ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
29 ตุลาคม 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามจากคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::



:: ก๋าราณีตอบคำถามจากคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::




วันนี้วันพระใหญ่
เป็นวันดีที่พุทธศาสนิกชนอย่างเราจะได้ทำบุญตักบาตร
เพื่อความสุขความสบายใจ
แต่ในทางตรงข้าม ทำไมมีวัดบางวัด อันนี้ไม่ขอเอ่ยนามนะคะ
เพราะถ้าเอ่ยทุกคนย่อมต้องรู้จักดี
ถึงได้บอกให้พุทธศาสนิกชนอย่างเราบริจาคเงินเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยิ่งเยอะหลักยิ่งดีเพราะจะได้บุญมาก
คนหลายคนก็เชื่อทั้งๆ ที่มันไม่ถูกต้อง
แล้วเราจะสอนลูกหลานเรื่องศาสนา
และหลักการที่ถูกต้องอย่างแท้จริงได้อย่างไรคะก๋าราณี



คำถามโดย : ฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน

















วันก่อนลูกชายวัยห้าขวบของผมถามว่า
(เป็นคำถามเมื่อปีที่แล้วครับ)

“วันวิสาขบูชาคือวันอะไรครับป่ะป๊ะ ?”

คือวันอะไร ?

เชื่อไหมครับว่าผมตอบไม่ได้ 555

พอไปค้นคว้าหาคำตอบมาได้
ว่าวันวิสาขบูชา คือ วันประสูติ วันตรัสรู้
และวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า

คำถามตามมาอีกเพียบเลยครับ 555

สิ่งที่หมิงหมิงถามก็คือ
ทำไมพระพุทธเจ้าเกิดมาก็พูดและเดินได้เลย

นั่นสิครับ
ทำไมคนๆหนึ่งเกิดมาแล้วเดินได้ พูดได้ทันที...

ทำไม ?











เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเราต้องทำบุญในวันพระ
ทำไมต้องตั้งใจตักบาตรมากเป็นพิเศษในวันสำคัญทางศาสนา
ทำไมต้องไปเวียนเทียน ทำไมต้องเดินจงกรม
ทำไมต้องสวดมนตร์ ทำไมต้องจดจำวันสำคัญทางศาสนา ฯลฯ
หรือถ้าถามแบบที่คนต่างชาติรุ่นใหม่ชอบถามก็คือ
ทำไมเราต้องนับถือศาสนาด้วย ?

“ศาสนา” มีความสำคัญกับมนุษย์
ในฐานะ “เครื่องมือ” ที่ทำให้เรารู้จักตนเอง
เป็นที่พึ่งพิงทางใจ เป็นสิ่งปลอบประโลมในยามที่ใจเป็นทุกข์
และเป็นคำตอบในวันที่ชีวิตเดินทางมาถึงทางตัน

“ศาสนา” จึงเริ่มต้นทำหน้าที่เยียวยาความรู้สึกของมนุษย์

“ศาสดา” เกิดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ “ผู้นำทางจิตวิญญาณ”
ผู้ที่นำพามนุษย์ให้ข้ามพ้นไปจากสภาพที่ทนทุกข์
เพื่อนำความหวังไปสู่ดินแดนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

ขั้นตอนของการเดินทางไปสู่ “สิ่งที่ดีกว่า” มีมากมาย
ทั้งพิธีกรรม ปาฏิหาริย์ อีกทั้งยังมีหนทางมากมาย
เพื่อการฝึกฝนตนอย่างหนัก การฝึกพิจารณาความเป็นจริงด้วยวิธีต่างๆ
การเผชิญหน้ากับความทุกข์ในรูปแบบต่างๆ
รวมไปถึงการทำบุญ ทำทาน ตลอดจนการบวชในรูปแบบที่แตกต่าง

ทุกสิ่งเหล่านั้น
เป็นไปเพื่อนำมนุษย์ให้ได้พบกับ “คำตอบ”
จาก “คำถาม” ที่ตนเองสงสัย











ทำไมวัดหรือองค์กรทางศาสนา
จึงเรียกร้องให้มีการบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก
ทำไมจึงต้องมีการสร้างศาสนสถานอันใหญ่โตมโหฬาร

สิ่งนั้นเป็นการตอบคำถามทั้งในแง่ของ “ตัวตน” และ “บุคคล”
ไปจนถึง “ศรัทธา” ที่ตนเองมีต่อศาสนา

การบริจาคเกิดขึ้นเมื่อมีความศรัทธาเชื่อถือ
ทั้งในระดับของปัจเจกบุคคล เช่น ถ้าใครคนหนึ่งศรัทธาศาสดามาก
หรือเคารพนบนอบต่อครูบาอาจารย์ที่ตนนับถือ
การบริจาคคือการแสดงความ “เคารพ สยบยอม หรือนับถืออย่างสูงสุด”


ศรัทธา หรือ “ความเชื่อ”
สร้างระดับของความศรัทธาที่แตกต่างกัน
แตกต่างไปตามขนาดของปัญหาที่ชีวิตเผชิญอยู่
และหากศาสนาที่ตนเชื่อถือนั้นมี “คำตอบ” ที่ถูกต้องโดนใจ
สามารถคลายปมปัญหาในชีวิตได้
การบริจาคคือการแสดงออกถึงความเชื่อมั่น
และความศรัทธาที่คนๆหนึ่งมีต่อความเชื่อที่ตนสังกัด











แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของ “การบริจาค”
หรือ “การทำบุญทำทาน” ที่แท้จริงแล้ว
อาจเป็นเพียง “เครื่องมือ” ชนิดหนึ่ง
ที่มีไว้เพื่อให้เราทุกคน “ฝึกฝนตนเอง”

“การทำบุญที่แท้จริง” จึงไม่ใช่การบริจาคทานด้วยเงินจำนวนมหาศาล
ไม่ใช่การถอดแก้วแหวนเงินทองเพื่อหลอมละลายสร้างสิ่งต่างๆ
ไม่ใช่การให้ๆๆๆๆๆ แล้วปรารถนาการได้รับสิ่งต่างๆเพื่อแลกเปลี่ยนตอบแทน
ไม่ใช่การสร้างพระพุทธรูปทองคำ โบสถ์ร้อยล้าน วิหารหมื่นล้าน
เพื่อหวังว่าตนเองจะเสวยสุขในชาตินี้และชาติหน้า
ไม่ใช่การซื้อพวงมาลัยถวายพระเพื่อขอหวยรวยทรัพย์
ฯลฯ

การทำบุญที่แท้
เป็นเพียงการ “ฝึกฝนตน” ให้ ลด ละ เลิก
ความเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในใจตน

ยิ่งให้ ยิ่งลดความเห็นแก่ตัวในใจตน
ลดการยึดติดในตัวตนและความเป็นเขาเป็นเรา

ถ้าให้ แล้วหวังว่าตนเองจะได้รับสิ่งต่างๆที่ตนปรารถนา
นั่นยังเป็นการให้ด้วยความโลภ
เพื่อการแลกเปลี่ยน การต่อรองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ไม่ใช่การให้เพื่อละวางตัวตน

ถ้าให้ แล้วคิดว่าตนให้มากกว่าคนอื่น จะได้บุญมากกว่าคนอื่น
นั่นยังเป็นการให้ด้วยความยกตนข่มท่าน
ยิ่งให้ยิ่งขยายอัตตาในตนให้ใหญ่ขึ้น

ถ้าให้ แล้วยังเลือกว่าคนนี้ฉันชอบฉันให้ คนนี้เกลียดฉันไม่ให้
นั่นยังเป็นการให้แบบแบ่งเขาแบ่งเรา
เป็นการเลือกปฏิบัติของจิตใจที่ยังไม่ปล่อยวาง

ถ้าให้ แล้วหวังว่าตนเองจะขึ้นสวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้
จะไม่ตกนรก จะเกิดมารวย เกิดใหม่ไม่มีความทุกข์เสวยสุขทุกชาติ
นั่นยังเป็นการให้ด้วยใจโลภหวัง
ยิ่งให้ ยิ่งติดกับดักความโลภในใจตนเอง

ฯลฯ


การให้ หรือการทำบุญทำทานที่แท้จริง
ยิ่งให้ ต้องยิ่งไม่ได้
ต้องยิ่งฝึกฝนตนให้ไม่คิดถึงการได้รับ

ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้











ไม่ว่าจะบริจาคอะไรกับใคร
ไม่ใช่เรื่องผิด
ทำบุญกับวัด กับพระ กับคนชรา กับพ่อแม่
กับคนที่เดือดร้อนกว่า
ล้วนเป็นสิ่งที่ดี

แต่ความดีก็ต้องมีขอบเขตของความเหมาะสม
ต้องรู้ประมาณตน
ไม่ใช่บ้าบุญ หอบบุญจนคนรอบข้างเดือดร้อน
หรือมุ่งมั่นแต่การทำบุญหวังผลจนขาดสติ
ทำทุกอย่างเพื่อหวังบุญหรือสิ่งตอบแทนที่จะได้รับ










มิเพียงต้องสอนลูกหลานในเรื่องการทำบุญ
แม้แต่การศึกษาศาสนาในทุกๆศาสนา
พ่อแม่เองควรมีบทบาทในการดูแล อบรมสั่งสอนลูกๆของตน
ให้ค้นพบ “ความจริง” และ “แก่นแท้” ของคำสอนในศาสนานั้นๆ

สิ่งนี้เท่านั้นที่จะช่วยพยุงปัญญาของลูกหลาน
เพื่อให้เขามองศาสนา
เป็นเรื่องของ “ศรัทธา” และ “ปัญญา” ที่ทำงานควบคู่กัน
ต้องให้เด็กได้รู้ความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในพิธีกรรม
วิธีการปฏิบัติตน วิธีการปฏิบัติธรรม

ถ้าในใจเด็กยังเต็มไปด้วยความสงสัย
ว่าทำไมศาสดาของเขาจึงคล้ายผู้วิเศษ
ทำไมการปฏิบัติธรรมจึงคล้ายเรื่องปาฏิหาริย์มีแต่เรื่องราวมหัศจรรย์ใจ
ทำไมต้องสวดมนตร์ ทำไมต้องเดินจงกรม
ทำไมต้องละหมาด ทำไมต้องสวดมนตร์ถึงพระเจ้า
ทำไมคนเราต้องมีศาสนา ทำไมคนเราต้องทำบุญ ฯลฯ

ในใจที่มีแต่คำถามว่า “ทำไม” เป็นสิ่งดี
เพราะนั่นจะนำไปสู่ความอยากในการค้นหาคำตอบ

ถ้าพ่อแม่ร่วมเดินทางค้นหาไปกับลูกๆ
และมีคำอธิบายที่ดีพอ
เด็กจะเข้าหาศาสนาด้วยหลักธรรมและความลึกซึ้ง

แต่หากพ่อแม่ยังไม่มีคำตอบที่ดีพอให้กับลูก
เด็กจะงมงายในความเชื่อที่ผิดๆ
ในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความกลัวและไม่กล้าถาม
ได้แต่สยบยอมและเชื่อตามๆกันไป
ทั้งที่ในใจมีแต่ความสงสัยตลอดเวลา

ที่สุดแล้วในทุกคำถามของเด็ก

เช่น ทำไมพระเจ้าตายแล้วฟื้นได้
ทำไมพระพุทธเจ้าเกิดมาก็เดินและพูดได้
ฯลฯ


อาจมีคำตอบที่ดีกว่าคำตอบเดิมๆเช่น

“ก็พระองค์เป็นผู้วิเศษ ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างเราไงลูก
เราเป็นอย่างท่านไม่ได้หรอก”


อาจมีคำอธิบายที่ดีกว่า
เพื่อทำให้เด็กได้รู้ว่า

ในตัวตนของพวกเขานั้นมีความ “ดีงาม” ซ่อนอยู่
มี “ปัญญา” อันเต็มเปี่ยมและเพียบพร้อม
มี “ความเชื่อ” ที่บริสุทธิ์งดงาม

และทั้งหมดนี้สามารถทำให้มนุษย์คนหนึ่ง “รู้ธรรมตามเป็นจริง” ได้
ไม่ว่าเขาจะเกิดมาเป็นใคร มีสภาพเช่นไรก็ตาม
เพราะมนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในการเรียนรู้
มีคุณสมบัติที่พร้อมในการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานทางธรรม
สามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับทุกๆความทุกข์อย่างเข้าใจ
สามารถน้อมนำธรรมะมาปรับใช้กับชีวิตของตนเพื่อให้เข้าใจความทุกข์
อยู่ร่วมกับความทุกข์
และปล่อยวางตัวตนจนหมดสิ้นได้ในวันที่ลาจากโลกนี้ไป
ในฐานะของ “มนุษย์ผู้ถึงพร้อมซึ่งความดีงามในใจตน”















Create Date : 29 ตุลาคม 2557
Last Update : 29 ตุลาคม 2557 5:51:52 น. 31 comments
Counter : 1466 Pageviews.  

 
ชอบค่ะ


โดย: ธูปหอม IP: 110.77.210.135 วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:6:21:42 น.  

 
ชอบด้วยค่ะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:6:34:33 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:6:35:23 น.  

 
หวัดดีค่าพี่ก๋า อากาศดีนะคะเช้านี้ ว่าแล้วก็อยากให้หนาวเร็ว ๆ


โดย: แม่โม IP: 116.58.255.57 วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:7:27:27 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องก๋า

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:7:39:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณแม่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:7:42:12 น.  

 






คนโบราณ แยบคาย ในการสอน นะคะ ..

เห็นด้วย ทุกๆคำ ค่ะ ..



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




..





เรียน พี่ไวน์ คุณก๋า คุณโอ ...


เมื่อวาน ไปหาน้าชาย ที่บ้านซอยเสนานิคม ..

อากู๋ ก็ดีใจ .. เอากล้องมาถ่ายรูป ..

ทั้งหมด ที่ อากู๋ มี 7 หมื่นกว่ารูป .. ส่วนใหญ่ 7 หมื่นรูป .. จะล้วงกระเป๋า ..

เมื่อวานเลยบอก .. อากู๋ ทำท่าอื่นมั่งดิ ..

อากู๋ ถาม "จะให้ทำท่าเป็น ลิง หรือไง ??"

แต่ .. อากู๋ ทำจริง แฮะ ..

ถามอากู๋ว่า .. "จะให้ลงรูป ลิง ใส่บล็อกได้ป่าว .."

อากู๋ ว่า .. "ตามใจ ... "





ส่วน .. 3 คนข้างล่าง ในภาพ วีดิโอ ..

เป็นน้องชาย น้องสาว แท้ๆ ของ "มิหมี่" ทั้งหมด ค่ะ ..






โดย: foreverlovemom วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:8:07:46 น.  

 
มารับธรรมะ แนวคิดดี ก่อนไปทำงานครับ คุณก๋า
ทุกวันนี้ผมทำบุญวันละนิด ไม่เดือดร้อนการกินอยู่ เป็นการสะสม "เสบียงบุญ"
วัดธรรมกายผมก็ไป ผมก็ทำบุญ "ใส่ตู้บริจาค" ตามกำลังทรัพย์
ถ้าเราทำตามอย่างคนอื่นโดยไม่ดูฐานะของตนเอง(ในใจเสียดายเงิน) บุญที่ได้ก็ไม่เต็ม

บางคนทำบุญ 20 บาท สาธุให้ถูกหวยรางวัลที่ 1 หุหุ 55

สำหรับที่บางวัด สร้างเสนาสนะใหญ่โต ผมมองว่าเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งให้คนเข้าวัด ทำบุญทำทาน ส่วนด้านจิตใจเป็นผลพลอยได้ครับ
(บางวัดเสนาสนะใหญ่โต+การปฏิบัติธรรม)
เข้าวัด เข้าวา วัดใจ

ใจที่ลดละในรัก โลภ โำกรธ หลง



โดย: เศษเสี้ยว IP: 113.53.233.130 วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:8:18:40 น.  

 
โหวตหมวดงานเขียนให้ค่ะ

ชอบ



เราเองยังทำบุญหวังผลอยู่ค่ะ หวังว่าจะให้คุ้มตัวไม่ให้ตกอยู่ในอบายหรือฐานะอันลำบากที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติตนดี

ซึ่งเมื่อก่อนไม่เลยนะคะ ตักบาตรเพื่อให้ญาติมิตร ทำทานก็เพื่อให้คนที่ลำบากเค้าเป็นอยู่ดีขึ้น แต่เดี๋ยวนี้มีกิเลสแห่งการอยากได้แก่ตนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ฝึกตัวเองอยู่ค่ะ

เราเป็นคนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ตักบาตรวันพระค่ะ เพราะเคยไปบวชเนกขัมฯ พบว่าวันพระนี่ของเหลือเชียว แต่พอไม่ใช่วันพระ ของไม่พอกิน เลยเลี่ยงตักวันอื่นมากกว่า



เรื่องของสำนักหนึ่ง (ขอไม่เรียกว่าวัด) ของเจ้าของคำถาม มันเป็นโมหะค่ะ เป็นความเชื่อเพื่อสร้างตัวตน สร้างให้คนยิ่งมีกิเลสเพิ่มเติม ทำบุญเพื่อหวังสวรรค์ชั้นฟ้า หวังวิมาน หวังความร่ำรวย แต่ไม่ได้เพื่อท้ายที่สุดแล้วจะหลุดพ้นจากการเวียนตายเวียนเกิด

ซึ่งการสร้างความเชื่อความคิดแบบนี้มันง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่จำนวนหนึ่งที่ยังทำบุญเพื่อหวังผล ที่ยังมีความหลงผิด ที่ยังมีกิเลสไงคะ

ถ้าเอาพุทธแท้ ที่ทำทุกสิ่งเพื่อหลุดพ้นไปสู่ความไม่เวียนตายเวียนเกิดอีก ไม่ต้องหวังว่าจะเกิดใหม่เป็นคนรวย ไม่ต้องหวังว่าจะไปเป็นเทวดามีวิมานชั้นฟ้า ไม่มีกิเลสมาหลอกล่อ น้อยคนจะมีปัญญายอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ดีกว่าน่ะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:9:18:35 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะก๋า


การทำบุญที่แท้
เป็นเพียงการ “ฝึกฝนตน” ให้ ลด ละ เลิก
ความเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในใจตน


และที่สุดก็คือ...ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้


เป็นคำตอบที่โดนใจจริงๆค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:9:19:36 น.  

 

ให้เพื่อให้ คำนี้อ่านแล้วรู้สึกอิ่มใจจังคะ

ทักทายยามเช้าคะ


โดย: blog pu วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:9:36:36 น.  

 

ตอบได้ดีถูกใจมากค่ะน้องก๋า

การทำบุญที่แท้
เป็นเพียงการ “ฝึกฝนตน” ให้ ลด ละ เลิก
ความเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในใจตน


และที่สุดก็คือ...ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้

ในพุทธศาสนาถือเป็นบุญขั้นสูงสุด(บุญกิริยาวัตถุ10)คือมีปัญญา
เห็นตรงตามความเป้นจริง การทำบุญด้วยการบริจาคคือการให้ทาน
เป็นบุญเบื้องต้นที่ต้องมีปัญญากำกับค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:11:19:20 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะคุณก๋า
ชอบเอ็นทรีนี้มากค่ะ
ให้ไม่ใช่เพียงเพื่อหวังผลว่าจะได้รับ
การให้ การทำบุญ ทำทาน เป็นการฝึกฝนตนเองจริง ๆ ค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:11:47:33 น.  

 

มีความสุขมากมากนะคะ พี่ก๋า


โดย: white in the dark วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:11:54:12 น.  

 
สวัสดียามเที่ยงค่ะก๋า

สำหรับพี่ การทำบุญ ไม่ใช่เรื่องใหญ่กับชีวิต
เมื่อตอนเด็ก พี่ไปวัดทุกวันพระ กับตากับปู่ย่า
จะไปกับแม่ก็วันพระใหญ่ๆ นั่นคือความทรงจำ
หลังจากนั้น ก็เป็นการใส่บาตรหน้าบ้าน หากทำได้
ไปไหว้พระทำบุญตามวัด ตามแต่เราสะดวก
ไม่ยึดติดกับอะไรค่ะ ทำมาก ทำน้อย แล้วแต่กำลังของเรา

แต่พี่ก็จะบอกจะสอนลูกเสมอ ในการทำบุญ และการทำดี
เราเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ช้าไม่นาน เมื่อวันหนึ่งเค้าเข้าใจ
เค้าก้จะทำมันด้วยตัวเองค่ะ

จนเดี๊ยวนี้ สิ่งที่พี่บอกลูก มันเห็นผล
เราไม่ต้องบอกให้เค้าทำบุญ ถึงเวลาเค้าอยากทำเค้าไป
ตอนนี้เค้าเอ่ย หนูจะกกินมังสวิรัส พี่ก็ยินดี
เพราะเค้าทำ เค้าก็ได้กับตัวเค้านะคะ

สำหรับพี่ ทำบุญ ทำด้วยใจที่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน
ทำดี ทำกันบ่อยๆ คือการทำบุญเหมือนกันนะคะ

นี่เป็นความคิดพี่ค่ะก๋า


โดย: tanjira วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:12:24:26 น.  

 
การให้เป็นสิ่งที่ดี
ให้แล้วตัวเองไม่เดือดร้อน
พี่ไม่เห็นด้วยนะคะที่วัดดังกล่าวสอนแบบนั้น
เหมือนหลอกให้คนงมงายค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:13:08:00 น.  

 
จะทำอะไร ให้ใคร อย่าเบียดเบียนใคร อย่าให้ใครเดือดร้อน แม้แต่ตัวเอง ถ้าทำแล้วไม่สบายตัว ไม่สบายใจแล้ว ทุกข์แล้ว อย่าทำเลยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:15:10:26 น.  

 
ตามมาอ่านอีกแง่มุมหนึ่งของการทำบุญครับ ชอบคำที่ว่า
"ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้"

ส่วนตัวผมจากคำถามคิดว่าการทำบุญทำด้วยใจ ทำเท่าไหร่ ไม่เดือดร้อนใคร ทำแล้วใจเราเป็นสุข แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ


ป.ล.ขอบคุณนะครับพี่ก๋าที่กดโหวตให้ผม


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:15:45:19 น.  

 
มาสวัสดียามเย็นค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

ซีถามว่า รอยพระบาทของพระพุทธเจ้า เค้ารู้ได้ไง ว่าใช่ของพระพุทธเจ้า...



โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:16:50:10 น.  

 
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog

แวะมารอบเย็นอีกทีค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:18:09:10 น.  

 
การทำบุญการบริจาค เคยเห็นบางคนบริจาคจนหมดตัวก็มีนะคะ
ประมาณว่าศรัทธาแรงกล้าไปรึเปล่าไม่ทราบ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:19:21:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า
แว้บมาทักทาย(หลังจากหายไปนานมาก)
คิดถึงหลานชายตัวน้อย ตอนนี้เป็นไงบ้างค่ะ
(ป้าฟ้าไม่เห็นรูปอ่ะ)


โดย: พี่ฟ้า (kuvasu ) วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:19:41:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า ^^

==============

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:20:52:06 น.  

 
"ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้"

คนเราก็เข้าใจผิดมานานล่ะ
ให้เพื่อได้ผล ถึงได้บริจาค
ให้เยอะ บุญก็เยอะตาม ลืมถึงแก่นความหมาย
ของบุญกันไป เชื่อตามๆกันไปเนาะ
พี่ก็คนนึงล่ะ

สวัสดีค่ะน้องก๋า วีคนี้เข้าบล็อกน้อยน่ะค่ะ
วุ่นจนไม่ได้ลงมาเปิดคอมเลย อิอิ

คิดถึงเพื่อนๆบล็อกเสมอเด้อ


โดย: anigia วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:22:01:59 น.  

 
ปอลิง --- ภาพหยดน้ำ ๆ สวยมากๆค่ะ

โหวตจ้าแล้วก็หายตัว แว่บ ต่อ แหะๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: anigia วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:22:04:05 น.  

 
สาธุ ค่ะ
คุณก๋าเขียนอธิบายแจ่มชัดเลย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:22:34:07 น.  

 
ภาพสวยมากมายค่ะพี่ก๋า
แต่คำตอบ ถูกใจค่ะ
นิคเชื่อว่าทำบุญแล้วได้ความสุขใจ เราได้ตอนนั้นเลย
ทำแล้วๆกัน ไม่ต้องไปคิดต่อ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Music Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:22:58:21 น.  

 
แวะมานั่งดูหยดน้ำ

ขอบคุณที่ไปเฝ้าบ้านให้หลายวันเลย
กลับมาตั้งแต่วันอาทิตย์ แต่เหมือนกลับ
มาสู่กองงานที่สุมรออยู่

วันนี้ดึกแล้ว ดูแต่หยดน้ำสวยๆและ
คำถามมากมายข้างตน เก็บไปนอนคิด
ก่อนนอนเนอะ พรุ่งนี้ค่อยมาอ่านคำตอบ
ฝากกำลังใจไว้ด้วยครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร About Weblog ดู Blog
KeRiDa Health Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:23:25:44 น.  

 
บางครั้งบางคำถาม บางการกระทำมันก็ไม่มีถูกผิดนะ ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าทำไมต้องตั้งใจทำบุญวันพระขนาดนั้น แล้ววันธรรมดาไม่ทำบุญ? แบบนี้พระอดตายครับ ผมมันพวกอินดี้ ทำในวันที่อยากทำ แต่พยายามหลีกวันสำคัญ (เพราะคนเยอะ) ผมไม่ค่อยชอบแย่งๆ กัน จะว่าไปเดี๋ยวก็วันพระแล้วนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:23:58:20 น.  

 
การให้ หรือการทำบุญทำทานที่แท้จริง
ยิ่งให้ ต้องยิ่งไม่ได้
ต้องยิ่งฝึกฝนตนให้ไม่คิดถึงการได้รับ

ให้เพื่อให้
ไม่ใช่ให้เพื่อได้

ชอบประโยคนี้ค่ะ ให้เพื่อให้ ไม่ใช่ให้เพื่อได้
จริงๆเลยค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะพี่ก๋า ^^



โดย: lovereason วันที่: 30 ตุลาคม 2557 เวลา:2:11:32 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:1:53:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]