เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

ฝรั่งงง! 'นกกระติ๊ดฯ ในถุงพลาสติก' ไถ่ชีวิตสัตว์ป่าคุ้มครองฯ ไถเงินคนหิวบุญ


หรือในกรงขังยังมีพื้นที่สยายปีกให้รู้สึกอิสระ คนใจหยาบจึงจับพวกมันใส่ในถุงพลาสติกขนาดพอดีตัว มัดรวบปากถุง เจาะรูระบายอากาศเป็นนัยยื้อชีวิต เร่ขาย.. เฝ้ารอ.. ผู้มีจิตเป็นกุศลที่จะสละเงิน ต่อลมหายแก่ชีวิตนกน้อยราวกับชีวิตของพวกมันอยู่ในกำมือของท่าน!

'นกกระติ๊ดขี้หมู' นกตัวเล็กลักษณะคุ้นตาที่ถูกนำมาเร่ขายตามวัดหรือแหล่งบุญแหล่งกุศล สัตว์สงวนที่ถูกจองจำอยู่ในวงจรอุบาทว์ แน่นอน การปล่อยคืนสู่ธรรมชาติถือเป็นสัญลักษณ์ของมหากุศล เพราะมีความเชื่อสืบกันมาว่าอิสรภาพที่พวกมันกำลังจะได้รับ จะส่งผลให้ผู้ที่ควักเงินไถ่ชีวิตได้รับผลบุญไปด้วย

ยิ่งพิจารณาถึงนิสัยขี้สงสารบวกกับความเมตตาของคนไทยน่าจะเป็นจุดสำคัญ ที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหัวใสหันมาเร่ขายดราม่าเพื่อแลกกับบุญกุศล โดยเฉพาะในกลุ่มสัตว์ที่ตกเป็น 'เหยื่อบุญ' ของมนุษย์ อันจะเห็นได้ว่าตามวัดวาอาราม หรือสถานที่คนพลุกพล่านแหล่งสำคัญ จะต้องมีกิจกรรมสร้างกุศล ไถ่ชีวิตสัตว์ ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ฯลฯ ให้ผู้กระหายบุญควักเงินไถ่ชีวิตสัตว์เหล่านี้ หนักไปกว่านั้นคือสัตว์บางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยเฉพาะ นกกระติ๊ดขี้หมู ที่เป็นที่นิยมลักลอบนำมาเร่ขายในธุรกิจบาปจำพวกนี้

นกตัวเป็นๆ อยู่ในถุงแกง
เป็นอีกครั้งที่ชาวชาติโยนคำถามสู่สังคมไทย ผ่านเฟซบุ๊กของ David Lewis โดยเขาทำการโพสต์ภาพถ่ายของ นกกระติ๊ดขี้หมู (สัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทนก ลำดับที่ 62ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า) ลักษณะถูกรวบลงในถุงใส่แกง 1ตัว 1 ถุง แน่นอนทุกตัวยังคงมีหายใจอยู่ เพราะพวกมันตกเป็นเหยื่อของคนใจบาปถูกจับมาเรียกค่าไถ่จากคนจิตอ่อน หรือจะเหมาร่วมเรียกว่า คนใจบุญ ก็คงไม่ผิดเท่าใดนัก โดยมีป้ายกำกับราคาชีวิตละ 35 บาท

ทิ้งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ ว่าเมืองไทยซื้อขายสัตว์ปีกที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายได้อย่างง่ายดาย แต่ดูช่างน่าเวทนาได้เพียงนี้เชียวหรือ สำหรับคนไทยได้เห็นภาพแล้วคงเดากันไม่ยากว่านกพวกนี้ตกเป็นเหยื่อในธุรกิจอุบาทว์ ที่รอผู้กระหายบุญมาไถ่ชีวิตด้วยเงิน แล้วปล่อยนกคืนสู่ธรรมชาติ

ในเวลาถัดมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pimpakharn Petpichetchien ได้ทำการโพสต์ข้อความพร้อมแชร์ภาพดังกล่าว ความว่า
“ฝากแชร์ ถ้าไม่ใช่นกกระจอก ใครเจอนกหน้าตาแบบนี้แจ้งจับได้เลยนะ ในภาพคือนกกระติ๊ดขี้หมู (Lonchura punctulata) อยู่ใน พ.ร.บ. สัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทนก ลำดับที่ 62 ทำไมต้องทรมานกันสัตว์สัตว์ขนาดนี้ เอาใส่ถุง เจาะรูเล็ก ๆ แต่มันจะช่วยได้แค่ไหน อากาศที่หายใจเข้าไปจะพอมั้ย เห็นนกนอนหลับตา ถ้าให้เดาคงถอดใจที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว (ดูดคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ เข้าตัว) ใครเจออย่าซื้อนะ แจ้งตำรวจจับก่อนเลย แจ้งได้นะ (ติด พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ป่า) มีน้องที่รู้เรื่องสัตว์ป่า บอกมา”

ด้านชาวโซเชียลมีเดีย ก็แสดงความคิดเห็นต่อภาพถ่ายดังกล่าวไปในทำนองตำหนิติเตียน

“ใส่ถุงกันแบบนี้เลยเหรอ โห! นกมันต้องอยู่บนท้องฟ้าสิ” ข้อความจากคุณ Palace Empty
“ทุกชีวิตก็รักตัวเองด้วยกันทั้งนั้น” ข้อความจากคุณ Mookravee Posaraj
“เศร้า” ข้อความจากคุณ PrincessPat Jotivudh
“จะได้ไหมบุญอะ ส่งเสริมบาปชัดๆ” ข้อความจากคุณ Mayom Limmaneeprasert
“น่าจะมีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ หรือ กฎหมายหากขาดจริยธรรม ความเมตตา ก็จับและบทลงโทษแบบเดียวกัน” ข้อความจากคุณ Ching Sirikorn Nice
“เศร้าใจจัง T___T // หยุดซื้อ = หยุดขาย = หยุดฆ่า” ข้อความจากคุณ Speedman Speedordeath

ครอบครองในมือ ถูกจับทันที
ข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอธิบายว่า ผู้ค้านกกระติ๊ดขี้หมูมีความผิดทางกฎหมายเพราะมันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ขณะที่ผู้ใจบุญที่จ่ายเงินไถ่ชีวิตนกประเภทนี้ ทันทีที่ไถ่ถอนเตรียมปล่อยมันคืนสู่ธรรมชาตินั่นเท่ากับว่าคุณกระทำผิดกฎหมายเช่นกัน หากเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับกุมได้ทันที

พ.ต.ท.มงคล พรานสูงเนิน รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบายว่า นกกระติ๊ดขี้หมูที่ลักลอบขายเพื่อปล่อยเป็นบุญเป็นกุศลนั้น ส่วนใหญ่ถูกจับมาจากแถบจังหวัดสระบุรี โดยพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกจับกุมให้ข้อมูลว่า นกกระติ๊ดขี้หมูเหล่านี้ไปแทะเล็มต้นข้าวที่ชาวนาปลูกไว้เป็นที่เดือดร้อน จึงทำให้ต้องดักจับพวกมันและกันออกจากพื้นที่

ในส่วนนี้กลายเป็นกระบวนการที่มีพ่อค้าคนกลางเข้าไปรับซื้อ สนนราคาตัวละ 3 - 5 บาท แล้วนำมาค้าขายไถ่ชีวิตให้ทำบุญตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงราคาตัวละ 10 - 15 บาท หรือมากกว่านั้นแล้วแต่แหล่ง

พ.ต.ท.มงคล ยืนยันว่ากลุ่มผู้ค้าสัตว์ปล่อยเพื่อทำบุญนั้นทราบดีอยู่แล้วว่านกกระติ๊ดขี้หมูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้ใดครอบครอบมีโทษตามกฎหมาย ตรงนี้จึงทำในลักษณะลักลอบขายเสียมากกว่า ถ้าสังเกตตามวัดวาอารามพ่อค้าแม่ค้าจะไม่นำนกกระติ๊ดขี้หมูมาขายแล้ว จะเลี่ยงเป็นนกประเภทอื่น และเป็นจำพวกปลาหรือเต่าแทน

ทั้งนี้ โทษฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

“มันผิดกฎหมาย อย่าไปซื้อนกประเภทนี้กัน คือถ้าคุณซื้อเท่ากับว่าคุณกำลังส่งสริมธุรกิจประเภทนี้ด้วยนะ ทำบุญด้วยประเภทอื่นดีกว่า การปล่อยนก นกกระติ๊ดเนี่ยมันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองคนปล่อยนกก็อาจจะผิดได้ คนขายก็เช่นเดียวกัน คนขายรู้อยู่แล้วว่าผิด”

พ.ต.ท.มงคล ทิ้งท้ายว่า หากผู้ใดพบการขายนกกระติ๊ดสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นต่างโดยเชื่อว่าถึงอย่างไรก็ก็ได้ทำบุญ “จ่ายเงินไถ่ชีวิตสัตว์เหมือนจะดีนะ แต่กลับเป็นการสนับสนุนให้มีการจับสัตว์มาเป็นตัวประกันต่ออีกหลายตัวแทน แต่ถ้าคิดว่าฉันไม่สนฉันรู้สึกดีฉันได้บุญ ก็ทำต่อไป” ข้อความจากคุณ KeyboardWarrio

“ถ้าคุณอยู่ในคุกรอประหารชีวิต แล้วอยู่ดีๆมีคนมาปล่อยคุณ คุณจะมีความสุขไหมครับ สัตว์พวกนั้นก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน ตายนั้นเป็นของแน่นอนอยู่แล้วครับ ซื้อจากที่เค้าไว้จะฆ่าแล้วไปปล่อยนั้นดีที่สุด การปล่อยนี้ได้กุศลในจิตครับ” ข้อความจากคุณ atmnumber

เจตนาดี แต่เบียดเบียนเขา
พิจารณาในเรื่องของบุญบาปตามหลักพุทธศาสนา พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เคยให้สัมภาษณ์ในประเด็นการปล่อยนกไว้อย่างมีแง่คิดสอนใจ ความว่า คนทำบุญปล่อยสัตว์ต้องมีความคิดรอบคอบจึงจะได้บุญอย่างแท้จริง แต่ถ้าไม่คิดให้รอบคอบหรือคิดตื้นๆ ว่าทำเพื่อให้ตัวเองสบายใจเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำไปนั้นเป็นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นก็จะกลายเป็นบาป ซึ่งเรียกว่าเป็นการทำบุญที่ไม่ฉลาด ผู้ทำบุญปล่อยสัตว์ต้องมีปัญญาและมีจิตกุศลถึงพร้อม คือไม่ทำให้ชีวิตผู้อื่นได้รับความทุกข์ทรมาน

พระพยอม กล่าวว่า กรณีทำบุญปล่อยนกเป็นบาปทั้งคนขายและคนปล่อย เพราะส่งเสริมให้คนจับนกจากทุ่งนาต่างจังหวัด แต่ขายในกรุงเทพฯ นกก็ปรับตัวไม่ได้ ไม่คุ้นเคยในเมืองที่มีแต่ตึก จึงหาอาหารกินไม่ได้ ในที่สุดนกก็ตาย ดังนั้นจึงขอเตือนชาวพุทธไม่ควรสนับสนุนให้เกิดวงจรธุรกิจบาป

โดยจับนกมากักขังอยู่ในกรงหมดอิสรภาพเพื่อให้คนปล่อยเอาบุญ ซึ่งการปล่อยสัตว์แบบนี้ไม่ใช่บุญตามหลักพระพุทธศาสนา นอกจากกรณีปล่อยนกกระจิบนกกระจาบแล้วก็ยังมีคนปล่อยเต่าบกลงในน้ำ ก็ทำให้เต่าตายเช่นกัน ซึ่งเป็นการทำบุญที่ไม่ฉลาด การทำบุญปล่อยสัตว์ที่ฉลาดคือ ต้องปล่อยให้สัตว์ได้อยู่ตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและเกื้อกูลกับชีวิตสัตว์นั้นๆ

"เราต้องช่วยกันให้นกมีชีวิตอยู่อย่างอิสระตามธรรมชาติมากขึ้น การปล่อยสัตว์ถือเป็นบุญเล็กๆ น้อยๆ หากเทียบกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งมีอานิสงส์เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ดังนั้นในวันมาฆบูชาจึงขอเชิญชวนให้ชาวพุทธรักษาศีล สมาธิ ปัญญา และการเจริญสติ ซึ่งได้บุญกุศลมากกว่าการปล่อยสัตว์"

ไม่ต่างต่าง พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ที่ฝากแง่คิดในประเด็นการทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์ ความว่า การทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ เราจะต้องทำด้วยจิตมุ่งเป็นกุศลจริง ๆ หมายความว่าเราอยากจะช่วยเหลือเกื้อกูลสัตว์จริงๆ แต่ว่าถ้าเราเอาสัตว์มาปล่อยแล้วเราก็อธิษฐานว่า สาธุ ขอให้การปล่อยนี้ ขอให้อายุยืน ขอให้ถูกหวย ขอให้หายซวย สิ่งนี้ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ เพราะว่าเจตนาไม่เป็นกุศล เพราะเจตนาที่เป็นกุศลหมายความว่า เราเห็นเขาตกทุกข์ได้ยากแล้วต้องการจะช่วยเหลือให้เขาพ้นจากความทุกข์ยากลำบาก โดยที่ไม่ได้ร้องผลตอบแทนอะไรเลย

ท่าน ว.วชิรเมธี ฝากแง่คิดทิ้งท้าย เมื่อเจตนาเราเป็นกุศลมันจึงจะเป็นบุญ แต่ถ้าเรามีเจตนาเคลือบแฝง เช่น ปล่อยเขาเพื่ออยากให้เราดีขึ้น เพื่ออยากให้เราหายทุกข์ หายโศก หายซวย อย่างนี้มันไม่ใช่การทำบุญ แต่เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นการลงทุนทางจิตวิญญาณก็ได้ เพราะเจตนาของเราจริงๆ ไม่ได้ต้องการช่วยเหลือเขา แต่ต้องการช่วยตัวเองต่างหาก โดยยืมชีวิตเขามาเป็นเครื่องมือ

…................................
เรื่องโดย ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live



       ขอบคุณภาพประกอบ จากบล๊อค oknation@charlee BlueHill




Create Date : 13 พฤษภาคม 2557
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 21:41:01 น. 0 comments
Counter : 1929 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]