Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
[Japan Diary] Day 3 วัดเก่าอาซากุสะและโอไดบะเมืองใหม่

 วันที่ 3 ของทริปญี่ปุ่น
เช้านี้ตื่นมาพร้อมอากาศที่แจ่มใส Smiley
อากาศเย็นราวๆ 15 องศา 
(ขณะที่บ้านเราต้อนนั้น ณ ต้นเดือนพฤศจิกาก็ยังคง 30 ต้นๆ)
ถือว่าอากาศดีชดเชยเมื่อวานที่ฝนตกละกัน

วันนี้เป้าหมายหลักของเราคือจะไปเที่ยวเมืองโอไดบะ
แต่เช้านี้ขอแทรกโปรแกรมวัดอาซากุสะเข้ามาก่อน


เช้านี้เริ่มต้นด้วย Qoo น้ำผลไม้ที่บ้านเราไม่มีขายมานานแล้ว
เมื่อก่อนชอบมากเลย ซื้อมากินตลอด



รถไฟวันอาทิตย์คนไม่เยอะเท่าไหร่



ลงที่สถานี Asakusa จากนั้นก็เดินตามๆ เค้าไป 
แบบว่า มั่นใจมากว่าประชากรร้อยละ 90 
ต้องมุ่งหน้าไปยังวัดอาซากุสะ

คนหน้าวัดเยอะมาก ทั้งกลุ่มวัยคุณลุงคุณป้า 
เด็กวัยรุ่น นักเรียน
กลุ่มเพื่อนสาว กลุ่มแก๊งค์
การจะถ่ายรูปให้ติดโคมแดงยอดฮิตนี่
เป็นอะไรที่ต้องอาศัยทั้งจังหวะมากทีเดียว



จะว่าไปแล้วโคมแดงตรงนี้น่าจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญกว่าตัววัดเสียอีก

เดินเข้าไปด้านในก็เป็นถนนที่มีร้านขายของชวนให้ควักกระเป๋าออกมาซื้อเสียจริง
แต่นี่ยังเหลืออีกหลายวัน จะควักอะไรแต่ละทีเลยต้องคิดนิดนึง





พอเดินไปถึงตัววัดก็เจอคนจำนวนมหาศาลจนไม่รู้จะทำไง
เริ่มทำตัวไม่ถูก





ก็เลยเดินเลี่ยงไปบริเวณศาลเจ้าอาซากุสะซึ่งอยู่ข้างๆ ตัววัด



ก่อนเข้าศาลเจ้ามีธรรมเนียมว่าต้องล้างมือล้างปากให้สะอาด
ขนาดป้ายบอกยังทำเป็นรูปวาดน่ารัก แถมเข้าใจง่าย สมกับเป็นญี่ป่น



ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ญี่ปุ่นจะมีเทศกาลที่เรียกว่า Shichi-go-san หรือ
งานเทศกาลฉลองรับขวัญเด็กอายุ 7-5-3 
ทำให้ช่วงนี้เราเจอเลยเจอเด็กๆ ใส่ชุดประจำชาติกันเยอะมาก น่ารักทั้งนั้น



ขนาดป้ายขอพร (Ema) ก็ยังทำให้เข้ากับเทศกาลเลย





เราได้เครื่องรางรูปจิ้งจอกขาวราคา 600 เยน มาจากศาลเจ้าด้วย
น่ารัก Smiley



ความหมายคืออะไรไม่รู้หรอก เพราะคนที่ศาลเจ้าพูดอังกฤษไม่ได้
แต่มีป้ายเป็นภาษาอังกฤษบอกว่า
"ไม่ต้องกังวลไป เครื่องรางทุกอันนั้นมีความหมายที่ดี" Smiley

ออกจากศาลเจ้าก็ไปเดินเล่นริมแม่น้ำสุมิดะ อากาศกำลังดี
เห็นโตเกียวสกายทรี สัญลักษณ์อันใหม่ของโตเกียวด้วย






ถ่ายรูปคู่กับโตเกียวสกายทรี ตึกเบียร์อาซาฮี และตึกอุนจิ Smiley



ออกจากย่านอาซากุสะก็เดินทางไปโอไดบะต่อเลย

การเดินทางในโอไดบะเราใช้บัตรแบบเหมาจ่ายแบบ 1 day pass
เพราะรถไฟฟ้าที่นี่เป็นสาย Yurikamome 

ดังนั้นก็จะใช้พวก JR pass หรือ day pass อื่นๆ ไม่ได้
แล้วราคาต่อสถานีค่อนข้างสูงพอสมควร
 เราเลยเลือกใช้ 1 day pass ไปเลย ราคา 820 เยน




รถไฟที่นี่เป็นระบบไร้คนขับ ดังนั้นถ้านั่งด้านหน้า(หรือด้านหลัง)
ก็จะเห็นวิวชัดแจ๋ว




เริ่มจากนั่งไปลงสถานี Aomi ไป Palette Town

แวะไปดู โชว์เคส Megaweb ของรถยนต์ TOYOTA







จากนั้นเดินเข้าห้าง Venus Fort

ที่นี่เป็นห้างที่ตกแต่งได้แบบอลังการมาก
แต่สีจะออกฟ้าๆ ทึมๆ เดินนานๆ เราก็ชักเวียนหัว





ที่นี่มีโซนโชว์รถคลาสสิคด้วย น่ารักดี พนักงานก็ดี๊ดี







ต่อจากนั้นขึ้นรถไปลงสถานี Daiba

จากสถานีนี้สามารถเห็นห้าง DiverCity ที่มีกัมดั้มได้ไกลๆ 
ส่วนตึกที่มีลูกกลมๆ นั่นคือตึกสถานีโทรทัศน์ ฟูจิทีวี


สำหรับเราเจ้าตัวกัมดั้มนี่แหละคงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอไดบะ Smiley





วันนี้ที่นี่มีงานอะไรสักอย่าง แบบเต้นกันเป็นทีม
แต่ละทีมก็แต่งตัวกันมาอลังการ



เค้าจะค่อยๆ เต้นไป เดินไปจนมาถึงจุดสิ้นสุด 
คือแบบสนุกมาก
มีหลายทีมด้วย เต้นกันจนค่ำมืด มีหลายเวทีอีกตะหาก





ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็คือโอไดบะวันวันหยุดนี่มันเป็นที่พักผ่อนของครอบครัว
แถมเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของหมาๆ ด้วย







อยู่จนสักพักหนึ่งก็เดินไป Miranikan หรือพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสมัยใหม่

คุณแฟนรีเควสมาเลยว่า มาญี่ปุ่นครั้งนี้จะต้องเจอเจ้าหุ่น Asimo ให้ได้



ตั๋วเข้าชมคนละ 620 เยน



โซนที่เราสนใจคือชั้น 3 Creating the Future

ตรงนี้เป็นลูกโลกที่นำเสนอสถิติอะไรหลายๆ อย่าง
ซึ่งนำเสนอได้แบบว่าเราไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ 
แต่กราฟฟิคสวย น่าสนใจดี



มีจุดที่ให้เราทดลองเล่นได้ เด็กๆ มาที่นี่กันเยอะดี



ตรงนี้คือหุ่นยนต์นะ
มีการแสดงออกทางสีหน้า กระพริบตา เอียงคอ ด้วย

ถ้าดูด้วยตาตัวเองก็พอจะแยกออกว่าเป็นหุ่นยนต์
แต่พอลองดูจากวีดีโอที่อัดมานี่มันคือคนชัดๆ 

ตรงจุดนี้มีโชว์ด้วยนะ วันละ 1 รอบมั้ง
แต่เราจำเวลาไม่ได้
น่าเสียดายนะ ถ้ามาเห็นโชว์คือต้องตื่นตาตื่นใจมากแน่ๆ


และมาถึงหุ่นยนต์ Asimo เป้าหมายของเราวันนี้



อาซิโม่จะอยู่ในห้องก่อน
 พอใกล้เวลาโชว์เจ้าหน้าที่ก็จะเอาเชือกมากั้น





อาซิโม่มาแล้ว



คือมีท่าทางเดิน วิ่ง กระโดด ฯลฯ
ตอนแรกเราเฉยๆ กับเจ้าอาซิโม่นี่นะ 
แต่พอได้มาเห็นกับตาแล้วชอบอ่ะ
นี่ขนาดเป็นหุ่นรุ่นก่อน แล้วหุ่นรุ่นใหม่ๆ จะเจ๋งขนาดไหนเชียว
คิดแล้วทึ่ง 

จากเวปไซต์ Miraikan บอกว่า Asimo จะออกโชว์ตัววันละ 6 รอบ
รอบละประมาณ 10 นาที

ได้แก่เวลา 10:05, 11:45, 12:30, 14:45, 15:45, 16:30 

แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ยังไงถ้าจะไปดูลองเช็คก่อนไปก็จะดีกว่า

จากนั้นไปดูเทพีเสรีภาพโดยมีที่มาจาก
การที่รัฐบาลฝรั่งเศสส่งรูปเทพีเสรีภาพส่งรูปปั้นมาฉลอง "ปีของฝรั่งเศส"ในญี่ปุ่น
 แล้วได้รับความนิยมมาก
 เลยมีการสร้างเทพีเสรีภาพขึ้นใหม่ตรงที่เดิมในปี ค.ศ.2000
 (ที่มาจาก Tokyo โตเกียวใครๆ ก็เที่ยวได้ โดย Katto)



บรรยากาศดีที่เดียว (ลมพัดทีก็หนาวมาก)



ออกจาก Odaiba เสร็จแวะไปเดินเล่นแถว Ginza





ได้เสื้อผ้ามานิดหน่อย เสื้อร้าน GU ถูกดีและ
เหมาะกับผู้หญิงมากกว่าเพราะแบบเยอะกว่า



GU สาขากินซ่าออกจากสถานีรถไฟเดินมาอีกหน่อยก็ถึงแล้ว
ถัดจาก GU ไปอีกนิดเดียวก็เป็น Uniqlo ที่ใหญ่มาก

สำหรับผู้ชายยังไงเสียเสื้อ Uniqlo ก็มีแบบให้เยอะกว่า GU นะ

จบวันนี้ได้ของกินเล่นกับเสื้อผ้ามานิดหน่อย



to be continued...



Create Date : 26 ธันวาคม 2557
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 22:20:08 น. 1 comments
Counter : 1083 Pageviews.

 
มาอ่านทริปญี่ปุ่นค่ะ


โดย: มิลเม วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:18:44:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

จิตหลอน
Location :
น่าน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




นามแฝงจิตหลอนมีที่มาจาก วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาหลายปี แต่ก็ยังเรียนไม่จบเสียที และมีแนวโน้มว่าจะไม่จบง่ายๆ ซ้ำมีแววว่าถ้าเรียนจบแล้วก็คงจะไม่ใช้มันให้เกิดประโยชน์เป็นแน่แท้ ...

แม้สาวจิตหลอนดูท่าจะหลอนสมชื่อ เพราะ 3 วันดี 4 วันร้าย นิสัยบ้าๆ บอๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ปากร้าย ใจดี แต่งบางทีก็ไม่ชอบพูดกับใครเลย

ชอบศิลปะ รักวัฒนธรรม ดนตรี (ไม่ค่อยไหวเพราะหูเพี้ยน) ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ และท่องเที่ยว

แม้จะไม่มีเงินเดือนและงานทำเป็นของตนเอง อาศัยเกาะพ่อกับแม่กินและแอบริดรอนบางส่วนหย่อนเงินใส่กระปุกไว้ ก็พยายามจะท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ

อาชีพที่ใฝ่ฝัน - เป็นนักท่องเที่ยว - แต่ว่า นักท่องเที่ยวนี่ถือเ็ป็นอาชีพมั๊ยนะ *0*

New Comments
Friends' blogs
[Add จิตหลอน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.