Group Blog
สาปรัก...บท 1/1
ปฐมกาล มองสาวข้างกายด้วยแววตาทึ่งแกมนับถือ ด้วยนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบริเวณโรงพยาบาลหรู เธอก็มีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่สะทกสะท้านใดๆ กับสายตาของผู้คนที่มองมาอย่างผงะตกใจ และบางคนถึงกับแสดงท่าทีรังเกียจขยะแขยงชัดเจน ...แต่เธอก็ไม่หวั่นไหว

และ อัปสร คือสาวนางนั้น!!

ปฐมกาลนึกอย่างชื่นชมพลางลอบพินิจสาวข้างกาย อัปสรอยู่ในชุดขาวซึ่งเธอสวมสำหรับการปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิตย์ รูปร่างสูงโปร่งหากบอบบางจนเขานึกหวั่นว่าหากลมพัดมาแรงๆ เธออาจปลิวหายไปกับสายลม ปลายนิ้วที่โผล่พ้นขอบแขนเสื้อสีขาวนั้น เรียวยาวเป็นลำเทียน และเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดราวกับผิวสำลี ปลายเท้าเหนือรองเท้าคีบซึ่งโผล่พ้นชายผ้าถุงนั้น เรียวเล็ก บอบบางและเกลี้ยงเกลาไม่ต่างจากมือ ยิ่งกว่านั้นเนื้อตัวของเธอหอมกรุ่นราวกับอบด้วยน้ำปรุงอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นหญิงสาวสวยสมบูรณ์แบบ ใช่...สวยสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะเป็นคนจริงๆ ด้วยซ้ำ!!

หากทว่ายกเว้นเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ใบหน้า!!

ใบหน้าของอัปสร เป็นตะปุ่มตะป่ำ แทบหาพื้นที่ว่างไม่เจอ ไม่ต่างจากโรคเท้าแสนปม แถมตาโปนนิดๆ ปากเบี้ยวหน่อยๆ และฟันเหยิน ตอนที่เขาเห็นครั้งแรกยังแทบผงะด้วยความตกใจทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว ใครๆ ต่างร่ำลือถึงความอัปลักษณ์ของอัปสร แต่ทว่าเขาไม่เคยคิดว่าจะอัปลักษณ์ได้ถึงเพียงนี้!

คนไข้ และญาติของคนไข้ ที่เดินสวนกันยังคงทำท่าผงะระคนขยะแขยงไปตลอดทาง ส่วนแพทย์และพยาบาล ระงับอาการได้ดีกว่า มีเพียงการผงะอย่างตกใจเท่านั้น แต่พอหันมาเห็นเขา ก็รีบโน้มศีรษะอย่างนอบน้อม คงมีเพียงเธอที่ยังทำหน้าเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สา...

พวกเขาเดินไปจนถึงห้องไอซียู ซึ่งมีป้ายชื่อ “ปิยชาติ สุขารมณ์” ติดอยู่หน้าห้อง ปฐมกาลยกมือเคาะก่อนส่งเสียงบอก “แม่ครับ...พวกเรามาแล้ว”

“เข้ามาเลยลูก”

มีเสียงอนุญาตตอบกลับมา ปฐมกาลจึงผลักประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องวีไอพีที่แยกเป็นสัดส่วนระหว่างห้องคนไข้ ห้องรับแขกและส่วนของครัว ไม่ต่างจากอพาร์ทเมนต์ ห้องไอซียูห้องนี้หรูหราที่สุดในโรงพยาบาลแห่งนี้ แน่นอน...ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ด้วยเป็นโรงพยาบาลที่ตระกูลสุขารมณ์สร้างขึ้น ดังนั้นห้องคนไข้สำหรับบุคลากรของตระกูลจึงถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราเป็นพิเศษ เมื่ออัปสรเดินตามเขาเข้าไปในห้อง ปฏิกิริยาของผู้เป็นมารดา เป็นไปตามที่ปฐมกาลคาด นางผงะอย่างตกใจ ก่อนจะควบคุมสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว

“นั่นหนูอัปสร ใช่ไหมลูก” คุณพุดซ้อนทักพลางลุกยืน มองหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์ที่ยืนข้างลูกชายด้วยสีหน้าปกติ นางส่งยิ้มให้แต่ก็เป็นยิ้มที่ค่อนข้างเหยเก

“ใช่ค่ะ” แขกของครอบครัวสุขารมณ์ตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“คุณปิยชาตินอนอยู่ในห้องด้านใน เข้าไปเลยจ้ะ”

“ค่ะ ดิฉันขอเวลาส่วนตัวกับคุณปิยชาติสักครู่นะคะ”

“ตามสบายเลยหนู”

คุณพุดซ้อนมองตามแผ่นหลังของอัปสรที่หายลับเข้าไปในห้องคนไข้แล้ว จึงหันมาถามลูกชาย

“ไปเจอตัวที่ไหน”

“ในป่าช้าทางภาคอีสานครับ กำลังนั่งวิปัสสนา ต้องขอบใจเพื่อนของนายปฐวีที่หาตัวเจอ” ปฐวี เป็นน้องชายของเขา ซึ่งฝ่ายนั้นไหว้วานให้เพื่อนสนิทที่เป็นตำรวจช่วยตามสืบให้ ครอบครัวของเขาออกค้นหาหมอจับยามสามตาคนนี้มานานร่วม ๒ เดือนจวบจนกระทั่งเพื่อนของปฐวี สืบหาตัวได้เมื่อวันก่อน แล้วปฐมกาล ก็เป็นคนออกไปติดต่อและรับตัวหญิงสาวเข้ามาในกรุงเทพฯ

คุณพุดซ้อนพยักหน้ารับรู้ กล่าวต่อว่า “หวังว่าแม่หมอคนนี้จะช่วยพ่อเจ้าได้”

“ครับ...ถ้าวิธีนี้จะช่วยทำให้แม่สบายใจขึ้น” ปฐมกาลพึมพำต่อประโยคของผู้เป็นแม่ ความจริงเขาไม่เคยเห็นดีเห็นงามด้วยกับวิธีการพึ่งไสยศาสตร์ในการรักษาบิดาของผู้เป็นมารดา แต่ทำอย่างไรได้เพราะขัดคุณพุดซ้อนไม่ได้ และที่ผ่านมาบิดาของเขาผ่านการรักษาด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยใหม่และแพทย์ทางเลือกมาแล้วสารพัดวิธี แต่ก็ไม่ได้ผล จึงต้องลองพึ่งพาศาสตร์ทางด้านนี้ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย...

เป็นเวลา ๓ ปีมาแล้วที่บิดาของปฐมกาลต้องล้มหมอนนอนเสื่อโดยหาสาเหตุไม่ได้ แม้แต่แพทย์เก่งๆ ก็หาสาเหตุไม่เจอ ครอบครัวของปฐมกาลพาคุณปิยชาติตระเวนไปรักษาตามโรงพยาบาลดังๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อในเรื่องการรักษา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล อย่างมากก็แค่ประทังอาการไม่ให้ทรุดลง สุดท้ายจึงต้องพากันกลับมาพักฟื้นที่โรงพยาบาลของตระกูล

แพทย์ที่ไหนๆ ก็ไม่อาจวินิจฉัยหาสาเหตุได้ว่าเหตุใดบิดาของเขาจึงไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เอาแต่นอนซมอยู่บนเตียง ร่างกายซูบผอมลงเรื่อยๆ อันเนื่องจากไม่สามารถลุกเหินกินอาหารได้ปกติ เมื่อแพทย์ไม่อาจวินิจฉัยโรคได้ จึงต่างลงความเห็นว่าคุณปิยชาติไม่ได้ป่วย แต่น่าจะเป็นอาการทางจิตที่ปฏิเสธความเป็นไปของชีวิต หรืออีกนัยหนึ่งหมดอาลัยตายอยาก แต่จะหมดอาลัยตายอยากด้วยเหตุผลอะไร? ในเมื่อครอบครัวของเขาร่ำรวยเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ แถมประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนสื่อต่างชาติยกย่องว่าเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย (Giants of Asia) ลูกๆ แต่ละคนก็เอาถ่านอย่างปฐมกาลซึ่งเป็นลูกชายคนโต อายุ ๓๘ ปี จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงจะยังโสด แต่ทว่าก็เอาการเอางาน ปัจจุบันเป็นผู้จัดการบริษัทคุมธุรกิจส่งออกของครอบครัว ส่วนปฐวี อายุ ๓๕ ปี จบปริญญาตรี ๒ ใบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองไทยและสถาบัน MIT และปริญญาโทจากสถาบัน MIT โสดเช่นกัน ถึงจะเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคุณปิยชาติ แต่เขาก็บริหารธุรกิจโรงแรมในเครือสุขารมณ์ก้าวหน้าชนิดที่เรียกว่ามีแขกมาพักตลอดแม้แต่ช่วงโลว์ซีซั่น และปานวาด น้องนุชสุดท้อง ซึ่งเป็นลูกหลง เธอกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งเป็นสถาบันเดียวกับพี่ชาย ในเมื่อครอบครัวค้นหาสาเหตุแห่งการหมดอาลัยตายอยากไม่เจอ จึงพาไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่จิตแพทย์ก็ลงความเห็นว่าสภาพจิตใจของบิดาปกติ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

แล้วอาการป่วยของบิดาเขาเกิดจากสาเหตุอะไร? อาการที่ว่า... เอาแต่เหม่อลอย ไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินเหิน?

เมื่อปีที่ผ่านมามารดาของเขาจึงเริ่มหันหาไสยศาสตร์ เพื่อนฝูงคนไหนบอกว่าคนทรงเจ้าที่ไหนเก่งๆ มารดาเป็นต้องไปมาหมด แรกๆ คุณพุดซ้อนไปด้วยตัวเองโดยหนีบลูกสาวหรือไม่ก็ลูกชายคนโตไปด้วย แต่พออาการป่วยของบิดาทรุดลง จนต้องนอนห้องไอซียู มารดาจึงเลิกตระเวนหาหมอไสยศาสตร์เก่งๆ แต่มอบหมายหน้าที่นั้นให้เป็นของลูกๆ แทน และเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อนของคุณพุดซ้อนเล่าว่ามีคนทรงเจ้าที่เก่งทางด้านการต่ออายุที่ภาคใต้อยู่คนหนึ่ง ทางครอบครัวสุขารมณ์จึงเดินทางไปหา และเมื่อไปถึง คนทรงเจ้าก็เข้าพิธีแล้วบอกว่าอาการของบิดา มีคนเดียวที่จะรักษาได้ นั่นคือ หมอจับยามสามตาที่ชื่อว่า อัปสร ซึ่งกำลังนั่งวิปัสสนาอยู่ที่ป่าช้าทางภาคอีสาน เธอเก่งทางด้านรักษาโรคภัยที่เกิดจากกรรมเก่าจนชื่อเสียงขจรขจายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่เธอเก็บตัวอยู่ในป่าช้าซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า ทำให้ครอบครัวของเขาต้องค้นหาอยู่นาน แต่ในที่สุดเพื่อนตำรวจของปฐวี ก็ค้นเจอ



คุณปิยชาติ นักธุรกิจหลายพันล้าน ร่ำรวยด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะชาติตระกูลและธุรกิจหลายพันล้าน ผู้ซึ่งเคยเป็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ผึ่งผาย บัดนี้ซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แก้มตอบ ตาลึกโบ๋ ดูๆ ไปไม่ต่างจากปลาขาดน้ำที่กำลังหายใจพะงาบๆ รอวันตาย ร่างที่พริ้มตาหลับในตอนแรกลืมผึงขึ้นทันทีที่อัปสรเปิดประตูผัวะเข้าไป

“คุณเป็นใคร...” คุณปิยชาติถามขึ้นทันที สีหน้าอิดโรย น้ำเสียงอ่อนระโหยอย่างคนไร้เรี่ยวแรง

“ดิฉันชื่ออัปสร”

“คุณเองเหรอหมอจับยามสามตา” คุณปิยชาติพูดอย่างเข้าใจอะไรๆ ดี ด้วยว่าภรรยาบอกเล่าเรื่องที่กำลังสืบหาหมอจับยามสามตาที่ชื่อว่า “อัปสร” มารักษาเขา ให้ฟังมาโดยตลอด

น้ำเสียงของคุณปิยชาติแหบเครือ พูดพลางไอแค่กๆ เขาไม่ได้ตกใจกับใบหน้าของอัปสร เพราะได้ฟังคำเล่าลือถึงความอัปลักษณ์ของอีกฝ่ายมาบ้างแล้วจากครอบครัว

“ดิฉันไม่ใช่ยามสามตา ผู้คนเข้าใจไปเอง”

“แต่คุณสามารถใช้พลังจิตรักษาคนได้” คนไข้พูดสลับไอ

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ บางทีผู้คนก็พูดเกินไป เสียงร่ำลือมักไปไกลและเกินจริงเสมอ”

คุณปิยชาติทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่ได้คล้อยตามในทันที แต่ถามปนไอต่อว่า “เมื่อกี้ตอนเข้ามาในห้อง ผมเห็นคุณผงะ คุณเห็นอะไรเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงเนิบช้า แล้วมองหญิงตรงหน้าเงียบๆ อัปสรมีใบหน้าอัปลักษณ์ แต่กลับมีผิวพรรณขาวผุดผาดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

หญิงสาวมองไปทั่วห้องอีกรอบ ก่อนตอบว่า “ในนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญมากมาย พวกเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณ”

ตอบช้าๆ เนิบๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ซึ่งมีผลให้คุณปิยชาติเย็นไปถึงไขสันหลังวาบ เขาอึ้งอยู่ครู่ใหญ่ก่อนสามารถถามต่อได้

“แล้วเป็น...” อยู่ดีๆ เขากลับไม่มีแรงถามต่อ แต่น่าแปลกที่อัปสรเหมือนเดาความคิดของเขาได้

เธอตอบว่า “เป็นเจ้ากรรมนายเวรทั้งในชาตินี้และตามมาจากชาติที่แล้ว เคยได้ยินสุภาษิตว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไหม? เวลาที่เราดวงตก กรรมทุกอย่างที่ทำไว้จะตามมาทัน” เธอบอกนิ่งๆ ตามสไตล์

“ฉันไม่เคยทำกรรมอะไร!” คนไข้เถียงด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เขาต้องรวบรวมทั้งกำลังกายและใจอย่างมากจึงจะสามารถหลุดคำพูดนั้นออกไปได้ คุณปิยชาติคิดว่าได้ตวาดออกไปสุดเสียง แต่ความจริงแล้ว เปล่าเลย...เสียงที่ผ่านพ้นลำคอไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ และเวลานี้เขาก็ได้รับผลจากการออกกำลังอย่างหนักนั้น... คุณปิยชาติกำลังเหนื่อยหอบอย่างมาก

อัปสรตอบว่า “คุณหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่สำเร็จหรอก คุณทำให้กี่ครอบครัวมาแล้วต้องทนทุกข์ทรมานจากการไปเทคโอเวอร์บริษัทของพวกเขา คุณวางแผนหลอกล่อจนหลายคนติดบ่วงเป็นหนี้ถึงขั้นล้มละลาย หลายคนต้องจบชีวิตลงด้วยการปลิดชีพตัวเองเพราะหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ และครอบครัวเหล่านั้นกำลังจองเวรคุณ”

“ฉันไม่เชื่อ!” เขาถึงกับต้องเค้นคำพูด ถึงจะหลุดคำพูดเหล่านั้นออกมาได้ ปากบอกไม่เชื่อ แต่แววตาของเขาหวั่นไหวอย่างมาก เขากำลังตกใจและประหลาดใจที่ผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์ตรงหน้าสามารถล่วงรู้ถึงสิ่งที่เขาเคยทำ

“ไม่เพียงแค่นั้น ชาติที่แล้วคุณยังเจ้าชู้ หลอกลวงผู้หญิงและเมื่อเธอท้อง คุณก็บังคับให้ทำแท้ง ผู้หญิงและเด็กๆ ที่ถูกทำแท้งเหล่านั้น กำลังมาทวงชีวิตจากคุณ!”

น้ำเสียงเยือกเย็นยังคงดังต่อไป ซึ่งทำให้คนฟังขนลุกชัน

“บัดซบ... เธอจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่เรื่องจริงใครจะรู้ แล้วจะบอกให้รู้นะฉันไม่เชื่อเรื่องหลอกเด็กพวกนี้เด็ดขาด” ถึงตอนนี้ร่างกายของคุณปิยชาติ ก็หอบจนตัวโยน เนื่องจากความเหนื่อยอ่อนจากการพยายามเค้นเสียงพูด และเขาก็ไอหนักขึ้น

“งั้นเอาความลับในชาตินี้ไหม ก่อนที่คุณจะเจอคุณพุดซ้อน คุณเคยบังคับให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปรีดลูก แต่ผู้หญิงคนนั้นแอบเก็บลูกไว้ คุณรู้เข้าก็เลยซ้อมเธอและผลคือ...เธอตกเลือดตาย เธอตายทั้งกลม! และตอนนี้วิญญาณของเธอก็อยู่ในห้องนี้!”

สีหน้าของคุณปิยชาติผงะตกใจอย่างมาก เพราะเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ แม้แต่คุณพุดซ้อน เขาก็ไม่เคยบอก เรื่องเกิดสมัยเขาเรียนหนังสือ ครอบครัวต้องหมดเงินไปเป็นจำนวนมากเพื่อปิดเรื่องไม่ให้แดง รวมถึงต้องจ่ายเงินให้กับครอบครัวฝ่ายหญิงไปอีกมากเพื่อไม่ให้ฟ้อง และตอนนี้ทั้งครอบครัวฝ่ายหญิงและพ่อแม่ของเขาก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว ฉะนั้นความลับน่าจะตายไปพร้อมกับบุคคลเหล่านั้น ไม่น่าจะล่วงรู้มาถึงหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้ คุณปิยชาตินึกแล้วมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น เป็นครั้งแรกที่เขาเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้มีญาณหรือไม่ก็พลังจิตที่สามารถติดต่อสื่อสารกับภูติผีวิญญาณได้

“ดิฉันดีใจที่คุณเริ่มเชื่อ ไม่งั้นคุณจะแก้กรรมได้ยาก” อัปสรยังคงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“วิญญาณต้องการอะไร” ที่สุดคุณปิยชาติก็ถามประโยคนั้นออกไป ด้วยน้ำเสียงแหบโหยคละเคล้าเสียงไอแค่กๆ

“ชีวิตของคุณ!”

คุณปิยชาติผงะด้วยความตกใจอีกคราว เขายังไม่อยากตาย เสียงภายในใจร่ำร้อง

“เธอะ...เธอมั่นใจเหรอ มีทางแก้ไหม ช่วยผมด้วยเถอะ” คนไข้เปลี่ยนมาใช้สรรพนามเธอ ผม อย่างค่อยๆ ให้การยอมรับ

“มี... แต่แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้น คุณจะไม่สามารถหายขาดได้ เพราะผลกรรมของคุณหนักเกินไป”

“แค่ได้พยายาม ผมก็พอใจแล้ว ช่วยบอกหน่อยเถอะผมจะแก้กรรมให้เบาบางลงอย่างไรได้บ้าง”

“ดิฉันจะบอก ต่อเมื่อคุณยอมรับเงื่อนไขของดิฉัน”

“เงื่อนไขอะไร?” คุณปิยชาติถามต่อ

“เป็นข้อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ดิฉันจะช่วยคุณ ต่อเมื่อคุณตอบรับเงื่อนไขข้อหนึ่งของดิฉันเป็นการแลกเปลี่ยน” อัปสรย้ำ

“ว่าไป...เธออยากเรียกร้องอะไร เงินทองเท่าไหร่ผมยินดีจ่าย ขอแค่ช่วยรักษาผมเท่านั้น”

“ดิฉันจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่คุณจะต้องให้ดิฉันแต่งงานกับลูกชายของคุณ ถ้าคุณตกลงเราจะเริ่มพิธีในทันที”





////////////////////////








Create Date : 17 มีนาคม 2557
Last Update : 21 มีนาคม 2557 9:47:07 น.
Counter : 3305 Pageviews.

17 comments
  
อ๊ายยยยย ไม่เชื่อสายตา คุณอุ๋ยว่างแล้ว

แป๊ะชื่อไว้ก่อนนะคะเดี๋ยวตามมาอ่านอีกทีค่ะ ไปทำงานก่อนค่ะ
โดย: susi IP: 180.180.85.155 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:5:42:51 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ susi ดีใจที่คุณ susi ทักทายในบล็อกค่าเพราะการทักทายคือกำลังใจ >_< ห่างหายไปนาน จนเริ่มขึ้นสนิมล่ะค่ะ เลยต้องกระเทาะสนิมออกบ้าง หวังว่าเรื่องใหม่ จะถูกใจคุณ Susi นะคะ สวัสดีอีกครั้งกับเช้าวันจันทร์วันทำงานแรกของสัปดาห์ค่ะ ^^
โดย: คณิตยา วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:8:47:55 น.
  
คิดถึงคุณอุ๋ยค่ะ ดีใจมากๆ เลยคุณอุ๋ยมาลงเรื่องใหม่แล้ว แถมเรื่องที่เปิดน่าสนใจมากๆ ด้วย ปกตินางเอกของคุณอุ๋ยจะสวยมากกกก แต่เรื่องนี้มาแปลก จะรอตอนต่อๆ ไปนะคะ
โดย: pantan IP: 58.11.184.146 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:9:44:57 น.
  
ขอบคุณค่ะคุณเอ๋ คิดถึงคุณเอ๋มากๆๆเช่นกันค่ะ ดีใจที่คุณเอ๋ ยังแวะเวียนมาที่บล็อกค่า แอบหวั่นๆว่าคุณเอ๋และคนอ่านเก่าๆ จะเหลืออยู่ไหมน้า ^_^ เรืื่องนี้อุ๋ยมาแนวแกล้งพระเอกค่า แหะๆ... แต่รับรองตัวจริงนางเอกสวยค่า สวยสมชื่อค่า ^_^
โดย: คณิตยา วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:9:59:44 น.
  
เธอกลับมาแล้ววววว คิดถึงจังเลย^_____^

น่าติดตามมาสุดๆๆ แล้วหนุ่มหล่อจะยอมแต่งด้วยไหมหน่า
กลางคืนเธอจะถอดหัวแบบเจ้าเงาะ กลายเป็นสาวสวยไหม ^^
โดย: sakeena IP: 124.120.29.151 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:11:10:54 น.
  
แนวหลอนๆ ไสยศาสตร์ .... อัปสร มีเบื้องหลังเป็นไงหนอ ถึงได้ตั้งเงื่อนไขการรับรักษาแบบนั้น

อ้อ ! คห.ข้างบน คุณอุ๋ยบอกว่านางเอกสวยสมชื่อ อัปสร

งั้นใบหน้าที่เห็นอัปลักษณ์ ตกแต่งเพื่อพรางสายตาคนอื่นสินะ เอ.. หรือว่ามีมนตราเปลี่ยนได้
โดย: susi IP: 115.31.137.102 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:13:29:34 น.
  
ต๊ะเอ๋
โดย: theme IP: 171.96.242.117 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:16:52:17 น.
  
กรี๊ดค่า นางเอกถอดรูป อิอิ
โดย: Kwanita IP: 115.67.133.250 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:19:22:06 น.
  
น่าสนใจมากค่ะ อัปสรบางทีอาจจะไม่ได้อัปลักษณ์ก็ได้น้า
โดย: อร IP: 125.26.109.140 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:19:39:37 น.
  
คุณ Sakeena : หวัดดีค่ะ ^ ^ คิดถึงเช่นกันค่า กลางคืนจะถอดรูปไหม? ไม่เร็วขนาดนั้นค่า ^^ ต้องลุ้นต่อไปน้าาา

คุณ susi: นางเอกเรื่องนี้เหนือชั้นกว่านั้นค่า รับรองคนอ่านคาดไม่ถึงแน่ ^^

คุณ Theme : หวัดดีค่ะคุณ Theme ดีใจที่ยังจำกันได้และมาทักทายกันค่ะ ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ ^^

คุณKwanita : หวัดดีค่ะคุณ Kwanita ดีใจๆๆที่ยังเข้ามาทักทายและจำกันได้ค่ะ ^^

คุณอร : ดีใจที่แฟนคลับคนเก่าๆ ยังแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนค่ะแม้อุ๋ยจะหายไปนานมากๆๆ ขอบคุณอีกครั้งค่า แต่รับรองนางเอกเรื่องสวยมากค่า ^^

//
โดย: คณิตยา วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:22:21:33 น.
  
คิดถึงค่ะ มาถึงก็น่าติดตามอีกแล้วนะคะ
โดย: สกุล IP: 171.97.157.92 วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:12:57:19 น.
  
สวัสดีค่ะคุณสกุล ดีใจจังที่ยังจำกันได้ ^^ คิดถึงๆๆ เช่นกันค่ะ อุ๋ยฝากเรื่องใหม่ด้วยค่า
โดย: คณิตยา วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:1:18:24 น.
  
สาปรัก เลิฟซีน ไม่มี block ให้ comment อ่ะค่ะ เลยแวะมาตรงนี้นะคะ

พออ่านจบก็เพิ่งรู้ตัวว่ากลั้นหายใจไว้ 5555++++
เป็นฉากรักที่แสนจะนุ่มนวล อ่อนหวาน พาให้ใจอัปสร และใจของคนอ่านลอยเคลิ้มไปไกลเชียวล่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ ^_^
โดย: alanta IP: 110.49.207.42 วันที่: 16 พฤษภาคม 2557 เวลา:7:20:19 น.
  
ต้องคลิกตรงคอมเมนท์ค่ะคุณ alanta เข้าใจว่าเพราะยังไม่มีเมนท์เลยไม่ขึ้น

+++++++++

ขอบคุณค่ะ แอบดีใจที่นุ่มนวล ^^ นั่นแค่ออเดิร์ฟฟฟ ค่ะ เดี๋ยวค่อยจัดเต็ม จะจัดเลิฟซีนร้อนแรงก็กลัวน้องฟ้าหัวใจวายค่ะ เดี๋ยวให้น้องฟ้าชิน แล้วพี่วีค่อยจัด
โดย: คณิตยา วันที่: 16 พฤษภาคม 2557 เวลา:7:27:08 น.
  
สนุกมากๆเลยค่ะ ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ
โดย: akarin IP: 203.144.185.200 วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:5:36:38 น.
  
ดีใจมากค่ะที่ได้อ่านผลงานใหม่ของคุณอุ๋ย เพราะชอบทุกเรื่องชอบสไตล์การแต่งที่ไม่เหมือนใครจะติดตามนะคะ
โดย: aounggy IP: 27.55.237.1 วันที่: 27 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:47:04 น.
  
สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย กลับมาติดตามคุณอุ๋ยอีกครั้ง 😃
โดย: Lin IP: 171.7.135.204 วันที่: 8 ตุลาคม 2557 เวลา:15:42:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments