Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
21 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
นอกร้านหนังสือ ... ตอน คืนเดียวเที่ยวหัวหิน

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ กินได้ นอนหลับ ครบ 32 และก็ยังสามารถมาเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยให้ได้อ่านกัน กับความเป็นมาเป็นไป ผ่านมาผ่านไป จากร้านหนังสือเล็กๆในถนนข้าวสาร ที่อยู่มา 5 ปีกว่าแล้ว และก็กะว่าจะอยู่ต่อไปให้ได้นานๆ แม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก เพราะว่าวันก่อนนี้ก็เพิ่งได้ข่าวว่าร้านอาหารตรงหัวมุมสี่แยกบางลำพูปิดตัวไป พอเดินผ่านไปธุระก็เห็นร้านปิดตัว ปิดประตูเรียบร้อย จริงๆผมว่าทำเลตรงหัวมุมฝั่งตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์นั้นดีพอควรครับ เดินข้ามสี่แยกไปนิดเดียวก็เป็นคลองบางลำพูข้ามไปตลาดนานาแล้ว เป็นทางผ่านระหว่างถนนสามเสนกับถนนข้าวสารที่นักท่องเที่ยวต้องผ่านกัน แยกนั้นบางช่วงอาจรถติดบ้าง กับมีวิวตึกเก่าที่ถูกทุบไว้ของห้างนิวเวิล์ดตรงหัวมุมประกอบด้วยนิดหน่อย ... แต่จะว่าไปช่วงนี้ก็เงียบจริงๆ ปกติ 2 ทุ่มครึ่งห้างตั้งฮั่วเส็งปิด พนักงานกลับบ้าน ยังเห็นรถราวิ่งกันบ้างแถวๆหน้าห้าง แต่ช่วงนี้บางทีขับรถผ่านช่วง 2 ทุ่มก็เห็นห้างร้านปิดกันเงียบแล้ว แม้จะยังมีแสงไฟจากซุปเปอร์มาเก็ตชั้นล่างสว่างอยู่ แต่ข้างนอกก็ไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่

ข่าวรอบโลกอื่นๆค่อยๆซาไป เหลือข่าว OUTBREAK ของอีโบลา / กลุ่ม "IS" ที่กำลังจะโดนรุมกินโต๊ะ กับข่าวร้ายของคู่นักท่องเที่ยวอังกฤษบนเกาะเต่าที่ขึ้นหน้าหนึ่งเรียกความสนใจจากทั่วโลก เป็นความสูญเสียที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งนักท่องเที่ยวหรือคนไทยบ้านเรากันเอง ผมอ่านข่าววันแรกแล้วก็ได้แต่จิตตก พร้อมๆกันกับที่รู้สึกตะหงิดๆว่าข่าวหนังสือพิมพ์ลง "ล้น" เกินไปหรือเปล่า รายละเอียดบางอย่างเช่นพวกหลักฐานที่พบที่ศพ มันไม่จำเป็นต้องลงลึกละเอียดขนาดนั้น น่าจะให้เกียรติกับผู้ตายหรือญาติๆของเขาบ้าง มันจำเป็นต้องแจกแจงละเอียดยิบเลยหรือ ว่าผู้ตายนอกจากตายแล้ว ยังถูกละเมิดไปถึงไหนๆ ก็ปรากฏว่าวันต่อมาเห็นครอบครัวผู้ตายเอ่ยถึงเรื่องการเสนอข่าวด้วยเหมือนกัน ว่าควรจะเคารพความเป็นส่วนตัวของเขาด้วย ผมเองไม่แน่ใจนักว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่า แต่ก็ขอเขียนถึงหน่อยละกันครับ ในฐานะของผู้เสพสื่อคนหนึ่ง

วันก่อนนี้ เพิ่งมีโอกาสได้ไปต่างจังหวัดอีกครั้ง กับงานปาร์ตี้เล็กๆแบบตะวันตก เจ้าของงานเป็นเจ้านายจากยุโรปที่จัดงานวันเกิดครบครึ่งศตวรรษ จัดงานเลี้ยงที่หัวหินเป็นบูติครีสอร์ทในซอยหัวหิน 19 "The rest detail" ที่ได้รางวัลอะไรสักอย่างจากทริปแอดไวเซอร์ประจำปี 2014 นี้เอง บัตรเชิญทางเมล์อิเลคโทรนิคส์ใบนั้น ทำให้เกิดการขับรถไป-กลับต่างจังหวัดเพื่อร่วมงานวันเกิดคนอื่นโดยการค้าง 1 คืนเป็นครั้งแรก (เพราะดูท่าแล้วคงจะเลิกงานดึกแน่นอน)

ก็สบายๆกับการตั้งต้นล้อหมุนออกจากบางลำพูเวลาประมาณ 10 นาฬิกาครับ เส้นทางก็ปกติ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ขึ้นถนนลอยฟ้าบรมราชชนนี ก่อนจะลงตรงสายใต้ใหม่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก ก่อนจะตัดเข้าสู่ธนบุรีปากท่อ มหาชัย สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เลี้ยวซ้ายแยกวังมะนาวเข้าเพชรบุรี แวะกินข้าวกลางวันที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วนขาประจำ ก่อนจะไปต่อผ่านชะอำ และเข้าสู่หัวหิน ที่เวลาประมาณบ่ายสองโมง เข้าเช็คอินโรงแรมใกล้ๆ ซอยเดียวกัน ก่อนจะไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่ริมหาด มาร์เก็ตวิลเลจจนเย็นย่ำ

ก่อนกลับโรงแรมตั้งใจจะไปแวะร้านเมก้าบุ๊คเยี่ยมเยียนเจ้าของร้านหนังสือขาประจำเสียหน่อย แต่ปรากฏว่าประตูเหล็กปิด ป้ายร้านหายไป ถามคนที่มอเตอร์ไซค์วินข้างๆ ได้ความว่าเจ้าของปิดร้านไปแล้ว ไม่มีร้านหนังสืออีกต่อไป พร้อมกันกับที่เจ้าของเปลี่ยนอาชีพ เห็นบอกว่าไปเป็นครูสอนหนังสือที่ไหนสักแห่งก็ไม่รู้ เป็นอันปิดตำนานร้านหนังสือเจ้าเก่าของหัวหินไปอีกร้าน ... เฮ้ออออ Smiley


ระหว่างทางขาไป "Porto Chino" เป็นมอลล์ที่น่าจะตั้งชื่อมาจากแม่น้ำ "ท่าจีน" แถวนั้น


มื้อเที่ยงกับร้านขาประจำ ผมชอบรสชาติของคั่วกลิ้ง / แกงส้มใต้ และ ผัดมะเขือยาวเป็นพิเศษ ทริปไหนไปพักหลายวันที่หัวหิน มักจะซื้อใส่ถุงติดไปด้วยเสมอ ว่ายน้ำเหนื่อยๆ หิวขึ้นมาก็เวฟกินกับข้าวสวยร้อนๆ เติมไข่ดาวน้ำปลาอีกนิดหน่อยก็เยี่ยมเลย



ก่อนเข้าชะอำ เห็นชิงช้าสวรรค์ของซานโตรินีเป็นแลนด์มาร์คทางฝั่งขวา พร้อมกับชำเลืองซ้ายเป็นฟาร์มเลี้ยงแกะ ที่เอาไว้ดูดเงินลูกค้านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ



เลยชะอำไปก็เป็นเวเนเซียทางฝั่งขวา ก่อนถึงป้ายโบ๊ทเฮาส์หัวหินฝั่งซ้ายมือลิบๆ พ้นโค้งไปก็เป็นอุโมงค์ผาเมือง ก่อนเข้าหัวหิน




โรงแรมที่พักง่ายๆ ใกล้ๆกันกับสถานที่จัดงาน "The Rest Details" ในซอยหัวหิน 19 สำหรับเก็บของ อาบน้ำ ซุกหัวนอนยามดึกหลังงานปาร์ตี้ ... ว่าแต่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง มีกล่องอะไรสักอย่างให้ฉงนด้วย รูมเมทเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ... งั้นเอาเก็บไว้เหมือนเดิมละกันนะ คุณแม่บ้าน Smiley



ระหว่างทาง ขับเข้าไปยังมาร์เก็ตวิลเลจ เห็นกระจกหลังของคนข้างทางที่แตกเป็นเม็ดข้าวโพดเทียบติดกัน ... เก็บภาพตลาดฉัตรชัยยามบ่ายมาดู เรียบร้อยน่ารักเหมือนผ้าพับไว้ ไม่ยักจะเป็น "กุลสตรีที่รักสนุก" เหมือนยามหมดแสงตะวัน



ชายหาดสาธารณะหัวหิน หน้าโรงแรมหรู ฟ้าสวย ทะเลใส ไม่น่าเชื่อว่าฝนจะตก หลังจากนั้นไม่นาน


ปิดตำนานร้านหนังสือ "เมก้าบุ๊ค" เจ้าเก่าของหัวหินไปเป็นที่เรียบร้อย

กลับจากมาร์เก็ตวิลเลจยามเย็น ตั้งหลักพักเหนื่อยเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้สัญชาติตะวันตกเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก งานเริ่ม 6 โมงกว่า กับแขกเหรื่อชาวไทยกว่า 20 ชีวิต ร่วมกับแขกต่างชาติอีกเกือบ 50 คน เป็นงานสหประชาชาติโดยแท้ ทั้งเอเชีย ไทย เวียตนาม มาเลย์ ญี่ปุ่น ตลอดจน ออสซี่ เยอรมัน ยุโรป อีกไม่รู้กี่ประเทศ

อาหารงานเลี้ยงก็เป็นอาหารตะวันตกเต็มรูปแบบ คนเขียนเองปกติไม่กินมื้อดึกเท่าไหร่ แต่ถ้ามีงานเลี้ยงอาหารไทยบ้านเราก็บ่ยั่น เมนูบุฟเฟต์มักจะเดินผ่านไม่ต่ำกว่า 3 - 4 รอบ ทั้งของคาวของหวาน แต่ปรากฏว่าเจอดินเนอร์อาหารจานหนัก เนื้อๆ เน้นๆ เข้าให้ จานเดียวก็จุก ไปต่อไม่ไหวเหมือนกัน 





บรรยากาศงานค่อนข้างสบายๆ เจ้าของงานได้ของขวัญจากภรรยาเป็นเข็มขัดแชมป์โลกบนเวที แขกสำคัญอวยพรนิดหน่อย เจ้าตัวเองไม่ค่อยชอบ "สปีช" มากนัก พิธีการเสร็จ ก็เป็นเวลาของนักดนตรี กับนักเต้นเท้าไฟ โดยเฉพาะแขกยุโรปในชุดราตรีหลายคนที่สนุกสุดติ่ง สวิงกันสุดเหวี่ยงก็มาก



บรรยากาศของล็อบบี้ยามค่ำ ไม่มีอะไรมากนัก ด้านซ้ายมือจะเป็นสระว่ายน้ำ ก่อนลงสู่ริมชายหาด





เวลาดีสี่ทุ่มกว่า ห้องอาหารปิดทำการ งานปาร์ตี้ย้ายไปต่อกันที่ผับเปิดแผ่นที่ทางลงใต้ดินด้านข้าง สมาชิกที่ยังไหวก็ตามกันไป พร้อมกับที่เจ้าภาพก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน


จนกระทั่ง ... ผ่านเที่ยงคืนไปชั่วโมงกว่า หลายคนก็ทยอยหายจากไป ช้า-เร็ว-ก่อน-หลัง ตามสภาพ ... ชุดสุดท้าย เห็นไปกินบะหมี่กันต่อหน้าปากซอยก่อนแยกย้ายกันกลับ ส่วนคนเขียนได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะไม่มีที่ว่างแล้ว ถ้าเติมลงไปอีกคงพุ่ง

เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนกลับ คนเขียนขับรถนำขบวนเพื่อนอีก 3 คน 1 คัน พาไปกินอาหารเช้าร้อนๆที่ "เจ๊กเปี๊ยะ" ขาประจำ ... บะหมี่ปลา แห้ง 1 น้ำ 1 ช่วยเพิ่มพลังงานได้ดี รสชาติก็ยังคงไว้ใจได้เหมือนเดิม ไม่ทำให้ผิดหวังที่พาเพื่อนๆมา เพื่อนหนุ่มใต้จากสุราษฎร์ออกปากชมเกาเหลาเลือดหมูไม่ขาดปาก "ไม่มีกลิ่นคาวเลย" หลังบรรจุกระเพาะเสร็จ ก็พาไปแวะซื้อขนมของฝากที่ร้านชุติมาก่อนแยกย้ายกัน คนเขียนเองนั้น บินเดี่ยวมายาวๆก่อนจะแวะพักที่ "ฟาร์มพันธุ์สุข" ฟาร์มใหม่สไตล์นิวซีแลนด์ตรงขาเข้ากรุงเทพ เลยจากซานโตรินีมานิดหน่อย

พื้นที่กว้างขวาง จอดรถได้สบาย ตบแต่งก็น่ารักดี มีร้านกาแฟ ร้านสเต็ก ร้านขายของฝาก ในห้องแอร์เย็นสบาย ส่วนข้างๆเป็นฟาร์มเล็กๆให้เสียค่าผ่านประตูเข้าไปถ่ายรูปเล่น พนักงานสาวในร้านแต่งชุดประจำฟาร์มมีผ้าคาดผมและผ้ากันเปื้อนคาดเอวน่ารัก ยิ้มแย้มดี ซักถามไปได้ความว่าที่นี่เปิดมาประมาณ 5 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือน 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ... คราวนี้ใครมาเที่ยวซานโตรินี คงต้องเผื่อเวลาอีกสัก 2 ชั่วโมงละครับ ถ้าสนใจจะแวะอีกแห่งหนึ่ง











เจตตจัน
02-2820358
085-8035412
087-0719858
jettajan227@yahoo.com



Create Date : 21 กันยายน 2557
Last Update : 21 กันยายน 2557 23:04:00 น. 1 comments
Counter : 1406 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 22 กันยายน 2557 เวลา:4:48:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.