เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?


เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
“เมญ่า” นนธวรรณ ทำดีที่สุดรอบ 11 คนสุดท้าย

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
แฟนๆ เห็นใจ “เมญ่า” ไม่ผ่านกระทั่งรอบ 25 คน ก่อนจะเข้ารอบ 11 คนด้วยเสียงโหวต

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
สาวงามตัวแทนอังกฤษที่เข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้าย

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
“จูเลียร์ มอร์ลีย์”ผู้ชี้ขาดตำแหน่ง “มิสเวิลด์”?

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
ท่าทางของ “จูเลียร์ มอร์ลีย์” หลัง “เมญ่า” ซึ่งต่อมามีผู้อธิบายว่าเธอพยายามสั่งงานทีมงานเกี่ยวกับขั้นตอนของการประกวดเท่านั้น

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
สาวจีน เจ้าของมิสเวิลด์ เมื่อปี 2012 ในการประกวดที่จีนแผ่นดินใหญ่

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
“มิสเวิลด์”ไม่เคยกลัวความอื้อฉาว ทั้งการประกวดที่ไนจีเรียเมื่อปี 2002 และอินโดนีเซียเมื่อปีก่อน ที่ถูกกลุ่มเคร่งศาสนาในประเทศดังกล่าวประท้วงต่อต้านการประกวดอย่างหนัก

เหนื่อยเปล่า “ไทยแลนด์” !? หรือชาตินี้จะไม่มีหวังมงกุฎ “มิสเวิลด์”?
เจ้าของตำแหน่งประจำปีนี้ที่หลายฝ่ายก็มองว่าเหมาะสมดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า "แอฟริกาใต้" คือตลาดใหญ่ของ มิสเวิลด์ด้วย

เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวด “มิสเวิลด์” พร้อมกับความผิดหวังของแฟนนางงามไทย จนเริ่มมีเสียงบ่นด้วยความเซ็งกันออกมาแล้วว่าชาตินี้สาวไทยคงไม่มีหวังสำหรับตำแหน่ง “มิสเวิลด์”

“เมญ่า” นนธวรรณ ทองเหล็ง เดินทางไปประกวด มิสเวิลด์ ที่ประเทศอังกฤษด้วยความหวังของคนไทยชนิดสูงลิ่ว ก่อนจะเข้าไปถึงรอบ 11 คนสุดท้ายด้วยเสียงโหวตของชาวเน็ต จนได้ตำแหน่ง People's Choice ที่ทำให้เข้ารอบไปโดยอัตโนมัติ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเผ่าเข้าไปยืนเป็น 5 คนสุดท้ายอย่างที่ทุกๆ คนหวังได้

       แม้จะทำผลงานได้ดีจนเข้ารอบ 11 คนสุดท้ายแต่ชาวไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ติดตามการประกวดอย่างใกล้ชิด ก็ยังแสดงความผิดหวังออกมาอยู่ดี ทั้งกับการที่ เมญ่า พลาดการเข้ารอบ 25 คนสุดท้ายอย่างขัดสายตา นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงกติกาจากปีก่อนที่ผู้ได้ตำแหน่ง People's Choice จะได้เข้ารอบไปสมทบกับสาวงาม 5 คนสุดท้าย แต่ในปีนี้ที่ เมญ่า ได้ตำแหน่งกลับเปลี่ยนให้ People's Choice เข้าไปพร้อมกับ 10 คนสุดท้ายแทน

       ซึ่งความ “ไม่สมเหตุสมผล” หลายๆ อย่างของการประกวดของทั้งปีนี้ และปีก่อนทั้งผลที่ค้านสายตา และการเปลี่ยนกติกาจำนวนผู้เข้ารอบ จนแทบจะไม่เหมือนกันซักปี จนทำให้เกิดความสับสนมาตลอด ได้ทำให้ มิสเวิลด์ ต้องตกเป็นที่วิจารณ์อีกครั้ง นอกจากนั้น และผู้ชมบางส่วนก็ยิ่งรู้สึกว่าการประกวดเวทีนี้ “ไม่น่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ”

ย้อนรอยสาวไทยบนเวที “มิสเวิลด์”

       มิสเวิลด์ ได้ชื่อว่าเป็นเวทีประกวดความงามที่สำคัญที่สุดของโลก เทียบเท่ากับ “นางงามจักรวาล” ซึ่งประเทศไทยเริ่มส่งสาวงามไปประกวด มิสเวิลด์ เป็นครั้งแรกในปี 1985 (2528) พร้อมกับการจัดประกวด “มิสเวิลด์ไทยแลนด์เวิลด์” ซึ่งก็อย่างที่รู้กันยังไม่เคยมีสาวไทยคว้ามงกุฎในการประกวดเวทีนี้ได้แต่อย่างใด

       โดย ปานเลขา ว่านม่วง เป็นสาวไทยคนแรกที่ไปขึ้นเวทีประกวด มิสเวิลด์ ส่วน “เฮเลน ปทุมรัตน์” และ “ แทน ธัญญา” คือ 2 คนที่ไปได้ไกลที่สุดบนเวทีนี้ ด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ นอกจากนั้นก็ยังมีตัวแทนไทยที่คว้ารางวัล เข้ารอบได้บ้างประปราย

1989: เฮเลน ปทุมรัตน์ วรมาลี - รองอันดับ 3, Continental Queen of Asia
       1992: ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม - Continental Queen of Asia & Oceania
       1997: แทน ธัญญา สื่อสันติสุข - รองอันดับ 4, นางงามมิตรภาพ
       2010: หนูสิ สิริรัตน เรืองศรี - ข้ารอบ 25 คนสุดท้าย
       2011: จูลี่ พัชริดา รอดคงคา - เข้ารอบ 31 คนสุดท้าย
       2014: เมญ่า นนธวรรณ ทองเหล็ง - เข้ารอบ 11 คนสุดท้าย, People's Choice


       เรียกว่าแม้จะเข้ารอบลึกๆ ได้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เคยมีสาวไทยคนใดคว้ามงกุฎของเวทีนี้ได้เลย

มนุษย์ป้า “จูเลียร์ มอร์ลีย์” ผู้ชี้ขาดตำแหน่ง “มิสเวิลด์”

       ซึ่งเมื่อใดที่เกิดเสียงวิจารณ์ในแง่ลบเกี่ยวกับผลการตัดสินตำแหน่ง “มิสเวิลด์” ชื่อของ “จูเลียร์ มอร์ลีย” เจ้าของตำแหน่งประธานบริหารของเวทีประกวดสถาบันนี้ก็จะถูกพูดถึงทุกครั้งเสมอ เพราะแม้เธอจะไม่มีตำแหน่งเป็นกรรมการตัดสินหรือให้คะแนนสาวงาม แต่หลายๆ คนก็เชื่อว่าเธอนี่แหละคือคนชี้ขาดผู้คว้ามงกุฏตัวจริง

       จูเลียร์ มอร์ลีย ชาวอังกฤษ เคยทำงานเป็นนางแบบก่อนจะได้แต่งงานกับ อีริค มอร์ลีย นักธุรกิจเจ้าของแดนซ์ฮอลล์ Mecca Dancing ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการประกวด มิสเวิลด์ ขึ้นเมื่อปี 1951 ซึ่งเมื่อสามีเสียชีวิตเมื่อปี 2000 จูเลียร์ มอร์ลีย จึงได้โอกาสเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานของการประกวดแทน หลังจากช่วยงานมาตั้งแต่ยุค 60s แล้ว

       หญิงชาวอังกฤษวัย 74 ปี บอกว่าตอนที่เริ่มเข้ามาทำงานกับกองประกวดมิสเวิลด์หลังแต่งงานกับ อีริค มอร์ลีย เธอเป็นแค่แม่บ้านที่แทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจเลย แต่ก็คิดว่าการประกวดที่ให้ผู้หญิงมาสวมชุดว่ายน้ำเดินหันหน้าหันหลัง ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่พอเพียง จึงพยายามเริ่มนำเสนอแนวคิดที่ต่อมากลายเป็นคำขวัญประจำการประกวดที่ว่า “งามอย่างมีคุณค่า” ขึ้นมา (Beauty with a Purpose) และยังเน้นให้ มิสเวิลด์ เป็นการประกวดที่ส่งเสริมกิจกรรมการกุศลเป็นหลัก ซึ่ง มอร์ลีย์ ก็อ้างว่าเธอสามารถเรี่ยไรเงินในตลอด 40 ปีที่ผ่านมาได้ถึง 300 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

       แม้จะเป็นองค์กรที่ใหญ่มากไปแล้ว จูเลียร์ มอร์ลีย์ ก็ยอมรับว่าเธออยากจะให้การบริหารงาน มิสเวิลด์ อยู่ในรูปแบบเรียบง่ายเล็กๆ กะทัดรัดมากกว่า

       “ฉันไม่ชอบให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรใหญ่ๆ อะไรแบบนั้น เพราะมันทำให้ไม่สามารถตัดสินใจอะไรอย่างยืดหยุ่นได้” มอร์ลีย์ กล่าวยอมรับในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง พร้อมอ้างว่าตอนนี้เธอเป็นคนตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของ มิสเวิลด์ด้วยตัวเอง โดยไม่มีกรรมการบริหาร หรืออะไรที่อาจจะทำให้เกิดเรื่องไร้สาระขึ้นได้ง่ายๆ มอร์ลีย์ จึงเลือกที่จะบริหารงานทั้งหมดผ่านทีมเล็กๆ ที่คล่องตัวของเธอมากกว่า

จอมสร้างกระแส

       นอกจากนั้นตลอดมาการบริหาร มิสเวิลด์ ของ จูเลียร์ มอร์ลีย์ กลับก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักเสมอมา

       นอกจากประเด็นการเลือกผู้คว้ามงกุฎโดยอิงเรื่องธุรกิจ และการเมืองเป็หลักแล้ว มิสเวิลด์ ยังต้องตกเป็นที่วิจารณ์เกี่ยวกับการเลือกประเทศสำหรับการจัดประกวดที่มีโอกาสทำให้เกิดความอื้อฉาวขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นไม่ว่าจะเป็นการเลือกให้เมืองอบูจา ไนจีเรีย เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2002 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จนเกิดการประท้วงอย่างหนัก ถึงขั้นสุดท้ายกองประกวดต้องเหมาเครื่องบินเพื่อขนผู้เข้าประกวดหนีออกจากไนจีเรีย และเปลี่ยนไปจัดการประกวดที่อังกฤษแทน

       ส่วนในปี 2012 มิสเวิลด์ก็เลือกกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของ อินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมให้เป็นเจ้าภาพ จนเกิดการประท้วงอย่างใหญ่โตขึ้นในท้องถนนของกรุงจาการ์ตา สุดท้ายการประกวดจึงต้องย้ายกันไปจัดที่บาหลี เมืองท่องเที่ยว และในปี 2015 มิสเวิลด์ ก็จะขอกลับไปจัดประกวดกันที่บาหลีอีกครั้ง ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงมาก ว่าจะทำให้เกิดกระแสประท้วงขึ้นมาอีก

“ไทยแลนด์” ตลาดเล็ก-โอกาสน้อย

       มิสเวิลด์ ภายใต้การนำของ จูเลียร์ มอร์ลีย์ ยังถูกวิจารณ์ว่าตัดสินการประกวดโดยอิงเรื่องธุรกิจเป็นหลักจนแทบจะทำลายความน่าเชื่อถือของการประกวด และสร้างความเบื่อหน่ายให้กับกองเชียร์ของประเทศต่างๆ อยู่เสมอ

       โดยที่แล้วมาตัวแทนจากประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น “ตลาดหลัก” ก็มักจะได้ครองตำแหน่งสำคัญๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ที่ปีนี้ก็ยังเข้าถึงรอบ 5 คนสุดท้ายได้ แม้จะโดนวิจารณ์ว่าไม่ได้มีความเหมาะสมเลยก็ตาม, ส่วนจีนที่เป็นเจ้าภาพการประกวดถึง 7 ครั้ง (ทั้งรอบสุดท้าย และรอบอื่นๆ) ก็คว้ามงกุฏมิสเวิลด์ได้ถึง 2 ครั้งในรอบ 10 ปีหลัง โดยทั้งสองครั้งก็ยังเป็นการจัดประกวดที่จีนทั้งคู่ด้วย

       หรือแม้แต่ แอฟริกาใต้ ที่เป็นเจ้าของตำแหน่งครั้งล่าสุด ก็ได้ชื่อว่าเป็นตลาดสำคัญของมิสเวิลด์เช่นเดียวกัน เพราะ มิสเวิลด์ เคยใช้แอฟริกาใต้เป็นสถานที่จัดการประกวดมาถึง 7 ครั้งเช่นเดียวกัน

       สำหรับประเทศไทยซึ่งไม่ใช่ตลาดสำคัญสำคัญสำหรับ “มิสเวิลด์” แถมกระแสธุรกิจประกวดสาวงามในประเทศก็ไม่ใช่ยุครุ่งเรืองเหมือนเพื่อนบ้านอย่าง “ฟิลิปปินส์” ที่เพิ่งจะคว้าตำแหน่งไปเมื่อปีก่อน นอกจากนั้นยังไม่เคยมีบริษัทไทยไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับการประกวด หรือทำธุรกิจร่วมกับองค์กรผู้จัด “มิสเวิลด์” มาก่อน จึงพูดได้ว่าโอกาสของ “ไทยแลนด์” บนเวทีนี้จริงนับว่าน้อยจริงๆ

…. แน่นอนว่าผู้ชมการประกวดความงามส่วนใหญ่เข้าใจถึงข้อเท็จจริงนี้ แต่การตัดสิน และขั้นตอนต่างๆ ที่ทำให้เกิดคำถามต่างๆ มากขึ้นในทุกๆ ปี ก็เริ่มจะทำให้ผู้ชมเริ่ม “หมดสนุก” กับ “มิสเวิลด์” ไปเรื่อยๆ



Create Date : 16 ธันวาคม 2557
Last Update : 16 ธันวาคม 2557 8:07:12 น. 0 comments
Counter : 1453 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]