวช่วงปลายพฤศจิกาต้นธันวา เริ่มมีตกแต่งคริสต์มาสกันบ้างแล้ว
บรรยากาศที่ The Landmark 


จากนั้น นั่งรถไฟฟ้าไปมงก๊ก ก็กะว่าจะไปช้อปปิ้งนะ แต่ของแพงจริงๆ ไม่ได้เสียเงินช้อปอีกเช่นเคย
เลยไปเสียตังกับอาหารแทนที่ Good Hope Noodle


เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวน้ำ ซุปรสธรรมดา เกี๊ยวก็เฉยๆ สงสัยหวังไว้มาก 32$


ถ้วยนี้ของแฟน บะหมี่เนื้อตุ๋นและหมูฝอย เนื้อตุ๋นอร่อยมาก ตุ๋นเปื่อยรสอร่อย ค่อยยังชั่วหน่อย 41$


กลับโรงแรมด้วยรถไฟฟ้าลงสถานี Central แล้วลองใช้ทางเลื่อน Mid-level Escalator 
ต้องเดินไกลกว่าแต่ยอม.. เพื่อให้ได้ขึ้นทางเลื่อนนี่แหละ หุหุ
(จริงๆสถานี MTR ที่ใกล้โรงแรมคือ Sheung Wan และ Sai Ying Pun)


ทริปนี้เดินเยอะมาก ทอดน่องอินฮ่องกง จนน่องจะแตกกันเลยทีเดียว 
บลอกหน้า ขึ้นพีคแทรม แก้ตัวจากครั้งก่อนที่มา แล้วไม่เห็นวิวเมืองแม้แต่น้อย เพราะหมอกบังหมด -_-"



Create Date : 03 ธันวาคม 2558
Last Update : 3 ธันวาคม 2558 18:40:39 น. 0 comments
Counter : 1210 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.