|
ชอลิ้วเฮียง ตอน ดวงชะตาดอกท้อ: เทพบุตรสิ้นลาย
ชอลิ้วเฮียงเป็นใคร?
เขาเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยสีสันอันเพริศแพร้วพิสดารผู้หนึ่ง เป็นจอมโจรที่ลักขโมยอย่างโอ่อ่าผ่าเผย เขาทั้งยิ่งใหญ่ ทั้งลึกลับ แต่พฤติการณ์เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมและน้ำใจ มิหนำยังมีรูปกายที่หล่อเหลาสะอ้านสำอาง ประดานี้ทุกผู้คนต่างทราบ ดังนั้นพากันขนานนามเขาเป็น ขุนโจรหอมแซ่ชอ
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่นามชอลิ้วเฮียงถูกยกย่องสรรเสริญจนแทบสูงกว่าฟ้า แทบกลับกลายเป็นยอดคนในตำนาน
แต่ชอลิ้วเฮียงยังไม่ได้ตาย เขาก็ไม่ใช่เทพเทวา ชอลิ้วเฮียงมิได้เดินสี่เท้า มิได้มีแปดตา ทั้งมิได้เป็นดาวบุ๋นกลับชาติมาเกิด บางครั้งคราวเขามีเรื่องให้ขบคิดจนแทบเอาสองเท้าขึ้นก่ายหน้าผาก โดยเฉพาะกับโฉมสะคราญที่ดีงาม ชอลิ้วเฮียงมักมีเหตุให้ต้องอับจนตรงเบื้องหน้าพวกนางอยู่ร่ำไป ซ้ำยังเป็นความอับจนที่น่าสมเพชเวทนายิ่ง
<< เหี่ยแช >>
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่แปดสิบของกิมไท้ฮูหยิน อุทยานหมื่นสุขวัฒนาเต็มไปด้วยแขกเหรื่อจากทั่วทุกสารทิศ ล้วนมารวมตัวกันเพื่ออวยพรให้แก่ท่านผู้หญิงแซ่กิม สตรีสูงอายุผู้มีบุญวาสนาที่สุดในแผ่นดิน
ชอลิ้วเฮียงมา เหี่ยแชก็มา
คนทั้งสองความจริงไม่รู้จักกัน แต่เหี่ยแชในอาภรณ์สีเขียวอ่อนดูไปๆ ช่างงดงามเสียนี่กระไร นางเป็นดรุณีที่ทั้งอ่อนหวาน ทั้งเรียบร้อย เรือนกายนางก็หอมกรุ่นกว่าบุปผา กระตุ้นให้สายตาทุกคู่เหลียวมองดูด้วยความเคลิบเคลิ้มหลงใหล บุรุษกรุ้มกริ่มเช่นชอลิ้วเฮียงไหนเลยพลาดได้ ยามเดินเฉียดผ่านร่างนางเขาคิดใคร่ยลชมดูให้เต็มตาสักครา... มิคาด อึดใจนั้นเขาได้ยินเสียง ป้าบ คราหนึ่ง
เป็นเสียง ป้าบ ที่เกิดจากการผายลม !
เสียงพูดคุยจอแจทั่วทั้งอุทยานเงียบสงัดในทันที สายตาทุกคู่จ้องจับมาที่ชอลิ้วเฮียงเป็นตาเดียว ดังนั้นชอลิ้วเฮียงเหลียวมองรอบกาย คนที่ยืนอยู่ใกล้เขานอกจากดรุณีอ่อนหวานในอาภรณ์เขียวแล้วก็ไม่มีใครอีก ท่ามกลางสายตาเจ็ดแปดสิบคู่ที่มองมาอย่างเยาะเย้ย ชอลิ้วเฮียงได้แต่ลอบถอนใจ เขาอับจนปัญญาแล้วจริงๆ
"ลมนี้มิใช่เขาเป็นคนผาย แต่หากมิใช่เขาก็ต้องเป็นสตรีสาวที่ทั้งหอมกรุ่น ทั้งงดงาม ทั้งเยาว์วัยนี้ วิญญูชนผู้หนึ่งไหนเลยปล่อยให้สตรีสาวนางหนึ่งยอมรับความผิดฐานผายลมกลางชุมชนได้?"
ชอลิ้วเฮียงได้แต่ฝืนปั้นสีหน้าให้ทุกผู้คนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนผายลม
เหี่ยแชมองดูเขาด้วยสายตาปลาบปลื้ม "ราวกับมองดูยอดวีรบุรุษที่ฝ่าภูเขาดาบทะเลเพลิง ทะลวงทหารทั้งกองทัพ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายช่วยเหลือนางออกมาก็ปาน"
เพื่อสตรีที่อ่อนหวานงดงามนางหนึ่ง ชอลิ้วเฮียงแม้ไม่ใคร่เต็มใจ แต่ก็ต้องยื่นหน้ารับความอับอายทั้งหมดไว้
เพราะเขาคือ ขุนโจรหอมแซ่ชอ !
<< ป๊กอาเกียง >>
ค่ำคืนนี้ป๊กอาเกียงนั่งที่หน้ากระจก นางกำลังหวีผมที่ยาวสยาย ทั้งยังเชื้อเชิญให้ชอลิ้วเฮียงช่วยหวีผมแก่นาง ชอลิ้วเฮียงไม่เคยขัดใจสตรี เขาสัมผัสเรือนผมของนางอย่างแผ่วเบา ป๊กอาเกียงก็เป็นสตรีที่งดงามผู้หนึ่ง นางพรรณนาถึงชีวิตของตนเอง พรรณนาถึงสามีที่แก่เฒ่า นางถึงกับเรียกหาสามีของตนว่า เล่ากง ชอลิ้วเฮียงพลันชะงักค้าง หวีในมือแทบร่วงหล่นลงพื้น ทั้งนี้เพราะเขาไม่มีนิสัยหวีผมให้แก่ภรรยาของผู้อื่น
ป๊กอาเกียงกล่าวว่า ท่านจะค่อยๆ คุ้นเคยเอง ชอลิ้วเฮียงยิ้มฝืน ข้าพเจ้าเห็นว่านิสัยนี้ยังคงอย่าได้เพาะสร้างขึ้น
แท้ที่จริงป๊กอาเกียงมาเพื่อสังหารชอลิ้วเฮียง นางล่อลวงชอลิ้วเฮียงไปตาย แต่ชอลิ้วเฮียงไม่ได้ตาย ซ้ำยังปลอมเป็นปีศาจหัวขาดกลับมาหลอกหลอนนางจนนางแทบร่ำร้อง
เมื่อความแตก ป๊กอาเกียงได้แต่เอาตัวรอดด้วยจริตมารยา นางดูไปก็งดงามยิ่ง ยื่นมือโอบรัดรอบคอของชอลิ้วเฮียงไว้ กิริยาเหล่านี้ล้วนนุ่มนวลน่าเคลิบเคลิ้มชวนฝัน ชอลิ้วเฮียงก็คล้ายกำลังเคลิบเคลิ้มหลงใหล
พลันบังเกิดเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นที่ด้านข้าง เป็นหญิงงามนามเตียเกียกเกียกผุดกายขึ้นจากเงามืด ป๊กอาเกียงขุ่นแค้นตวาดไล่นาง แต่เตียเกียกเกียกไม่ยอมไป นางคิดชมดูบทรักของคนทั้งสอง ชอลิ้วเฮียงได้แต่เป็นใบ้เมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีที่ไร้เหตุผลสองคน
ป๊กอาเกียงและเตียเกียกเกียกจึงต้องหาทางยุติกันเอง เป็นการหาทางยุติในแบบสตรี นางทั้งสองพุ่งปราดเข้าใส่กัน ตบตีกัน ทั้งฉุดกระชากเสื้อผ้า ทั้งฟ้อนเล็บเข้าใส่ดุจแมวป่าที่คลุ้มคลั่ง
ชอลิ้วเฮียงก็อับจนปัญญาไกล่เกลี่ยจริงๆ ได้แต่มองดูพวกนางรุกไล่ตบตีกันจนหายลับกับตา
<< เตียเกียกเกียก >>
บุรุษกรุ้งกริ่งเช่นชอลิ้วเฮียงกลับตกหลุมรักโฉมสะคราญที่น่าตีอย่างเตียเกียกเกียก นางเป็นคนประหลาดยิ่ง ทุกครั้งที่ปรากฏกาย นางคล้ายจงใจล่อลวงให้ชอลิ้วเฮียงลุ่มหลงงมงาย แล้วกลับหนีหายดุจวิญญาณภูตพราย แต่ทุกครั้งนางจะย้อนกลับมา กลับมาล่อลวงให้ชอลิ้วเฮียงแทบคลั่งใจตาย แล้วค่อยหายวับไป นางแทบเห็นชอลิ้วเฮียงเป็นของเล่นที่น่าสนุกชิ้นหนึ่ง
ครั้งนี้นางมาพักโรงเตี๊ยมร่วมกับชอลิ้วเฮียง กลางดึกนางพลันนึกอยากกินหูฉลาม นางบอกกับชอลิ้วเฮียง หากท่านไม่ออกไปซื้อหูฉลามกลับมา ระวังใบหูท่านจะถูกทอดกับน้ำมันงา ชอลิ้วเฮียงได้แต่ไปโดยดี ไปอย่างเรียบร้อยยิ่ง
เขาออกไปหาซื้อหูฉลามชามหนึ่งจริงๆ พอกลับมาก็พบเพียงห้องนอนที่ว่างเปล่า เตียเกียกเกียกหายตัวไปแล้ว คราวนี้นางหายตัวไปจริงๆ ชอลิ้วเฮียงเฝ้ารออยู่ที่โรงเตี๊ยมเป็นเวลาหลายวัน นางก็ไม่กลับมา
ชอลิ้วเฮียงทุ่มเทชีวิตสืบเสาะหาเตียเกียกเกียกอย่างยากเย็น ล้วนพานพบแต่ความว่างเปล่า เทพบุตรอย่างชอลิ้วเฮียงกลายเป็นซูบซีดผ่ายผอม ใบหน้าอิดโรยคล้ายคนใกล้ตายผู้หนึ่ง เขาทอดร่างที่ริมธาร ก้มลงมองดูใบหน้าตายซากของตนเอง ผมเผ้าราวกิ่งหลิวลู่ลงสู่สายน้ำ
ดวงจันทร์ในวารีก็งดงาม ทุกผู้คนล้วนมองเห็นดวงจันทร์ชนิดนี้ แต่หากคิดไขว่คว้า มิเพียงคว้าถูกอากาศธาตุ ทั้งยังอาจพลัดตกลงน้ำ
ชอลิ้วเฮียงได้แต่แช่ศีรษะอยู่ในสายน้ำเย็นเฉียบ เขาอับจนปัญญาจริงๆ ในใจได้แต่ร่ำร้อง นงคราญอยู่หนใด ?
<< ดวงชะตาดอกท้อ >>
ผู้ชายลั้ลลาอย่างชอลิ้วเฮียงแต่งงานแล้วจริงๆ ทั้งยังให้กำเนิดบุตรชาย พวกเราสมควรทราบ เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นกลอุบายที่ลึกซึ้งแยบยล เพื่อชักนำชอลิ้วเฮียงเข้าพิธีวิวาห์อย่างลึกล้ำพิศดาร ขุนโจรหอมแซ่ชอยิ่งใหญ่เพียงไหน เขาแทบถูกยกให้เป็นวีรบุรุษในตำนานของเหล่าผู้กล้าทั่วทั้งยุทธจักร ไฉนพลาดท่าร่วงหล่นสู่ก้นบึ้งของหลุมพรางนี้ ?
ชีวิตคนก็เหมือนน้ำทะเล มีขึ้นมีลง บางคราปั่นป่วนพลุ่งพล่าน บางครานิ่งสงบราบเรียบ สายลม แสงแดด พายุฝน มีบ้างมาเยือน แต่ไม่นานก็ลับไป
ชอลิ้วเฮียงความจริงมีชีวิตที่สุขสำราญ แต่ขวบปีนี้ชีวิตเขารุ่มร้อนกว่าไฟลน เนื่องเพราะโชคชะตาบันดาลให้เรือนหน้าของชอลิ้วเฮียงบังเกิดราศีอึมครึมชนิดหนึ่ง เรียกว่าราศีดอกท้อ นับจากนั้นชอลิ้วเฮียงก็ไม่อาจสงบใจได้อีก ใบหน้าที่หล่อเหลาดุจดวงจันทร์วันเพ็ญพลันหม่นมัวราวกับถูกราหูอมไว้ครึ่งหนึ่งตลอดเวลา
ไม่มีผู้ใดหลอกลวงชอลิ้วเฮียงได้ คำกล่าวนี้สมควรแก้ไขดัดแปลงโดยด่วน อย่างน้อยควรแก้เป็น นอกจากสตรีแล้ว ไม่มีผู้ใดหลอกลวงชอลิ้วเฮียงได้ !
ชอลิ้วเฮียงคล้ายถูกลิขิตแน่ชัด ให้ต้องพลาดท่าเสียทีแก่สตรีอยู่ร่ำไป
Create Date : 18 เมษายน 2558 |
Last Update : 18 เมษายน 2558 23:00:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2727 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|