จักษุโภชนา! 5 เมนูบำรุงตา/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช โฟลี แบแยร์(Folies Bergere) เป็นโรงโชว์วาไรตี้หวิวของปารีสที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก จนแม้สมัยหนึ่งไทยเราก็เอาแบบอย่างมาสร้างเป็น ระบำนายหรั่ง ที่คุณปู่คุณย่ายุคสงครามโลกรู้จักกันดี ครั้งหนึ่งที่โฟลีแบแยร์นำของจากโรงละครออกมาประมูลเพื่อหารายได้ ปรากฏว่าของที่ได้ราคาประมูลสูงที่สุดก็คือ เก้าอี้ช่างไฟ ครับ เพราะตำแหน่งเดิมของมันที่อยู่สูงเหนือเวที จึงมองลงมาเห็นความเป็นไปทั้งในโรงละครและในห้องแต่งตัวของนางระบำ ทำกำไรให้คนหัวใสอย่างคาดไม่ถึงครับ จะเห็นว่าคุณภาพชีวิตส่วนหนึ่งของมนุษย์คือ การมองเห็น โดยเฉพาะเรื่องสายตาที่ขาดไม่ได้ แต่เมื่อถึงวัยหนึ่งก็ไม่อาจเลือกได้ เพราะจะเกิดความเปลี่ยนแปลงแบบ ตามวัย โดยเฉพาะเมื่ออายุย่างเข้า เลขสี่ อาการที่อาจมีได้ก็ตั้งแต่มองใกล้ไม่ชัด สายตายาว แม้มองไกลก็ไม่คมกริบดีนักเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนั้นยังมีอาการจุดรับภาพตาเสื่อมและวุ้นนัยน์ตาเสื่อม ที่มีอาการน่ารำคาญอย่างมองเห็นจุดดำๆ ราวกับหยากไย่หรือแมลงหวี่ที่บินลอยไปมาในลูกตา เวลากลอกตาก็ยังเห็นจุดดำตาม นี่คือส่วนหนึ่งของความเสื่อมจาก สุขภาพตา >>5 เมนูบำรุงตา ที่หาได้(ในครัว) งานวิจัยชิ้นสำคัญเกี่ยวกับลูกตาและวิตามินก็คือ ARED study ที่นักวิชาการเรื่องตาย่อมรู้จักดีเพราะเป็นการศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของวิตามินที่กินแล้วช่วยบำบัดอาการ เสื่อม ของตาได้ โดยเฉพาะวิตามินที่ชื่อ ลูทีน(Lutein) กับ ซีแซนทิน(Zeaxanthin) โรคตาที่ได้อานิสงส์จาก 2 วิตามินนี้มากก็คือ จุดรับภาพตาเสื่อม(AMD) ครับ มีอาการคือเห็นภาพแหว่งไปไม่ชัดเจนโดยเฉพาะตรงกลางจุดโฟกัสเวลาเรามอง ท่านที่เป็นน่าเห็นใจมากครับเพราะมองหน้าจอก็ไม่ชัด หรือจะอ่านหนังสือก็แหว่งไปมาน่ารำคาญ ที่สำคัญคือ รักษาไม่หาย แต่ไม่นานนี้มีข่าวดีให้มีเฮเมื่องานวิจัยระดับสเกลใหญ่อย่าง AREDS ชี้ว่า มีวิตามินที่เป็นดั่งแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้ ซ้ำยังสามารถหารับประทานได้ทั้งแบบเสริมและอาหารสดที่ปรุงได้เอง ซึ่งการรับประทานอาหารบำรุงตาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เห็นโลกสดใสขึ้นได้นะครับ ดังตัวอย่างเมนูที่ลองคิดมาแนะนำต่อไปนี้ครับ 1) เมี่ยงปลาทูผักคะน้า ทำเองได้สบายๆ ใช้เวลาไม่นานด้วยครับ วัตถุดิบหลักๆ มีเพียงผักคะน้า, ปลาทู และน้ำเมี่ยงที่ท่านเลือกปรุงได้ตามสูตรที่ชอบเลยครับ พระเอกของงานนี้อยู่ที่ผักคะน้าที่มีวิตามินเอและวิตามินบำรุงตาสูง ส่วนปลาทูมี แอสต้าแซนทิน เป็นตัวช่วยล้างพิษจากอนุมูลอิสระที่ดวงตา 2) ซุปข้าวโพดม่วง ทำแบบซุปข้าวโพดทั่วไปแค่ใส่แป้งให้น้อยหน่อย โดยรสชาติและเนื้อสัมผัสของซุปข้าวโพดเป็นของโปรดคนทุกวัยอยู่แล้ว ขอให้ลองนำข้าวโพดม่วงมาทำซุปแบบเดียวกันดู เพราะข้าวโพดม่วงมีสาร ซีแซนทิน ที่กินช่วยบำรุงตาอยู่เยอะมาก ส่วนในสีม่วงของมันคือ ธาตุม่วงต้านร่วงโรย ที่ชื่อจริงคือ OPCs เป็นวิตามินแบบเดียวกับที่มีในสารสกัดเมล็ดองุ่น ซึ่งท่านสามารถทำทานเองได้ในบ้านครับ 3) ยำผักหวาน ฤดูไหนมีผักหวานมากให้หาซื้อมาทำสลับเมนูกันกินเลยครับ ซึ่งเมนูง่ายอย่างหนึ่งก็คือยำผักหวานที่ขอให้ท่านเพิ่มคุณค่าการบำรุงดวงตาโดยซอยหอมแดงใส่และใส่ถั่วลิสงเข้าไปด้วยครับ เพราะผักหวานมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันวุ้นในตาเสื่อมได้ นอกจากนั้นยังมีวิตามินซีในเมนูนี้มากช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจก (Cataract) ที่ทำให้ต้องผ่าตัดเปลี่ยนอะไหล่ เอ๊ย
เลนส์ตากัน 4) ปวยเล้งผัดน้ำมันหอย อาหารง่ายๆ ที่รับประทานร้อนๆ อร่อยมาก และทำทานกันง่ายๆ ในครอบครัวครับ ปวยเล้งมีฤทธิ์ช่วยป้องกันจอตาตรงที่มี ลูทีน อยู่สูง ส่วนในน้ำมันหอยก็มี โอเมก้า3 กับ วิตามินอี ที่ช่วยบำรุงจอประสาทตา นอกจากนั้นยังช่วยลดการอักเสบให้ตาด้วย เหมาะกับท่านที่มีปัญหา ภูมิแพ้ขึ้นตา พาให้รำคาญอยู่บ่อยครั้งได้ครับ 5) ซุปเห็ดหอมเก๋ากี้ เมนูนี้รับประทานร้อนๆชื่นใจและช่วยเจริญอาหารมากครับ ผู้ใหญ่ทานได้สบาย ซึ่งของดีในงานนี้คือ เก๋ากี้ ที่มีชื่อเก๋ๆ วัยรุ่นชอบว่า โกจิเบอรี่(Goji berry) ที่จริงแล้วก็คือ เม็ดสมุนไพรจีนเล็กๆสีส้มแดงที่ใส่ในต้มจืดทั้งหลาย ไม่ว่าจะไก่ต้มฟัก, เป็ดตุ๋นมะนาวดอง หรือแกงจืดธรรมดา ซึ่งงานนี้เก๋ากี้มีดีตรงที่มีสาร โพลีฟีนอลส์(Polyphenols) บำรุงตาเช่นเดียวกับเบอรี่สกัด แต่สบายกว่าตรงที่คุณแม่สามารถระดมใส่เก๋ากี้ให้ได้ประโยชน์แบบเต็มๆตามใจได้เลยครับ ทั้ง 5 เมนูเป็นเมนูสุดคุ้มสำหรับดวงตา เพราะว่ารวมเอาวิตามินที่จำเป็นสำหรับสุขภาพตาไว้ ไม่ว่าจะเป็น โอเมก้า 3(แก้ตาแห้ง), วิตามินเอ, ลูทีน และซีแซนทิน อีกทั้งยังมีซุปเปอร์วิตามินอย่าง แอสต้าแซนทิน และ โพลีฟีนอลส์ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระถนอมสุขภาพให้กับดวงตาที่ถูกใช้งานมานานจนตลอดชีวิต ที่สำคัญคือ หาง่ายแบบไม่ต้องเลือดตากระเด็น
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2558 22:16:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1078 Pageviews. |
|
|
|
|
| |