Best Track: Merry Christmas Mr. Lawrence - FYI คือการผสมผสานวัฒนธรรมดนตรีจากสองซีกโลกได้ตรงกับนิยามของคำว่าลงตัวอย่างที่สุด อบอวลด้วยกลิ่นอายแห่งแดนอาทิตย์อุทัยจากแซมเปิลทำนองเปียโนสุดคลาสสิคที่ชวนให้หวนรำลึกถึงความหลัง ผนวกกับความร่วมสมัยของบีทเออร์บันที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสายและเสียงประสาน อูทาดะสร้างสรรค์เพลงภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดเมื่อเธอนำงานภาษาญี่ปุ่นของเธอมาประยุกต์ใช้ และเลือกที่จะยืนอยู่บนจุดสมดุลระหว่างคุณค่าทางศิลปะและการตลาด
Outstanding Tracks: Come Back To Me ประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจนไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วว่าอัลบั้มนี้ข้าจะทำเพลงป๊อบ เมโลดี้คุ้นหูแบบที่ใครก็ตามที่ฟังปุ๊บแล้วร้องตามไม่ได้ปั๊บสมควรถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กพิเศษ จนการันตีเป็นเพลงฮิตได้นานเดือนเดียวเป็นอย่างมาก On And On มลังเมลืองด้วยซินธ์และเสียงร้องอันลื่นไหลจนเหมาะสำหรับเปิดอุ่นเครื่องในคลับให้พอโยกอย่างมีจริตตามชิลล์ๆ Apple And Cinnamon อาร์แอนด์บีอารมณ์หลอนตามสมัยนิยมที่ชวนให้นึกถึงงานอย่าง Bleeding Love หรือ Halo ซึ่งแม้แทนที่เสียงหวีดแผดแปดหลอดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่หวานหยด ก็ยังทรงคุณค่าในแบบของตัวเอง This One (Crying Like A Child) ป๊อบร็อคบัลลาดที่ถูกเรียบเรียงอย่างเรียบง่ายเปิดโอกาสให้น้ำเสียงอันแสนพิเศษเปล่งประกายอย่างเต็มที่ ความหลงใหล อาลัยอาวรณ์ และโทสะพรั่งพรูผ่านเสียงร้องกึ่งร้องไห้กึ่งตะโกนตัดพ้อในโศกนาฏกรรมความรักที่ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับอูทาดะ Dirty Desire ป่วงตั้งแต่เนื้อเพลงหื่นอย่างมีกึ๋นที่พยายามให้เซ็กซี่เสียจนขำ เมโลดี้ที่เปลี่ยนไปแทบทุกท่อนไล่เรียงอิทธิพลของเพลงแดนซ์ยุค '80s ยูโรป๊อบ ร็อค ไปยันเสียงโหวกเหวกของชะนีที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งต่างก็เรียงแถวมาสร้างเซอร์ไพรส์ไม่รู้จบ Me Muero โดดเด้งออกมาจากเพลงอื่นๆ ตรงกลิ่นอายความหรูหรากลามัวร์แบบเมดิเตอร์เรเนียนระคนเสียงฟลุต กระดิ่งกรุ๊งกริ๊ง และวิธีการร้องแบบโซลนิดๆ พรรณนาชีวิตวันว่างแสนสันหลังยาวของเจ้าของเพลงได้อย่างน่ารักน่าตบ
Guilty Pleasure: Taking My Money Back หากพิจารณาตามทฤษฎี ดนตรีไปคล้ายอัชเชอร์ ทำนองก็ไปเหมือนเดสตินี่ส์ไชล์ด แถมยังร้องซ้ำไปซ้ำมาจนแทบไม่เหลือความดีให้เชยชม แต่ในทางปฏิบัติแล้ว นี่คือเพลงที่สามารถเปิดวนลูปฟังได้ไม่รู้จักจบจักสิ้นโดยเฉพาะตอนฝนตก