Salamat Datang - Malaysia มาเลเซีย...ที่รัก ทริปนี้เป็นทริปผจญภัยที่เหนื่อยมากเพราะต้องพูดภาษาอังกฤษจนเมื่อยมือ ฮ่าๆ แต่ก็สนุกมากค่ะ เหตุเกิดใต้ต้นมะม่วง...แม่และลูกๆนั่งประชุมกันก่อนหน้านั้นอยากไปเกาะช้างมากกกกกกก เพราะหาข้อมูลเกี่ยวกับเกาะช้างไว้เยอะ แต่อยู่ๆแม่ก็บอกว่าเราก็มีพาสปอตกันทุกคนแล้ว ไปมาเลเซียกันเถอะ! ตอนนั้นอยากไปเกาะช้างงงงงงงงง...แต่คิดได้ทัน ไหนๆแม่ก็จ่ายเรื่องอะไรจะไปแค่เกาะช้าง อิอิ จองตั๋วเครื่องบิน Bangkok - KualaLumpur พาสปอตพร้อม กระเป๋าพร้อม ไปกันเลย... ครั้งแรกที่ได้นั่งเครื่องออกนอกประเทศพร้อมครอบครัว หัวใจเต้นตุ๊บ ตุ๊บ
พอเท้าแตะพื้นดินท่าอากาศยานนานชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ไปถามทางว่าไป KL ยังไง? พึ่งเรียนจบ ป.ตรีมาหมาดๆก็โดนแม่ลองภูมิแล้วค่ะ (หัวเราะ) ณ จุดๆนี้ รู้สึกเหมือนโดนถีบให้ออกไปเผชิญกับโลกเพียงลำพัง...บอกตรงๆค่ะ เมื่อยมือ อิอิ KL เมื่อเทียบกับบ้านเราก็เหมือนสถานนีขนส่งหมอชิตดีๆนี่เอง แต่เป็นหรูกว่าหมอชิตมาก ใครจะไปไหนมาไหนก็มาเริ่มต้นขึ้นรถที่ KL ค่ะเมืองแรกที่เราไปคือ Ipoh ค่ะ เราต้องแวะไปทำธุระก่อน นั่งรถไฟจาก KL-Ipoh รถไฟไวยังกับรถทัวส์ VIP บ้านเรา
อรุณสวัสดิ์มาเลเซีย ตื่นเช้ามาพร้อมบรรยากาศฝนตกปรอยๆ ในรถแท็กซี่ อ๊ะๆเห็นมั้ยค่ะ บ้านเค้าก็ขับรถเลนส์ซ้ายเหมือนบ้านเรา
ออกเดินทางมุ่งตรงไปที่ท่าเรือ Lamut ค่ะ บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจเลย :( เป้าหมายของวันนี้เราจะไปตะลุยเกาะปังกอร์ (Pangkor Island) เรือโดยสารลำนี้รับขนมอเตอร์ไซต์ไปขี่ที่เกาะด้วยนะคะ พอมาถึงเกาะ เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ก็พากันเกลี้ยกล่อมคุณแม่ให้นอนพักผ่อนก่อนเนื่องจากอาการเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง(เหตุผลดีนะ กิกิ) ด้วยความแสนซน สองพี่น้องรีบไปกระชับมิตรกับคนในพื้นที่ เจรจาเช่ามอเตอร์ไซต์มา 1 คัน เติมน้ำมันเต็มถังหมดไป 5 RM (5 ริงกิต) คุณพระ! 5 ริงกิตมันประมาณ 50 บาทเองนะ ทำไมน้ำมันบ้านเค้าราคาถูกอะไรอย่างนี้ วันแรกสองเราแว้นมอเตอร์ไซต์รอบเกาะเลยค่ะ ปรบมือดังๆให้น้องสาว ส่วนเจ้าของบล๊อกก็เก็บภาพอย่างเดียว รูปนี้บรรยากาศแถวๆ Pasir Bogak ค่ะ ตรงนี้เป็น Nipah Bay จ้า ข้างหน้าเป็น Coral Island นักท่องเที่ยวมีทั้งต่างชาติและคนมาเลเซียปะปนกัน มาที่นี่รู้สึกแปลกๆที่เห็นสาวมุสลิมใส่เสื้อผ้ามิดชิดลงเล่นน้ำทะเล ประมาณว่าใส่เล็กกิ้งหรือไม่ก็กางเกงขายาวค่ะ เค้าถือเกี่ยวกับการแต่งตัวมิดชิด แวะกินข้าว...อย่างเดียวที่กินได้คือไก่ทอด แงๆ อย่างอื่นพยายามลองแล้ว แต่รู้สึกว่าร่างกายมันต่อต้าน เศร้าจัง คิดถึงหมู อู๊ด อู๊ด ไม่มีเมนูหมูเลย รูปนี้บรรยากาศตอนเย็นที่ Puteri Baya Beach Resort ค่ะ มีสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดติดทะเลด้วยนะคะ ถูกใจมาก 2 วัน 1 คืน ผ่านไปไวเหมือนโกหกกับการใช้ชีวิตบนเกาะ ข้ามกลับมาที่ฝั่งท่าเรือ Lamut ค่ะ แวะมาดู บ.ข.ส. น้อยๆ แลดูเรียบง่ายดีนะคะ แต่...งงนิดๆ อ่านภาษาอังกฤษบ้านเค้าไม่ค่อยออก (เดาว่าน่าจะเป็นภาษามาเล ไม่ก็ยาวี) ขากลับมีเรื่องเล่าแบบไม่คาดคิด วันนั้นฝนตก และฟ้าร้องหนักมาก นั่งมองหน้าน้องสาวกับคุณแม่แล้วแอบหวั่นๆ ตอนนั้นกลัวมากนั่งภาวนาในใจ ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คุ้มครอง โบกแท็กซี่คันแล้วคันเล่าก็ไม่ไปส่งเราเลยเขาบอกว่าไกลเกินไป ฝนก็ตก ฟ้าก็ร้อง กลัวเสียงฟ้าฝ่าด้วย ทันใดก็มีแท็กซี่คันหนึ่งตกลงจะไปส่งเรา คุณพระคุ้มครอง...บนกระจกส่องหลังมีพวงมาลัยแห้งๆแขวนเต็มไปหมดเลยค่ะไม่ง่ายนะคะที่เห็นแท็กซี่มีพวงมาลัยดอกไม้ในต่างประเทศ คนขับบอกว่าทุกครั้งที่ไปเมืองไทยจะซื้อพวงมาลัยสดกลับมาที่มาเลเซียด้วยบังเอิญมากๆเลย คิดในใจ...สาธุ วันต่อมา เป้าหมายของเราคือ Cameron Highlands ไปชมไร่ชาบนเขาของชาวเมเลเซียกัน ทริปนี้ไม่เหมาะสำหรับคนแพ้โค้งนะคะ คนที่เมารถง่ายเสร็จแหง๋แก๋ นับโค้งรวมๆกันได้เกือบ 100 โค้งมั้งค่ะ แต่ข้างบนสวยยยยยยยมาก บรรยากาศเย็นสบาย เราแวะหาอะไรหวานๆกินกันที่ GreenView Garden ค่ะ สตอเบอรรี่สด + ช็อคโกแล็ต Taste of love ฟินตามสโลแกนเค้า อิอิ แวะชมการปลูกพืชแบบไฮดรอริกส์และชมสตอเบอร์รี่สดๆ บรรยากาศสองข้างทางจะเป็นไร่ชา หายใจชุ่มปอดดีจริงๆ จากนั้นเราก็ไป Cameron Lavender ชมสวนดอกไม้ และแวะหาอะไรดื่มกันค่ะ ชมต้นสตอเบอรี่สดๆอีกแล้ว ตรงนี้สามารถจ่ายเงินแล้วเก็บสตอเบอรี่สดๆเองได้เลยค่ะ อันนี้สวนผักแบบไฮดรอริกส์ ปลูกในรางแบบไม่ใช้ดิน ผักสดมาก มีระบบ เห็นแล้วอยากกินยำวุ้นเส้น (อ้าว..เกี่ยวมั้ยเนี่ย ฮ่าๆ) มีปราสาทสไตล์ยุโรปตั้งบนยอดเขาด้วยค่ะ Cameron Lavender นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมานั่งดื่มด่ำธรรมชาติตรงนี้ค่ะ สั่งอะไรทาน ท่ามกลางบรรยากาศบนเขา วิวสวยมาก บนยอดเขาสูงๆจะมีซุ้มขายของป่าจากกลุ่มซาไกด้วยนะคะ ตื่นเต้นที่ได้เห็นซาไกตัวจริง เคยดูแต่หนังซาไกยูไนเตด ฮ่าๆ ขากลับเสียดายที่ไม่ได้แวะเล่นน้ำที่น้ำตกเพราะว่าใกล้ค่ำแล้ว มาดูในกูเกิ้ลทีหลัง น้ำตกนั้นคือ Lata Iskandar waterfallsค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ อิ่มและล้ามาก กลับที่พักก็สลบไสลไปอีกหนึ่งคืน เราเดินทางกลับมาตั้งหลักที่ KL อีกครั้ง สถานีต่อไปคือ Genting Highlands ค่ะ มาตามคำล่ำลือในพันทิป เพราะอยากนั่งกระเช้าขึ้นเขา เวลาซื้อตั๋วจาก KL ไป Genting จะรวมตั๋วนั่งกระเช้าด้วยค่ะ แต่เสียดาย 3 คน สัมภาระหนักหนาอย่างกะลังทีวี 3 ลัง เลยจำใจนั่งแท็กซี่ขึ้นไปเช็คอินที่โรงแรมก่อน ล็อบบี้โรงแรม... โว้ววววว! นึกว่าธนาคารค่ะ มีกดบัตรคิวเช็คอิน ให้เครดิตไอเดียโรงแรมเค้าเลย First World Hotel สุดยอด (แต่วุ่นวายไปหน่อยลูกค้าเยอะ เช็คอิน ไม่ขาดสาย) พอทิ้งสัมภาระลง พักร่างกายซักครู่ก็โทรหาแท็กซี่ค่ะ ให้เค้าพาไปชมสถานที่สำคัญ ภาพนี้วิวระหว่างเดินทางค่ะ เห็นเมฆขาวๆลอยอยู่ข้างล่าง ถ้ามีเด็กเล็กมาด้วยก็จะบอกเค้าว่าเราได้ขึ้นสวรรค์แล้ว ฮ่าๆ เป้าหมายแรกคือ Chin Swee Caves Temple ค่ะ เป็นวัดจีนบนเขาที่ทำเลดีมาก แม่ลูกแวะไหว้พระบนเขา จังหวะนี้ทุกคนต่างสาดโฟกัสกล้องใส่กันไม่ยั้งเลยค่ะ ชอบถ่ายรูปจริงๆบ้านนี้ อิ่มเอมความสุขกันมากพอแล้ว แท็กซี่ไปส่งขึ้นกระเช้าที่ตีนเขาค่ะ ตื่นเต้นนนนนน หูฟังพร้อม เปิดเพลงคลอเบาๆ ถ้าได้มากับแฟนจะโรแมนติกแค่ไหนเนี่ย...พร่ำเพ้อนะเรา ฮ่าๆ ตกเย็น 3 สาวก็เดินเข้าบ่อนคาสิโนกันค่ะ อ้าว..ไม่ใช่(หัวเราะ) เราเดินสำรวจพื้นที่ หาของกิน ชมวิว เก็บภาพ สนุกสนานประสาแม่ลูกค่ะ สวนสนุกของเค้าหละ มีทุกรูปแบบเลย รถราง รถไฟเหาะ หวาดเสียวขนาดหนัก=..= รางสีดำๆข้างบนสำหรับนักท่องเที่ยวนั่งรถไฟเหาะค่ะ บริเวณนี้จะมีเสียงกรี๊ดตกใจของนักท่องเที่ยวมาเป็นระยะ...อย่างหลอนและหวาดเสียว กลางคืนอากาศเย็น ประมาณ 15 องศาค่ะ บรรยากาศหน้าโรงแรมประมาณตี 2 เจ้าของบล๊อกยังไม่นอนเลย ลงมาตามหาแม่กับน้องสาวที่กำลังออนเฟสบุ๊คอย่างมันส์แถวล๊อบบี้ เพราะคุณแม่พึ่งสมัครเล่นเฟสบุ๊คกำลังหัดเช็คอินในเฟส ฮ่าๆ กลับบ้านแล้วน้าาาาาาาา Kuala Lampur Bangkok ประทับใจสุดๆ สำหรับของขวัญวันเรียนจบ ขอบคุณผู้สนันสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เย้.... |
HoneyJinjin
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Life is an adventure^^ Group Blog All Blog Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |