ตั๋วเหมาเที่ยวRetorbus สามารถใช้เป็นโปสการ์ดได้ด้วย
ที่แห่งนี้
ก็มีแผ่นพับภาษาไทยเช่นกัน^^
สถานีปลายทาง สถานีที่21 ความจริงสถานีนี้เป็นมุมที่สวยมากหากท้องฟ้าเปิดจะเห็นทะเลสาป มีภูเขาไฟฟูจิอยู่เบื้องหลังแต่วันนี้ท้องฟ้าไม่เข้าข้างเรา2คน มีฝนปรอยๆลงมาเป็นช่วงๆทำให้มีเมฆลอยบังภูเขาไฟฟูจิ แต่ไม่เป็นไร
ไม่เห็นวันนี้เดี๋ยวเราจะกลับมา^_^
จากนั้นเรานั่งย้อนไปยังสถานีที่17-18
สถานีที่ 17-18 มีทางเดินเลียบกับทะเลสาป พร้อมกับการชมวิวฟูจิซังไปด้วย ข้างๆยังมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน ชวนให้ทำมิวสิคนางเอกพระเอกเกาหลีเสียจริงๆ นอกจากนี้ตรงป้ายที่ 17 จะมี Kawaguchiko Monkey Show Theater เป็นการแสดงโชว์ลิงหากใครมาเที่ยวเป็นครอบครัว ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เด็กน่าจะชอบนะคะ
ถึงเวลาประมาณ บ่าย 3 เรา 2 คนจำต้องโบกมือลา Kawaguchiko ทั้งที่อยากค้างอีกสักคืน แต่เรา2คน สัญญากันไว้ว่าจะกลับมาเยี่ยมที่แห่งนี้อีกแน่นอน ขากลับก็เช่นกันเราต้องซื้อตั๋วรถไฟเพื่อขึ้นไปยัง Shinjuku และพอถึงสถานีShinjuku เราก็สามารถใช้ JR Pass ได้ตามเดิม
ถึงโตเกียวประมาณ18.00น.เรายังไม่ค่อยอยากกลับที่พัก เพราะคืนนี้เป็นค่ำคืนสุดท้ายแล้วเราจึงไปชมวิวที่ อาคารที่ว่าการมหานครโตเกียว (Tokyo MetropolitanGoverment) ซึ่งชมวิวได้ที่ความสูง 243เมตรบนชั้น45 ที่เปิดให้เข้าชมฟรีกัน ตั้งแต่เวลา 9.30-23.00น. หากอากาศแจ่มใสจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เลย แต่วันนี้อากาศไม่เป็นใจจริงๆมีฝนตกปรอยๆและมีหมอกเต็มไปหมด ทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลยแต่ถ้าหากใครได้มาที่โตเกียวที่นี่นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งหากมีเวลาและอากาศเป็นใจก็แวะมาชมวิวทิวทัศน์รอบๆกรุงโตเกียวได้ (วิธีการไป JR-Shinjuku, West Exit)
จากนั้นเรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานีRoppongi ซึ่งคืนนี้เป็นค่ำคืนฮาโลวีน มีคนญี่ปุ่นแต่งคลอสเพลย์กันเต็มไปหมดดูแล้วเพลินตาจนเราลืมถ่ายรูปกันเลยทีเดียว นั่งกันได้พักใหญ่ๆ เรา2คนเลยตัดสินใจกลับเข้าที่พักเพื่อเตรียมเก็บของกลับสู่ประเทศไทยก่อนบินกลับประเทศไทยคืนนี้ขอฝากรูป Mori Tower ที่ตั้งอยู่บริเวณRoppongi Hill ไว้นะคะ
TIPS:
(ที่มา: //www.yokosojapan.org)
สถานที่ท่องเที่ยวตามป้ายสถานีต่างๆของ Retrobus ของKawaguchiko