เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

อ้าปากค้าง! แก้ผ้ากลางห้างฯ ดัง บทเรียนออร์แกไนซ์ไร้สำนึก?

อ้าปากค้าง! แก้ผ้ากลางห้างฯ ดัง บทเรียนออร์แกไนซ์ไร้สำนึก? [ชมคลิป]
อึ้ง ทึ่ง เสียว! กันทั้งงาน เมื่อนายแบบหนุ่มกล้ามบึ้กถอดกางเกงว่ายน้ำ แก้ผ้ากลางห้างฯ ดัง เหลือแค่จับปิ้งชิ้นเล็กๆ ปิดส่วนสำคัญ แล้วอาบน้ำโชว์สยิวสนองความต้องการตามคอนเซ็ปต์ผู้จัดงาน จนกลายเป็นภาพแชร์ว่อนของนายแบบล่อนจ้อนให้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องจิตสำนึกกันยกใหญ่ ล่าสุด เครือเซ็นทรัลและบริษัทออร์แกไนเซอร์ออกมาโพสต์ขอโทษสังคมแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เล็กน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความอนาจารครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น!!




เซ็นทรัลน้อมรับผิด “รู้เท่าไม่ถึงการณ์”

(ปู-ไปรยา หน้าเหวอ โชว์เหนือความคาดหมาย เกินที่ตกลงไว้)

“ทางบริษัทฯ มีความเสียใจและขออภัยเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันอาจแสดงถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคณะผู้จัดงาน ซึ่งอาจมีความไม่เหมาะสมต่อผู้ชมในบางกลุ่ม รวมถึงเด็กและเยาวชน ทางบริษัทฯ จึงขอน้อมรับคำติชมเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงการทำงานให้มีความเหมาะสมและรอบคอบต่อไป”

ข้อความดังกล่าวคือใจความสำคัญที่ทาง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ออกมาชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก “CentralWorld Thailand” เอาไว้หลังเกิดเหตุฉาว นายแบบออกมาถอดกางเกงว่ายน้ำเหลือแต่จับปิ้งโชว์อาบน้ำรับคอนเซ็ปต์ “CentralWorld Naked Summer 2015 เปลือยทุกเทรนด์ร้อนระอุ ช้อปปะทุความร้อนแรง”

ที่ทำให้เป็นประเด็นเดือดอย่างมากและกลายเป็นแชร์ระบาดหนักมาก เนื่องจากภาพที่ถ่ายจากเบื้องหลังนายแบบคือร่างเปลือยล่อนจ้อน ส่งให้หลายคนเข้าใจผิดว่าแก้ผ้าทั้งตัว ทางห้างฯ จึงชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อความชัดเองอีกครั้งหนึ่งว่า “นายแบบคนดังกล่าวได้สวมใส่กางเกงชั้นในแบบจีสตริงเพื่อป้องกันความไม่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี เนื่องจากภาพที่ออกไปอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจมีความไม่เหมาะสมต่อผู้ชมในบางกลุ่ม รวมถึงเด็กและเยาวชน”


(เซ็นทรัล ออกมาโพสต์ขอโทษอย่างเป็นทางการ)


ทั้งนี้ยังยืนยันชัดเจนว่า งานนี้ทาง CPN ไม่ได้เป็นผู้จัดงานดังกล่าวขึ้นมา ทำหน้าที่เพียงแค่เป็นสปอนเซอร์และให้เช่าพื้นที่เท่านั้น แต่มีบริษัทออร์แกไนเซอร์รับจัดงานเข้ามาดำเนินการและวางแผนงานคอนเซ็ปต์งานทั้งหมดให้

“เรารู้แต่เพียงว่าจะมีการจัดงานเดินแบบแฟชั่นโชว์ในชุดว่ายน้ำเพื่อเป็นการรับกับช่วงซัมเมอร์ แต่ตรงช่วงไฮไลต์ เราก็ไม่รู้ว่าจะจัดออกมาในรูปแบบใด พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา เราก็ตกใจเหมือนกัน”

หลังจากปล่อยให้สังคมสงสัยอยู่สักพักใหญ่ๆ ว่าใครคือคนออร์แกไนเซอร์คนต้นคิดเรื่องเปลื้องผ้าฝ่าขนบประเพณีครั้งนี้ขึ้นมา “อัฐไกร ถาวร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เติร์ด ปาร์ตี้ ครีเอทีฟ จำกัด ล่าสุดจึงมีแถลงการณ์ออกมารับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“จากการที่บริษัท ในฐานะผู้สร้างสรรค์งาน Naked Summer Fashion Show ในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยใช้สถานที่เซ็นทรัลเวิลด์นั้น ในช่วงไฮไลต์บนเวที ได้มีการโชว์นายแบบอาบน้ำซึ่งเห็นแต่เพียงด้านหลัง โดยที่มีการปกปิดด้านหน้าของนายแบบไว้ อย่างไรก็ดี ภาพที่ออกมาอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และไม่เหมาะสมต่อสาธารณชน

บริษัท เติร์ด ปาร์ตี้ ครีเอทีฟ จำกัด ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขออภัยเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าของพื้นที่ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านมา ณ โอกาสนี้”




ถล่มเละออนไลน์! บทเรียนราคาแพงผู้จัดอีเวนต์

(ส่งเสียงร้องเรียนมายังแฟนเพจเซ็นทรัลเวิลด์)

อย่างไรก็ดี หลังจากมีภาพและข่าวครึกโครมเกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ทางแฟนเพจ “CentralWorld” ยังไม่มีการโพสต์ข้อความแถลงการณ์ขอโทษจากผู้จัดงานและเจ้าของสถานที่ลงบนเพจแต่อย่างใด มีเพียงการโพสต์รูปอีเวนต์ลงในอัลบั้ม “NAKED SUMMER FASHION SHOW @CENTRALWORLD”
       เมื่อคลิกเข้าไปดูในคอมเมนต์ใต้โพสต์ จึงพบการคอมเมนต์ตอบแสดงความรับผิดชอบด้วยแถลงการณ์ของบริษัทแปะเอาไว้ เนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งเข้ามาสะท้อนภาพลบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ และบรรทัดต่อจากนี้เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนที่ฝากเอาไว้ในหน้าแฟนเพจอย่างเป็นทางการของเซ็นทรัลเวิลด์


“คุณอย่ามาใช้คำว่าเข้าใจผิด แต่ภาพที่ออกมา มันคือเจตนาที่คุณต้องการสร้างกระแสว่ามีผู้ชายแก้ผ้าอาบน้ำโชว์จริงๆ ในเมื่อคอนเซ็ปต์คือ naked สงกรานต์นี้รบกวนห้างคุณรณรงค์ให้คนมาแก้ผ้าใส่จีสตริงกลางห้างเล่นน้ำไปเลยครับ ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ดีแต่แถหาความชอบธรรมให้ตัวเอง”

“ให้คนมาทำเหมือนแก้ผ้าอาบน้ำ มันเหมาะหรือครับ เป็นไอเดียที่...มากเลยรู้มั้ยครับ สร้างห้างใหญ่โต แต่สมองคิดแค่นี้ บอกตรงๆ อนาจาร”

“คิดงานได้...มาก คือเด็กเล็กเด็กน้อยมาเดินห้าง แล้วเอาคนมาแก้ผ้ากลางห้างฯ นี่นะ สังคมไทยยังเสื่อมไม่พอใช่ป่ะ? วันงานเอาลูกมานั่งดูด้วยดิ!!”

“เป็นห้างฯ ของครอบครัว รู้ว่าไม่เหมาะสมต่อเด็กและเยาวชนแล้วทำทำไม”


(ผู้คนเข้ามารุมประณามใต้โพสต์งาน)


แม้แต่นางเอกสาวผู้รับงานอีเวนต์ในครั้งนี้และได้อยู่บนเวทีเดียวกับนายแบบเปลื้องผ้ารายดังกล่าวอย่าง “ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” ยังถึงกับอึ้งกลางงาน อ้าปากค้างขณะเห็นเพื่อนนายแบบถอดกางเกงว่ายน้ำเหลือแต่จับปิ้ง บอกเลยว่าเธอไม่รู้รายละเอียดว่าจะโป๊เปลือยกันขนาดนี้ ตอนรับงาน ทราบเพียงข้อมูลเบื้องต้นว่าจะมีการใส่ชุดกางเกงว่ายน้ำจีสตริง แต่ไม่คิดว่าจะโชว์กันรุนแรงขนาดนี้

หลังเกิดเหตุนางเอกสาวถึงกับอยู่ในอาการวิตกกังวลกลัวจะถูกเหมารวมไปด้วยว่ารู้เห็นเป็นใจ รับอีเวนต์เรียกเรตติ้งตัวเอง เรียกได้ว่าเหตุการณ์อีเวนต์เหนือความคาดหมายที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้จัดงานและเจ้าของพื้นที่เท่านั้น ยังส่งผลกระทบมาถึงตัวผู้รับงานที่ไม่ได้รับรายละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอด้วย



เมื่อทางทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live สอบถามความคิดเห็นไปยังแหล่งข่าววงในผู้คว่ำหวอดการจัดงานอีเวนต์ของเมืองไทย เกี่ยวกับในกรณีอื้อฉาวครั้งล่าสุดแล้ว เขามองว่ากรณีแฟชั่นโชว์สยิวกลางห้างฯ ดังที่เกิดขึ้นนี้จะทำได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของคนจัดงานและธีมงาน ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันมานาน บอกเลยว่าสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดในทุกครั้งที่ทำคือคำว่า "ขอบเขต" และ "ความเหมาะสม"

"สมมติเป็นธีมซัมเมอร์ มันไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ มันมีดีไซน์ของซัมเมอร์ตั้งหลายอย่างที่ยังทำได้ เช่น ใส่หมวก แว่นกันแดด หรือ Prop อย่างอื่นที่บ่งบอกถึงคำว่า “Summer” กรณีโชว์ครั้งนี้มองว่ามันน่ากลัวเกินไปค่ะ"




รอ สคบ.ฟันดาบ! ออร์แกไนซ์เน้น “เนื้อ-นม-ไข่”

“ห้ามโฆษณาหรือการใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมผู้บริโภค และเกิดผลเสียต่อสังคมโดยรวม เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิด กฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน”

พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ตามมาตรา 22 วรรค 3 ระบุเอาไว้ชัดเจนเกี่ยวกับ “การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการโฆษณา” ซึ่งกรณีการเปลือยกายกลางห้างฯ ดังนี้น่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อนี้ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ควรจะต้องเข้ามาดูแลจัดการประเด็นเดือดในครั้งนี้เพื่อเป็นบทเรียนแก่ทางผู้จัดงานอีเวนต์ลักษณะเดียวกันนี้ต่อไปในอนาคตว่า การออกมาแสดงความเสียใจและรับผิดชอบต่อการกระทำเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว แต่ในเมื่อผิดก็ต้องว่าไปตามผิดและควรได้รับการลงโทษตามกฎหมายที่ได้ระบุเอาไว้

กรณีอีเวนต์ฉาวลักษณะคล้ายกันนี้ในอดีต เคยมีโฆษณาครีมอาบน้ำของทางนีเวีย เคยว่าจ้างให้สุดยอดนางแบบ “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” มาทำท่าอาบน้ำอยู่ในตู้กระจกฝ้าซึ่งวางไว้บนรถปิกอัพแล้วขับวนรอบเมือง ถึงแม้ครั้งนั้นจะไม่ได้โป๊เปลือยจริงๆ เป็นเพียงแค่การใส่ชุดแนบเนื้อสีเนื้อ แต่ทางทีมงานทั้งหมดก็ยังถูกทาง สคบ.จับและปรับไปตามกฎหมาย

เมื่อเทียบกับอีเวนต์ฉาวกลางห้างฯ ดังในครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงและถูกพูดถึงอย่างอึกทึกครึกโครมยิ่งกว่า ทางหน่วยงานผู้รับผิดชอบจึงไม่ควรปล่อยผ่าน แต่ควรมอบบทลงโทษเพื่อแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้จัดการครั้งต่อๆ ไปไม่ว่าในบริษัทใดว่าควรคิดให้รอบคอบก่อนคิดและเซ็นอนุมัติ


(อีเวนต์ฉาวที่เคยถูกแบนในอดีต)


“ถ้าเทียบกัน กรณีนั้นอยู่บนถนน แต่อันนี้อยู่ในห้างฯ ยิ่งใกล้กับผู้คน เห็นได้ชัดกว่าอีก แถมไม่มีอะไรบังด้วย ส่วนที่ผู้จัดจะบอกว่าไม่รู้มาก่อนคงไม่ได้ เพราะมันคืออีเวนต์ซึ่งต้องมีการวางแผนทางการตลาดมาแล้วเป็นอย่างดีว่าจะขายของช่วง Summer นี้ยังไง สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นชัดๆ ว่ามันขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม

เรื่องนี้คนจัดอีเวนต์กับคนเซ็นอนุมัติต้องพิจารณาตัวเองแล้วล่ะ สำหรับคนคิดเรื่องนี้ออกมาก็ว่าหนักแล้วนะ คนที่อนุมัตินี่ยิ่งหนักกว่า คือถ้าเราเป็นเจ้าของแบรนด์แบรนด์หนึ่ง แล้วมีคนมาเสนอว่าจะจัดอีเวนต์โดยให้ผู้ชายใส่จีสตริงแล้วถอดออก เราก็จะไม่อนุมัติตั้งแต่เบื้องต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง ก็ต้องดูเรื่องดุลยพินิจให้ดี

จะมาให้ทาง สคบ.มาเฝ้าระวังไม่ให้เรื่องเกิดเรื่องแบบนี้คงไม่ไหว เพราะวันๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครจะลุกขึ้นมาแก้ผ้าวันไหน แต่เมื่อเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว ทุกคนเห็นแล้ว ทาง สคบ.ก็ต้องเห็นแล้วเหมือนกัน คราวนี้ก็ต้องดูว่าจะจัดการยังไงกันต่อไป” ผศ.ดร.ม.ล.วิฏราธร จิรประวัติ อดีตอาจารย์ประจำ สาขาวิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยวิเคราะห์



ถามว่าอะไรทำให้ยิ่งนับวัน อีเวนต์ในประเทศไทยยิ่งเน้นขาย “เนื้อ-นม-ไข่” กันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์มองว่าคงเป็นเพราะระดับความโป๊ของคนในยุคสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จะทำให้คนหันมาสนใจความโป๊ในระดับที่เรียกเสียงฮือฮาได้ นักการตลาดบางรายมองว่าคงต้องถึงขั้นเปลือยไปเลยถึงจะเป็น Talk of The Town

“เขาไม่ต้องใช้งบโฆษณาเลย แต่ได้ลงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ถ้าจะมองในแง่การตลาด ได้ครองพื้นที่สื่อในการโปรโมต ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ถ้าใช้ไม้บรรทัดอีกแบบหนึ่งวัด พูดถึงแง่ลบที่สะท้อนกลับมายังแบรนด์แล้วมันคุ้มมั้ย เพราะถึงจะได้ลงข่าวจริง คนสนใจจริง แต่มันก็เป็น Talk of The Town ด้านลบ คุณค่าความเป็นข่าวที่ได้กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ระยะยาวที่เสียไป บางครั้งมันไม่คุ้ม คิดดูว่าคนทั่วไปเห็นแล้วส่งต่อภาพนี้เยอะขนาดนี้ แสดงว่ามันไม่ปกติแล้วล่ะ มันเกินขอบเขตความพอดีไปเยอะแล้ว”

ส่วนคนที่แชร์ต่อกันมาก็ต้องตั้งสติให้ดีว่าจะ แชร์รับกระแสแค่เฮตามเขาไป หรือแชร์เพื่อให้เรื่องนี้ส่งไปถึงใคร หรือเพื่อให้แบรนด์ต่างๆ มองเห็นว่าผู้บริโภคไม่เห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน ถ้าแชร์กันจนไปถึงคนที่มีอำนาจสั่งการหรือระดับผู้บริหารได้ มันก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่สังคมจะได้เรียนรู้บทเรียนนี้ไปพร้อมๆ กัน

ปรากฏการณ์แชร์ระบาดสนั่นเน็ตในครั้งนี้ ถือว่าภาคประชาชนได้ทำหน้าที่ส่งเสียงผ่านโลกออนไลน์เพื่อร้องเรียนในส่วนของตัวเองแล้ว ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับเรื่องที่ลูกบ้านช่วยชงไปให้มาจัดการได้มากน้อยแค่ไหน คงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์การทำงานว่าจะปล่อยผ่านหรือจะช่วยสร้างกรอบศีลธรรมอันดีงามให้เด่นชัดมากขึ้น จะได้ไม่ต้องมาคอยย่ำซ้ำรอยความเสื่อมกันอย่างทุกวันนี้


Create Date : 26 มีนาคม 2558
Last Update : 26 มีนาคม 2558 21:34:46 น. 0 comments
Counter : 2953 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]